|
|
|
| | 1 |
| 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
| 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
| 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
| 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
| 30 | |
|
 |
|
|
ตุ๊กตายางอัจฉริยะตัวช่วยสำหรับผู้ชายจีน |
|
ประเทศจีนได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันจำนวนประชากรโดยประมาณอยู่ที่ราวๆ1400ล้านคน อย่างไรก็ตามอัตราส่วนของชายกับหญิงในประเทศแห่งนี้เรียกได้ว่าไม่บาลานซ์กันอย่างมาก โดยที่จำนวนประชากรผู้หญิงจะมีน้อยกว่าชายเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ธุรกิจการผลิตตุ๊กตายางในประเทศจีนจึงมีอัตราการเติมโตสูงอย่างต่อเนื่อง โดยที่ปัจจุบันตุ๊กตายางอัจฉริยะได้เริ่มเข้ามาทดแทนตุ๊กตายางแบบเดิมๆ
เนื่องจากนโยบายลูกคนเดียวของรัฐบาลจีนที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.1979-ค.ศ.2015 ซึ่งรวมระยะเวลากว่า 35ปี ทำให้เกิดความไม่สมดุลของปัญหาประชากรระหว่างหญิงและชายในประเทศจีน เนื่องจากครอบครัวชาวจีนจะนิยมการมีลูกผู้ชายไว้เพื่อสืบทอดสกุลตัวเอง เป็นเหตุให้หลายครอบครัวเมื่อทราบว่าตนท้องลูกเพศหญิงจึงแห่กันไปทำแท้ง นั่นทำให้อัตราการเกิดทารากเพศชายต่ออัตราการเกิดทารกเพศหญิงในจีนห่างกันถึงอัตราส่วน 114คนต่อ100คน ซึ่งนี่ก็หมายความว่าจะมีจำนวนผู้ชายโสดที่ไม่สามารถมีแฟนได้นับร้อยล้านคนเลยทีเดียว บวกกับปัจจุบันจีนกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอีกด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยเสริมอีกอย่างทำให้คนโสดเริ่มหาคู่ได้อยากโดยเฉพาะผู้ชาย ด้วยเหตุนี้ตุ๊กตายางในประเทศจีนจึงเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความนิยมและมีอัตราการเติมโตสูงอย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากความต้องการตุ๊กตายางที่สูงมากในประเทศจีน ก็ทำให้มีบริษัทโรงงานมากมายหลายแห่งแห่เข้ามาร่วมกันแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ หลายบริษัทต้องพยายามปรับตัวและหาจุดเด่นของตุ๊กตายางของตัวเอง ซึ่งปัจจุบันหลายบริษัทเริ่มหันเหไปทำการวิจัยและผลิตตุ๊กตายางทางเลือกที่ไม่เหมือนใคร นั่นก็คือ ตุ๊กตายางอัจฉริยะนั่นเอง
หนึ่งในบริษัทชั้นนำที่หันมาเอาดีทางด้านตุ๊กตายางอัจฉริยะก็คือบริษัท Exdoll ซึ่งตอนนี้กำลังทำการวิจัยตุ๊กตายางอัจฉริยะที่สามารถผลิตออกมาได้จำนวนมากๆในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ Exdoll กล่าวว่า โปรแกรม AIที่จะใช้ในการติดตั้งให้กับตุ๊กตายางของบริษัทจะมีความคล้ายคลึงกับโปรแกรมที่ใช้อยู่ในสมาร์ทโฟนอย่าง Siri หรือ Alexa นั่นเอง โดยลูกค้าจะสามารถป้อนคำสั่งให้กับตุ๊กตายางได้อย่างอิสระและตุ๊กตายางจะสามารถตอบสนองคำสั่งของลูกค้าได้ นอกจากนี้แล้ว บริษัทยังทำการวิจัยและอยู่ในขั้นพัฒนาเทคโนโลยีที่นอกจากจะสามารถทำให้เจ้าตุ๊กตายางนี้ตอบสนองคำสั่งได้แล้วแต่จะยังสามารถแสดงสีหน้าแววตาได้อีกด้วย ซึ่งจริงๆแล้วเทคโนโลยีเหล่านี้ก็มีการทำขึ้นมาบ้างแล้ว แต่มีราคาแพงมากซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์ของบริษัท เนื่องจากบริษัทต้องการช่วยให้ลูกค้าโดยเฉพาะชาวจีนที่ส่วนมากยังไม่มีเงินเพียงพอที่จะเป็นเจ้าของตุ๊กตายางอัจฉริยาแพงๆซึ่งสนนราคาในปัจจุบันตามท้องตลาดตกอยู่ที่ตัวละ ประมาณสี่แสนถึงห้าแสนบาท ซึ่งบริษัทของเค้าตั้งเป้าหมายในการผลิตเทคโนโลยีนี้ให้ทุกชนชั้นสามารถจับต้องได้ด้วยราคาเพียงแค่หลักหมื่นเท่านั้น อย่างไรก็ดี Exdoll กล่าวว่า บริษัทก็ยังมีออฟชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าระดับบนที่กระเป๋าหนัก ซึ่งจะเสริมโปรแกรมพิเศษให้กับตุ๊กตายางอัจฉริยะให้กลายเป็นผู้ช่วยทำความสะอาดบ้านได้อีกด้วยในอนาคต
จากสถิติข้อมูลในเว็ปไซต์ Taobao ตุ๊กตายางมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง50%ตั้งแต่ช่วงปี 2010-2015 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมนี้ในประเทศจีนมีอนาคตที่สดใสเอามากๆ และยังเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดอีกด้วย นอกจากความเติมโตเองภายในประเทศจีนแล้ว อัตราการเติมโตในอุตสาหรรมนี้ทั่วโลกก็ถือว่าอยู๋ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ปัจจุบันจีนนั้นถือว่าเป็นผู้ผลิตส่งออกตุ๊กตายางรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยพบว่ามากกว่า 90%ของตุ๊กตายางทั่วโลกนั้นผลิตมาจากประเทศจีน
| Create Date : 19 มิถุนายน 2562 |
| Last Update : 19 มิถุนายน 2562 15:27:22 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 789 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
|
|
