ชอบคุย ชอบเล่า ชอบอ่าน ชอบเที่ยว
 
ธันวาคม 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
23 ธันวาคม 2553

มหานครนิวยอร์ค แค่วันแรก ก็โดนซะแล้ว




พอเก็บของเสร็จก็เตรียมเที่ยวเลย ว่าจะไปไทมสแควกัน เลยนั่งรถไฟสายแอลไป Manhatton และต่อรถไฟไปลงสถานี 42th Street เพื่อไปเดินเล่นไทมสแคว์ นี่ก็ครั้งที่สองแล้วที่มีโอกาสมาเที่ยวที่ไทม์สแคว คราวนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้ว เหมือนนิวยอร์คมันไม่ได้วิ่งหนีไปไหน มีเวลาที่จะเที่ยวเมืองนี้อีกหลายวัน เลยชิวๆ ขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกซักนิด กล้องก็คงต้องยืมสิดไปก่อนเพราะของเราพังไปนานและ เดินเล่นที่ไทม์สแควอยู่ซักพัก เดินเล่นดูของฝาก ดูวิถีชีวิตของนักท่องเที่ยวที่ต่างก็ตื่นตาตื่นใจกับแสงสีเสียงของเมืองนี้ ตอนนั้น woottank ก็หิวมาก เลยชวนเพื่อนสิดและโหน่งไปเดินหาของกิน ก็คิดได้ว่าจะไปหากินเอาแถวๆ ไชน่าทาว ซึ่งน่าจะถูกกว่า เลยตัดสินใจนั่งรถไฟกันไป แต่ดันขึ้นผิด มาโผล่อีกทีที่แถวๆ ควีนที่สถานี Jackson Hts Roosevelt Av. ขึ้นไปก็รู้สึกว่าจะไม่มีคน เงียบเหงา เลยตัดสินใจว่าจะกลับไปหากินที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่แถวนี้ ซึ่งการเดินทางตอนนั้น woottank ได้ซื้อตั๋วเดือน ราคา 89 เหรียญเรียบร้อยแล้ว จึงเดินทางได้ตลอด ไม่อั้น พอมาถึงสถานีรถไฟ woottank ก็พยามจะรูดบัตรเข้ารถไฟ แต่มันดันรูดไม่ได้ ถึงสองครั้งก็เข้าไม่ได้ สิดเลยบอกว่า" เออ งั้น woottank มึงเข้าพร้อมไอ้โหน่งไปจะได้หมดเรื่อง" เราก็ไม่ทันได้คิดเลยเข้าพร้อมมันแม่งเลย เท่านั้นแหละ พอเข้าไปไม่ถึงหนึ่งนาทีดี ตำรวจก็เข้ามาล้อมเลย ตัวใหญ่มากมาย น่ากลัวมาก มันขอดูไอดี ทุกอย่างที่มี ตอนนั้นไม่มีไอดีอะไรเลยนอกจากบัตร International student card ซึ่งยังไม่ได้ใส่รูปเลย ตำรวจเลยบ่นๆ ว่าใช่ได้อย่างไร ไม่มีรูปเลย จะรู้ได้ไงว่าเป็นของเรา ส่วนโหน่งก็ไม่มีบัตรที่เป็นภาษาอังกฤษเลย คุยไปคุยมามันบอกว่าสิ่งที่เราทำเป็นการกระทำผิดกฎหมายและเราก็ไม่มีบัตรอะไรที่ยืนยันว่าเป็นตัวเรา ตำรวจเลยบอกว่าต้องไปฝากขังและคุยกับทนายและขึ้นศาล พูดเสร็จมันก็เอากุญแจมือมาใส่ข้อมือ ให้ไขว้หลัง อันนี้เป็นครั้งแรกเลยที่โดนจับ อยู่เมิองไทยมา 23 ปีไม่เคยโดนจับอะไรเลย มาอเมริกาไม่ถึงวันก็โดนซะแล้ว ส่วนไอ้สิด ตำรวจบอกไม่ใช่เรื่องของมันให้ออกไป ตอนนั้น woottank กับโหน่งกลัวมาก กลัวว่าจะถูกจับส่งกลับไทยอย่างเดียวเลย พอจับเราก็พาเดินไปขึ้นรถ ซึ่งตำรวจคนดำที่พาเราเดินไปขึ้นรถตำรวจก็คุยดี เราก็คุยกับเขาว่าจะเป็นอย่างไร เขาบอกคดีเราเล็กน้อย น่าจะไม่มีปัญหา ตอนนั้นก็อยู่กับไอ้โหน่งสองคน หน้าจ๋อยมาก ตำรวจพาไปนั่งเบาะหลัง เหมือนในหนังเลย กลัวก็กลัว วันแรกในอเมริกาหรอเนี่ย ถูกตำรวจจับ วันนี้เป็นวัน เซนต์แพริกเดย์ ด้วย ตอนนั้นอยากร้องแต่ร้องไม่ออกจริงๆ ตำรวจสองนาย มีคนดำและคนขาวพาขับไปไกลมา จนถึงย่านควียนซึ่งน่าจะอยู่ใกล้ๆกับศาลเมืองนิวยอร์ค ตำรวจพาเราสองคนเข้าไปใต้ดิน ซึ่งเป็นสถานีย่อยเล็กๆ เอาเรามาขังแยกคนละห้อง กับโหน่ง ตอนนั้นรู้สึกเซ็งและหิว แต่ลืมหิวไปซักพักเลย ตำรวจให้ถอดเสื้อ ถอดรองเท้า และขอดูของที่ติดตัวมาว่ามีอะไรบ้าง เขาก็มาลงบันทึกประจำวัน woottank รออยู่นาน หลับอยู่ตื่นหนึ่ง เขาก็เรียกเราออกจากห้องขังไปสแกนนิ้วมือทุกนิ้ว มือทั้งมือสองข้างและถ่ายรูปเรียบร้อย จากนั้นก็ส่งเรากลับห้องขังเหมือนเดิม ตำรวจบอกว่าอาจจะมีแนวโน้มว่าจะได้ออกคืนนี้ เพราะศาลยังเปิดอยู่ พอสแกนเสร็จรอจนถึงตีหนึ่งครึ่ง ก็มีตำรวจมาพาไปที่ศาล ตอนโดนจับตอนนั้นราวๆ สี่ทุ่มยี่สิบห้าได้ตอนโดนตำรวจพาไปอีกสถานีหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคุกที่ติดกับศาลเพื่อฝากขังคนที่จะต้องคุยกับทนายและต้องขึ้นศาล พอมาถึงเขาก็ให้เข้าคุกรอก่อน จากนั้นก็เรียกโหน่ง ไปถ่ายรูปอีกรอบคราวนี้ให้ถ่ายข้างหน้าและข้างๆ เหมือนกับนักโทษอีกแล้ว เออใช่ก็นักโทษนี่นา หลังจากนั้นก็ให้เราไปรอคุยกับใครไม่รู้ไม่รู้เป็นทนายเราหรือเปล่า เขาก็มาถามๆ ว่าชื่ออะไร บ้านอยู่ไหน พ่อแม่ชื่ออะไร มาจากประเทศอะไร บ้านเลขที่เท่าไร ซึ่งตอนที่เขาถาม เอาเราเข้าไปในห้องขังอีกห้องหนึ่ง หลังจากถามเสร็จ รอไม่เท่าไรกับโหน่ง เขาก็พาเราไปอีกห้องหนึ่งและให้ขนมปังติดตัวไปด้วย เราก็เอาไปสองอัน จากนั้นก็เข้าในห้องขังรวม มีนักโทษอยู่รามสิบเอ็ดคน ห้องขังดูแล้วหดหู่และไม่น่าอยู่เลยซักนิด ห้องน้ำก็สกปรก กระดาษชำระเลอะเทอะไปหมดมีกลิ่นด้วย พื้นที่ดีๆ ก็ถูกจองไปหมดแล้ว เลยนั่งตรงหน้ากรงกับไอ้โหน่งอย่างจ๋อยๆ คืนนั้นเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาคุยให้รู้สึกดีขึ้น ก็มีแต่ระลึกถึงความหลังดีๆ ประสบการณ์ของแต่ละคนที่ดี ว่าเป็นอย่างไป อย่างน้อยการคุยกับโหน่งก็เป็นการฆ่าเวลาได้อย่างดี ถึงแม้บรรยากาศโดยรอบมันจะหดหู่ และไม่น่าอยู่ซักเท่าไร เวลาแต่ละนาทีมันเดินช้าจนน่ากลัว หลังก็ปวด ก้นก็เมื่อไปหมด พยามหลับตานอน มันก็ไม่หลับ พยามคิดเวลาที่มีความสุขที่สุดมันก็ไม่ออกมา สุดท้าย น้ำตามันก็ไหลออกมา อย่างไม่มีเงื่อนไข ความรู้สึกอ่อนแอ ท้อแท้มันไหลออกมาอย่างไม่รู้สึกตัว แต่ใจก็ยังสู้ และคิดว่านี่คือสิ่งที่ทดสอบความเข้มแข็งที่เราสามารถจะรับมันได้หรือไม่

เวลาใกล้ๆจะถึงตีสี่ น้ำตาที่ไหลออกมาหมดลงแล้ว ทำให้ลุกขึ้นสู้ชะตาชีวิตที่จะเกิดขึ้นและรู้สึกว่า อย่างน้อยพระเจ้าก็เห็นเราตกอยู่ในเกมที่พระองค์วางไว้ เป็นการทดสอบความอดทน ความอดกลั้นต่อโชคชะตา  woottank กับโหน่งรออย่างใจจดใจจ่อที่จะได้อิสรภาพในวันรุ่งขึ้น เรารอกันอย่างมีความหวังทุกๆนาที หลังจากหกโมง เจ้าหน้าที่ในคุกเอาอาหารเช้ามาให้ มีแอ๊บเปิล ซีเรียลจืด และนมหนึ่งกล่อง กินแก้หิวไปก่อน อย่างน้อยเมื่อคืนก็หิวมากจนลืมความหิวไปเลย พอเช้าได้กินซีเรียลถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยอร่อยนัก แต่ก็ทำให้รู้สึกได้ว่าเราหิวมากขนาดไหน แอ๊บเปิลหวานมากกว่าซีเรียลและนมมาก อร่อยด้วย แต่ขอไม่กินในคุกได้ไหม

พวกเรารอจนเก้าโมง ศาลเปิดทำการ เรารอทนายมาคุยเรื่องคดีของเราอย่างเร็ว เรารอกันนานราว สิบโมง ก็ถึงคิวของเราที่ทนายเรียกไปคุย โหน่งได้ถูกเรียกไปคุยก่อนจากนั้นเราก็ตามมา ทนายนั่งอยู่ในห้องกระจกโค้งๆเหมือนซื้อตั๋วไปโคราช ทนายเรียกไปคุย ก็ได้เรื่องเกี่ยวกับเคจของเรา ตอนแรกทนายคิดว่าเราไม่ซื้อตั๋ว แต่เราซื้อตั๋ว เรื่องจึงไม่เกิดมาก จากนั้นรอราวครึ่งชม ก็มีเจ้าหน้าที่มาเรียกเราให้ไปขึ้นศาล ก่อนขึ้นศาลก็ไปกักอีกห้องหนึ่งก่อน รอราวๆ สิบห้านาที ก็เรียกเราไปก่อน ส่วนไอ้โหน่งก็ให้รอ ตอนนั้นห่วงมันมาก ไม่รู้อะไรจะเกิดต่อไป แต่รู้ว่าอิสรภาพน่าจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ศาลเรียกไปรอหน้าศาล ราวๆ ห้านาทีก็ให้เราเข้าไป นี่คงเป็นครั้งแรกที่เราได้ขึ้นศาล และเป็นศาลที่อเมริกา พอเข้าไปถึง ทนายเข้ามาพูดว่าคดีเราเป็นอย่างไร และให้ฟังศาลพูด ศาลบอกว่าคดีเราเป็นคดีเล็กน้อย และเรื่องของเราไม่น่าจะมีปัญหา ดูเราแล้วเป็นคนดี น่าจะเกิดความไม่เข้าใจอะไรซักอย่าง ดังนั้นศาลตัดสินให้เราอยู่ในความประพฤติในระยะหกเดือนไม่ว่าที่ไหนในโลก หลังจากนี้ ไฟล์ของเราจะถูกลบไป พอได้ยินตอนนั้นก็สบายใจมาก จากนั้นทนายก็ให้บัตรเมโทรการ์ดให้เรากลับบ้าน จบแล้วเรื่องซวยๆจบแล้ว ฟ้าหลังฝนมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เข้าใจว่าคนที่รออิสรภาพจากคุกเป็นเช่นไร เข้าใจได้เลย พอก้าวเท้าออกจากศาลไม่เท่าไร ก็เจอสิด พอดี ตอนนั้นน้ำตาจะไหล ซึ้งน้ำใจเพื่อนมาก ไม่อยากให้เพื่อนลำบากอย่างนี้ เห็นมันมารอ แล้วอุ่นใจขึ้นเยอะ จากนั้นก็รอโหน่ง ซักพักมันก็ออกมา โล่งอกแล้ว เรากอดกัน ให้กำลังใจกันให้เวลาอันเลวร้ายผ่านไปด้วยดี อยากขอบคุณพระเจ้าอีกครั้งที่เมตตาลูก

วันนั้นซื้อฮอตดอก หนึ่งเหรียญห้าสิบเซ็น ซื้อโดนัทห้าสิบเซ็น เป็นการฉลองอิสลระภาพ

วันแรกก็โดนซะและ




 

Create Date : 23 ธันวาคม 2553
0 comments
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2561 12:13:00 น.
Counter : 660 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


woottank
Location :
Chicago United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ขอเอาบล็อคนี้เป็นสื่อกลางแสดงความคิดเห็น แชร์ประสบการณชีวิต และใช้เวลว่างให้เป็นประโยชน์ มีอะไรก็คอมเม้นมาได้ครับ รับได้ทุกอย่าง
Booking.com Get Great Deals at Expedia!
[Add woottank's blog to your web]