|
จะได้เก็บเงินเมื่อไหร่?
หุหห ห่างหายจากการอัพไปนานเลยแฮะ อิอิ จะอัพได้อยู่ไหมเนี่ย วันนี้ก็มีเมล์ดีๆที่น่าอ่าน อ่านได้ข้อคิดมาฝากอีกเช่นเคยนะคร้าบ ถ้าใครเคยอ่านมาแว้วก็ขออำภัยด้วยเน้อ (ไงอ่านอีกรอบก็ได้นะคร้าบ อิอิ) ----------------------------------------------------------------
วัยเยาว์ - ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...ฉันยังเด็กเกินไปที่จะคิด ชีวิตฉันเพิ่งเริ่มต้น ทุกวันนี้ยังต้องแบมือขอเงินพ่อแม่ และฉันไม่เหลือพอที่จะเก็บ ฉันกำลังเล่นสนุก วันหนึ่งเมื่อฉันโตขึ้นฉันจะเก็บเงิน
วัยรุ่น - ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...ฉันยังเรียนหนังสืออยู่ พ่อแม่ให้เงินสำหรับพอใช้ในแต่ละวันเท่านั้น ฉันยังเก็บเงินไม่ได้หรอก นอกจากนั้นฉันยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องใช้เงินอีกเมื่อฉันเรียนจบ และถ้าฉันหาเงินได้เอง ฉันจึงจะเก็บ
วัย 20 - ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...ฉันเพิ่งเรียนจบ ขอเวลาฉันได้พักสมองบ้าง และฉันยังไม่พร้อมที่จะผูกมัดเรื่องนี้ ฉันยังต้องการแสวงหาความสนุก ในขณะที่ฉันสามารถทำได้ ยังมีเวลาเหลืออีกมากที่จะคิด ถึงตอนนั้นเมื่อฉันพร้อมฉันก็จะเก็บ
วัย 30 - ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้... ฉันเพิ่งมีครอบครัวและต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ค่าใช้จ่ายลูกเดี๋ยวนี้แพงเหลือเกิน และฉันยังต้องผ่อนหนี้เงินกู้บ้านอีกด้วย ทุกวันนี้แทบจะชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว ถ้าวันข้างหน้าฉันหาเงินได้มากกว่านี้และลูกๆ โตแล้ว ฉันจึงจะเก็บ
วัย 40 - ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...ลูกฉันเริ่มเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย เดี๋ยวนี้ค่าหน่วยกิตและค่าต่างๆ แพงมาก ไหนยังต้องผ่อนหนี้เงินกู้ที่ซื้อรถยนต์ให้ลูกอีก ฉันกลัวพวกเขาลำบาก ตอนนี้ยอมรับว่าค่าใช้จ่ายสูงจริงๆ และเป็นเวลาที่ยากที่จะเก็บเงิน แต่อีกสักระยะเมื่อพวกเขาเรียนจบ การเงินคงจะคล่องตัวขึ้น ถึงตอนนั้นฉันจึงจะเก็บ
วัย 50 - ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้... ตอนนี้ลูกๆเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หลายคนกำลังจะแต่งงาน ฉันอยากให้พวกเขาเริ่มต้นชีวิตที่ดี นอกจากนี้ฉันยังต้องไปช่วยญาติบางคน ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังต้องการความช่วยเหลือ เหตุการณ์มันไม่ได้เป็นไปตามที่ฉันคิดไว้เลย มันติดขัดไปหมด โชคดีเมื่อไหร่ฉันคงจะเก็บเงินได้
วัย 60 - ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้... ฉันนึกว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น ฉันอยากเกษียณอายุก่อน แต่ฉันไม่สามารถทำได้ ฉันกำลังพยายามจ่ายเงินติดค้างจำนองบ้านที่เหลือและหนี้สินอื่นๆ แต่ทุกอย่างยังประดังเข้ามา ไหนจะลูกเอยหลานเอย ไอ้โน่นไอ้นี่มาลงที่ตัวฉันหมด ถ้าภาระฉันหมดเมื่อไร ฉันภาวนาว่าฉันน่าจะเก็บได้
วัย 70 - ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้... ฉันแก่เกินไปที่จะเก็บ เงินบำนาญของฉันก็มีไม่มากพอ บิลค่ายาและค่าดูแลรักษาพยาบาลระยะยาวทำให้ฉันเป็นห่วงอยู่ ฉันไม่อยากไปเป็นภาระของลูกๆ เขา ฉันน่าจะเก็บตอนที่ฉันมีและควรเก็บได้ ตอนนี้มันสายเกินไป......ฉันไม่สามาถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้จริงๆ.....
Create Date : 23 มีนาคม 2549 | | |
Last Update : 23 มีนาคม 2549 18:49:37 น. |
Counter : 366 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เหยือกน้ำ ลูกเทนนิส กรวด ทราย และน้ำอัดลม
สิ่งที่จะนำเสนอต่อไปนี้ได้มาจากเพื่อนอีกแล้ว พอดีอ่านแล้วมีความรู้สึกที่ดีๆกับข้อความนี้ก็เลยนำมาให้อ่านกันทั่วถึง ถ้าใครเคยได้สัมผัส หรือ ได้อ่านมาแล้วก็ขออำภัย ณ ที่นี้ ด้วยนะคร้าบ -----------------------------------------------------------
ชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยเอกชน เพื่อให้เป็นวิทยากรพิเศษสอนวิชาปรัชญาให้กับนักศึกษาปริญญาโท เขาเตรียมการสอนอยู่หลายวัน จึงตัดสินใจจะสอนนักศึกษาเหล่านั้นด้วยแบบฝึดหัดง่ายๆ แต่งแฝงไว้ด้วยข้อคิด เขาเดินเข้าห้องเรียนมาพร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจ
เมื่อได้เวลาเรียน เขาหยิบเหยือกแก้วขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วใส่ลูกเทนนิสลงไปจนเต็ม "พวกคุณคิดว่าเหยือกเต็มหรือยัง?" เขาหันไปถามนักศึกษาปริญญาโท แต่ละคนมีสีหน้าตาครุ่นคิดว่าอาจารย์หนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนก่อนจะตอบพร้อมกัน... "เต็มแล้ว..." เขายิ้มไม่พูดอะไรต่อหันไปเปิดกระเป๋าเอกสารคู่ใจ หยิบกระป๋องใส่กรวดออกมา แล้วเทกรวดเม็ดเล็ก ๆ จำนวนมากลงไปในเหยือกพร้อมกับเขย่าเหยือกเบา ๆ กรวดเลื่อนไหลลงไปอยู่ระหว่างลูกเทนนิส อัดจนแน่นเหยือก เขาหันไปถามนักศึกษาอีก "เหยือกเต็มหรือยัง?" นักศึกษามองดูอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันมาตอบ "เต็มแล้ว..." เขายังยิ้มเช่นเดิม หันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาถุงทรายใบย่อมขึ้นมา เททรายจำนวนไม่น้อยใส่ลงไปในเหยือก เม็ดทรายไหลลงไปตามช่องว่างระหว่างกรวดกับลูกเทนนิสได้อย่างง่ายดาย เขาเทจนทรายหมดถุง เขย่าเหยือกจนเม็ดทรายอัดแน่นจนแทบล้นเหยือก เขาหันไปถามนักศึกษาอีกครั้ง "เหยือกเต็มหรือยัง?" เพื่อป้องกันการหน้าแตกนักศึกษาปริญญาโทเหล่านั้นหันมามองหน้ากัน ปรึกษากันอยู่นานหลายคนเดินก้าวเข้ามาก้ม ๆ เงย ๆ มองเหยือกตรงหน้าอาจารย์หนุ่มอยู่หลายครั้ง มีการปรึกษาหารือกันเสียงดังไปทั้งห้องเรียน ....จวบจนเวลาผ่านไปเกือบห้านาที หัวหน้ากลุ่มนักศึกษาจึงเป็นตัวแทน เดินเข้ามาตอบอย่างหนักแน่น "คราวนี้เต็มแน่นอนครับอาจารย์" "แน่ใจนะ" "แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีกครับ" คราวนี้เขาหยิบน้ำอัดลมสองกระป๋องออกมาจากใต้โต๊ะแล้วเทใส่เหยือกโดยไม่รีรอ ไม่นานน้ำอัดลมก็ซึมผ่านทรายลงไปจนหมด ทั้งชั้นเรียนหัวเราะฮือฮากันยกใหญ่ เขาหัวเราอย่างอารมณ์ดี "ไหนพวกคุณบอกว่าเหยือกเต็มแน่ ๆ ไง" เขาพูดพลางยกเหยือกขึ้น
"ผมอยากให้พวกคุณจำบทเรียนวันนี้ไว้ เหยือกใบนี้ก็เหมือนชีวิตคนเรา ลูกเทสนิสเปรียบเหมือนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต เช่น ครอบครัว คู่ชีวิต การเรียน สุขภาพ ลูก และเพื่อน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คุณต้องสนใจจริง สูญเสียไปไม่ได้...." "...เม็ดกรวดเหมือนสิ่งสำคัญรองลงมา เช่น งาน บ้าน รถยนต์ ทรายก็คือเรื่องอื่น ๆ ที่เหลือเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราจำเป็นต้องทำ แต่เรามักจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้.... เหยือกนี้เปรียบกับชีวิตของคุณ ถ้าคุณใส่ทรายลงไปก่อน คุณจะมัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆอยู่ตลอดเวลา ชีวิตเต็มแล้ว...เต็มจนไม่มีที่เหลือให้ใส่กรวด ไม่มีที่เหลือใส่ให้ลูกเทนนิสแน่นอน..." "...ชีวิตของคนเราทุกคน..ถ้าเราใช้เวลาและปล่อยให้เวลาหมดไปกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เราจะไม่มีที่ว่างในชีวิตไว้สำหรับเรื่องสำคัญกว่า... เพราะฉะนั้นในแต่ละวันของชีวิต เราต้องให้ความสนใจกับเรื่องที่ทำให้ตัวเราและครอบครัวมีความสุข ใช้ชีวิตเล่นกับลูก ๆ หาเวลาไปตรวจร่างกาย พาคู่ชีวิตกับลูกไปพักผ่อนในวันหยุด พากันออกกำลังกายเล่นกีฬาร่วมกันสักชั่วโมงสองชั่วโมง เพื่อสุขภาพและความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิต เราต้องดูแลเรื่องที่สำคัญที่สุดจริง ๆ ดูแลลูกเทนนิสของเราก่อนเรื่องอื่นทั้งหมด..." "...หลังจากนั้นถ้ามีเวลาเหลือเราจึงเอามาสนใจกับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา..." นักศึกษาคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม "แล้วน้ำที่อาจารย์เทใส่ลงไปล่ะครับ หมายถึงอะไร?" เขายิ้มพร้อมกับบอกว่า "การที่ใส่น้ำลงไปเพราะอยากให้เห็นว่า ไม่ว่าชีวิตของเราจะวุ่นวายสับสนเพียงใด ในความสับสนและวุ่นวายเหล่านั้น คุณยังมีที่ว่างสำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กันเสมอ...."
Create Date : 11 มกราคม 2549 | | |
Last Update : 11 มกราคม 2549 20:27:38 น. |
Counter : 498 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
"ทำไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ ? "
นี่ก็เป็นข้อความที่ได้รับจากเพื่อน อ่านแล้วได้ข้อคิดที่ดีเหมือนกัน เลยอยากที่จะนำมาให้คนอีกหลายๆคนที่ได้แวะเข้ามาเยี่ยมชมบล๊อกนี้ได้ลองอ่านกันบ้างอ่ะคร้าบ ถ้าใครเคยอ่านแล้วก็ขออำภัย มา ณ ทีนี้ ด้วยเน้อ ----------------------------------------------------------- บางครั้งเราก็มองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆไป เพียงเพราะใช้เวลาสั้นๆ ในการตัดสินสิ่งนั้นว่า " ไร้สาระ" หลายวันก่อน เพื่อนคนหนึ่งถามผมว่า "ทำไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ ? " ผมไม่ได้สนใจและใส่ใจกับคำถามนั้นสักเท่าไหร่ เพียงแค่รู้สึกว่าเป็นคำถามที่ไม่มีสาระอะไรเสียเลย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตอบเล่นๆ ไปว่า "ก็คงมีเพื่อความสะดวกมั้ง หรือไม่ก็ช่วยให้คนขี้ลืมที่ชอบวางยางลบไม่เป็นที่เป็นทางได้มียางลบ ใช้มั้ง" เพื่อนของผมก็อมยิ้ม ก่อนที่จะตอบผม สั้นๆ ว่า "ไม่ใช่" "อ้าว. . .งั้นเพราะอะไรล่ะ" ผมอดที่จะถามไม่ได้ ก็เพราะว่า " คนเราสามารถทำผิดกันได้ " ". . . . . . . .. . . . . . . . . . " ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง หลังจากที่ได้ยินคำตอบ และปล่อยให้เจ้าของคำถามเดินจากไป โดยที่ไม่ได้อธิบายอะไรมากไปกว่าคำตอบสั้นๆ ของเขาเท่านั้น คำถามของเพื่อนที่ผมเคยมองว่ามันไร้สาระ กลับทำให้ผม ได้เก็บมาคิดแทบทุกขณะที่สมองว่างเย็นวันนั้น ผมจึงหยิบโทรศัพท์เขียนข้อความส่งถึงเพื่อนๆ ด้วยประโยคที่ซ้ำกัน. . .
"ทำไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ ........................................................
เพราะคนเรามีสิทธิ์ทำผิดกันได้ ........................................................
แต่จงจำไว้ว่า...เราไม่ควรใช้ยางลบให้หมดก่อนดินสอ เพราะนั่นอาจหมายความว่า เรากำลังทำผิดซ้ำๆ จนความผิดนั้นอาจสายเกินแก้"
ผมเองยังไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่คิดต่อจากเพื่อนนั้นมันจะถูกต้องหรือไม่และเพื่อนๆ ที่ได้รับข้อความจากผมจะเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะบอกหรือเปล่า จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ...นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการมากสักเท่าไหร่แต่สิ่งที่ผมอยากได้รับ คือ เพื่อนของผมจะคิดต่อจากความคิดของผมอย่างไร และลึกๆ ผมก็แค่หวังว่า เพื่อนของผมคงจะกล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด และไม่ประมาทในการใช้ชีวิตและยอมรับการกระทำของตัวเอง. . . เพียงแค่นั้นผมก็หมดห่วง และ เพื่อนๆ ที่ได้อ่านแล้วคิดอย่างไรกันบ้างครับว่า ทำไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ
Create Date : 10 มกราคม 2549 | | |
Last Update : 10 มกราคม 2549 16:25:21 น. |
Counter : 232 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
จดหมายจาก...ความรัก
จดหมายจาก...ความรัก นี้ได้รับมาจากการที่เพื่อน Forward มาให้อ่าน แล้วอยากให้ทุกคนลองอ่านกันดู หวังว่าคงจะโดนใจหลายๆคนกันนะคร้าบ ----------------------------------------------------------- จดหมายถึงความรัก
สวัสดี...ความรัก ความจริงการเขียนจดหมายถึงเธอ ก็เปรียบเหมือนการเขียนจดหมายถึงคนที่ไม่รู้จักกันดีนัก.. โดยเฉพาะกับเธอด้วยแล้ว เวลาเห็นจดหมายฉบับนี้ก็คงงงมากเลย.. แน่นอนล่ะ...ก็เธอไม่เคยแม้แต่จะแวะมาทักทายฉันเลยนี่ ผิดกับฉัน... ที่เฝ้าวิ่งตามเธอเพื่อหวังที่จะได้ทำความรู้จักกับเธอสักครั้งหนึ่ง... ก็มีแต่เธอนั่นแหล่ะ...ที่เหมือนจะวิ่งหนีฉัน ไม่ยอมแม้กระทั่งหันมามองคนอย่างฉันเลย ...ฉันเหนื่อยมากนะ...กับการวิ่งตามเธอ เหนื่อย...จนบางครั้งอยากจะหยุด ....หยุด...เพียงเพื่อหวังว่าเธอจะหันมาเห็นใจคนอย่างฉันบ้าง แต่เปล่าเลย....เธอกลับวางเฉยไม่สนใจฉันเหมือนเคย ฉันจึงได้รู้จักเธอแต่เพียงฝ่ายเดียว ฉันไม่เข้าใจเธอเลย...ทำไม เธอจึงเมินเฉยกับฉันนัก ฉันจำได้ว่า..ฉันไม่เคยมองเธอในแง่ลบเลย ฉันมองเธอด้วยความชื่นชมเสมอ เธอคือสิ่งสวยงามที่สุด....ที่ใครๆก็อยากรู้จักกับเธอ มีหลายต่อหลายคนได้รู้จักกับเธอ คนเหล่านี้พูดถึงเธอไว้มากมายนัก บ้างก็ว่า...เธอช่างแสนดี ทำให้ชีวิตของเค้ามีค่า ...แต่บางคนก็ว่าเธอคือสิ่งที่ทำลายชีวิตเค้าทั้งชีวิต ฉันไม่เคยเชื่อใคร...ฉันรอว่าสักวันหนึ่ง ฉันจะต้องรู้จักกับเธอด้วยตนเองให้ได้ มีบางครั้ง...ที่ฉันได้เข้าใกล้เธอ แต่นั่นก็เป็นเพียงฉันคิดไปเองเท่านั้น คิดว่า...เธอหยุด..รอฉัน เปล่าเลย...เธอยังคงห่างไกลจากฉันอยู่เหลือเกิน บางทีฉันก็แปลกใจนะ...ว่าทำไมกับคนที่เห็นความสำคัญของความรักอย่างฉัน เธอกลับทำเหมือนมองไม่เห็น...มองข้ามอยู่ตลอดเวลา ..แต่กับคนบางคน..ที่เค้าไม่อยากแม้แต่จะหยุดทักทายเธอ..ทำความรู้จักกับเธอ เธอกลับอยากรู้จักกับเค้านักหนา..พยายามให้เค้าได้รู้จักในตัวตนของเธอ ...ซ้ำบางครั้งเค้าเอ่ยปากไล่เธอไปให้พ้น แต่เธอก็ยังยุ่งกับเค้า ...ยังคงให้ความสนิทสนมกับเค้า...ครั้งแล้ว..ครั้งเล่า แต่กับฉัน..เธอกลับวางเฉยได้อย่างไม่สะทกสะท้านใดๆเลย ....ฉันมันไม่คู่ควรได้รู้จักกับเธอเลยเหรอ...? ฉันอยากรู้จริงๆเลยว่า..เธอใช้อะไรเป็นเครื่องวัดล่ะ ว่าใครควรได้รู้จักกับเธอ? แล้วฉันคนนี้ล่ะ?.. จะต้องทำอะไร?...อีกสักเท่าไหร่?.. ฉันจะต้องวิ่งตามเธออีกนานแค่ไหน? ฉันน่ะ ไม่หวังจะได้ตำตอบจากเธอหรอก เพียงแค่อยากจะบอกให้เธอรู้ไว้เท่านั้นเองว่า... ยังมีอีกคนหนึ่งนะที่เฝ้าจะได้รู้จักกับเธอ ..ก็แค่เตือนเธอเท่านั้นเอง เผื่อบางทีในบัญชีรายชื่อของเธอ อาจจะตกชื่อของฉันไปก็ได้นะ - -อยากรู้จักกับเธอมากที่สุด - - ปล.วันใดที่ฉันหยุดวิ่งตามเธอ... หวังไว้ เธอคงจะหันมาสนใจทักทายฉันบ้าง และวันใดที่ฉันได้รู้จักกับเธอ... วันนั้นฉันจะเขียนจดหมายพร้อมของขวัญกล่องใหญ่ไปให้นะ
จาก คนที่เฝ้าคอย ...ความรัก
-------------------------------------------------------- ถึง คนที่เฝ้าคอย....ความรัก
ที่รัก...สวัสดีจ้ะ คนที่เฝ้าคอยฉัน ฉันรู้ดีว่า ดวงตาของเธอได้คอยมองหาฉันอยู่เสมอ หากเพียงแต่เธอมองไกลไปหรือเปล่า... ฉันเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตาเธอมาก หากฉันอยู่ใกล้ใจเธอมากกว่า.... เวลาที่ผู้คนเฝ้ามองหาอะไรสักอย่างน่ะ พวกเขามักจะมองข้ามสิ่งที่ใกล้ตัวไปเสมอ .....อย่าวิ่งตามฉันเลย....คนดี ฉันไม่ใช่สิ่งที่วิ่งตามได้ เพราะหากแม้ฉันหยุดรอเธอ....เธอก็ยังไม่รู้ว่าฉันหยุด หากแต่เธอกลับวิ่งเลยฉันออกไป..... บ่อยครั้งนัก ที่ฉันเฝ้ามองแผ่นหลังเธอที่นำอยู่เบื้องหน้าฉัน เหล่าผู้คนที่พร่ำบอกกับเธอว่าได้พบฉันแล้วนั้น ..เธอจะเชื่อได้อย่างไรว่าเขาได้พบตัวตนของฉันจริงๆ มิใช่สิ่งที่พวกเขาคิดเอาเองว่ามันคือฉัน...เธอไม่เคยได้ยินหรอกเหรอว่า.. True Love is like ghost which everybodys talking about... .... but only few have seen ฉันก็จำไม่ได้แล้วสิว่าใครเป็นผู้กล่าวไว้..หากเขาผู้นั้นเข้าใจฉันได้ดีทีเดียว ...จงอย่าน้อยใจเลย..หากเธอยังไม่ได้มาพบฉัน โปรดรู้ไว้อย่างว่า... ฉันไม่ได้มีบัญชีรายชื่อไว้หรอก แต่ถึงหากฉันมีก็คงจะไม่หลงลืมชื่อเธอเป็นแน่... ฉันแน่ใจว่า..อีกไม่นานเราคงได้พบกัน อย่าได้พยายามตามหาฉันนัก...เพราะฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องไปพบใครอีก แต่สักวัน...เธอกับฉันคงได้พบและพูดคุยกันเป็นแน่ ระหว่างนี้ขอให้เธอหยุดวิ่งตามหาฉัน...และดูแลตัวเองให้มากๆ - - อย่ากังวลกับฉันนักเลย - - - รัก
ลงชื่อ ความรัก
Create Date : 10 มกราคม 2549 | | |
Last Update : 10 มกราคม 2549 16:43:13 น. |
Counter : 213 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|