bloggang.com mainmenu search

คุณเคยไปภูกระดึงมั้ย
คุณน่าจะได้ไปเที่ยว อย่างน้อยครั้งนึงในชีวิตก็ยังได้ชื่อว่า

คุณคือ ‘ผู้พิชิตเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,288 เมตร’



ปี 2000 เราและเพื่อนรวม 6 คนได้จัดทริปขึ้นภูกระดึง เป็นครั้งแรกของเราทุกคน ยกเว้น ‘เป็ด’ หัวหน้าทีมแค้มปิ้ง มันเป็นเซียนแค้มปิ้งมือหนึ่ง เที่ยวอุทยานมากว่า 20 แห่งทั่วไทย พวกเราเลยยกให้เป็ดเป็นหัวหน้าแค้มป์นำเราไปฉลองปี 2000 และ countdown บนภูกระดึงซะเลย

การเที่ยวบนภูกระดึงก็ปกติทั่วไปค่ะ เดินเลาะผาครบทุกผา อีกวันนึงเข้าป่าเปิด ชมน้ำตก ไปถ่ายรูปกัน ช่วงนั้นใบเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงกันหมดป่า สวยดีค่ะ


เป็ดบอกว่า มีป้ายบอกไว้ที่จุดลงทะเบียนข้างล่างว่า ห้ามเก็บใบเมเปิ้ล กับลูกสน เดี๋ยวจะโดนปรับคนละ 500 บาท พวกเราทุกคนบอก ‘เฮ้ยย นิดเดียวน่า ไม่เป็นไรหรอก เค้าไม่เห็นหรอก’
เลยได้ใบเมเปิ้ลกลับมาบ้าน คนละนิดหน่อย


จำได้ว่า เราหยิบมา 4 ใบ
เที่ยวกลับจากภูกระดึง รถกลับมาถึงบ้านประมาณ ตี 4 ก็นอนแหล่ะค่ะ เหนื่อยสุด สุด

คืนวันต่อมา จำได้ว่า 5 ทุ่มแล้ว กำลังจะเคลิ้ม ได้ยินเสียง ‘พู่วววววววววววววว’

เหมือนมีคนเป่าลมอยู่ข้างๆหู ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ง่วงเต็มที่แล้ว สติกำลังจะหลุดจากภวังค์แล้วด้วย เราก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมา กะนอนต่ออย่างเดียว

สักพัก เอาอีกแล้วค่ะ ‘พู่วววววววววววววว’ ตามด้วยเสียงหัวเราะ คิก คิก
ที่นี่เริ่มตั้งใจฟังแล้ว ว่าเสียงอะไร
เสียงแว่วๆจากคาราโอเกะเปิดใหม่แถวบ้านหรือเปล่า (สมัยนั้นคาราโอเกะเพิ่งฮิตใหม่ๆ)

อืมมม ไม่ใช่วุ้ย ….

เอาวะ นอนใหม่

ที่นี้ นอกจากได้ยินเป่าลม ข้างๆหูซ้าย ‘พู่วววววววววววววว’ ชัดๆ แล้ว ขนอ่อนที่หูยังลุกอีกแน่ะ
มันไม่ได้มาแต่เสียงเป่าลมอย่างเดียวค่ะ มีเสียงหัวเราะ คิก คิก เบาๆ ของผู้หญิงด้วย

สิ่งที่ทำได้ตอนนั้น คือหยุด ไม่สนใจ เพราะมันชัดแล้ว ว่าอะไร
ถ้าไปให้ความสนใจ เดี๋ยวเธอจะได้ใจ นอนซะเลย บอกมันในใจว่า ‘ช้านไม่รู้สึกอะไรเว้ยยย’


อีก 2-3 วันต่อมา
คราวนี้ไม่มาเป่าหูแล้ว เธอมานั่งข้างๆเตียง แบบว่ารู้สึกได้เลยว่าเตียงเรามีคนมานั่งเพราะที่นอนตรงไหล่ซ้าย มันยุบลงไป เธอมาหัวเราะ คิก คิก คิก ตอนนั้นกำลังจะหลุดภวังค์ จะหลับอยู่แล้วเชียว พอรู้ว่าเธอมา สิ่งที่รู้สึกตอนนั้นคือ โมโหมากๆ ตะโกนออกไปดังๆว่า ‘ไป๊……….!!!!!!!’

แล้วทุกอย่างก็สงบ….



แต่อีก 1 อาทิตย์ถัดมา ประมาณตี 2
รู้สึกเหมือนมีเด็กผู้ชาย อ้วนๆหน่อย วิ่งเล่นอยู่ในห้อง
เราไม่เห็น แต่ในมโนภาพขณะที่เคลิ้มๆ มันสร้างรูปให้เห็นเป็นเด็กผู้ชายอ้วนๆหน่อย ใส่โจงกระเบนสีแดง ไม่ใส่เสื้อ จำได้ว่าไม่ได้ลืมตาขึ้นดูเลย แต่มันมีมโนภาพในขณะหลับตาว่าเค้าเป็นเด็กรูปร่างอย่างนี้ กำลังเดินอยู่ในห้องเรา
‘เดินก็เดินไป จะนอนแล้ว อย่ามากวน’


อีกอาทิตย์ต่อมา… ไม่ได้มากันทุกวันค่ะ ไม่รู้ว่าช่วงที่ไม่มา ไปบ้านไหนกันมามั่ง อันนี้ก็ไม่เคยเรียกมาถาม
ประมาณตี 2 เหมือนเดิม คราวนี้มาเดินข้ามเตียงเลย

คุณเคยรู้สึกมั้ย เวลาที่นอนอยู่บนเตียง
แล้วถ้ามีคนมาเหยียบบนที่นอนคุณ ที่นอนมันยุบฮวบลง คุณรู้สึกได้ใช่มั้ยคะ
นั่นแหล่ะค่ะ น้องเค้ามาแล้ว เด็กผู้ชายคนเดิม




อีกอาทิตย์ต่อมา … ตอนตี 1ครึ่ง มีเสียงปิ๊บเข้ามาในเพจเจ่อร์ค่ะ คงจำเพจเจ่อร์กันได้นะคะ ตอนนั้นมือถือยังไม่แพร่หลายค่ะ พอเปิดเพจเจ่อร์ดูมันเป็นตัวเลข 3 ตัว


จำไม่ได้ว่าเป็นตัวเลขอะไร ที่แน่ๆมาแบบทื่อๆ ไม่มีชื่อผู้ส่ง ตอนเช้าก็ไม่ได้เช็คกับทางศูนย์ของผู้ให้บริการเพจเจ่อร์ แล้วก็ไม่ได้เอาตัวเลขไปซื้อหวยด้วยค่ะ กะให้รู้กันไปเลย ว่า ‘ชั้นไม่สนใจเธอ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ตาม’



อีกอาทิตย์ต่อมา … ไม่เคยดูปฎิทินซักทีค่ะ ว่าเค้ามาทุกวันไหน
ตี2 กว่าๆเหมือนเดิม คือเรานอนประมาณ ตี 1 ดังนั้นช่วงเคลิ้มๆ แบบกึ่งหลับกึ่งตื่น
พวกนี้จะเข้าเวรมากันแล้ว คราวนี้เสียงเพจเจ่อร์ที่วางไว้บนเตียง ประมาณช่วงข้างตัว มันดังเปี๊ยะ
เป็นคุณ คุณงงมั้ยคะ เสียงเพจเจ่อร์ดังเปี๊ยะ !!
เราหยิบขึ้นมาดูค่ะ เพจเจ่อร์มันเสียค่ะ
เหมือนมีคนมาเล่นๆๆ กดปุ่ม เล่นๆ แล้วก็ไหม้ซะงั้น แปลกมั้ย ตอนเช้าเลยต้องเอาเพจเจ่อร์ส่งร้านซ่อมเสียตังค์ไป 1,000 นึงแน่ะ เค้าบอกว่าเมนบอร์ดเสียค่ะ


อีก1 เดือนต่อมา … ยัง ยังไม่หมดค่ะ ตั้งแต่เพจเจ่อร์เสียนี่ ห่างไปพอสมควร
คราวนี้ เป็นพัดลมค่ะ


นอนๆอยู่ได้ยินเสียง กดปุ่มพัดลม ‘แป๊ะ’ พัดลมจากที่เคยเปิดไว้ก่อนนอนเบอร์ 2 มันลดความแรงลงมาซะงั้น เออดี ปรับพัดลมให้ด้วย สงสัยพ่อหนุ่มน้อยคงจะหนาว เพราะไม่ได้ใส่เสื้อด้วย
ทุกๆครั้งที่ได้ยินเสียงรบกวนไม่ว่าจะอะไรก็ตามจากกลุ่มผู้มาเยือนตอนตี 2 เราจะบ่นดังๆว่า ‘เฮ้ยยยยย !!!’
ให้มันรู้กันไปว่า รำคาญ เสร็จแล้วก็นอนต่อ


เรื่องที่เจอ เราไม่เคยเล่าให้คนในบ้านฟัง (แม้กระทั่งตอนนี้ที่ผ่านมา 8 ปีแล้ว) บ้านนั้นเป็นบ้านลูกพี่ลูกน้อง (ลูกสาวของป้า) เราก็เลยไม่อยากเล่าให้เค้าฟัง
แต่ที่งงๆก็คือ กลุ่มผู้มาเยือนเข้ามาในบ้านเราได้ยังไง ???
เจ้าที่ที่บ้านเราให้เข้ามาได้ด้วยเหรอ
หรือว่าเราทำผิดที่ภูกระดึงจากการเก็บ ‘ใบเมเปิ้ล’ มา เป็นความผิดติดตัวที่เค้าเอามาอ้างกับเจ้าที่บ้านเราได้ ???

เรื่องนี้ห่างๆไปอีกหลายเดือน…. มีอยู่วันนึงพ่อมารับกลับบ้านที่โคราชด้วยกัน
ระหว่างนั่งรถกับพ่อ ก็คิดเรื่องนี้ขึ้นมาซะงั้น คิดว่า เออ มาต่างจังหวัดอย่างนี้ คงไม่ตามมาแล้วมั้ง

คืนนั้น มาเหมือนเดิมค่ะ ตี 2 เหมือนเดิม คราวนี้ส่งผู้หญิงคนเดิมมา มานั่งข้างเตียง (ที่โคราช) เหมือนเดิม คืนนั้นพอรู้สึกตัวว่าเธอมาอีกแล้ว ด้วยความโมโห ก็ตะโกนออกไปดังๆว่า
‘ไป๊……….!!!!!!!’


เราได้ยินเสียงพ่อ ขยับตัวจากห้องนอนเค้าค่ะ แต่เรานอนต่อ เรารู้ว่าพ่อคงได้ยินเสียงเราตะโกน แต่ก็ดีที่เค้าไม่ถามอะไรตอนเช้า เราก็ไม่อยากพูดถึงด้วย
คิดดู ขนาดมาถึงโคราช ยังนั่งรถตามมาด้วยเลย


จำได้ชัดๆ ครั้งนึงว่า เคยเจอเป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆ ดำๆ แต่เค้าไม่ได้มาทำอะไร ไม่ได้มาพูด ไม่ได้มาดุ หรือ มาส่งเสียงรบกวนอะไรเลย
มายืนที่ปลายเตียงเฉยๆ เราก็ปล่อยให้เค้ายืนไป แล้วก็หลับบบบบ เค้าไม่กวนอะไรเลยค่ะ

จากนั้นจำได้ว่า ไม่มีใครมาเยี่ยมตอนตี 2 อีกเลย ผู้ชายคนนั้นเป็นคนสุดท้าย จากที่เจอมาทั้งหมดตลอด 1 ปีกว่าๆ ประมาณปี 2001 ก็หายไปหมด

ก่อนหน้านั้น ไม่เคยสวดมนต์ก่อนนอน พอมาเจอเข้า ก็เริ่มสวดมนต์ก่อนนอน ท่องนะโม 3 จบ ถึงจะเจออยู่ดี อย่างน้อย ก็ช่วยให้อุ่นใจขึ้นบ้างว่าเราก็นับถือพระพุทธ เหมือนๆที่ผีเค้า(เคย)นับถือ อาจจะพอผ่อนโทษให้เบาลงได้ อิ อิ

ทุกวันนี้ยังหาไม่เจอเลยค่ะ ว่า ‘ใบเมเปิ้ล’ ที่หยิบติดมือมาจากภูกระดึง ไปอยู่ที่ไหนแล้ว
หาไม่เจอเลย ไม่รู้ว่า ทีมที่มาเยี่ยมเค้าเอากลับคืนไปแล้วหรือยัง

เรื่องนี้ เคยเล่าให้เป็ดฟังค่ะ ขณะเล่าไปยังคิดอยู่เลยว่า เค้าอาจจะมาร่วมนั่งฟังด้วยก็ได้

เป็ดบอกว่า ทำไมไม่ลองคุยกับเค้าดู ว่าเค้าต้องการอะไร
เราก็ตอบเป็ดว่า "อ้าว ถ้าไปถาม เดี๋ยวเค้าก็คิดว่าเราให้ความสนใจน่ะสิ
ไม่ถามหรอก ปล่อยๆไป แบบว่า เราไม่รับรู้ว่าเค้ามีตัวตน"
(แต่ตอนที่เล่าให้เป็ดฟัง ยังแอบคิดว่า เค้าต้องมานั่งฟังด้วยแน่ๆ)

เมื่อสองปีก่อน เคยดูรายการตี 10 ที่เค้าเอาเด็กวัยรุ่นที่ไปเที่ยวภูกระดึง แล้วมี ‘เพื่อน’ ตามมาบ้านด้วย เพราะแม่เห็นลูกเดินเข้าบ้านพร้อมกับเพื่อนอีกคนนึง ทั้งๆที่ลูกชายยืนยันว่าเข้าบ้านมาคนเดียว

พอจบเบรคโฆษณา ไอ้เป็ดมันโทร มาหาทันทีเลยค่ะ มันบอกว่า ‘ดูแล้วคิดถึง’

เออ…. คิดถึงเหมือนกันเลยว่ะ
คิดถึงว่าป่านนี้ ไปอยู่ไหนกันบ้างแล้วนะ ไม่ได้เจอกันนานเลย จะว่าไป เค้าก็ไม่เคยมาทำร้ายอะไร เราซักหน่อย ว่าแล้วก็คิดถึงค่ะ

กลับไปภูกระดึงอีกครั้งเมื่อปี 2005…. 5 ปีต่อมา
ไปกันสองคน เก็บมาแต่ภาพถ่าย ทิ้งไว้แค่รอยเท้า และ ความทรงจำ
ขากลับระหว่างรอรถสองแถว แวะอ่านข้อมูลจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ตีนภูฯ
เห็นจดหมายคนเขียนมาเล่าเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นจากการหยิบ ‘ใบเมเปิ้ล’ กลับบ้าน
หลายคนส่ง ‘ใบเมเปิ้ล’ มาในซองพัสดุ คืนกลับมายังอุทยาน พร้อมทั้งขอโทษที่ได้ล่วงละเมิดกฎของป่า
อ่านแล้ว ขนลุก … หลายคนโดนหนักกว่าเรา

กลับถึงบ้านคราวนี้ นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม มีความสุขที่ได้ไปเยี่ยมเยียนภูกระดึงอีกครั้ง
ธรรมชาติทำให้เรามีความสุข ขอเพียงแค่ไม่ทำร้ายธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะไม่ทำร้ายเรา


‘เรื่องนี้เป็นความเชื่อและประสบการณ์ส่วนบุคคล โปรดใช้จักรยานเพื่อช่วยลดโลกร้อน
และใช้วิจารณญานในการรับฟัง
’


Create Date :22 พฤษภาคม 2551 Last Update :22 พฤษภาคม 2551 20:13:43 น. Counter : Pageviews. Comments :37