ตัวอย่างหน้า blog

Test : 16-85 VR ลุยกลางพิธี


: เข้าหน้าสารบัญหลักเพื่อดูทุกหัวข้อ..."คลิ๊กที่นี่"

บทความแนะนำ : ประสบการณ์ผ่านเต้า (ตัวเอง)..."คลิ๊กที่นี่"

บทความแนะนำ : สวนหย่อมลอยฟ้าราคาประหยัด..."คลิ๊กที่นี่"

บทความแนะนำ : สวนกล้วยลอยฟ้าบนอาคารสูง 6 ชั้น..."คลิ๊กที่นี่"



หมายเหตุ: มีเพื่อนถามว่าเบรคที่มีภาพจำนวนมาก หลายครั้งเปิดแล้วภาพขึ้นไม่หมด แต่จะพบสัญญลักษณ์กากบาทสีแดงแทน เราเชื่อว่าหลายคนคงรู้วิธีแก้ เอาเป็นว่าถ้าใครไม่รู้ให้เอาเม้าส์จิ้มไปที่กากบาทสีแดงนั้น แล้วคลิ๊กขวาที่กากบาทสีแดง จะปรากฏกรอบเมนูขึ้นมา ให้เลือก Show Picture จากนั้นรอสักแป๊บหนึ่งภาพจะปรากฏขึ้นมาให้เห็น (ทำตามภาพประกอบข้างล่างนี้นะคะ) เบรคนี้ของเรามีภาพจำนวนมาก ดังนั้นอาจเกิดปรากฏการภาพกลายเป็นกากบาทได้



**บทความที่เกี่ยวข้อง...Tamron SP AF 17-50 MM F/2.8 XR Di II LD Aspherical (IF) ":คลิ๊กดู "คุณชายทำหล่น อภิมหาเลนส์อมตะนิรันกาลสำหรับเรา...ได้ที่ลิงค์นี้":"

**บทความที่เกี่ยวข้อง “AF-S VR 70-300 f/4.5-5.6G IF-ED” ":คลิ๊กดู "คุณชายเทเล อินสเปคถูกใจใช่เลยสำหรับเรา...ได้ที่ลิงค์นี้":"

**บทความที่เกี่ยวข้อง “AFAF-S DX 16-85 f/3.5-5.6G ED VR” ":คลิ๊กดู "คุณชายอรรถประโยชน์ ตอน Test 16-85 ครั้งแรก...ได้ที่ลิงค์นี้":"

“AF-S DX 16-85 f/3.5-5.6G ED VR” ลองเอาไปถ่ายงานพิธีกันบ้าง มือใหม่หัดใช้ DSLR และเป็นงานพิธีแต่งครั้งแรกในชีวิต เราเสียค่าโง่ชนิดที่ประเมินค่าความเสียหายไม่ได้ กลับมานั่งวิเคราะห์ภาพทั้งหมดผ่านจอคอมพิวเตอร์ทำให้นั่งซึมไป 3 วัน อยากให้ความโง่ของตัวเองลดลงได้ด้วยตัวเอง จึงโทร.ไปหาคุณน้องสาวให้บล็อคสนามฝึกทดลองงานที่เราเข้าไปได้สบาย ๆ ไม่โดนไล่ออกมาแบบนี้อีกสัก 3 งาน ซึ่งพอจะได้คิวมาบ้างแล้ว ทีนี้มาดูมือใหม่หัดใช้ DSLR แบบโง่ ๆ เลือกมาให้ดูแบบไม่กั๊กกันเลยนะคะ สภาพบนบ้านแสงน้อย จะมีช่างภาพตัวจริง 2 คน พวกเขาจะใช้แฟลช SB-800 ยิงกันตูมตามตลอดงานช่วงเช้า ซึ่งยกแรกของเราใช้โหมด A และตัดสินใจใช้บริการของ ISO-1600 โดยไม่ใช้แฟลช แต่ไม่สามารถช่วยดันสปีตได้ ผลคือภาพส่วนใหญ่จะเสียหาย เนื่องจากเป้าหมายในภาพจะมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา สุดท้ายเกิดความท้อต้องหยุดถ่าย มาดูภาพในยกแรกนี้กันสักหน่อย เลือกที่หยาบมากน้อยต่างกันมาให้ดู ส่วนผลการอัดแล็ปขนาด 6*4 และ 6*9 ไม่พบความเลวร้ายที่ยอมรับไม่ได้ และภาพทดลองที่ขนาด 12*18 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้อยู่ อาจมีแค่บางภาพที่ไม่เหมาะจะนำไปอัดที่ 12*18 แต่เวลาซูมดูในจอคอมพิวเตอร์ที่ 100% หยาบแน่ ๆ แต่จะหยาบมากหยาบน้อยแตกต่างกันออกไปในแต่ละภาพ เพียงแต่ในขั้นตอนการอัดแล็ปมันมองไม่เห็นมากเหมือนในจอคอมพิวเตอร์นะคะ


ISO-1600, 1/15 (No Flash)


ISO-1600, 1/13s (No Flash)


ISO-1600, 1/15s (No Flash)


ISO-1600, 1/20s (No Flash)


ISO-1600, 1/13s (No Flash)


ISO-1600, 1/13s (No Flash)



เอาภาพที่ใช้ ISO-400 มาคั่นให้ดู 1 ภาพ สปีตที่ได้ 0.4s (ขำ) ตรงนี้กดมาหลายโช๊ะ เบลอไปเลย โง่มั๊ย? แต่ภาพนี้เข้าวินมาได้ยังไงก้อไม่รู้ เอาไปอัดที่ 6*9 พบว่าภาพนี้ความคมชัดวิ่งสู้ฟัดได้ มาเล่าความโง่ให้ฟังเป็นกรณีเฉพาะกิจ เพื่อน ๆ จะได้สบายใจว่าโง่แบบนี้ยังมีอยู่ในโลก เราไปในฐานะผ่านตัวกลางขอเข้าไปลองเลนส์เล่น ๆ ไม่ได้ไปในฐานะรับจ้างถ่าย เดี๋ยวจะว่าโง่ ๆ แบบนี้ไปถ่ายให้เขาได้ยังไง เสียภาพพจน์สมาคมชมรมมือสมัครเล่นหมดเลย




ยกที่สองมาถึงแล้ว เมื่อภาพในยกแรกใช้โหมด A ค่า ISO-1600 และไม่ใช้แฟลชร่วมในการถ่ายภาพ ทำให้ภาพเสียหายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากภาพเกิดความสั่นไหวภายในภาพ ต่อมาช่างภาพตัวจริงบอกว่าสภาพแสงแบบนี้ต้องใช้แฟลช มีแฟลชอะไรก้อต้องใช้ ดังนั้นเราจึงหันมาใช้แฟลชที่ติดตัวกล้อง แต่ยังโง่อยู่ เพราะใช้โหมด A เหมือนเดิม การที่เราหันมาใช้แฟลชในขณะที่ยังใช้โหมด A ถ่ายภาพอยู่ มันไม่ได้ช่วยดันให้สปีตสูงขึ้นเลย และค่า ISO-1600 อยู่เท่าเดิม แต่ไม่เป็นไรนะคะ เพราะประสบการณ์แบบนี้เขาเรียกเป็นความโง่แบบ Step By Step (ฮา) หรือเรียกว่าโง่แบบเป็นขั้นเป็นตอน หรือโง่แบบไม่ก้าวกระโดด ถือว่าเป็นการได้รับรู้ปัญหาแบบไล่เป็นระดับ ๆ ตั้งแต่ระดับอนุบาลขึ้นมาเลย ความรู้จะได้แน่น ๆ มองให้เป็นข้อดี ส่วนข้อเสียไม่ต้องคิด เพราะจะทำให้เครียด (ฮา) แต่ละภาพพอจะคมชัดมากน้อยแตกต่างกันออกไป แต่ผลการอัดแล็ปที่ 12*18 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ จะมีแค่บางภาพที่เราดูแล้วคิดว่าไม่ควรนำไปอัดที่ขนาด 12*18 ส่วนที่บอกว่าอัดแล็ปมาแล้วยอมรับได้นี่หมายถึงภาพที่เราคัดออกมาแล้วนะ ไม่ใช่เอาภาพทั้งหมดไปอัดแล็ปแล้วบอกว่าอยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้

ISO-1600, 1/25s +Flash
เฉพาะภาพนี้ ขนาด 6*4 ก้อไม่ผ่านการอัดแล็ป (โห่นำร่องได้เลยค่ะ)


ISO-1600, 1/13s +Flash


ISO-1600, 1/.13s +Flash


ISO-1600, 1/8s, +Flash


ISO-1600, 1/10s +Flash


ISO-1600, 1/13s +Flash


ISO-1600, 1/13s, +Flash


ISO-1250, 1/13s, +Flash


ISO-1250, 1/15s, +Flash
จุดนี้ยิงมาหลายช็อต เพราะกลุ่มคนจะเปลี่ยนหน้าเข้ามา
ผลการอัดแล็ปคุณภาพปิ๊งมาก


มาดูภาพในชุดนี้กันบ้าง ตำแหน่งนี้จำได้แม่นว่ามะรุมมะตุ้มกันด้วยกล้องทั้งหมด 3 ตัว ซึ่งตอนนั้นค่ากล้องของเราอยู่ในยกที่ 2 ยังเป็นโหมด A และค่า ISO-1600 วิ่งออกไปเขาปักหลักยิงกันอยู่ จึงใช้ค่าเดิม ๆ ที่ค้างไว้ แต่สภาพแสงตรงนี้ดีกว่าในบ้าน สปีตมันจึงวิ่งไปแบบอัตโนมัติที่ 1/200s เมื่อเช็คภาพจากเจ้าของงานที่ได้รับทั้งหมด ภาพในชุดนี้ไม่มีจากช่างภาพอีก 2 คน ดูเหมือนเราจะโชคดี เพราะดันเป็นภาพที่เจ้าของงานอยากได้ภาพตรงนี้มาก ๆ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราถ่ายสวย เพียงแต่ไม่มีการส่งเข้ามาประกวดจากอีก 2 กล้องเท่านั้นเอง ส่วนผลการอัดแล็ปที่ 12*18 เรามองว่าไม่มีปัญหาอะไรแม้จะใช้ ISO-1600 คำว่า "อยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้" ของเราที่อยู่ในแต่ละช่วงของเบรคนี้จากค่า ISO-1600 ไม่ใช่เป็นการดูจากเราคนเดียว แต่มีการเอาไปถามจากสตูดิโอ ตลอดจนร้านขายเลนส์ ร้านอัดภาพ และนักถ่ายภาพอาวุโสที่เรื่องมากสุด ๆ แล้ว เพื่อขอความเห็นให้ร่วมด้วยช่วยกันดู เนื่องจากเราไม่มีความรู้ ที่ว่ารับได้ของเราอาจรับไม่ได้สำหรับบางคน จึงต้องมีการโหวตว่าส่วนใหญ่รับได้หรือไม่ ไม่ได้เอาความเห็นของเราเป็นบรรทัดฐานแต่เพียงผู้เดียว เพราะมันไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง และไม่ได้หมายความว่าครั้งต่อไปจะใช้ ISO-1600 คือเราคงจะไม่ใช้อีก เพราะประสบการณ์ในครั้งนี้เราเริ่มรู้แล้วว่าทำยังไงจึงจะไม่ต้องใช้บริการของ ISO-1600 โดยให้ได้สปีตที่ภาพจะไม่สั่นไหว ส่วนค่า ISO-1600 นั้น อาจจำเป็นต้องใช้ แต่ต้องเป็นทางเลือกสุดท้าย เพื่อคงความคุณภาพที่ดีกว่าเอาไว้ก่อน ตอนนี้กลับไปเลือกใหม่ไม่ได้ ต้องรอสนามฝึกทดลองใหม่นะคะ





ผ่านไปสักพักใหญ่ ๆ เนื่องจากการถ่ายในยกที่สองเรายังไม่ประสบผลสำเร็จ เมื่อสบโอกาสเราจึงบ่นกับตากล้องตัวจริงว่าสปีตยังต่ำอยู่เลย ท่านมาดูก้อบอกให้เปลี่ยนไปใช้โหมด M แล้วปักหมุดสปีตที่ 1/60s จากนั้นยิงโลด เราก้อเปลี่ยนตามที่ท่านบอก แต่ปักหมุดที่สปีต 1/80s ก้อไม่รู้ทำไมไม่เลือก 1/60s ตามที่ท่านบอก พร้อมกับลด ISO มาอยู่ที่ 400 ภาพส่วนใหญ่จึงไม่มีปัญหาเรื่องการสั่นไหวอีก ผลออกมาได้เป็นภาพชุดนี้ เอาเป็นว่างานนี้ผ่านพ้นไปแล้วด้วยความโง่เขลา เราเริ่มมั่นใจขึ้นว่าประสบการณ์งานแรกในครั้งนี้ จะทำให้เราเกิดการเรียนรู้ได้ในสนามฝึกทดลองอีก 3 งานข้างหน้า หากความโง่เขลายังไม่ลดลงเราจะเลิกถ่ายภาพ ผลการอัดแล็ปไม่มีปัญหาอีกเช่นเดียวกัน และไม่ได้หมายความว่าภาพในส่วนนี้จะดูดีกว่าภาพช่วงบนแบบถล่มทลาย หลายภาพช่วงบนออกมาดูดีกว่า เพียงแต่ค่าความเสียหายที่ได้ของจำนวนภาพที่ตัดทิ้งไปในช่วงแรกจะมีมากกว่าแน่นอน

ISO-400, 1/80s
















เราตามไปที่งานกลางคืนอีก ที่หน้างานจะมีไฟร่มจากช่างภาพตัวจริงมาติดตั้งไว้ 2 ดวง แต่เรายังถ่ายไม่เป็น เลือกมาให้ดูนิดหน่อย แม้ว่าจะมีไฟร่ม แต่เรายังคงต้องใช้แฟลชที่ติดตัวกล้องร่วมด้วย ปัญหาสำหรับเราคือต้องรอให้ช่างภาพตัวจริงยิงไปก่อน จากนั้นเราค่อยยิงตาม ไม่งั้นจะมีปัญหาทำให้ภาพของช่างกล้องตัวจริงมีปัญหาได้ ตอนแรกเราก้อไม่รู้จนเขามาบอก แต่เราก้อหลุดไปอีก 1 ครั้ง กลัวเขาเอากิ่งไฟร่มฟาดหัวจะแย่ ช่างภาพตัวจริงเขาจะหันหน้าเข้าหาซุ้มดอกไม้ ส่วนเราจะอยู่บริเวณด้านข้าง ๆ ทดลองยิงไปเรื่อยเปื่อย เอามาให้ดูนิดหน่อย ชุดนี้จะเป็นภาพที่ไม่มีปัญหาในเรื่องสภาพแสงเหมือนช่วงเช้า เมื่อซูมดูต้นฉบับผ่านคอมพิวเตอร์ได้ผลคมชัดถูกใจมาก ไม่ซึมเศร้าก้อช่วงนี้ คงเป็นเพราะอาศัยไฟร่มจากช่างภาพตัวจริง แถมนำโปรไฟลพอร์เทรตมาใช้ ทำให้ดูสดใสขึ้น แต่ส่วนที่ถ่ายคนหน้าซุ้มดอกไม้เกิดเงาทั้งหมด ไม่ว่าจะยิงระยะใกล้หรือระยะไกล ทุกคนบอกว่าเป็นเรื่องปกติของแฟลชที่ติดตัวกล้อง และอุปกรณ์ชิ้นต่อไปที่เราจะต้องซื้อในระยะเวลาใกล้ ๆ นี้คือแฟลช ส่วนจะเป็นรุ่นไหนยังสรุปไม่ได้ในตอนนี้ จบงานนี้ฝันไม่ค่อยดีเลย ฝันว่าการเปลี่ยนใจไต่มาเล่น DSLR นี้ ความวอดวายกำลังจะมาเยือนในเวลาอีกไม่นาน กระเป๋าฉีกอีกแล้วขอรับทั่น

กลุ่มนี้ปักหมุดที่ f/60s, ISO-250, +Flash, Mode M









เอาเครื่องมือเบลอถูที่คนด้านขวาให้เบลอ เพราะระนาบตรงกับเป้าหมาย
ทำให้ภาพออกมาคมชัดเท่ากัน แต่ฉากหลังถัดไปยังคงสภาพเดิมไว้








ไปดูกลุ่มวัตถุในงานกันนิดหน่อย ส่วนใหญ่ถ่ายได้ห่วยแตกมาก ๆ แต่ใจถึงเอามาให้ดูอีกนิดหน่อย ให้เห็นกันจะ ๆ งานนี้ไม่มีกั๊ก แต่ภาพแรกกับภาพที่ 3 ความคมชัดไม่ดี เพียงแต่อัดออกมาที่ 6*4 ยังดูไม่น่าเกลียด คงต้องฝึกกันอีกนานกว่าจะถ่ายได้สวย ๆ เหมือนพวกมืออาชีพนะคะ













ยังปักหลักที่งานกลางคืนอยู่ ไปดูสภาพเวทีที่มีความกว้างและสูง และสำคัญคือแสงน้อยมาก เราถ่ายได้นิดเดียวแล้วเลิกเลย เนื่องจากดูแล้วว่าท่าจะไปไม่รอด เอาเป็นว่าภาพบางส่วนของช่างภาพตัวจริงที่ใช้เลนส์ไวแสง (f/1.8) ยังเอาไม่อยู่ ดังนั้นไม่ต้องเสียใจที่คุณชายอรรถประโยชน์ดูจะไม่ไหวในสถานการณ์แบบนี้ ก้อขนาดเลนส์ไวแสงยังเอาไม่อยู่เลย และการที่เราหยุดถ่ายกระทันในช่วงนี้มันเป็นความผิดพลาดอันยิ่งใหญ่ของเรา เพราะเราทิ้งโอกาสตรงนี้ไป แทนที่เราจะเก็บประสบการณ์ในช่วงนี้ให้มากขึ้น แต่กลับไม่ได้ เพราะดันเลิกถ่ายไปกลางครัน เนื่องจากเราไปตรวจสอบกับภาพที่อัดแล็ปจากช่างภาพตัวจริงแล้ว มันไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ (ในแง่ของคุณภาพ) เอามาให้ดูกันเล่น ๆ นิดหนึ่ง ซึ่งใช้ ISO-100, ISO-500 และ ISO-320 ตามลำดับ ต้นฉบับจะมืดกว่านี้ ได้ช่อดอกไม้ตอนโยนมาด้วยนะ (ฮา) ผลการอัดแล็ปในช่วงนี้โอเคเลย แจ่มจัดดี เพียงแต่มุมไม่ได้เรื่อง พูดถึงสภาพต้นฉบับในช่วงนี้นี่ค่า WB เป๋สุดฤทธิ์ก้อไม่ต้องตกใจ เพราะช่างภาพตัวจริงบอกว่าสภาพแบบนี้ตั้งค่า WB อะไรก้อฉุดให้มันได้ค่าเที่ยงตรงไม่ได้ เขาถ่ายมาหลายงานจึงมองออกว่าสภาพแบบไหนมันจะเดี้ยง ทางออกสุดท้ายคือนำไปปรับด้วยโปรแกรมแต่งภาพค่ะ







ตอนนี้เรามีเลนส์เป็นของตัวเองไว้ใช้งานในระยะเริ่มแรกนี้ 2 ตัว คือ 16-85 VR และ 70-300 VR ผลการทดลองใช้ก่อนที่จะออกสนามจริงพบว่าต้องซื้อเลนส์อีกตัวหนึ่งเพื่อใช้ถ่ายในกรณีแสงน้อยและช่วยในการทลายฉากหลังกับภาพบางประเภท เข้าใจว่าหวยเลนส์ตัวนี้คงอยู่ที่คุณชายไวแสง ซึ่งเป็นเลนส์ฟิกซ์ ส่วนจะตัวไหนยังสรุปไม่ได้ในตอนนี้ ผ่านการทดลองใช้ไป 2 ตอน ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์พร้อมออกสนามจริงด้วยเลนส์ทั้งสองตัวที่มีอยู่ในมือ ยังขอยืนยันว่าทุกเบรคเขียนขึ้นแบบไม่มีความรู้อะไร คือคิดยังไงก้อเขียนไปแบบนั้น ข้อเท็จจริงของเลนส์ทั้งสองตัวต้องไปดู Review จากผู้ที่เชื่อถือได้อีกทีหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะยังไงก้อตามขอให้เพื่อน ๆ เชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองมี และเชื่อมั่นในความพยายามของตัวเองกันทุก ๆ คน เราก้อฝันว่าสักวันหนึ่งโลกจะมาอยู่ในจอเรด้าของเรา ถ่ายได้เก่ง ๆ เหมือนคนอื่นบ้าง ดังนั้นขอให้พี่น้องมีความสนุกกับการถ่ายภาพและมีความสุขกับอุปกรณ์ที่อยู่ในมือกันทุกคนเลยนะคะ




ขอให้มีความสุข ณ จ้ะ




 

Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2554
0:58:03 น.

Your name
 

Location :

 
 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com