คอนเสิรต์ที่ทำงาน ในวันปิดฤดูกาลท่องเที่ยว (อิตาลี) นอกจากงานทำความสะอาดบ้านพักคนชราแล้ว เมื่อถึงเวลาช่วงฤดูท่องเที่ยว ร้านอาหาร ร้านพิซซ่า ต่างหาพนักงานทำงาน เราจึงไม่รอช้า ที่จะหาโอกาสทำงานเสริม
เมื่อได้รู้จากพี่สาวว่า รู้จักเจ้าของร้านพิซซ่าเพราะว่าพี่สาวเราสอนภาษาไทยให้แก่ลูกๆ ของเขา พี่สาวเราจึงได้พูดคุยกับเจ้าของ ถึงความสนใจในการทำงานเสริมของเรา เจ้าของร้านเราขอเรียกว่า จีโน่ ละกัน จีโน่ จึงบอกให้ไปคุยกับลูกสาวที่เป็นคนจัดการร้านพิซซ่า ตอนนั้นภาษาเราแย่มากถึงที่สุด ดูจากหน้าตาของโลรี่ (ลูกสาวเจ้าของร้าน) แล้ว ไม่ค่อยอยากจะรับเราเท่าไหร่ บอกให้ จีโน่ รับเราทำงานที่แคปปิ้งดีกว่า เราก็พูดภาษาอังกฤษว่า เคยทำงานโรงแรมมาก่อน อยู่ฝ่ายจัดเลี้ยงห้องอาหาร โลรี่เลยบอกว่างั้นมาทดลองงานละกัน
วันแรกเริ่มงาน หัวหน้าก็สอนการทำงานต่างๆ เราก็พยายามเก็บลายละเอียดทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เมนูของร้านเราก็ขอเอากลับไปอ่านที่บ้าน เพื่อที่จะได้จำหน้าพิซซ่าต่างๆ ซึ่งมีมากกว่า 15 หน้าพิซซ่าได้ และก็พยายามที่จะไปรับพิซซ่าเวลาที่อบออกจากเตาเสร็จ เขาจะเรียกเพื่อนำไปเสริฟ เราจะรีบไปเพื่อที่จะดูหน้าตา จำลายละเอียดต่างๆ หน้าพิซซ่าแบบไหน ต้องใส่อะไรเพิ่ม หรือ แขกไม่ใส่อะไรเพิ่ม ต้องดูให้ดี จะได้ไม่เสริฟผิด พนักงานเสริฟจะเป็นคนใส่เครื่องที่บนหน้าพิซซ่าที่อบเสร็จแล้ว เครื่องประเภทนี้จะเป็นของสด เช่น ใส่มะเขือเทศสด ใบโหระพา ผัก Rocket แฮมต่างๆ เป็นต้น
ผ่านไป 15 วันของการทดลองงาน สุดท้ายเราก็ผ่านและได้ทำสัญญา ดีใจมากๆ เราได้ทำสัญญา 4 ชั่วโมง ทำเฉพาะช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 19:00-23:00 เมื่อรวมกับทำงานทำความสะอาดบ้านพักคนชรา อีก 5 ชั่วโมง ก็พอดี แม้จะเหนื่อยหน่อย เพราะเลิกงานร้านพิซซ่า กว่าเราจะได้นอนก็ปาไป ตี 1 บ้าง ตี 2 บ้าง แล้วเราจะต้องตื่น ตี 4:40 เพื่อที่จะเตรียมตัวไปทำงานเช้า ที่เริ่มงาน ตอน 6:00-11:00 ที่เราต้องตื่นเร็วเพราะ จะต้องไปให้ถึงที่ทำงานตอนตี 5 ครึ่ง เพื่อจะเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนเริ่มงาน แล้วค่อยกลับมานอนตอนบ่าย ก่อนจะเริ่มงานร้านพิซซ่าอีกที
การทำงานที่ร้านพิซซ่า เป็นงานที่เหนื่อยใช้ได้เลย เพราะร้านนี้มีโต๊ะทั้งหมด 70 โต๊ะ เป็นร้านที่นักท่องเที่ยวมาใช้บริการกันเยอะมาก เราต้องเดินเร็วหรือบางครั้งเดินแบบกึ่งวิ่งก็มี และพนักงานในร้านก็มีน้อย มี 2 คนรับออเดอร์ (เสริฟบ้าง) 4 คนเสริฟ และ เก็บโต๊ะ ที่ร้านพิซซ่าแห่งนี้ไม่ได้ขายแค่พิซซ่า แต่จะมีอาหารอิตาเลียนด้วย เพราะฉนั้นเวลาอาหาร พิซซ่า และเครื่องดื่มออก เด็กเสริฟจะต้องรีบนำไปเสริฟโต๊ะแขกให้เร็ว อาหารจะได้ร้อน เครื่องดื่มจะได้เย็น ถูกใจลูกค้า แต่เมื่อร้านเต็ม และมีเทศกาลปิดถนนคนเดิน ร้านจะเพิ่มโต๊ะไปบนถนน อีก10 กว่าโต๊ะ แต่ละโต๊ะ ลูกค้าจะต้องแชร์กับลูกค้าอื่น เพราะเป็นโต๊ะยาว ลูกค้าโต๊ะไหนนั่งแช่ โลรี่ก็จะให้พนักงานเริ่มเก็บแก้วไล่เป็นนัยๆ เพราะลูกค้าต่อแถวกันยาวมาก ดังนั้น เด็กเสริฟก็จะเดินแบบวิ่ง ซึ่งเมื่อมีเทศกาลนี้ เราจะเลิกงาน เที่ยงคืน ถึง ตีหนึ่ง เพื่อเก็บโต๊ะ แต่เทศกาลนี้ก็จะมีเดือนละครั้งในช่วง มิถุนา-สิงหา และถึงแม้ทางร้านจะจ้างเด็กเสริฟมาเพิ่มอีก 2 คน ในช่วงนี้ เด็กเสริฟก็ทำงานกันไม่ทันอยู่ดี
เราทำร้านพิซซ่าแห่งนี้มา 6 ปีแล้ว จนโลรี่มาคุยกับเรา ขอให้เรามาทำงานเต็มเวลา ร่วมทั้งมื้อเที่ยงด้วย แต่ร้านพิซซ่าจะเปิดแค่ฤดูท่องเที่ยว ประมาณ 6 เดือน แล้วปิดช่วงหน้าหนาว สำหรับเรามันมีความเสี่ยง หากมีปีไหนที่เราเกิดเจ็บป่วย ขาดงาน ปีถัดไปอาจจะไม่จ้างเราก็เป็นได้ และที่สำคัญ งานทำความสะอาดเราได้สัญญาที่ทำจนเกษียณ ความเสี่ยงจึงไม่มี ในขณะที่ร้านพิซซ่าเราจะได้สัญญาทำงานแค่ 6 เดือน อีก 6 เดือนว่างงาน แต่จะได้เงินว่างงาน 70เปอร์เซ็น ของเงินเดือน รัฐจะจ่ายแค่ 3 เดือน อีก 3 เดือนที่เหลือ ก็แล้วแต่ บางคนหางานทำ ซึ่งก็ยากเพราะเป็นช่วงหน้าหนาวงานไม่มี บางคนก็ใช้เงินเก็บ
และเมื่อฤดูท่องเที่ยวสิ้นสุดลง ทางร้านจะมีการจัดคอนเสิรต์เพื่อขอบคุณลูกค้า ทำให้พนักงานอย่างเราๆ ได้ร่วมสนุกไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม ในวันนี้พนักงานก็ดื่มกันอย่างเต็มที่ แต่ต้องไม่เสียงานนะ พนักงานและลูกค้าจะเต้นกันอย่างสนุกสนาน คอนเสิรต์จะเริ่มตอน 3 ทุ่ม จนถึง 5 ทุ่มครึ่ง ส่วนพนักงานจะเลิกงานเกือบตีหนึ่ง เพราะพวกเราจะต้องเริ่มเก็บโต๊ะ จากนอกร้านเข้ามาข้างใน เพราะวันรุ่งขึ้น เราจะต้องเก็บของทุกอย่างเพื่อทำการปิดร้านในหน้าหนาว และรอเปิดอีกทีในฤดูการท่องเที่ยวของปีหน้า บรรยากาศคอนเสิรต์ขอบคุณลูกค้าในวันปิดร้านค่ะ |
anywayfun
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Group Blog All Blog | |||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |