คนที่ "ชอบ" และ คนที่ "ใช่"
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา รู้สึกเศร้าๆ ยังไงก็ไม่รู้ T_T ที่ทำงานเปลี่ยนระบบอินเทอร์เนทใหม่ ตอนแรกบอกจะเล่นเนท เช็คเมล์ไม่ได้ 3 วัน ทำไปทำมาอาทิตย์กว่า เพิ่งจะมาเล่นได้เอาวันพฤหัสนี่เองพี่ที่ดูแลในส่วนตรงนี้ เขาก็ไม่ใช่ IT โดยตรง จริงๆ งานหลักเขาเป็นฝ่ายบัญชี สุดยอดเลย บริษัทนี้ ... แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบร้ายแรงอะไรหรอกนะ เราก็ยังก้มหน้าก้มตาทำงานกันต่อไป(แค่นั่งทำความเคารพ - สัปหงกบ่อยๆ แค่นั้นเอง) เศรษฐกิจย่ำแย่ วงการรถยนต์ก็ซบเซา ข่าวสารก็เงียบหาย เราเลยได้แต่นั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ เชิ้บ เชิ้บ ... กับความรัก ... เฮ้อออ (ปล่อยลมออกมาเฮือกใหญ่) ปัญหากับแฟนที่ยังเข้ากันไม่ได้ในหลายๆ จุด เท่านั้นไม่พอ ตอนนี้เราต้องรับมือกับความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า พ่อแม่เขาไม่ได้ปลื้มเราซักเท่าไรเวลามีปัญหา นั่นก็ลูกชายเขาอะนะ เรามันก็แค่ผู้หญิงไทยคนหนึ่ง ที่ไปทำให้ลูกเขาดูไม่ค่อยมีความสุขเลยเท่านั้นเอง แล้วธรรมเนียมบ้านคนจีน พ่อแม่ ครอบครัวเป็นใหญ่แค่ไหนใครก็รู้ ขี้เกียจพรรณาแล้ว (ตอนแรกตั้งใจจะมาระบายในนี้ล่ะ แต่เขียนไปก็เท่านั้น เราก็ยังต้องอยู่กับความจริงข้อนี้อยู่ดี)อืม ... อนิจจัง พุทธัง ธัมมัง สังฆาโร ... เราอยู่สงบๆ ของเราดีกว่าจะคิดไปต่อกรกับใคร คนไหนที่ได้เจอคนดีๆ ครอบครัวดีๆ ก็ขอส่งความอิจฉา (แต่ไม่ริษยา) ไปให้จาก ณ ที่นี้ด้วย ... คุณคือผู้โชคดีจริงๆ ที่เจอกับคนที่เข้ากันได้ ไร้ปัญหาเราเองไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไรกับไอ้เจ้าคำว่า "ปัญหา" เลยนะ มองอีกมุมก็สนุกดีอีก ได้ฝึกทำ รับมือกับโจทย์ยากๆดีกว่าชีวิตเรียบง่าย แสนสบาย ไม่ต้องฝ่าฟันอะไรเลย พอเรียนรู้กันไปได้ แก้ไขกันไปได้ เราก็ได้รักครบรส หลากหลายมากกว่าแค่รักรสหวาน ซึ่งไม่นานก็อาจจืดจางไปได้แต่การต่อสู้ที่ขาดความร่วมมือร่วมใจ แล้วจะเหลืออะไรให้ยืนหยัดต่อไปล่ะนี่ มือก็ไม่ยื่นมา แถมยังขยันขยี้ขย้ำจิตใจกันบ่อยครั้งเราไปอ่านเจอมานะว่า ผู้หญิงจะตัดสินใจวางอนาคตไว้กับใคร ก้อให้ไตร่ตรองดีๆ ว่าเขาคนนั้น เป็นทั้งคนที่ "ชอบ" และคนที่ "ใช่" เราจำได้ว่า เริ่มแรกที่รู้จักกัน เราคิดไปเองนะว่า เขาคนนี้คือคนที่ "ใช่" เขาเก่ง และเขามีน้ำใจช่วยเหลือเรา คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เขาเข้ามาแตกต่างจากคนที่เราเคยทำให้เราเสียใจ ในขณะที่เขาเองก็เคยผ่านความเสียใจ (ถือว่าใหญ่หลวงมาก) มาแล้วเหมือนกันเขาไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เจ้าชู้ ตั้งใจ เรียนหนังสือ ทำงาน เราไม่นอกใจ คบใครทีละคน รู้บาปบุญคุณโทษ เอาใจใส่ไม่หนีปัญหา (น่าน ... มายังกับจะรับสมัครเลือกตั้ง something) เราเลยคิดไปไง ว่าเราสองคนอาจจะเป็นคนที่ "ใช่" ของกัน เพราะเราต่างเป็นคนที่จะไม่ทำในสิ่งที่เคยทำให้อีกคนเสียใจ และเมื่อความรู้สึก "ชอบ" ตามมาโดยอัตโนมัติ และความผูกพันมันเข้ามาเชื่อมความรู้สึกทั้งหมดไว้วันเวลาผ่านไป สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ ความสัมพันธ์ของคนสองคนไม่ใช่เรื่องง่ายดายแค่นั้น ... ปัญหาที่ไม่คาดคิดทยอยมาให้เจออยู่ตลอด ทะเลาะ เก็บกด เห็นแก่ตัว ไม่สนใจ ไม่เข้าใจ ไม่ปล่อยวาง ไม่ให้อภัย ประชด ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ใช้เหตุผลเหนือความรู้สึกใดๆ ไม่ปรับปรุงแก้ไข วนเวียนอยู่กับสิ่งเหล่านี้เรากลายเป็นคนร้องไห้มากกว่าเดิม เขาก็กลายเป็นคนที่ดูไม่ร่าเริงเหมือนเก่าของคนที่บ้าน เฮ้อ ... (อีกที) ดูเหมือนไม่มีอะไรดีเลยใช่มะ คนที่ "ชอบ" กับกลายเป็นอยู่ด้วยกันแล้วมัน "ไม่ใช่" ตอนนี้ก็ทำใจระดับหนึ่งแล้วล่ะ เราก็ยังมีครอบครัวของเรา ที่ยังเป็นห่วงเราและไม่เคยกล่าวโทษใครถ้าความสัมพันธ์ครั้งนี้ไปไม่รอด เราก็ยังรักเขาอยู่ แต่เปลี่ยนเป็นรักแบบเพื่อน แล้วไม่ต้องเสียใจดีกว่าอย่างน้อย ถ้าเป็นเพื่อนกันก็ยังมีระยะห่างให้เราอยู่และรักษาตัวได้ เหงากว่าแต่คงสบายใจกว่าเนาะด้วยรักและปรองดอง (ไม่ใช่ด้วยโกรธเกลียดและอยากห่างเหินหรือผลักไส ... ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โปรดกรุณาทำความเข้าใจไว้ด้วย .. จักขอบพระคุณอย่างสูง - อิ๊ อิ๊ )จบ ... เท่าที่เวลาจะอำนวย (555 ... มีเนทใช้ที่ทำงานมันก้อสบายใจอย่างนี้แหละน้า - เชิ้บ เชิ้บ)จุ๊บ จุ๊บ
ปัดฝุ่นบล๊อก ... ซะทีอะนะ
อ้า .. ใกล้เที่ยงแล้วเน้อวันนี้ ... (กินอะไรกันดีล่ะ ... คิดเผื่อไปถึงมื้อเย็น มื้อค่ำ เลยดีมั้ย .. 555 ?!? )ม่ะได้เข้าอัพเดทบล๊อกเลย ช่างเป็นเจ้าของบล๊อกที่แย่จริงๆ ช่วงนี้มีปันใจไปอัพ my space ของ msn แทนคิดว่าในนี้คงไม่มีใครสนใจอ่านบล๊อกเราเท่าไรก็บางทีมันก็ไม่มีสาระ หรือเรื่องอะไรให้ใครสนใจ หรือเป็นประโยชน์ได้สักเท่าไรอะนะ นอกจากเรื่องราวที่เราได้พบเจอมา หรือความคิดเพ้อฝัน ความรู้สึก อารมณ์ของเราในช่วงเวลาหนึ่งๆ ก็เลยไปบันทึกไว้ในพื้นที่ส่วนตัวซะมากกว่าย้อนกลับมาดูบล๊อกเก่าที่ร้างลาอีกที เห็นจำนวนผู้ชม ก็งงๆ อยู่ (เอ .. นี่ใครหลงเข้ามาบล๊อกร้างเยอะขนาดนี้เลยเหรอ)อ้า .. ดีใจจัง เลยรู้สึกว่า ยังไงวันนี้ก็ต้องปัดฝุ่นบล๊อกกันสักหน่อยล่ะชีวิตเข้าสู่วัยเบญจเพสแล้ว เราเดินทางมาถึง 1 ใน 4 ของถนนเส้นนี้แล้วเหรอเนี่ย (555 ประมาณไว้คร่าวๆ อะนะ ตีไว้สัก 100 ปีมากไปรึป่าวก้อม่ะรู้)อืมม ... เชื่อเรื่องเพื่อนสนิทมั้ยปัจจุบัน เราไม่มีเพื่อนเป็นฝูงเป็นโขลง เอ้ย! โขยง เหมือนเก่าแล้วบางที การทำงาน ระยะทาง สิ่งแวดล้อม ก็ทำให้เราห่าง และเจือจางความสัมพันธ์เราได้เหมือนกันนะแต่เราก็ยังมีเพื่อนคนหนึ่ง เกือบสิบปีแล้วที่รู้จักกัน เราอาจไม่ได้คุยกันบ่อยเหมือนเก่า ไม่ได้เจอหน้ากันเป็นเดือนๆ แต่เราก็ยังให้คำว่า "เพื่อนสนิท" กับคนๆ นี้เสมอ แม้เราอาจไม่ใช่คนสนิทของเพื่อนคนนี้ไปแล้วก็ตาม... คิดๆ แล้วก็อยากไปเข้าค่าย ทำกิจกรรมอะไรสักอย่างที่ตรงกับแนวของตัวเองเนาะ ... เราจะได้เจอคนคิดอะไรใกล้เคียงกัน แล้วก็ สวัสดีค่ะ สวัสดีครับ .. เราชื่อนั้น ชื่อนี้มาจากที่นั่น ที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วก็คุยๆ ๆ ๆ กันทำนู่น ทำนี่ด้วยกัน แล้วก็เรียนรู้กันไปอ้า .. มีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นกระบุง แต่ .. เพื่อนใหม่อะนะ คงหาไม่ยาก แต่รักษาไว้อะ ไม่ง่ายเลยจะมีใครกี่คนกัน ที่มีความสนใจคล้ายๆ กัน แคร์กัน สนใจกัน รับกันได้อย่างที่เป็น ก็หวังว่า .. คงยังมีอยู่อะนะถ้ามีใครสักคนเข้ามา เริ่มต้นรู้จักกันวันนี้ หรือพรุ่งนี้ ก็ยังมีเวลาให้รู้จักกันอีกตั้ง 3 ใน 4 ของชีวิตเราแน่ะ คงไม่น้อยไปที่จะสนิทกันหรอกนะ ... เราว่า