น้ำ "อักษร" ไหลผ่าน "คลอง" หัวใจ เพื่อหล่อเลี้ยงต้นไม้ที่ชื่อ "วรรณกรรม"
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 

ความรักส่งเธอมา ตอน 2/4

บ่ายโมงพัชออกมาจากร้านอาหารตามสั่งร้านประจำที่อยู่ใกล้บริษัทราคาไม่แพงและสะอาดใช้ได้ ก่อนเดินไปซื้อกาแฟรถเข็นเจ้าประจำเช่นกัน มีสองคนต่อคิวรอซื้อเขาจึงต่อคิวเป็นคนที่สามระหว่างรอกาแฟ กำลังมองพ่อค้าทำเพลินๆ มีมือมาสะกิดตรงต้นแขนลักษณะเหมือนเกาเบาๆ
“คุณๆ”

พัชหันตามเสียงเรียกก็พบดวงตากลมโต ตอนนี้มันยิบหยีเพราะรอยยิ้มกว้างแป้นแล้น ร่าเริงจนน่าหมั่นไส้(เหมือนวันฝนตก) ไม่ต้องให้ใครมาเตือนเขาจำได้ทันที ขึ้นใจเชียวละเธอคนนี้ด้วยคาดไม่ถึงหรืออะไรก็เกินคาดเดา มันทำให้เขายืนนิ่งเหมือนถูกสาป มือเล็กๆจากคนตัวเล็กคว้าหมับที่ต้นแขนก่อนจะลากเขาออกมาจากแถวที่ซื้อกาแฟอย่างถือวิสาสะ แปลกที่เขาไม่ยื้อตัวเองกลับก้าวตามอย่างว่าง่าย

“จำฉันได้มั้ย” เธอถาม

พัชทำเสียงฮึในลำคอ มีหรือจะจำไม่ได้เอาผ้าเช็ดหน้าเขาไปเช็ดขนหมาต่อหน้าต่อตาขนาดนั้นทว่ายังไม่ทันพยักหน้าหรือตอบอะไร อีกฝ่ายก็รีบบอก

“คนที่อุ้มหมาแล้วอาศัยร่มคุณเมื่อวันก่อนโน้นไงคุณยังให้ฉันยืมผ้าเช็ดหน้าอยู่เลย”
“ผมจำได้”พัชลากเสียง
“นั่นแหละฉันยังไม่ได้คืนผ้าเช็ดหน้าให้คุณเลยเสียดายจังวันนี้ไม่ได้พกมาด้วย ซักให้เรียบร้อยแล้วนะ รู้มั้ยฉันพกมาทุกวันและไปยืนรอคุณเวลาเลิกงานทุกวันเลยด้วยตรงป้ายรถเมล์ที่เดิมน่ะแต่ก็ไม่เจอ คุณทำงานแถวนี้เหรอ”
พัชอมยิ้มเมื่ออีกฝ่ายพูดจบ“ใช่ผมทำงานใกล้ๆ แถวนี้ แล้วคุณล่ะ”
“เหมือนกันเลย ฉันทำงานตึกโน้น”หญิงสาวชี้ไปยังตึกที่สูงกว่ายี่สิบชั้น ซึ่งเป็นตึกเดียวกันกับที่บริษัทเขาเช่าพื้นที่เป็นสำนักงาน
“ผมก็ทำงานตึกนั้น”เพียงเขาบอก ตาโตนั้นขยายกว้างอีกนิดก่อนยิบหยีเพราะรอยยิ้มกว้าง ผู้หญิงอะไรขยันยิ้มชะมัดแถมยิ้มน่ารักเสียด้วยสิ
พัชเผลอมองเพลิน

“จริงเหรอคุณอยู่ชั้นไหนฉันอยู่ชั้นสิบเอ็ด” หญิงสาวบอกกระตือรือร้น
“ผมอยู่ชั้นสิบแปด”
“ดีจัง”
เธอว่า

พัชเลิกคิ้วสงสัยว่าดียังไง อีกฝ่ายดูจะอารมณ์ดีเป็นนิสัย หัวเราะคิกคัก “อยู่สูงๆแบบนั้นวิวคงดี เวลาเหนื่อยได้พักสายตามองกรุงเทพในมุมกว้างๆก็ผ่อนคลายได้เหมือนกัน”

เขาเข้าใจแล้ว“ครับ” พัชตอบรับ ดูเจ้าหล่อนเจ้าหล่อนจะเป็นคนช่างพูดช่างเจรจา ดูสิเจอกันเพียงสองครั้ง ทำมาชวนคุยเหมือนสนิทสนมมานาน

“เดี๋ยวขอผมซื้อกาแฟแป๊บนะคุณอย่าเพิ่งไปไหน แล้วเอาอะไรรึเปล่า”

หญิงสาวส่ายหน้า เขาจึงเดินไป ด้วยเห็นว่าร้านปลอดคนแล้วจึงใช้โอกาสนี้ไปซื้อ ถ้าช้าอีกนิด อาจมีคนมารอต่อแถวยาว ไม่อยากเสียเวลารออีก เมื่อซื้อเสร็จหันกลับมาอีกทีสาวน้อยหน้าใสขยับไปยืนรอเสียไกลชายหนุ่มเดินไปหาพร้อมกับดูดกาแฟไปด้วย เหลียวซ้ายแลขวา ว่าเธอมีเพื่อนมาด้วยหรือไม่

“คุณมีเบอร์มือถือมั้ยฉันขอหน่อยสิ”

ชายหนุ่มแทบสำลักกาแฟเมื่อโดนขอเบอร์โทรดื้อๆ โดยอีกฝ่ายไม่มีการปูพื้นอะไรเลย เร็วไปไหมเขาตั้งตัวไม่ทัน ขณะหญิงสาวกลับเอียงคอมองเขาแววตาใสซื่อ

“คุณเป็นอะไรรึเปล่า”

ยังจะมาถามพัชโคลงศีรษะ “เปล่า ว่าแต่จะเอาเบอร์ผมไปทำไม”

ไม่ได้หวงหรอกนะ แต่อยากรู้เจตนา
“ก็เอาไว้โทรหาสิคะอย่าลืมว่าผ้าเช็ดหน้าคุณยังอยู่กับฉันนะ”

พัชอึ้งกับเหตุผลแค่นั้นเองเหรอ ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นถ้าจะบอกว่าไม่เอา จะดูตัดเยื่อขาดใยเกินไปหรือเปล่านะก็แม่คุณเล่นเอาไปเช็ดขนหมาเสียขนาดนั้น จะเอาคืนมาทำไม แต่พอเห็นหน้าแบ๊วรอยยิ้มหวานๆ ก็โอเค ยังไงก็ได้ใจง่ายอยู่แล้วกับผู้หญิงน่ารัก เขาล้วงมือถือจากกระเป๋ากางเกง ยื่นให้เธอ “กดเอาละกัน”

หญิงสาวยิ้มมือเล็กรับโทรศัพท์จากมือเขาแล้วกดยิกๆ ไม่นานเสียงเพลงเรียกเข้ามือถือใครสักคนก็ดังขึ้นหญิงสาวกดวางยื่นคืนให้ ก่อนกดดูมือถือตัวเอง “อู้ฮู้เบอร์คุณสวยจังจำง่ายด้วย”

เขายิ้มเมื่อเห็นเธอตาโตทำตื่นเต้นแค่หมายเลขโทรศัพท์นี่นะ เขาแตะแขนเจ้าหล่อนเบาๆ บอกใบ้ให้เดินไปด้วยกันหญิงสาวชวนเขาคุยราวกับสนิทสนมมานาน กระทั่งถึงตึกสำนักงาน พออยู่หน้าลิฟท์เธอจึงเอ่ยถามชื่อ

“คุณชื่ออะไร”
พัชยิ้ม ผู้หญิงอะไรรุกก่อนตลอดเบอร์โทรก็ได้ไปแล้ว นี่ก็เนียนถามชื่ออีก ชายหนุ่มคิดเข้าข้างตัวเอง “แล้วคุณล่ะชื่ออะไร”ชายหนุ่มไม่ตอบแต่ถามกลับ ด้วยอยากเป็นฝ่ายรุกบ้าง เขาเป็นผู้ชายนะ ทว่า...

เจ้ากล่องสี่เหลี่ยมโง่ๆดันมาซะงั้น เซ็ง!

“อุ้ยลิฟท์มาแล้ว คนเยอะด้วย เข้ามาเร็วจะบ่ายโมงแล้วเดี๋ยวช้าไม่ทันเข้างาน”

พูดจบร่างเล็กก็ผละจากเขาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยไม่รอฟังคำตอบ ไม่สนเลยหรือ ว่าการถามชื่อคนอื่นแล้วไม่รอฟังคำตอบ มันเสียมารยาท ซ้ำยังรีบวิ่งไปอย่างนั้นอีกคนจะรู้สึกยังไง พัชส่ายหน้า เฮ้อ ยายบ๊องเอ้ย

เขาไม่ได้วิ่งเข้าลิฟท์เพื่อเบียดกับคนมหาศาลอย่างที่หญิงสาวทำทั้งตัวเขาก็โดนกัน ก่อนจะก้าวขาด้วยซ้ำ ไม่นานเสียงสัญญาณก็ดังขึ้น เตือนว่าเกินจะรับน้ำหนักได้อีกแล้ว

ประตูลิฟท์ปิดพร้อมกับพาเธอคนที่ไม่รู้จักชื่อขึ้นไปด้วย...

หลังจากพบเธอคนนั้นโดยบังเอิญถึงสองครั้งพัชไม่รู้ตัวเลยว่าแอบรอให้อีกฝ่ายโทรมาเกือบทุกวัน แต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม นับรวมวันนี้ครบหนึ่งอาทิตย์พอดิบพอดีที่หญิงสาวหายไปแบบไร้ร่องรอยอีกครา

แล้วแบบนี้จะขอเบอร์เขาไปทำไม
พัชคิดอย่างหงุดหงิด พลันนึกได้ว่าตัวเองก็มีเบอร์หญิงสาวจึงรีบกดมือถือดูวันที่เธอคนนั้นใช้เครื่องเขายิงออก โชคดีที่โทรศัพท์ยังเก็บข้อมูลไว้ชายหนุ่มกดโทรออกทันที บอกตัวเองว่า ที่โทรหาไม่ได้คิดถึงหรือคิดจะจีบหรอกนะแค่อยากรู้ว่าขอเบอร์เขาแล้วทำไมถึงไม่โทรมาสักที แล้วผ้าเช็ดหน้ายังโอเคอยู่รึเปล่า

แต่ ไม่สามารถติดต่อได้

อะไรวะหงุดหงิดนะนี่! คิ้วดกดำขมวดมุ่น ลองกดไปอีกหลายครั้งปลายสายก็ยังเหมือนเดิม เธอคนนั้นกำลังเล่นตลกอะไร

หลังเลิกงานวันนี้พัชเดินเอื่อยๆ ไปยังป้ายรถเมล์ที่ประจำ ไม่มองรอบๆ เพื่อหาใครบางคนอีกแล้ว เขามองมาหลายวันไม่เห็นแม้แต่เงาป่านนี้คงลืมเขาไปแล้วแน่ๆ ไม่เห็นจะสน ผู้หญิงอะไรนึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไปแสดงออกชัดว่าต้องการสานสัมพันธ์ แต่ก็มาทำให้อารมณ์ค้างเสียอย่างนั้น คิดถึงแววตาซื่อๆรอยยิ้มสดใสก็ให้นึกเจ็บใจ อย่าให้เจอ อย่าให้เจอนะ

ซ่าๆๆๆ
อ้าวฝนตกเฉยเลย หนักด้วย ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าพาตัวเองไปอยู่ใต้หลังคาป้ายรถเมล์ แต่พอสายตาเห็นสุภาพสตรีเบียดกันแน่นขนัดจนแทบล้นงานนี้เขาเปียกแน่ จะวิ่งกลับเข้าตึกก็ไกล กว่าจะข้ามถนนไปอีก ให้มันได้อย่างนี้สิน่าป้ายรถเมล์ก็ดันมาอยู่ฝั่งที่ตลอดแนวมีแต่รั้วสูงๆ กั้น ไม่มีหลังคาแหลมออกมากันฝนเลยร่มก็ลืมอีก ซวยซับซ้อนเสียจริง พัชบ่นตัวเองอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร ฝนก็ยิ่งกระหน่ำลงมาก่อนจะเปียกไปมากกว่านี้
ร่มคันหนึ่งก็ลอยอยู่เหนือศีรษะสูงกว่านิดเดียว เพราะคนถือเตี้ยกว่าเขามาก
รอยยิ้มแป้นแล้นของหญิงสาวตรงหน้าทำให้สมองเขาหยุดสั่งการ อึ้งไปชั่วขณะ...
“นึกว่าจะไม่ได้เจอคุณแล้วซะอีกดีใจจัง” เธอร้องเสียงใสแข่งกับฝน เขาก้มหัวลงเพราะความสูงของร่มไม่พอกับความสูงของเขาทั้งที่อีกฝ่ายก็ยืดเกือบสุดแขน

“โทรไปคุณไม่รับ”แว่วเสียงประชดนิดๆ โดยไม่ยีหระต่อหน้าตาที่สุดแสนจะดีใจนั่น

อีกฝ่าย“นิ้งทำโทรศัพท์หายตอนอยู่ในลิฟท์วันนั้นนั่นแหละ”
“ฮือ”พัชเลิกคิ้วนึกไม่ถึง “แล้วทำยังไงล่ะทีนี้” เขาถาม

“ก็ซื้อใหม่สิ”เธอตอบง่ายๆ

“วันหลังก็ระวังแล้วกัน”ชายหนุ่มพูดแค่นั้นเพราะขี้เกียจตะโกนแข่งกับเสียงฝน ทั้งเสื้อด้านหลังก็เปียกชุ่มหมดแล้วก่อนตัดสินใจแย่งร่มจากมือหญิงสาวที่ตอนนี้รู้ชื่อแล้วโดยไม่ต้องถาม มาถือไว้เอง

“นี่ผ้าเช็ดหน้าคุณ”

พัชสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆ หญิงสาวก็ยัดผ้าเช็ดหน้าใส่ในกระเป๋าเสื้อ ที่วันนี้บังเอิญมาอยู่ด้านซ้ายเสียอีกมันทำให้ไอ้ก้อนเนื้อที่อยู่ลึกลงไปใต้ชั้นผิวตรงนั้นเต้นแรงผิดปกติมือเล็กจัดระเบียบกระเป๋าให้ เหมือนจงใจสัมผัสบริเวณนั้นนานๆ

“กระเป๋าพอดีกับขนาดผ้าเช็ดหน้าเป๊ะเลยแสดงว่านิ้งพับเก่ง” รอยยิ้มใสที่ขยันยิ้มให้เขา ส่งมาให้เป็นการยืนยันความคิดของตนเองทำให้คนมองนึกเอ็นดู

“ชมตัวเองก็ได้ด้วย”เขาแซว
“ได้สิชมคนอื่นยังชมได้เลย”

พัชหัวเราะเบาๆกับคำตอบนั้น แทบลืมไปเลยว่าตอนนี้ฝนตกหนัก และรถเมล์สายที่กำลังรอเคลื่อนมาจวนจะถึงป้ายแล้วชายหนุ่มมองมันอย่างขัดใจ ทีทุกวันมารอตั้งนานไม่มา แววตาลังเลนั้นทำให้อีกคนหันมองตาม

“รถมาแล้วใช่มั้ย”
“เปล่า”เขาส่ายหน้าอย่างไม่ต้องคิด “ถึงมาก็ยังไม่ไปหรอก รอนิ้งขึ้นรถก่อน”

เพียงแค่นั้นเขาก็ได้รับรอยยิ้มน่ารักเป็นรางวัล ชายหนุ่มอมยิ้ม
ทั้งคู่คุยกันสัพเพเหระอยู่นานส่วนใหญ่จะเป็นการเรื่องการทำงาน ทั่วไป แต่คล้ายจะระมัดระวังเรื่องส่วนตัวราวกับประเมินท่าทีอีกฝ่ายว่า หากแตะเรื่องนั้นจะเป็นการย่นระยะการสนทนาสั้นลงหรือเปล่าจนพัชเริ่มหมดความอดทนกับตัวเองที่อ้อมไปอ้อมมาจึงโพล่งไป

“นิ้งคุยกันมาตั้งนานไม่คิดจะถามชื่อผมมั่งเหรอ”
นิ้งหรือ น้ำนิ่ง ที่กำลังเล่าเรื่องในที่ทำงานของเธอถึงกับชะงัก ก่อนหัวเราะเสียงใส “นิ้งลืมไปเลยเห็นฟังเพลินก็นึกว่าอยากฟังต่อ”

น่าโกรธไหมลืมไปเลยเนี่ยนะ
“ไม่เป็นไรหรอกคนรู้จักกัน ชื่อคงไม่สำคัญเท่าไรมั้ง” เขาเอ่ยด้วยท่าทางประชดเบาๆ ชวนหมั่นไส้ ทำให้น้ำนิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิม

“สำคัญนะให้นิ้งเรียกคุณว่าอะไรดีล่ะ เรียกอะไรดีน้า”

พัชคิดตามฟังจากน้ำเสียง นี่หรือคือวิธีการถามชื่อ ฟังดูเหมือนอยากจะตั้งชื่อให้เสียมากกว่า“อยากเรียกว่าอะไรก็เรียกไปเถอะ ตามใจนิ้งละกัน” เขาพูดงอนๆ

หญิงสาวทำหน้าครุ่นคิดศีรษะก้มลงต่ำ ทำให้เขามองเห็นแต่ผมดำขลับ “จะไม่บอกจริงๆ เหรอ”เธอเงยหน้ามาถามอย่างรวดเร็ว จนเขาเกือบผงะ
“ไม่บอกหรอก เรื่องอะไรจะบอก”พัชได้ทีตีรวน แกล้งเสียเลย

“แน้ งั้นนิ้งเรียกไม่เกรงใจนะ”
“เรียกมาสิ”เขาบอกอย่างนึกสนุกเมื่อเห็นแววตาเปล่งประกายของอีกฝ่าย

“หลงเจอ”
“อะไรนะ”เขาร้องเสียงหลง
“หลงเจอไง”
“หลงเจอนี่นะชื่อหมาหรือชื่อคนละนั่น”

น้ำนิ่งทำตาโตหัวเราะ“ชื่อแนวนี้กำลังฮิตเลย เหมือนพระเอกไต้หวันไงเท่ดีออก งั้นต่อไปนิ้งเจอคุณที่ไหน จะทักว่าหลงเจอนะถ้าไม่ยอมบอกชื่อ”

พัชใช้มือที่ว่างเกาคางทำหน้าคิดหนัก“จะดีเหรอ”
“ดีสิ”น้ำเสียงกระตือรือร้นทำให้คนหวงชื่อโคลงศีรษะอย่างเอ็นดู หน้าใสอย่างงี้ตาแป๋วอย่างนี้ เห็นทีอายุจะห่างจากเขาไม่ต่ำกว่าสามปีเป็นแน่ แต่จะถามเรื่องอายุกับผู้หญิงมันก็เป็นประเด็นอ่อนไหว ไว้ค่อยเลียบๆ เคียงๆ วันหน้าละกัน

“คุณอายุเท่าไร”

เฮ้ย เปล่านะ!เขาไม่ได้ถาม เป็นเธอต่างหากที่ถามขึ้นมาก่อน
ชายหนุ่มอึ้งกับคำถามที่คาดไม่ถึงผู้หญิงคนนี้สร้างความประหลาดใจได้ตลอด “ยี่สิบแปด”ผู้ชายไม่หวงตัวเลขอายุอยู่แล้ว อีกฝ่ายคิ้วย่นไปเลย ทำไมแก่ไปหรือไงตัวเธอ

“จริงป่าวเราอายุเท่ากันเลยเหรอเนี่ย แต่ทำไมหน้าหลงไม่แก่เลย”

ฟังดูแม่งๆเรียกหลง ไม่มี เจอ เหมือนไม่ได้เรียกคน แต่เพราะคำชมนั่นให้อภัยได้ “นิ้งดูก็ไม่น่าจะถึงนะนึกว่าเพิ่งจบมหาลัยซะอีก” ให้ตายเขาเผลอพูดความจริงให้อีกฝ่ายได้หัวเราะ

“อย่าอวยกันไปมาเลยดีกว่านิ้งเขินเป็น”

พัชหัวเราะตามเขินน่ารักด้วย สาธุ รถเมล์ของใครก็อย่าเพิ่งมาเลย คำอธิฐานของเขาไม่ได้ผลไม่ถึงห้านาทีรถเมล์สายที่น้ำนิ่งขึ้นประจำก็มา สาวหน้าอ่อนกว่าวัยร้องบอกเขา“อุ้ยรถมาแล้ว นิ้งไปนะหลงเดี๋ยวไม่ทัน”

ร่างเล็กวิ่งขึ้นรถจนเขาเรียกไว้ไม่ทันชายหนุ่มส่ายหน้ากับนิสัย ‘นึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป’ ของน้ำนิ่งเหลือเกิน แล้วแบบนี้จะเจอกันอีกเมื่อไรสายตาสะดุดที่ร่มในมือ พัชยิ้มให้มันราวกับคนชอบพอกัน




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2557
0 comments
Last Update : 21 พฤษภาคม 2557 21:26:59 น.
Counter : 2716 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


โลกใบนี้มีแต่ความสวยงาม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




คนธรรมดา ที่มีชีวิตบนทางฝัน
Friends' blogs
[Add โลกใบนี้มีแต่ความสวยงาม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.