การเมือง VS อาณาจักรแห่งความกลัว!!!

"การเมือง"

เรื่องที่เวียนวนอยู่รอบตัว ใครๆ ก็พูดถึง
ที่ทำงาน โต๊ะกาแฟ แม้แต่บนแท็กซี่!!!

แต่เป็นเรื่องที่เราเบื่อมาก ที่ใครๆ ก็พูดถึง
เขาคิดว่า การเมืองคืออะไร

"นี่ๆๆ รู้หรือเปล่าว่า ไอ้ XX เนี้ยมันเลวนะมัน...."
"นี่ๆๆ เขาว่ากันว่า ไอ้เวรเนี้ย มัน XXX"

พอถามว่า รู้มาจากไหน ก็ตอบว่า "เขาว่ามา"
"นี่ไง หนังสือพิมพ์ลง"

บอกรายหนักกว่านั้น
"โอ้ย มันต้องเป็นแบบนี้แน่ๆๆ มันเลวอยู่แล้ว
ไม่ต้องไปหาหลักฐานหรอก" (-_-')



แล้วก็พูดๆๆ กันแบบสภากาแฟสมัยนี้ คือ "ฟาสฟู้ดส์"
ซดโฮกให้หมดๆ แก้ว แล้วก็แยกย้ายกันไป
ไม่ต่างอะไรกับการนินทาดาราอย่างเมามันระหว่างพักเบรค


นี่คือการเมืองของคนสมัยนี้???

...สำหรับเรา...
การเมืองคือเรื่องที่ต้องนั่งลงศึกษา ต้องว่ากันด้วยหลักฐาน
ย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ ปัญหาความเป็นมา
และสันดานของนักการเมืองแต่ละคน

เพื่อให้เห็นภาพรวมและพัฒนาการของปัญหา

มันไม่ใช่เรื่องที่จะรู้แจ้ง เข้าใจได้ด้วยการ "เขาว่า..."
ไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าใจได้หมดจดด้วยการถกกันแค่ไม่กี่นาที
ไม่ใช่เรื่องที่จะถูกผิดกันด้วย พวกมากแล้วลากไป
หรือ มันต้องถูก เพราะคนที่พูด คนที่บอก เขาเป็น...

ไม่งั้นก็จะตกเป็นแค่เหยื่อ เป็นแค่เครื่องมือ เป็นหมากตัวหนึ่ง
ในมหกรรมการตักตวงผลประโยชน์
การคานอำนาจของคนที่คิดว่าตัวเองคือคนถูก คือความชอบธรรม
คืออำนาจในประเทศนี้

หลักกาลามาสูตร "อย่าเชื่อเพราะเขาเป็น..."
สติ วิจารณญาณ การไตร่ตรองจากข้อมูลรอบด้าน
แม้แต่การลุยลงพื้นที่จริงให้ได้เห็นกับตา
เป็นสิ่งที่สำคัญในการเรียนรู้เรื่อง "การเมือง"

ไม่ใช่แค่การเข้าสิงตามเว็บบอร์ด
การอ่านจากหนังสือพิมพ์ ดูแต่ทีวี
แบบปล่อยสติให้ถูก Propaganda ไปเรื่อย


เหมือนเมื่อไม่นานนี้ หลงไปอ่านในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง
ที่มีคนทะเลาะกันแบบสำรากใส่กันสุดๆ สวนสัตว์แตกกันทีเดียว
เพียงเพราะ "แดง" กับ "เหลือง" ทะเลาะกันหาว่าใครกันแน่บิดเบือนข้อมูล

เขาคนนั้น คือ "หลานอำนวย วีระวรรณ" หรือ "หลานบอย ถกลเกียรติ"




ไม่แปลกใจเลย ที่มีคนเคยพูดว่า

"สังคมไทย = สังคมแห่งความเห็น ไม่ใช่สังคมของข้อมูล"

บ้านเมืองยามนี้จึงขึ้นอยู่กับ "อารมณ์"

ไม่แปลกใจที่เราจะเห็นคนโทรศัพท์ หรือพูดท่ามกลางหมู่เพื่อนฝูงว่า

"เมื่อไรมันจะตายๆ ไปให้หมด"
"โอ๊ย!! ปาระเบิดใส่มันไปเลย"
"ทำยังไงก็ได้ ให้มันตายๆ ไป"


ด้วยเหตุผลว่า "รำคาญ" "เบื่อรถติด" "มันโง่ เขาจ้างมันมา"


ขอบคุณสวรรค์ ที่ทำให้เราเข้าใจว่า "ปัญหา" คืออะไร
ขอบคุณสวรรค์ ที่ชี้ทางให้เราเตรียมใจไว้ล่วงหน้า


ตราบใด ที่เรายังได้ยินเสียงเหล่านี้ทุกวันๆ หลายเวลา
ก็แสดงให้เห็นว่า

...ยังมีคนจำนวนมาก ที่เห็น "คน" เป็น "คน" ไม่เท่ากับที่ตัวเขาเป็น...


เพียงเพราะเขาเห็นต่างกัน เขามีวิถีความเชื่อที่ต่างกัน
เขาแสดงออกในหนทางที่ฉันไม่เห็นชอบ
ทำให้ฉันลำบาก ทำให้ฉันไม่พอใจ
ฉันก็พร้อมจะมอบความชอบธรรมให้ผู้มีอำนาจ
..."กำจัด" ไปให้พ้นหูพ้นตา...



ตราบนั้น บนถนนราชดำเนินก็ยังนองเลือด!!!

ตลอดชีวิตของฉัน ผ่านความตายในรูปแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว
ฉันเกิดมาพร้อมเหตุการณ์เดือนตุลา
คุณนายแม่บอกเสมอว่า เพราะแกอยู่ในท้อง เลยรอดมาถึงทุกวันนี้
โตขึ้นมาได้เห็นรถถังวิ่งผ่านบ้าน เห็นลูกระเบิดถูกยิงมาแถวโรงเรียน
กับ "เมษาฮาวาย" และ "รัฐประหาร รสช."

แม้บ้านเราจะไกลจากสนามหลวงเป็นกิโล
แต่เสียงปืนกลที่ปลิดชีวิตคนนับไม่ถ้วน
ก็ดังก้องมาจากราชดำเนินทั้งคืน
"พฤษภาทมิฬ"

ควันของแก๊สน้ำตาจากการสลายการชุมนุม 7 ตุลา 51
ก็ยังลอยมาถึงบ้านเรา คล้ายๆ กับ
เสียงรถหวอที่ดังทั้งคืน รถถังที่วิ่งไปมาหน้าบ้าน
ในการสลายชุมนุมเมษา 52

และล่าสุด 10 เมษา 53 บ้านเราก็เจอกับเรื่องเดิมๆ
ที่รู้ซึ้งว่า นี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

เมื่อนึกถึงทหารเกณฑ์ที่จะปลดประจำการสิ้นเดือนนี้แล้ว
ต้องเสียเลือดเสียเนื้อเสียชีวิต
หรือผู้ชุมนุมหลายคนที่ต้องหายไปจากโลกนี้
ความเจ็บปวดในใจ...ไม่รุนแรงเหมือนครั้งก่อนๆ

ไม่ใช่เพราะเขาไม่ใช่ "คน" เท่าๆ กับเรา
แต่มันคือความชินชา...
และรู้ว่า อีกไม่นานมันก็จะเกิดขึ้น..รุนแรงกว่าเดิม...



การ "ปล่อยวาง" คือทางที่เราเลือกในตอนนี้
เมื่อต้นเหตุของปัญหาอยู่นอกเหนือการควบคุม
โดยไม่ปล่อยให้ "อาณาจักรแห่งความกลัว"
ที่ผู้มีอำนาจแต่ละฝ่ายสร้างขึ้น มาครอบงำชีวิต

เพราะประเทศนี้ไม่ได้ดำรงอยู่ได้ด้วย "การเมือง" "รัฐบาล"
แต่เพียงอย่างเดียว

"อุเบกขา" และ "สติ" คือสิ่งที่เราต้องฝึกปรือกันต่อไป
เพื่อเตรียมรับอนาคตที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
และจะรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ

ตราบใดที่ประเทศนี้ยังขาดแคลน
"เหตุผล" "หลักการที่เที่ยงตรงไม่แปรผันตามอคติ" "สติ"


เพราะสุดท้ายก็จะมีแต่มนุษย์ตาดำๆ อย่างเราต้องก้มหน้า
เอาชีวิตรอดกันต่อไป




Create Date : 12 เมษายน 2553
Last Update : 12 เมษายน 2553 0:29:11 น. 0 comments
Counter : 470 Pageviews.

เสียงลมหนาว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




winter's voice
มุมมองของฤดูหนาวที่ยังคงอยู่
แม้อุณหภูมิจะเปลี่ยนไป

เช่นเดียวกับจิตใจคน
แม้วันเวลาจะเปลี่ยนแปลงไป
แต่แก่นแท้ในจิตใจจะยังเหมือนเดิม???


นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฉันเลือกจะอยู่เงียบๆ ตรงนี้
ในบ้านของตัวเอง ไม่ใช่โลกสีฟ้าใบใหญ่อีกต่อไป
หลังจากนี้จะแบ่งปันอะไรคงจะอยู่ในบ้านหลังนี้
ใครอยากจะถามอะไรก็แปะไว้ก็แล้วกันนะ



ป.ล. โปรดทราบทุกอมยิ้มที่แวะเวียนมา
เป็นที่ซาบซึ้งใจยิ่งนัก แม้ไม่ได้เม้นท์ตอบ
แต่ก็แอบอมยิ้มอยู่เงียบๆเสมอ \(^O^)/



ป.ล. 2 ขออภัยที่ไม่เปิดเผยใบหน้า
เพราะอยากให้อ่านกันที่เนื้องาน
มิใช่เปลือกที่อาจจะบังเอิญได้พบเจอ




Update !!!

Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
12 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เสียงลมหนาว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.