หุ่นอภินิหาร โกลด้า..ปะทะ โรดั๊ก จอมปิศาจแห่งอวกาศ..!

   หลังจากยอดมนุษย์จากดาวอุลตร้าประกาศศักดาในจอทีวีเมืองไทยได้นานนัก..ช่วงต้นปีพ.ศ.2511 ก็มีฮีโร่ร่างยักษ์สีทองอิมพอร์ทจากญี่ปุ่น..ปรากฏตัวออกมาท้าทายความยิ่งใหญ่ในจอทีวี..หุ่นอภินิหาร โกลด้า (マグマ大使, Magma Taishi)..ทีวีซีรีส์เรื่องใหม่ที่มาฉายทุกคืนวันศุกร์ เวลาประมาณ 20.50 น. ทางช่อง 7 (ท.ท.บ.5)..สร้างโดยค่ายหนัง P.Production (ビープロダクション)..แพร่ภาพทางโทรทัศน์ในญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1966 จนถึง 25 กันยายน 1967 มีความยาว 52 ตอนจบ..สร้างโดยใช้โครงเรื่องจากหนังสือการ์ตูนของปรมาจารย์ เทะสึกะ โอซามุ (手塚治虫)..ซึ่งเขียนลงเป็นประจำในนิตยสารการ์ตูนรายเดือนโชเนนกาโฮะ (少年画報) เมื่อปี 1965 ..ชาวญี่ปุ่นเขายกย่องว่านี่คือฮีโร่ร่างยักษ์คนแรกของประเทศเขา..แล้วก็ออกอากาศทางทีวีก่อนอุลตร้าแมนแค่ 13 วันเท่านั้น..เชือดเฉือนกันเหมือนจงใจแซงทางโค้งแล้วปาดหน้าเข้าป้ายเป็นอันดับหนึ่งเลย..นั่นเป็นแค่เรื่องราวของลำดับการมาก่อนกับตามหลังเท่านั้น..

การ์ตูนหุ่นอภินิหารของปรมาจารย์ เทะสึกะ โอซามุ ผู้ที่บากบั่นสร้างสรรผลงานมากมายจนได้ชื่อว่าเป็น วอลท์ ดีสนีย์ ของวงการการ์ตูนญี่ปุ่น..

นิตยสารการ์ตูนรายเดือน โชเนนกาโฮะ ฉบับเดือนสิงหาคม และ ตุลาคม..เมื่อปี 1966..นิตยสารเล่มนี้นำภาพหุ่นอภินิหารมาขึ้นปกได้อย่างโดดเด่นเป็นจุดขาย..และขึ้นปกแบบนี้ติดต่อกันเป็นเวลา 1 ปีเต็มๆ..หนังสือรุ่นเก่าปกสวยงามคลาสสิกแบบนี้..มีราคาสูงมากในตลาดนักสะสมหนังสือเก่าหายากที่ประเทศญี่ปุ่น..!!

   ถ้ามาวัดกันที่เนื้องาน..ดูเหมือนว่าหนังอุลตร้าแมนของค่าย สึบุรายะโปรดักชั่น (円谷プロダクション) ดูจะมีมาตราฐานดีกว่า..คงเพราะลงทุนมากกว่าและความที่สึบุรายะ เอย์จิ (円谷英二) เป็นหนึ่งในบุคลากรสำคัญของหนังโรงจอใหญ่ ก็อดซิลล่า อภิมหาสัตว์ยักษ์พิทักษ์โลกแห่งค่ายหนังโตโฮ (東宝)..ก็เลยต้องทำหนังอุลตร้าแมนอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงที่ค้ำคออยู่..เสียเงินไม่ว่า..แต่เสียหน้าไม่ได้..ส่วนหนัง Magma Taishi ของ P.Production ก็ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง..แต่ก็คงต้องทำหนังตามงบประมาณที่ได้มา..อย่างสัตว์ประหลาดตัวนึงก็ต้องให้ออกมาอาละวาดกัน 2- 3 ตอนก่อนแล้วค่อยโดนโกลด้าจัดการเผด็จศึก..ถึงขนาดที่มีบางตัวออกมาตั้ง 4 ตอนกว่าจะม้วยมรณา..มีทุนน้อยแต่อยากทำหนังยิ่งใหญ่ก็ต้องประหยัดงบกันหน่อย..การที่จะตัดชุดยางสัตว์ประหลาดขึ้นมาตัวนึงนี่ก็หลายสตางค์อยู่..ต้องเอามาใช้ให้คุ้มครับ...แต่ถ้ามาทำแบบนี้ในยุคปัจจุบันก็คงโดนคนดูกร่นด่าว่า..จะอู้กันไปถึงไหน..เด็กๆเขารอดูฉากบู๊ล้างผลาญกันอยู่..มาตรฐานหนังฮีโร่เขาวางเอาไว้ว่าอย่างน้อยสัตว์ประหลาดต้องโดนทำลายสัปดาห์ละตัวเป็นอย่างต่ำ..ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่ผู้สร้างหนังว่าคิวบู๊แอ็คชั่นในแต่ละฉากนี่ต้องลงทุนกันหลายสตางค์อยู่..ยิ่งถ้ามีเอฟเฟ็คระเบิดระเบ้อก็ต้องเสียเพิ่มสตางค์อีกเป็นเท่าตัว..แถมยังต้องเตรียมกล้องไว้อีกหลายๆตัว..ป้องกันความผิดพลาด..นี่จึงเป็นอีกเหตุผลนึงว่า..ทำไมทางค่ายหนังสึบุรายะถึงกำหนดให้อุลตร้าแมนต่อสู้บนโลกได้นานแค่ 3 นาที..เพราะขืนสู้นานกว่านี้..งบสร้างหนังบานปลายแน่ๆ...

ทำหนังที่ลงทุนมากๆสักเรื่องนึงก็ต้องหาผู้ร่วมทุนสนับสนุนรายจ่าย..ในเมื่อมีหมากฝรั่ง LOTTE เป็นสปอนเซอร์หลัก..ก็เอาเครื่องหมายการค้าแอบแฝงมาใส่ในฉากเสียเลย..โห..ญี่ปุ่นเขาแอบทำโฆษณาแฝงมาตั้งยุคนั้นเลย..วิธีการแนวๆเดียวกับซิดคอมทางทีวีในบ้านเราเลยแฮะ..แต่ของเราพักหลังๆชักจะหนักข้อขึ้นทุกวัน..ใส่สินค้ากันจนเป็นซูเปอร์มาเก็ตย่อมๆเลย...

สมัยก่อนตอนที่หมากฝรั่ง LOTTE มาขายในเมืองไทยใหม่ๆ..ก็มาไล่เลี่ยกับหนังญี่ปุ่นทางทีวีรุ่นนี้แหละ..ราคาแพ็คละ 1 บาท..มีหมากฝรั่ง 3 ชิ้น..แล้วกระดาษห่อหมากฝรั่งในแต่ละชิ้นก็มี Gimmic เล็กๆน้อยๆให้เล่นกัน..บางอันก็เป็นเนื้อเพลงโกลด้า..บางทีก็เป็นรูปลอกแบบขูดติดลงบนวัสดุ..หรือเป็นเกมปริศนาเล็กๆน้อยๆ..เล่นได้แค่เพลินๆ..แต่ให้ความรู้สึกที่มีค่าสำหรับเด็กๆเกินกว่าคำว่า..กระดาษห่อหมากฝรั่ง..

   พล็อตหนังของหุ่นอภินิหารเริ่มต้นขึ้นในแบบหนังไซไฟอวกาศทั่วๆไปในสมัยนั้น..ที่มีวายร้าย โรดั๊ก (Rodak) จอมปิศาจจากอวกาศเดินทางมายังโลกเพื่อต้องการครอบครองเป็นของตน..แล้วการมาครั้งนี้ก็ต้องการประกาศศักดาให้ชาวโลกได้รู้..จึงมุ่งตรงไปที่สื่อมวลชนเป็นอันดับแรก..ฉลาดล้ำจริงๆ..ไม่รู้ว่าไปเรียนวิชา PR มาจากไหน...ทำอย่างกับจะมาลงหาเสียงเลือกตั้งก็ไม่ปาน..โดยเจ้าจอมปิศาจได้เลือกนักหนังสือพิมพ์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ มุราคามิ อิโตมุระ ซึ่งมีภรรยา โทโมโกะ และลูกชาย มิกโก้..โดยได้โทรศัพท์ไปบอกว่าพรุ่งนี้ตอน 6 โมงเช้าจะทำเซอร์ไพรซ์ครอบครัวนี้..แล้วพอถึงตอนเช้าบ้านทั้งหลังของครอบครัวมุราคามิก็ถูกโรดั๊กย้ายข้ามมิติมาอยู่กลางป่าดึกดำบรรพณ์..แถมยังมีกิ้งก่ายักษ์เดินเพ่นพ่านในละแวกนั้นให้เป็นที่น่าสะพรึงกลัวอีกด้วย..ถ้าโรดั๊กไม่แน่จริงคงไม่กล้าข่มขู่สื่อมวลชนขนาดนี้..บารมีต้องขนาดเส้นก๋วยจั๊บแหงๆ..แล้วโรดั๊กก็ขับยานบินสีดำรูปร่างคล้ายค้างคาวมาโชว์พาวอวดสื่อ..และปรากฏตัวให้ครอบครัวนี้ได้เห็น..มิกโก้จึงได้ถ่ายภาพโรดั๊กเอาไว้..คงตั้งใจจะเอาไปลง FB อวดเพื่อนๆ...หลังจากโอ้อวดสรรพคุณว่าจะมาเทคโอเวอร์ปกครองโลกมนุษย์..และฝากข่าวให้อิโตมุระเอาไปลงสื่อด้วย..โรดั๊กก็ปล่อยให้ครอบครัวมุราคามิกลับมาใช้ชีวิตตามปรกติแบบงงๆ...

ครอบครัวมุราคามิต้องเจอกับฝันร้ายตอนตื่น..เมื่อต้องพบกับ โรดั๊ก จอมวายร้ายแห่งอวกาศ..ส่วนยานบินรูปร่างคล้ายค้างคาวของโรดั๊ก..ที่จริงแล้วตั้งใจออกแบบมาให้เป็น ปลากระเบน..ถ้ายานบินลอยบนฟ้าตอนกลางคืน..ผมว่ามนุษย์ค้างคาวคงขับรถตรงมาหาด้วยความสับสนเป็นแน่..

จากซ้ายไปขวา..หุ่นอภินิหารโกลด้า, ซิลเวอร์, คำ และท่านดินผู้ทรงภูมิปัญญา..!

   หลังจากนั้นในขณะที่มิกโก้สะพายกล้องจะออกไปธุระนอกบ้าน..ก็มีจรวดสีทองบินจากฟ้ามาจอดลงตรงหน้าบ้านเขา..จากนั้นจรวดที่ว่าก็กลายร่างเป็นหุ่นยักษ์สีทองสูง 50 ฟุต..และแนะนำตัวว่าชื่อ โกลด้า (Golda)..เขามาด้วยจุดประสงค์ดี..เพียงต้องการขอดูภาพของจอมปิศาจอวกาศที่มิกโก้ถ่ายไว้....ขอกันดื้อๆแบบนี้ใครจะไปยอม..ก็เลยมีการยื้อแย่งกันเล็กน้อย...แล้วหุ่นยักษ์สีทองก็ใช้พลังแย่งกล้องถ่ายภาพไปครอบครอง..บอกว่าจะขอยืมไปดูก่อนแล้วจะเอามาคืนภายหลัง..เจอหน้ากันครั้งแรกใครจะไปเชื่อ..มิกโก้ก็เลยขอตามไปด้วย...จากนั้นหุ่นสีทองก็กลายสภาพเป็นจรวดพามิกโก้บินขึ้นฟ้า..ข้ามน้ำข้ามทะเลมายังเกาะภูเขาไฟซึ่งเป็นฐานที่มั่นลับของเขา..ซึ่งที่นี่มิกโก้ได้พบกับ ซิลเวอร์ (Silver) หุ่นยนตร์ภรรเมียของโกลด้า..และ ท่านดิน (Earth) ..ชายชราผมขาวถือไม้เท้าคล้ายฤษี..ดูแวบแรกก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นผู้ทรงภูมิปัญญา..หลังพูดคุยเจรจากันสักพักมิกโก้ก็เข้าใจว่าพวกของโกลด้ามีเจตนาดีตามแบบที่พระเอกพึงกระทำ..หวังจะช่วยโลกจากการรุกรานของจอมปิศาจโรดั๊ก..แล้วซิลเวอร์ที่เห็นเด็กชายแบบมิกโก้เป็นครั้งแรกก็เกิดอยากมีลูกขึ้มมาในฉับพลัน..หันไปทางโกลด้า..แล้วปรึกษาปัญหาครอบครัวกันสักพัก..ท่านดินจึงอาสาสร้างลูกชายให้โดยใช้มิกโก้เป็นต้นแบบ..หลังจากขลุกอยู่ในห้องลับสักพักท่านดินก็ออกมาพร้อมกับหุ่นยนต์เด็กผู้ชายแต่งตัวคล้ายมิกโก้..แล้วแนะนำว่าชื่อ คำ (Gam)..ซึ่งสามารถกลายร่างเป็นจรวดได้เหมือนโกลด้า..หลังเสร็จธุระก่อนที่จะส่งมิกโก้กลับบ้าน..ท่านดินได้มอบ นกหวีดซูเปอร์โซนิค ให้เขาไว้พกติดตัว..พร้อมกำชับว่า..หากวันใดที่มีเหตุร้ายให้เป่านกหวีดขอความช่วยเหลือจากหุ่นยนตร์มนุษย์จรวดทั้งสามได้..โดยที่เป่า 1 ครั้งจะเป็นการเรียกคำ..เป่า 2 ครั้งเรียกซิลเวอร์..เป่า 3 ครั้งโกลด้าก็จะบินมาช่วยในบัดดล..และนี่คือบทเริ่มต้นของการต่อสู้ผจญภัยระหว่างจอมปิศาจจากอวกาศกับครอบครัวมนุษย์หุ่นยนตร์..ซึ่งทำให้เด็กๆในเมืองไทยใจจดใจจ่อนั่งรอดูทีวีกันทุกคืนวันศุกร์เมื่อ 44 ปีก่อน..

ครอบครัวมนุษย์จรวดทั้ง 3 ลำเตรียมพร้อมปกป้องภัยพิบัติให้กับชาวโลก..

ถึงเรื่องราวที่เล่าจะเก่าขนาดไหน..คนเขียนก็เริ่มสูงวัย..แต่ก็เนื้อหากำลังเข้มข้นได้ที่...คงต้องรบกวนให้ติดตามอ่าน หุ่นอภินิหารปะทะโรดั๊ก ต่อกันในตอนต่อไป..ที่นี่..เวลาเดียวกันนี้ครับ...

ปิดสถานี......

 ขอบคุณเพื่อนพ้องน้องพี่ทุกคน..ที่ให้หยิบยืมหนังสือที่สะสมไว้มาประกอบบทความครับ


BOON2012 / boonv3@yahoo.com