bloggang.com mainmenu search

เรื่องของ หนู(ตะเภา)

                              

                                        

       ชาวตะวันตก เป็นอีกหนึ่งชนชาติที่มักทำอะไรน่ารักๆให้เราเห็นเสมอนะครับ ภาพอนุสาวรีย์ที่เห็น

ข้างบนนี้ ตั้งอยู่ใจกลางสวนสาธารณะ ใกล้ๆสถาบันวิจัยด้านเซลล์และพันธุกรรม ของมหาวิทยาลัย

ชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซีย โดยลักษณะของอนุสาวรีย์นี้ มีจุดเด่นคือ เป็นหนูที่สวมชุดของ

นักวิทยาศาสตร์(น่าตาคงแก่เรียน ดูน่าเชื่อถือเลยล่ะครับ ผมว่า) ที่สำคัญ คือในมือของหนู(ท่านนี้)

กำลังถักนิทติ้ง(ถักไหมพรม)ที่มีลักษณะร้อยเรียงกันออกมาเป็นโครงสร้างของ DNA ซึ่งก็คือโครงสร้าง

ของรหัสพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย โดยหัวหน้าสถาบันวิจัยแห่งนี้ มีจุดประสงค์ให้สร้างขึ้น

เพื่อรำลึกถึงบุญคุณของสัตว์ทดลองทั้งหลาย ที่อยู่เบื้องหลังของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และ

การแพทย์ในปัจจุบัน

         การที่เรามีการรักษาโรคโดยเครื่องมือและยาใหม่ๆนั้น จริงๆก็ต้องขอบคุณสัตว์ทดลองเหล่านี้

โดยเฉพาะหนูตะเภา ที่เกือบแทบทุกครั้ง มันต้องสละชีวิตและความเจ็บปวดเพื่อการดำรงเผ่าพันธุ์

ของมนุษย์ คิดว่าเขาออกแบบได้ดีมากนะครับ เพราะหนูตะเภาเป็นเบื้องหลังของพันธุกรรมมนุษย์เราจริงๆ

(ทั้งนี้ผมยังไม่พูดถึงกระต่าย สุนัข หมู ลิงและสัตว์อื่นๆอีกหลายชนิดน่ะครับ)

                              

        เรามีการใช้หนูตะเภาทดลองทางวิทยาศาสตร์กันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 แล้วล่ะครับ โดยประเทศ

อเมริกามีการใช้หนูตะเภาในห้องทดลอง 2.5ล้านตัวต่อปี  ส่วนในเมืองไทย ก็มีการใช้หนูทดลองมากถึง

หลายแสนตัวเช่นกันครับ หนูทดลองนั้นมีหลายสายพันธุ์ เช่น Guinea pig, Hamster เป็นต้น หนูเหล่านี้

จะต้องได้รับพิษ เชื้อโรค วัคซีน แรงกดดัน การฉายรังสี และยาชนิดใหม่ต่างๆ จนนำมาซึ่งธุรกิจ เพาะเลี้ยง

หนูตะเภาและสัตว์ทดลองเพื่อส่งออก

                          

        ท่านมหาตมะ คานธี เคยกล่าวไว้อย่างน่าฟังครับว่า"ความยิ่งใหญ่และความก้าวหน้าในศีลธรรม

ของชาติหนึ่งๆสามารถวัดกันได้จากการที่คนในชาตินั้นปฏิบัติต่อสัตว์อย่างไร"

        ผมเองก็เห็นด้วยครับว่า คงไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปสร้างอนุสาวรีย์หนู ในทุกๆประเทศที่มีการใช้

หนูทดลองหรอกครับ ขอเพียงแค่ให้เราตระหนักรู้ว่า ในความเป็นจริงนั้นมนุษย์อย่างพวกเรา ไม่สามารถ

ที่จะยิ่งใหญ่อยู่ในโลกใบนี้ได้เพียงลำพัง เราประกอบขึ้นมาจากการค้ำจุนของสรรพชีวิตอื่นๆมากมาย

การตระหนักถึงบุญคุณของสิ่งเหล่านั้น จะนำมาซึ่งการลดลงของอัตตาของเรา และทำให้เกิดความเมตตา

ต่อเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน หากเป็นอย่างนั้น ความสงบสุขจากการไม่เบียดเบียนกัน คงตามมาในไม่ช้าครับ

Create Date :23 กรกฎาคม 2556 Last Update :23 กรกฎาคม 2556 23:32:23 น. Counter : 3158 Pageviews. Comments :25