Bloggang.com : weblog for you and your gang
All about Beauty: Reviews Tips and Tricks.
Group Blog
Home
Skin Care and Makeup Reviews
Translation
Travel
All blogs
[CR] Welcos No Makeup BB Cream Review รีวิวบีบีชื่อดังค่ะ
[CR] เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับไพรมเมอร์ แล้วก็รีวิวสั้นๆ "KMA primer" ค่ะ
[CR] Kate Mineral Liquid Foundation รองพื้นตัวใหม่ของ Kate ค่ะ
[มหากาพย์] พื้นฐานการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่ ตอนที่ 2 ดวงตา อายไพรมเมอร์ อายแชโดว อายไลนเนอร์ มาสคาร่า
[มหากาพย์]พื้นฐานการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่ ตอนที่ 1 ใบหน้า ทำความรู้จักกับรองพื้น ไพรมเมอร์ เบส คอนซี
"วิธีการตากแปรงแต่งหน้าอย่างถูกวิธี" ทำเองได้ที่บ้านง่ายๆ ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์
[มหากาพย์]พื้นฐานการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่ ตอนที่ 1 ใบหน้า ทำความรู้จักกับรองพื้น ไพรมเมอร์ เบส คอนซี
[มหากาพย์]พื้นฐานการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่ ตอนที่ 1 ใบหน้า ทำความรู้จักกับรองพื้น ไพรมเมอร์ เบส คอนซีลเลอร์ และแป้ง
สวัสดีค่ะพี่น้องชาวห้องแป้งทุกคน
พักหลังๆเห็นมีกระทู้ถามเข้ามาเกี่ยวกับการแต่งหน้าพื้นฐานกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น อยากจะลองหัดแต่งหน้าเป็นครั้งแรกต้องทำยังไงบ้างคะ หรือไม่ก็ เลือกรองพื้นยังไงคะ หรือคำถามโลกแตกอีกคำถามนึงก็คือ รองพื้นกับคอนซีลเลอร์ลงอะไรก่อนคะ
เวลาเปิดไปเจอเราก็จะตอบให้ตลอด แต่พักหลังก็เจอคำถามซ้ำๆเยอะก็เลยอยากจะลองทำเป็นซีรีส์เรื่องการแต่งหน้าเบสิคๆให้เพื่อนๆได้ตามอ่านกันเผื่อเวลามีเพื่อนๆที่เข้ามาใหม่ยังไม่รู้จะได้เอากระทู้นี้ให้ดูได้ ตอนแรกจะเป็นเกี่ยวกับใบหน้าก่อนนะคะ
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าไม่ได้เป็นกูรูหรือผู้เชียวชาญแต่อย่างใด แต่ว่าเป็นคนที่รักในการแต่งหน้ามากๆ ลองผิดลองถูกมาก็เยอะ ข้อมูลที่จะนำมาบอกในกระทู้นี้ก็มาจากทั้งประสบการณ์จริงแล้วก็หาข้อมูลมาหรือฟังมาจาก makeup artist sบน youtube ด้วยนะคะ ที่ทำซีรีส์นี้ขึ้นมาก็เพราะอยากจะช่วยให้สาวๆที่รักสวยรักงามได้เข้าใจวิธีการแต่งหน้าเบื้องต้นค่ะ
รองพื้น
ก่อนจะเลือกรองพื้นได้ก็ต้องมาทำความเข้าใจกับผิวหน้าตัวเองสักสักนิดนะคะ
ข้อแรก สี undertone
หรือสีใต้ผิว คืออะไรและสำคัญอย่างไร รวมถึงวิธีดูสี undertone ของเราด้วยค่ะ
undertone คือสีใต้ผิวของเรา สังเกตได้จากบางคนจะมีสีผิวอมชมพู หรือสีผิวออกเหลืองๆ
การรู้สี undertone ของเราสำคัญอย่างไร
การรู้สี undertone ของเราจะช่วยในการเลือกสีรองพื้น
ซึ่งการเลือกสีรองพื้นที่ถูกต้องสีของรองพื้นจะต้องกลืนไปกับสีผิวของร่ายกายเราทำให้ดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้แล้วเวลาแต่งหน้าหรือเลือกเสื้อผ้าในการแต่งตัว การรู้สี undertone ก็จะช่วยให้เราเลือกสีที่รับกับสีผิวของเราอีกด้วย
undertone มีอะไรบ้าง และดูยังไงถึงจะรู้ว่าเรามี undertone สีไหน
มีสามแบบคือ warm cool และ neutral
warm tone หรือ yellow tone จะออกเป็นโทนเหลือง ส่วนใหญ่จะเป็นชาวเอเชีย (ฝรั่งโทนนี้ก็มีเหมือนกัน)
cool tone หรือ pink toneจะออกโทนชมพู ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งชาวตะวันตกที่มีสีผิวแบบนี้
neutral ก็คือไม่เหลืองหรือไม่แดง เป็นสีกลางค่ะ
ดูยังไงว่าเราอยู่โทนไหน
การดูสี undertone สำคัญมากคืออย่าใช้ผิวตรงใบหน้าเราตัดสิน เพราะใบหน้าของเราอาจจะมีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ(discoloration) หรือรอยแดง(redness) จนอาจจะทำให้เราคิดว่าเรามีสี undertone แบบ cool ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะที่เห็นเป็นแดงๆนั้นเป็นเพราะบริเวณนั้นผิวหน้ามีปัญหา การดูสี undertone ที่ถูกต้องควรดูจากสีของผิวกายของเราบริเวณลำคอหรือบริเวณบ่าซึ่งบริเวณนี้จะเป็นบริเวณที่เราเห็นสีผิวที่แท้จริงของเราค่ะ
วิธีดูวิธีที่สองคือการใช้สีเงินกับสีทองค่ะ
ถ้าเราใส่ทองแล้วขึ้นกว่าเงินแสดงว่าผิวเราเป็น warm tone ถ้าใส่เครื่องเงินแล้วขึ้นกว่าแสดงว่าผิวเป็นแบบ cool tone อาจจะใช้ผ้ามาทาบลองก็ได้ค่ะ หรืออาจจะใช้อายแชโดวมาลองทาดู
* ส่วนตัวเราเองโทนเหลืองหรือ warm tone ใช้อายแชโดวสีเงินๆแบบโทนเย็นแล้วแอบดับ หน้าจะดูหมองนิดหน่อย ไม่ขึ้นเท่าใช้สีทอง
อีกวิธีนึงก็คือการดูเส้นเลือดที่ข้อมือหรือข้อพับ
แต่ย้ำว่าต้องดูกับแสงธรรมชาตินะคะ
ถ้าเส้นเลือดออกสีน้ำเงินคือ cool tone ถ้าออกสีเขียวคือ warm tone แต่ถ้ามีผสมกันทั้งสองอย่างคือ neutral ค่ะ
ทำไม undertone ถึงสำคัญต่อการเลือกรองพื้น
เพราะว่ารองพื้นปกติแล้วจะมีโทนสีของมัน จะออกโทนชมพู หรือโทนเหลือง การรู้สี undertone ของตัวเองจะทำให้เราสามารถเลือกรองพื้นที่สีกลืนกับผิวที่แท้จริงของเราค่ะ
ถ้าเลือกผิดจะเกิดอะไรขึ้น เคยเห็นมั้ยผู้หญิงบางคนที่ผิวโทนเหลืองแต่เลือกรองพื้นผิด.....เหมือนองค์ลงค่ะ หน้ามองอมแดงมาเลย ดูแปลกมากๆ ไม่สวยค่ะ
หมาายเหตุ สี undertone
นั้นไม่เกี่ยวกับความผิวขาวหรือไม่ขาวนะคะ คนที่ผิวสีเข้มก็อาจจะเป็น cool tone ได้ คนที่ผิวขาวก็อาจจะเป็น cool tone หรือ warm tone ก็ได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าถ้าเป็นคนผิวขาวแล้วจะเป็นผิวโทนชมพู เป็นความเชื่อที่ผิดค่ะ
references:
https://www.youtube.com/watch?v=6_4JRJw6DIs
https://www.youtube.com/watch?v=YJSSJHZUWBI
//www.wisegeek.com/how-do-i-determine-my-skin-undertones.htm
https://www.youtube.com/watch?v=jd_Qgcue3lU
ข้อสอง สภาพผิวหน้าของเราค่ะ
ผิวมัน หรือผิวแห้ง หรือถ้าเป็นผิวผสมค่อนไปทางมันหรือแห้งมากกว่ากัน
ทำไมถึงสำคัญ เพราะว่ารองพื้นทั่วไปจะมี texture หรือเนื้อที่ต่างกัน และมี finish ที่ต่างกันด้วย
บางแบบให้ลุคที่ฉ่ำหรือโกลว(dewy or satin finish)จะเหมาะกับคนที่มีผิวธรรมดาถึงผิวแห้งจะทำให้หน้าดูโกลวสวย
แต่ถ้าคนที่ผิวมันไปใช้ก็จะดูหน้ามันเยิ้มไม่น่าดู ในทางตรงกันข้ามรองพื้นบางแบบเหมาะกับคนหน้ามันเพราะให้ลุคที่แมทหรือแห้งสนิท (matte finish)
คนหน้าแห้งไปใช้ก็อาจจะดูหน้าตึงหรือหน้าอาจจะแห้งเป็นขุยได้ เพราะฉะนั้นต้องเลือกรองพื้นที่ตรงกับผิวหน้าของเราค่ะ
ข้อที่สามสำหรับรองพื้นนะคะ
ปัญหาของผิวหน้าเราค่ะ ถ้าผิวหน้ามีรอยมากต้องการการปกปิดมากก็จะเหมาะกับรองพื้นที่มีการปกปิดมากๆ(full coverage)
เช่น รองพื้นแบบน้ำที่มีความเข้มข้นมากๆหน่อย หรือรองพื้นแบบน้ำที่มีความข้นหรือรองพื้นแบบครีมค่ะ
รองพื้นแบบนี้จะหนากว่าและปกปิดได้เนียนกว่า ถ้าต้องการเพียงแค่ปรับสีผิวให้เสมอกันควรใช้รองพื้นแบบน้ำแบบบางเบาค่ะ(light to medium coverage)
ข้อสุดท้ายสำหรับรองพื้นนะคะ การเลือกสีรองพื้น
เรื่องนี้ก็สำคัญมากๆแล้วก็แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค
ที่พูดอย่างนี้ก็เพราะถ้าเป็นฝรั่งชาวตะวันตกส่วนใหญ่จะชอบใช้รองพื้นที่สีเท่ากับผิวพอดีหรือเข้มกว่าสีผิวนิดหน่อย
เพราะอย่างที่รู้กันเค้าชอบผิวสีแทน แล้วก็ไม่ชอบให้หน้าตัวเองขาววอกนอกจากนั้นก็ยังใช้บรอนเซอร์ช่วยเพิ่มสีบนใบหน้าให้ดูแทนและดูมีสุขภาพ
ซึ่งตรงนี้จะต่างจากชาวเอเชียตรงที่ว่าผู้หญิงเอเชียมักจะชอบหน้าที่ขาวสว่าง
คนเอเชียเลยอาจจะใช้รองพื้นที่ขาวกว่าผิวนิดหน่อยซึ่งไม่ผิดถ้าหากมันไม่ได้ขาววอกจนเกินไป เราสามารถเลือกเองได้ว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน
เพราะตรงนี้มันก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรมและความชอบที่แตกต่าง แต่วิธีเลือกรองพื้นแบบพื้นฐานให้ดูสีผิวที่คอและไหล่ของเราเป็นหลัก
เพราะเวลาเราทารองพื้นเราก็อยากให้มันดูเป็นธรรมชาติแล้วก็กลืนไปกับผิวกายของเราไม่ใช่คนละสีแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
เพราะฉะนั้นควรเลือกสีที่ตรงกับบริเวณลำคอหรือไหล่ของเรา ไม่ใช่สีที่ตรงกับบริเวณใบหน้าค่ะ
เพราะปกติบริเวณใบหน้าของเราจะขาวกว่าส่วนอื่นๆ แล้วที่สำคัญเวลาลงรองพื้นควรจะเกลี่ยรองพื้นลงมาตรงบริเวณลำคอเล็กน้อยเพื่อให้ดูกลมกลืนค่ะ
แนะนำยี่ห้อรองพื้นคร่าวๆสำหรับสภาพผิวแต่ละแบบ
หมายเหตุ
จขกท.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับแบรนด์เหล่านี้นะคะ
ไม่ได้เคยใช้หมดทุกยี่ห้อแต่ทราบข้อมูลมาจากคนที่เคยใช้บน youtube และหาข้อมูลรีวิวต่างๆมาแล้ว และสภาพผิวบางคนอาจจะไม่เหมือนกัน
ความ sensitiveของผิว และความชอบอาจจะต่างกันด้วยนะคะ
ที่นำมาให้ดูเพื่อให้เป็นแนวทางเท่านั้น แต่ละตัวเป็นตัวที่เมืองนอกเค้าฮิตกันค่ะ
สำหรับผิวมัน ต้องการการปกปิดปานกลาง-มาก รองพื้นต่อไปนี้จะเป็นแบบ matte finish นะคะ
Revlon Colorstay
Mac Studio Fix Fluid
Estee Lauder Double Wear
Chanel Mat Lumiere
Make Up For Ever Mat Velvet
สำหรับผิวค่อนข้างแห้งถึงผิวธรรมดา ปกปิดปานกลาง(แต่buildได้)-น้อย เป็นแบบ satin finish
Revlon Photo Ready
NARS Sheer Glow
Chanel Vitalumiere Aqua
Lancome Teint Idole Ultra
Make Up For Ever HD
Kate
Lancome Teint Miracle
references: https://www.youtube.com/watch?v=zMcSUw4Pups
การลงรองพื้น
การลงรองพื้นอาจจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ความชอบแล้วก็แล้วแต่ความข้นหรือเนื้อของรองพื้นนะคะ
มีสามแบบหลักๆก็คือ ใช้มือ ใช้แปรง หรือใช้ฟองน้ำ
ใช้มือ
บางคนอาจจะถนัดใช้มือเพราะว่าเวลาใช้มืออุณหภูมิของมือเราก็จะวอร์มตัวรองพื้นทำให้เวลาทาก็จะซึมเข้าผิวได้ดี
แต่ข้อเสียก็คือบางคนอาจจะไม่ชอบให้มือเลอะ หรืออาจจะควบคุมได้ยากกว่าใช้แปรงหรือฟองน้ำ(คืออาจจะไม่เนียนเท่าใช้แปรงหรือฟองน้ำ)
ใช้แปรง
น่าจะเป็นอีกทางเลือกนึงที่ดีและนิยมใช้กันมากที่สุด
ความเห็นส่วนตัวเราว่าใช้แปรงแล้วจะทาให้เท่ากันกว่าใช้มือ แปรงที่ใช้ก็มีสองสามแบบตามภาพค่ะ
ใช้ฟองน้ำ
การใช้ฟองน้ำเหมาะกับคนที่ต้องการลุคแบบธรรมชาติ เพราะว่าถ้าใช้ฟองน้ำลงจะไม่หนาแน่นอน
แต่ข้อเสียก็คือเปลืองรองพื้นเพราะตัวฟองน้ำจะซึมรองพื้นไปเยอะมาก แล้วก็เปลืองฟองน้ำด้วยเพราะใช้ครั้งเดียวทิ้ง
(ล้างออกยากมาก ไม่นิยมล้างออก นิยมใช้ครั้งเดียวทิ้ง)
จบแล้วสำหรับเรื่องรองพื้นนะคะ รองพื้นที่ถูกใจเราจริงๆหาได้ยากมากต้องใช้เวลาและการหาข้อมูล
บางทีเราอาจจะชอบเนื้อรองพื้นมากแต่สีอาจจะไม่ตรง หรือบางทีเจอสีที่ใช้แต่เนื้อไม่ได้ เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา
การลงรองพื้นก็ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเช่นกัน เรื่องยี่ห้อของรองพื้นก็เป็นปัญหาด้วยเหมือนกันกว่าจะเจอยี่ห้อที่ถูกใจ
มีรองพื้นดีๆอีกหลายยี่ห้อที่ไม่ได้เอ่ยไว้ในนี้นะคะ
Face Primer ไพรมเมอร์
ไพร์มเมอร์คืออะไร
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ก่อน ก็คือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ลงก่อนจะลงรองพื้นนั่นเอง
เป็นการเตรียมสภาพผิวหน้าก่อนแต่งหน้า ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น
ส่วนใหญ่เป็นซิลิโคนเบสช่วยปกปิดรูขุมขน(เล็กน้อย)
แล้วก็ช่วยควบคุมความมันทำให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น แล้วก็เห็นสีสันชัดเจนมากขึ้นค่ะ
ไพรมเมอร์สำคัญมั้ย
อันนี้แล้วแต่คนเพราะว่าบางคนผิวหน้าดีอยู่แล้ว
ไม่ได้มีปัญหาเรื่องรูขุมขน เรื่องหน้ามัน หรือว่าเครื่องสำอางไม่ติดทนก็ไม่จำเป็นต้องใช้
แต่ถ้าคนที่มีปัญหาเหล่านั้นใช้ก็จะช่วยในเรื่องปัญหาดังกล่าวได้
วิธีลง
คือลงก่อนรองพื้น ต้องรอให้เซ็ทตัวสักพักนะคะ หน้าจะเนียนขึ้นเวลาเกลี่ยรองพื้นจะง่ายขึ้นด้วยค่ะ
หมายเหตุ
การใช้ไพร์มเมอร์ซึ่งมีส่วนผสมหลักของซิลิโคนจะทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย ต้องล้างหน้าให้สะอาด
แนะนำไพร์มเมอร์ยี่ห้อที่ดังๆต่อไปนี้ค่ะ
Smashbox - Photo Finish Primer
MAC - Prep and Prime Face Protect SPF 50
BeneFit - The Porefessional
Laura Mercier - Foundation Primer Oil -Free
NARS - Makeup primer
KMA - Satin Touch Primer
เมคอัพเบส หรือคอนซีลเลอร์สี
เมคอัพเบสคืออะไร
เมคอัพเบสคือเบสที่เป็นสีต่างๆทำไว้เพื่อกลบตำหนิบนใบหน้าของเรา
ทางเอเชียจะเรียกว่าเบสจะมีสีนู้นสีนี้ เช่น เบสเขียว เบสม่วง เป็นต้น แต่ว่าทางฝั่งตะวันตกเค้าจะเรียกว่าคอเร็คเตอร์
หรือคอนซีลเลอร์สี (correctors or corrective concealers)
เค้าจัดพวกสีที่ใช้ในการแก้ไขจุดบกพร่องพวกนี้เป็นพวกเดียวกับคอนซีลเลอร์ค่ะเพราะจะทำหน้าที่เหมือนๆกัน
ทำไมต้องใช้ ใครต้องใช้บ้าง
ที่ต้องใช้เบสเพราะว่าปัญหาบนใบหน้าของเราส่วนใหญ่มักจะมีเรื่องของสีต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เพราะฉะนั้นการแก้จุดบกพร่องเหล่านั้นก็ต้องเอาสีคู่ตรงข้ามมาปะลงไป
เพื่อที่จะทำให้ผิวหน้าตรงนั้นเป็นสีกลางหรือเรียกว่าการ neutralizing นั่นเอง
จุดบกพร่องหรือปัญหาบนใบหน้าต่างๆที่ว่านี้ก็คือ รอยคล้ำใต้ตา ปาน รอยแดง หรือรอยด่างด่างดำต่างๆค่ะ
ใช้รองพื้นอย่างเดียวได้มั้ย
ถ้ามีปัญหาความไม่สม่ำเสมอของสีผิวมากๆ อาจจะต้องใช้เบส
เพราะว่าถึงแม้ว่าจะลงรองพื้นแล้วพวกสีที่ไม่สม่ำเสมอเหล่านี้ก็ยังมองเห็นได้อยู่ค่ะ
แต่ถ้าไม่ได้มีปัญหามากก็บอกได้เลยว่าไม่จำเป็นคอนซีลเลอร์ธรรมดาก็ได้
หรือบางคนที่มีปัญหาเรื่องนี้อาจจะเลือกใช้คอนซีลเลอร์ธรรมดาก็ได้ไม่ว่ากัน
มีเบสสีอะไรบ้างแล้วแต่ละสีใช้ปกปิดอะไร
ปกติของฝรั่งจะมีสามสี ม่วง เขียว และพีชหรือสีเหลืองหรือบางทีเรียกว่าสีแซลมอน
แต่ของเอเชียจะมีมากกว่านี้
แต่จะขอพูดถึงสามสีนี้ก่อนค่ะ ทฤษฎีการใช้เบสปกปิดรอยนั้นอ้างอิงจากทฤษฎีวงล้อสีหรือ color wheel โดยการใช้สีคู่ตรงข้ามกันปิดตำหนิต่างๆบนใบหน้า
คอนซีลเลอร์สีม่วง สีตรงข้ามกับสีม่วงคือสีเหลือง ใช้ปกปิดรอยคล้ำใต้ตา หรือรอยตำหนิหรือความหมองคล้ำของคนผิวสีเข้มช่วยให้ผิวกระจ่างขึ้น
คอนซีลเลอร์สีเขียว เป็นสีตรงข้ามกับสีแดง ดังนั้นจึงช่วยในการปกปิดรอยแดงซึ่งพบได้บ่อยมาก พวกรอยแดงจากสิวด้วยเช่นกัน
คอนซีลเลอร์สีพีช เป็นสีตรงข้ามสีน้ำเงิน ตัวนี้จะช่วยปกปิดรอยคล้ำใต้ตาซึ่งจะออกม่วงๆหรือน้ำเงินๆ บางคนอาจจะเคยได้ยิน salmon concealers ซึ่งเป็นชื่อของคอนซีลเลอร์ที่สีออกส้มหรือพีชเนี่ยแหล่ะ เหมาะสำหรับใต้ตา
ส่วนเบสของเอเชียเราจะมีสีขาว หรือสีขาวมุกเพิ่มเข้ามาด้วย
ตามธรรมเนียมของชาวตะวันออกเราอีกนั่นแหล่ะค่ะ
ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับใบหน้า ใบหน้าดูไบร์ทดูผ่อง
หรือบางตัวก็ช่วยเพิ่มให้ลุคโกลวๆหรือวิ้งๆก็มี
หมายเหตุ
อันนี้ความเห็นส่วนตัว เราคิดว่าเบสสีๆพวกนี้ควรทาเฉพาะจุดที่มีปัญหาเท่านั้นเพื่อปรับสีผิว
ไม่ควรจะทาทั้งหน้า เพราะจะทำให้ดูหลอกตาหรือวอก (หน้าเขียว หน้าม่วง)
นอกจากหน้าจะมีปัญหามากจริงๆ แต่ควรจะใช้รองพื้นร่วมด้วยเพื่อให้หน้าเป็นธรรมชาติอย่าปล่อยให้เขียวลอยม่วงลอย!
สรุปแล้วเบสในปัจจุบันมีเยอะมาก แล้วก็มีหลายแบบนอกเหนือจากที่อธิบายไป
แต่หลักๆพื้นฐานคงมีเท่านี้
นอกเหนือจากนี้คงต้องอ่านรายละเอียดเป็นตัวๆไปอีกทีว่าตัวนั้นช่วยได้เรื่องไหน
แล้วบางครั้งพวกตัวคอนซีลเลอร์สีๆพวกนี้ก็ใช้ชื่อต่างๆกันไปด้วย แต่ที่อธิบายก็คืออยากให้
เข้าใจหน้าที่หลักๆของเจ้าตัวสีต่างๆนี้ค่ะว่าสีไหนทำหน้าที่อะไรบ้าง
references: //styles101.homestead.com/corective.html
//answers.yahoo.com/question/index?qid=20080915210944AAtyMHC
https://www.youtube.com/watch?v=nvkvKxCyqPE
https://www.youtube.com/watch?v=RCW8iFcbngA
คอลซีลเลอร์ มาถึงคอนซีลเลอร์กันบ้าง
คอนซีลเลอร์คืออะไร
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าคือตัวปกปิด เอาไว้กลบรอยแผล
หรือรอยสิวเล็กๆน้อยๆต่างๆบนใบหน้าของเรา หรือทาใต้ตาปกปิดรอยดำแพนด้าแร็กคูน
คอนซีลเลอร์มีกี่แบบ
ปกติแล้วจะมีสองแบบคือแบบครีมที่จะเป็นแบบตลับใช้ปาดออกมาแล้วก็ป้ายไปตรงที่ต้องการจะปกปิดหรือไม่ก็
เป็นแท่งคล้ายๆลิปสติกก็มี แบบที่สองคือแบบน้ำที่ส่วนใหญ่จะมีลักษณะอยู่
ในหลอดแล้วมีที่ทามาให้คล้ายๆลิปกลอส หรือไม่ก็เป็นหลอดเอาไว้บีบออกมา
ทำไมถึงจำเป็นต้องใช้คอนซีลเลอร์
คอนซีลเลอร์เหมาะกับคนที่พอทารองพื้น
แล้วยังเห็นรอยอะไรขึ้นมาอยู่ถ้าใช้คอนซีลเลอร์ปิดก็จะเนี้ยบมากขึ้น
หรือเอาไว้ปิดสิว! บางคนอาจจะไม่อยากทารองพื้นหนาๆเพื่อที่จะปิดรอยจุด
เล็กๆเพียงไม่กี่จุด ดังนั้นการทารองพื้นที่บางเบาเพื่อให้ใบหน้าดูเนียน
และปรับสีผิวให้เป็นธรรมชาติก่อนแล้วตามไปปิดรอยเล็กๆน้อยๆ
ด้วยคอนซีลเลอร์ก็จะดีกว่าทารองพื้นหนาๆทั้งหน้าค่ะ แต่ถ้าหน้าเนียนแล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้
คอนซีลเลอร์แบบไหนเหมาะกับตรงไหน
อันนี้แล้วแต่คนชอบ
แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่าคอนซีลเลอร์แบบครีมซึ่งเนื้อจะหนากว่าหน่อย
จะปกปิดพวกแผลเป็น สิวหรือรอยสิวอะไรต่างๆได้ดีกว่าเพราะเนื้อหนากว่า
ส่วนแบบน้ำน่าจะเหมาะกับใต้ตาสำหรับคนที่ไม่ได้มีปัญหาใต้ตามาก
ใช้แบบน้ำก็เอาอยู่เพราะถ้าทาหนาไปอาจจะทำให้เป็นคราบได้ง่าย
แต่ไม่ได้หมายความว่าแบบครีมจะทาใต้ตาไม่ได้เพราะบางคนก็มีปัญหา
ใต้ตาคล้ำมากแบบน้ำเอาไม่อยู่ คอนซีลเลอร์แบบครีมมาทาตาได้เหมือนกันแต่
ต้องดูว่าเนื้อไม่ได้หนาจนเกินไป ใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ
ทาอย่างถูกวิธี เท่าที่เห็นกูรูหลายๆคนใช้ก็คือใช้ dome tapered brush ในการเกลี่ย อย่างเช่นแปรง MAC 224
ปกติแปรงตัวนี้จะใช้ในการเบลนอายแชโดวแต่ว่าเอามาใช้ในการทาคอนซีลเลอร์ก็ดีมากเหมือนกัน
เท่าที่เห็นใช้กันมากๆก็จะเป็นคอนซีลเลอร์สีพีชหรือแซลมอนอย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าจะเหมาะกับใต้ตามากที่สุด
หลังจากเกลี่ยเสร็จแล้วก็ต้องทาเซ็ทด้วยแป้งฝุ่นด้วยบางคนอาจจะใช้คอนซีลเลอร์แบบน้ำในการไฮไลท์จุดต่างๆบนใบหน้าก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ
มาถึงปัญหาโลกแตกเกี่ยวกับการปิดรอยสิว ทาคอนซีลเลอร์ก่อนหรือหลังรองพื้นคะ?
บางคนบอกว่าถ้าทาคอนซีลเลอร์ก่อนรองพื้นแล้วมันจะไปยึดกับอะไร ต้องทารองพื้นลงไปเป็นพื้นก่อนแล้วถึงจะทาคอนซีลเลอร์ให้คอนซีลเลอร์ไปยึดอยู่กับรองพื้น
บางคนก็บอกว่าแล้วแต่ถนัดตามใจยังไงก็ได้
ที่นิยมทำกันมากกว่าก็คือทาหลังรองพื้น
เพราะว่าเราจะได้เห็นด้วยว่าพอทารองพื้นแล้วยังมีตรงไหนที่ต้องการปกปิดอีก
แล้วถึงค่อยใช้คอนซีลเลอร์ตามลงไป
แต่อยากจะบอกนิดนึงว่าถ้าทาหลังรองพื้นจะต้องมั่นใจว่าสีของคอนซีลเลอร์มันสีเดียวกับรองพื้นหรือใกล้เคียงกันมากๆเพื่อให้มันกลมกลืนกันค่ะ
ไม่งั้นมันก็จะโดดขึ้นมาเป็นจุดๆ วิธีลงคอนซีลเลอร์เพื่อปิดรอยสิว
อย่างที่บอกไปแล้วคือเลือกคอนซีลเลอร์ที่เป็นตลับแบบเนื้อครีมแบบหนาๆหน่อยจะปกปิดได้ดี
วิธีใช้ปาดครีมออกมาแล้วปะๆไปตรงบริเวณที่ต้องการ
อย่าป้ายเพราะมันจะหลุดหายไป ต้องปะๆแตะๆให้มันเกาะอยู่บนผิวตรงนั้นค่ะ
เลือกสีคอนซีลเลอร์ใต้ตา เข้มกว่าหรืออ่อนกว่า
ถ้าเป็นตรงใต้ตาสำหรับคนที่มีปัญหามากแนะนำให้เลือกสีที่เข้มกว่านิดหน่อยเป็นสีออกส้มหรือพีชอย่างที่บอกไป
ทาไปก่อนลงรองพื้นหนึ่งรอบ ที่ใช้สีเข้มเพราะว่าสีอ่อนมันจะไม่ปิด
พอทาไปแล้วมันจะหลอกๆดูเทาๆแล้วก็มีรอยดำให้เห็นอยู่ใต้คอนซีลเลอร์นั่นแหล่ะ
ตอนแรกใช้มือป้ายลงมาก่อนแล้วก็กดๆเพื่อวอร์มเนื้อคอนซีลเลอร์หลังจากนั้นใช้แปรงเกลี่ยค่ะ
พอคอนซีลใต้ตาแล้วทารองพื้นเสร็จแล้วถ้ายังเห็นรอยดำอยู่นิดหน่อยให้
ใช้คอนซีลเลอร์แบบน้ำอันนี้ขอสีสว่างนิดนึงป้ายทับเข้าไปอีกนิดหน่อย นิดหน่อยอย่าเยอะ
ถ้าเยอะมันจะเป็นคราบ เสร็จแล้วใช้แป้งเซ็ทใต้ตา
เท่านี้ใต้ตาก็จะสว่างขึ้นมา
เพราะว่าตอนแรกเราได้ใช้สีพีชลบความคล้ำใต้ตาซึ่งจะออกสีน้ำเงินหรือม่วงไปแล้ว
จากนั้นเราก็ได้ใช้สีสว่างมาทับอีกทีเพื่อให้ตรงนั้นดูสว่างขึ้นค่ะ
แต่ถ้าไม่ได้มีปัญหาใต้ตามากก็ลงคอนซีลเลอร์แบบน้ำหรือแบบครีมก็
ได้ที่มีสีสว่างกว่ารองพื้นนิดหน่อยหลังจากที่ลงรองพื้นค่ะ
หมายเหตุ
คอเร็คเตอร์สีพีชกับคอนซีลเลอร์สีพีชทำหน้าที่เหมือนกันคือปิดใต้ตา เพราะฉะนั้นเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ค่ะ ใช้แทนกันได้(ฝรั่งปกติเค้าจะเรียกพวกนี้ว่าคอนซีลเลอร์หมด)
references: https://www.youtube.com/watch?v=LNf0UmtxIoQ
https://www.youtube.com/watch?v=5NlnD9_RSTs
https://www.youtube.com/watch?v=rfAhJGzuwv8
https://www.youtube.com/watch?v=Kp02tRP2XaI
มาถึงเรื่องสุดท้ายกันแล้วนั่นก็คือเรื่องของแป้งค่ะ
หลักๆแล้วก็มีแป้งอยู่สองแบบคือแป้งอัดแข็งกับแป้งฝุ่น
แป้งฝุ่นมีกี่แบบ
หลักๆแล้วแป้งฝุ่นมีสองแบบคือแบบมีสีกับแบบไม่มีสีหรือที่เรียกว่า translucent loose powder แป้งฝุ่นโปร่งแสงนั่นเอง
แป้งฝุ่นใช้ตอนไหน
แป้งฝุ่นโดยทั่วไปก็เหมาะที่จะมีติดบ้านไว้ค่ะ โดยเฉพาะคนที่ผิวมัน
พอลงรองพื้นเสร็จแล้วควรเซ็ทด้วยแป้งฝุ่นเสมอเพื่อให้รองพื้นติดทนนาน
แป้งฝุ่นมีคุณสมบัติช่วยในการดูดซึมความมันเพราะฉะนั้นก็ควรเซ็ทรองพื้นด้วยแป้งฝุ่น
แต่ถ้าเป็นคนผิวแห้งหรือผิวผสมแป้งฝุ่นนั้นอาจจะไม่จำเป็นในการเซ็ทรองพื้น อาจจะใช้เซ็ทตรงบริเวณทีโซนหรือไม่ใช้เลยก็ได้
แป้งฝุ่นยังเหมาะกับคนที่หน้าไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมากอาจจะทารองพื้นแบบบางเบาแล้วลงทับด้วยแป้งฝุ่นเพื่อให้ลุกที่ดูเบาสบาย
ตอนนี้ในตลาดก็มีแป้งฝุ่นอีกแบบเพิ่มเข้ามาคือ
แป้งฝุ่นแบบ HD
ซึ่งจะมีเนื้อที่ละเอียดเหมาะสำหรับเซ็ทคอนซีลเลอร์ใต้ตา ถามว่าจำเป็นมั้ย
แป้งแบบ HD นั้นแพงกว่าแป้งฝุ่นธรรมดา
ความคิดเห็นของเราคือใช้แป้งฝุ่นธรรมดาก็พอแล้ว
จริงๆราคาถูกๆก็มีรู้สึกจะเป็นของ elf ไม่รู้ว่าเมืองไทยนำเข้ามารึยัง
แป้งอัดแข็ง
แป้งอัดแข็งมีทั้งแบบผสมหรือไม่ผสมรองพื้น
แป้งอัดแข็งที่ไม่ผสมรองพื้นก็คล้ายๆกับแป้งฝุ่น แต่จะดีกว่าตรงที่พกพาไปในได้ง่าย
เพราะแป้งฝุ่นส่วนใหญ่กระปุกจะใหญ่เทอะทะไม่สะดวกในการพกพาแถมยังหกเลอะเทอะง่าย
แป้งอัดแข็งดีตรงที่สามารถพกไปได้ใช้เติมหน้าระหว่างวันค่ะ เหมาะสำหรับคนที่หน้ามันแล้วก็ต้องเติมหน้าตอนออกไปข้างนอก
ควรจะซับหน้าก่อนด้วยการดาษซับมันแล้วตามด้วยแป้งค่ะ
แป้งอัดแข็งแบบผสมรองพื้น
จะมีสองหน้าที่หลักๆก็คือ
อย่างแรก
ใช้เดี่ยวๆสำหรับคนที่ไม่ชอบทารองพื้น
และผิวหน้าไม่ได้มีปัญหามาก ต้องการการปกปิดน้อย
แป้งผสมรองพื้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ
อย่างที่สอ
งก็คือใช้เติมระหว่างวันเพื่อลุคที่เนี้ยบกว่าใช้แป้งอัดแข็งแบบธรรมดาค่ะ
แป้งชนิดนี้จะมีความหนากว่าแป้งธรรมดาอยู่แล้วเพราะฉะนั้นจะช่วยปกปิดด้วย
ดังนั้นจึงให้ลุคที่เนี้ยบกว่าเหมาะกับการใช้เติมระหว่างวันค่ะ
อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะพูดถึงในเรื่องของแป้งผสมรองพื้นก็คือการทาแป้งผสมรองพื้นหลังจากทารองพื้นได้มั้ย คำตอบคือได้ ถ้าต้องการการปกปิดมากถึงมากที่สุด
แต่ต้องทาดีๆไม่อย่างงั้นจะดูหนามาก
มาพูดถึงวิธีทาแป้งกันหน่อย
ปกติแล้วจะไม่ชอบใช้พัฟทาแป้งเลย เพราะว่าพัฟหรือฟองน้ำทาแป้งจะสกปรกง่าย
แล้วก็จะดูดซับความมันของเรา พอเราเอามากลับไปปะลงบนแป้งจะทำให้แป้งเราสกปรก
เวลาที่น้ำมันบนฟองน้ำซึมลงไปในแป้งก็จะทำให้แป้งสีเปลี่ยน เหมือนเวลาที่หน้าเรามันแล้วสีแป้งหรือรองพื้นจะดรอปลง
เพราะฉะนั้นจะชอบใช้แปรงปัดแป้งมากกว่า พัฟจะใช้เวลาเติมแป้งตอนอยู่ข้างนอกค่ะ
แต่พอใช้ซักพักแล้วจะต้องซักเพื่อไม่ให้มันสะสมเชื้อโรคแล้วก็ความมันอยู่บนนั้น
หมายเหตุ
เวลาปัดแป้งไม่ควรจะถูหรือวนแรงๆเพราะจะไปรบกวนรองพื้นที่ลงเอาไว้แล้วเพราะฉะนั้นควรจะปัดเปาๆแบบตบๆลงไปบนหน้า หรือไม่ก็วนเบาๆค่ะ
ทั้งแป้งฝุ่นและแป้งแข็งเราชอบใช้แปรงมากกว่าค่ะ แปรงที่แนะนำสำหรับใช้ปัดแป้ง
references: //www.ehow.com/how_4831100_between-pressed-powder-loose-powder.html
https://www.youtube.com/watch?v=OsaG3nvlhQ8
เรียงลำดับการลงเครื่องสำอางบนหน้าต่อจากตัวบำรุงนะคะ
ครีมบำรุง > กันแดดด > ไพร์มเมอร์ > รองพื้น > คอนซีลเลอร์(ทั้งสีและไม่สี) > แป้ง
ส่วนใหญ่เท่าที่เราดูจากฝรั่งจะเป็นเสต็บนี้ค่ะ
อาจจะมีสลับรองพื้นกับคอนซีลเลอร์ได้
สำหรับชาวเอเชียอย่างเราเบสบางตัวจะออกแบบมาให้ทาก่อนรองพื้น
เพราะฉะนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ด้วย
แล้วที่สำคัญขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนค่ะ
เป็นกระทู้ที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยโพส ซีรีส์นี้ใช้เวลารวบรวมข้อมูลต่างๆนานพอสมควร
หาข้อมูลเพิ่มเติม ค้นหาคลิปเก่าๆที่เคยดูที่มีการพูดถึงข้อมูลเหล่านี้อยู่
กูรูหลายๆคนก็ให้ข้อมูลที่แตกต่างกันอันนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความชอบของแต่ละคนค่ะ
เพราะฉะนั้นหลายๆอย่างที่เราได้บอกไปนี้ก็เป็นความคิดเห็นที่มาจากประสบการณ์และความชอบส่วนตัวของเราด้วย
ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านแล้วก็นำไปปรับใช้กับการแต่งหน้าของตัวเองนะคะ
จบแล้วสำหรับตอนแรกเรื่องของใบหน้า อาจจะดูเยอะแยะไปหมด
แต่เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ
และที่สำคัญคือต้องลองและฝึกฝนด้วยตนเองค่ะ
สุดท้ายนี้การเขียนครั้งนี้ตั้งใจทำมากๆเพื่อให้ผู้หญิงทุกๆคนได้สวยกันถ้วนหน้า ขอเป็นกำลังใจให้มือใหม่ทุกคนค่ะ
ครั้งหน้าเจอกันในซีรีส์ถัดไปค่ะ ขอบคุณที่ติดตามชมและร่วมเป็นกำลังใจให้ค่ะ
Create Date : 09 พฤษภาคม 2554
Last Update : 9 พฤษภาคม 2554 17:59:32 น.
5 comments
Counter : 65861 Pageviews.
Share
Tweet
มีประโยนช์กับมือใหม่จริงๆค่ะ
แค่เตรียมผิวได้ดี ก็สวยขึ้นมากมายแล้วเนอะ
ขอบคุณมากค่ะ
โดย:
lithop
วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:51:40 น.
ขอบคุณค่า ได้ความรู้เยอะเลย
คงต้องไปปรับใช้บ้างแล้วล่ะ :D
โดย:
RoTTeN ChERRY
วันที่: 14 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:41:58 น.
ดีมากเลยนะคะ สำหรับข้อมูลดีๆ
โดย:
belongwithme
วันที่: 17 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:55:34 น.
สวัสดีน๊าาา ทักทายจ้าาาา อิอิ
rassapoom
rassapoom clinic
รัสมิ์ภูมิ
รัสมิ์ภูมิ คลินิก
Ultraformer
ยกกระชับ
ลดริ้วรอย
สลายไขมันใต้ชั้นผิว
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
Drakarian
สลายไขมันใต้ผิว
ฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปาก
เลเซอร์กำจัดขน
เลเซอร์ขน
กำจัดขน
Hair Removal
ฉีดฟิลเลอร์น้องสาว
ฟิลเลอร์น้องสาว
ดูดไขมันเหนียง
คางสองชั้น
FaceTite
AccuTite
Hifu
Super Hifu
มาส์กหน้า
ตาสองชั้น
ทำตาสองชั้น
ศัลยกรรมตาสองชั้น
ฟิลเลอร์สะโพก
ฟิลเลอร์เสริมสะโพก
ฉีดฟิลเลอร์สะโพก
ฉีดฟิลเลอร์เสริมสะโพก
Morpheus
Morpheus Pro
ยกกระชับผิว
ฟิลเลอร์คาง
โปรแกรมฟิลเลอร์คาง
Exosome
Exosome Plus
Exosome Plus+
กระชับช่องคลอด
ช่องคลอด
Vaginal
Vaginal Reju
Skin Quality
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา
Ultracol
ไหมน้ำ
Allergan
โบ Allergan
ฉีดโบ Allergan
Super Skin Laser
ฝ้า กระ
ฝ้า กระ จุดด่างดำ
Picocare 450 Laser
ร้อยไหม
ร้อยไหมคืออะไร
Lenisna
JUVELOOK
สารเติมเต็ม
REVIVE
BELOTERO REVIVE
Rejuran
Gouri
คอลลาเจน
กระตุ้นคอลลาเจน
Juvederm
Juvederm Volite
New Juvederm Volite
Radiesse
Radiesse Filler
Sculptra
คอลลาเจน
เสริมจมูก
ศัลยกรรมเสริมจมูก
ปลูกผม FUE
ฟิลเลอร์
Filler
ฉีดฟิลเลอร์
Thermage
Thermage FLX
ยกกระชับ
ยกกระชับผิว
Ulthera
EMFACE
ยกกระชับ
ยกกระชับกล้ามเนื้อ
ฉีดแฟต
สลายไขมัน
ฉีดแฟตสลายไขมัน
CoolSculpting Elite
CoolSculpting
สลายไขมันด้วยความเย็น
สลายไขมัน
BodyTite
ดูดไขมัน
Emsculpt
สร้างกล้ามเนื้อ
ลดไขมัน
สอนฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์
สอนฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์
ให้ใจ
สุขภาพ
โดย:
teawpretty
วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:19:15:17 น.
แวะมาทักทายจ้า
ยกกระชับช่องคลอด
Vaginal Lift
Vaginal
Morpheus Pro
Morpheus
ยกกระชับ
Oligio Body
Oligio
IV Drip
ดริปวิตามิน
Emsella
รีแพร์
เลเซอร์นอนกรน
นอนกรน
Indiba
ปากกาลดน้ำหนัก
ลดน้ำหนัก
Emsculpt
สลายไขมัน
สลายไขมันด้วยความเย็น
Coolsculpting
romrawin
รมย์รวินท์
Belotero
ผิวฉ่ำ
Glassy Skin
Juvederm
Coolsculpting
เลเซอร์รอยสิว
Meso Hair
Skinvive
ฟิลเลอร์แก้มตอบ
ฟิลเลอร์น้องชาย
ฟิลเลอร์น้องสาว
ฟิลเลอร์ขมับ
ฟิลเลอร์หน้าผาก
ฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์คาง
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์
ฉีดโบหางตา
ฉีดโบลิฟกรอบหน้า
ฉีดโบหน้าผาก
ฉีดโบยกมุมปาก
ฉีดโบปีกจมูก
ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา
ฉีดโบลดกราม
ฉีดโบรักแร้
ฉีดโบลดริ้วรอย
โบลดริ้วรอย
ดื้อโบลดริ้วรอย
Volnewmer
Linear Z
ยกมุมปาก
Morpheus8
ลดร่องแก้ม
Ultraformer III
Ultraformer MPT
Emface
Hifu
ยกกระชับหน้า
Ultherapy Prime
Ulthera
Ulthera
Thermage FLX
Thermage
Oligio
Oligio
ร้อยไหมจมูก
ร้อยไหม
เลเซอร์บิกินี่
เลเซอร์ขนน้องสาว
เลเซอร์ขนหน้า
เลเซอร์บิกินี่
เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน
เลเซอร์ขนขา
เลเซอร์หนวด
เลเซอร์รักแร้
กำจัดขนถาวร
กำจัดขน
เลเซอร์ขน
เลเซอร์ขน
Pico Laser
Pico Majesty
Reepot Laser
Gouri
Exosome
Harmonyca
Profhilo
Sculptra
Sculptra
Radiesse
Radiesse
Radiesse
Radiesse
Radiesse
Radiesse
UltraClear
AviClear
Accure Laser
Fit Firm
Emsculpt
Coolsculpting Elite
NAD+
ดีท็อกลำไส้
EIS BIO SCAN
ICELAB
IV DRIP
Vaginal
P-SHOT
O-Shot
LLLT
ปลูกผม
รักษาผมร่วง
ผมร่วง ผมบาง
ปลูกผม
ปลูกผมถาวร
ปลูกผม FUE
ปลูกผม
ดูดไขมัน
ดึงหน้า
ทำตาสองชั้น
เสริมจมูก
ยกคิ้ว
เสริมหน้าอก
วีเนียร์
Apex
ให้ใจ
สุขภาพ
โดย:
น้องเมย์น่ารัก
วันที่: 12 ธันวาคม 2567 เวลา:16:45:08 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
kypsan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add kypsan's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
แค่เตรียมผิวได้ดี ก็สวยขึ้นมากมายแล้วเนอะ
ขอบคุณมากค่ะ