พฤษภาคม 2567

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
26
30
31
 
 
All Blog
เรื่องเล่ากว่าจะเป็นหมอ ep3
การเรียนในปี 3 เนื้อหาก็จะมี กายวิภาค ระบบต่างๆในร่างกายมุษย์ที่มีความลับซับซ้อนมากขึ้น คำศัพท์ชื่อเรียกอวัยวะ เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ระบบทำงานต่างๆ ยากและยาว ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาที่แปลกหู การเรียนเป็น บล็อกๆจบอันหนึ่งสอบ แล้วต่อบล็อกตอไป แทบไม่ได้พักเหนื่อย แต่ตนสอบปลายภาคจะย่ิงโโหดแต่ละคนต้องหมุนไปฐานต่างๆ  ที่ร่างอาจารย์ใหญ่อยู่ อจ.ที่เป็นคนจะถาม เราต้องชี้ใ้ห้ถูก ภายใน 1-2 นาที

และเรียนเรื่องยารักษาโรค อจ. จะพูดถึง อาหารเสริม หรือยาบางอย่างที่ ขายกันในโซเชี่ยว ที่ชาวบ้านF ซื้อมาทานประจำ บางอย่างแพงไม่คุ้มค่า หรือมีประโยชน์ตามที่โฆษณา ลูกก็จะอามาบอกเตือนคนในครัวครัวอย่าไปหาซื้อ รวมถึงพฤติกรรมของคนไข้ ที่ไม่ทานยาตามหมอสั่ง ก็จะทำให้หมอวินิจฉัยและวางแผนการรักษาผิด


ในปีนีเด็กต้องเตรียมสอบ NL1หลังจากสอบปลายภาคแล้ว ข้อสอบ NL1 จะขอให้ อจ แต่ละสถาบัน ออกข้อสอบ โดยครอบคลุมเนื้อหาทั้ง  3 ปีที่เรียนมา และจะตั้งคณะกรรมการอีกชุดมาคัดเลือกข้อที่จะเอาไปใช้ทดสอบ  นาทีนี้ใครมีเพื่อนเรียนต่างสถาบันก็จะถามว่า อจ เธอ มีใบ้อะไรบ้าง ก็ว่ากันไป 

ลูกก็เข้าโหมดเครียด เตรียมตัวสอบ NL ในระหว่างนั้น โลกของเราก็ได้รู้จัก โรคระบาดที่ชื่อว่า "โควิด 19" การแพร่ระบายของโรครุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และมาเจอตอนที่ลูกต้องขึ้นชั้นปี 4 อันเป็นเวลาที่ต้องขึ้นชั้นคลีนิค คือ ต้องไปปฏิบัติงานใน รพ 😓 และย้ายไปอยู่หอพักนิสิตแพทย์ 

ก็เป็นประเด็นระหว่าง ผปค และ คณะ อจ ก็บอกว่าชั้นปีนี้ ต้องฝึกปฏิบัติ แม้จะมีเรียนเลคเชอร์ บ้าง ก็ตาม  สุดท้ายเราก็ต้องยอมรับให้ลูกไปเรียนตามหลักสูตร จัดเตรียมอุปกรณ์ ที่จำเป็น ทั้งหน้ากากอนามัน แอลกอฮอล์ ซึ่งทั้งหายาก ราคาก็แสนแพงให้ลูกติดตัวไปใช้


วันที่ไปสำรวจหอพักที่ลูกจะเข้าไปอยู่ แทบสลบจริงๆ เหมือนเดินย้อนไปชมพิพิธภัณฑ์หอพัก เมื่อ 30 ปีก่อน โต๊ะ เตียง ตู้เสื้อผ้า เก้าอี้ เป็นไม้ แบบหนักๆ 
แต่ละห้องก็จะเจอ เตียงที่หัก เก้าอี้ที่หัก ฝาประตูตู้เสื้อผ้าที่ห้อยออกมา ภายในตู้มีรา แอร์เสีย และอื่นๆ 
ผปค กุมขมับตามๆกัน เพราะเป็นหอพักของมหาวิทยาลัย การจะซ่อม หรือซื้อของใหม่ ต้องรองบประมาณ แต่ ผปค หลายคนคุยกันว่าเราจะซื้อของใหม่ แม้กระทั้งแอร์ใหม่เปลี่ยนให้ แล้วจะยกให้ทางคณะหลังลูกเรียนจบ ก็ยังต้องคุยกันหลายรอบ ทำไมเราไม่ไปพักหอนอก  เพราะการทำงานของเด็กๆ ต้องอยู่เวรเข้าเช้า 7.00 บางวันก็เลิกเที่ยงคืน ยิ่งเด็กผู้หญิง ผปคก็จะยิ่งห่วง การพักหอใน รพ จึงน่าจะปลอดภัยกว่า ไม่ต้องเดินทางออกนอก รพ ในยามวิกาล


ห้อง 1 จะอยู่ด้วยกัน 3 คน ขนาดห้องก็แค่ตั้งเตียงเหล็ก ขนาด 3 ฟุต ห่างกันแค่หย่อนขาได้แค่นั้น ทุกคนจะมีตู้เสื้อ้าเล็ก กับโต๊ะ 1 ตัว เวลาเดินสวนกันในห้องต้องผลัดกันเดิน หรือเบี่ยงตัวหลบกัน

เด็กจะบอก ผปค ว่า ตารางเรียน ตารางอยู่เวร คงไม่ได้อยู่ห้องพร้อมๆกันบ่อยนัก
ห้องที่ลูกอยู่มีห้องน้ำในตัว แต่ก็ต้องมีภาระจัดเวรทำความสะอาดห้องกัน  แรกๆก็จ้างแม่บ้านของหอ แต่ป้าทำไม่ค่อยดี หลังๆ จึงเลิกกลับมามาทำเอง
เสื้อผ้าก็มีร้านมารับและส่งให้ ก็ตัดจบไป

จากนี้เด็กน้อยเริ่มต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตภายนอกและดูแลชีวิตประจำวันของตัวเอง ควบคู่กับการเรียนรู้วิชาการรักษาคนไข้

ผลสอบ NL 1 ออกมา "ผ่าน" โดยสอบครั้งเดียว คะแนนก็ดี ทำให้หมดห่วงไปเรื่องหนึ่ง แต่มีเพื่อนสนิทบางคนไม่ผ่าน ก็ตกลงว่าสอบครั้งต่อไป ก็จะช่วยติวให้

มาถึงปี 3 ก็มีเพื่อนๆลาออกไป 8-9 คน มีทั้งไม่ชอบ เปลี่ยนไปเรียนมหาวิทยาลัยอื่น หรือเรียนไม่ไหว ฝืนต่อก็อาจจะไม่จบ

อย่างรายเพื่อนที่เคยเล่า อายุเกือบ 30 เรียนจบปริญญาตรีมาแล้ว มีอาชีพเป็นติวเตอร์ แต่แกไม่ค่อยเข้าเรียน งานกลุ่มก็ไม่ค่อยจะช่วยทำ ฝืนเรียนมาจนจะขึ้นปี 3 อจ เรียกคุยตรงๆว่า ทรงไม่น่าจะจบได้ใน 6 ปี เพราะติดซ่อมหลายวิชา สุดท้ายก็ตัดสินใจลาออก

นับว่ายังดีที่เด็กเลือกที่จะลาออกไปหาสิ่งที่ชอบ และต้องขอบคุณครอบครัวที่ไม่กดดัน ทำให้ไม่ต้องเกิดเรื่องเศร้าแบบที่เราเคยได้ยิน
อจ ที่คณะ ก็พยายามบอกเด็กๆ มีอะไรก็มาปรึกษา บอกให้เพื่อนคอยช่วยดูแลกันด้วย เรื่องนี้ต้องชม อจ ที่ดูแลเด็ก ดังนั้นจวบจนเรียนจบ แม้จะไม่พร้อมกันทุกคน แต่ก็ไม่เกิดเรื่องเศร้า



Create Date : 29 พฤษภาคม 2567
Last Update : 5 มิถุนายน 2567 13:42:41 น.
Counter : 169 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แมวเหมียวลายสีชมพู
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]