ฉันอยากเป็นหมอ (1)

4 ธันวาคม 2549,
ตอนนี้อยู่ที่ำทำงานและกำลังฟังเพลง "ฟ้ายังฟ้าอยู่" ของ smile buffalo เดี๋ยวนี้ต้องฟังเพลงพวกนี้บ่อย เหมือนกับกินยาระงับประสาท และให้กำลังใจตัวเองไปในตัว และ ก็จะมีเพลง "ฤดูที่แตกต่างของ" Boyd ฟังแล้วรู้สึกดี ฟังแล้วชอบจินตนาการว่า ถ้าได้เรียนหมอแล้วก็เรียนหนักมากมาก แต่ยังไงเราก็จะไม่หมดกำลังใจ เพราะจะมุ่งมั่นไปสู่เ้ป้าหมาย การได้เป็นหมอที่ดี ได้ช่วยเหลือผู้คนเพื่อนร่วมโลก พอวันนั้นมาถึงคงภูมิใจมากมาก :-D แต่เดี๋ยวก่อน ตอนนี้กลับมาโลกของความเป็นจริง เรานั่งอยู่หน้า Laptop ในบริษัทด้านไอทีอันดับ3 ของประเทศ และตั้งเป้าหมายจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ภายในหกปี กำลังนั่งพิมพ์ๆ นี่อยู่ พนักงานเลวเด่นจริงๆ เอาเวลางานมานั่งระบายความอัดอั้นในชีวิต กรำ

เมื่อกี๊ี้กลับมาจากทานอาหารกลางวัน แล้วก็มานั่งแหมะอยู่หน้าคอมอีกแล้ว แต่ก่อนไปเรา sign out หมดแล้วนี่นา ไหงพอกลับมาถึงยังเห็นหน้าจอที่โชว์ลิสต์ของเอกสารทั้งหมดใน google Docs & Spreadsheets ของเราอยู่หว่า หวังว่าคงเป็นเพราะเราอาจจะพลาด กดลิงค์ sign out ไม่โดน หรือไม่ก็ sign out ไม่ครบนะ เพราะถ้าใครมาอ่านนี้สงสัยช้านจะโดนไล่ออก โทษฐานอู้งาน และ เพ้อเจ้ออยากจะเป็นหมอ แต่จริงๆจะทำไมหละ ความอยาก ความฝันของคนเรามันไม่ได้ขึ้นกับว่าจะจบอะไรมานี่หว่า คนที่เลือกได้ตรงใจตรงธาตุ ตั้งแต่ต้น นั่นเค้าเป็นบุคคลที่โครตจะโชคดี แต่เราอะดิเพิ่งมารู้ไง ว่าจริงๆไอ้ที่เราเคยบอกว่า เราไม่อยากทำงานกับคน เพราะคนหนะเรื่องมากไร้สาระ จัดการด้วยยาก น่าเบื่อ ทำงานกับคอมพิวเตอร์ดีกว่า เพราะมันไม่เถียง สั่งอะไรถ้าสั่งถูกขั้นตอน ถูกวิธีมันก็ให้ผลออกมา... เราไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เราอะโกหกตัวเอง มันไม่จริง!!หรือว่าเราอยู่ในช่วงสับสนในชีวิตหว่า อะไรๆ มันถึงได้แห้งเหี่ยวไปหมด
---------------------------------------------------------------
--ต่อไปมาเขียนต่อที่ห้องแล้วนะ ไม่ได้อยู่ที่ทำงานแล้ว เลิกเป็นพนักงานเลวเด่น โดยการตั้งใจทำงานในเวลางาน --

เราว่าช่วงนี้เราคงอยู่ในช่วงกรรมตามสนองอะ เคยทำอะไรไว้ เลวกับใครไว้บ้าง รู้สึกว่าตอนนี้ำกำลังทยอยย้อนเข้ามาหาเรากันใหญ่เลย เรื่องความรัก ไอ้ที่ทำๆ เค้าไว้ เก่งนักเก่งหนา คบคนนู้นคนนี้ เป็นไงหละ ทิ้งเค้าไปเองแล้วตอนนี้มานั่งเสียใจ พูดได้อย่างเดียวว่าสมน้ำหน้า ฮ่าๆๆๆ แล้วไหนจะยังมีเรื่องที่เราทำให้คนคนนึงรอเรามาเรื่อยๆ เป็น 7-8 ปี ระหว่างนั้นเค้าก็ทุกข์ช้ำระกำใจมาก แต่ตอนนี้เค้าแต่งงานแล้ว กำลังจะมีลูกแล้ว ชีวิตเค้าคงเข้ารูปเข้ารอยเสียที ยินดีด้วย สำหรับเรื่องนี้เราคิดว่าผลจากกรรมก็คือ เรามีแฟนแสนดี น่ารัก แต่อยู่ไกลกันเหลือเกิน ปีนึงเจอกันสองครั้ง เห้อ สงสัยจะเป็นการให้เราได้รู้ว่า ชอบใครสักคนแต่ไม่ได้เจอ ไม่ได้ใกล้ชิดเนี๊ยะมันรู้สึกยังไง หรือ ไม่ก็ให้เราต้องรอคอยซะมั้งเหมือนที่มีคนคนนึงเคยรอเรามานานได้ขนาดนั้น เราืทำกับคนอื่นไว้เยอะตอนนี้ทีโดนเองบ้างแล้ว เราขอบอกแค่สองสามเคสพอ จริงมีอีกหลายเคสมาก เวงกรำ...เซงจริงจริง

มาถึงเรื่องกรรมด้านการศึกษา อะ อันนี้จะมาเกี่ยวกับหัวข้อหละนะ จริงอาการห่อเหี่ยวทีเรามีก็มีผลจากเรื่องนี้เยอะเหมือนกันอะนะ เราอะี้อยากเรียนแพทย์ไง จริงๆก่อนหน้านี้ก็เลิกหวังไปแล้วเพราะ จบตรีแล้ว โืทก็แล้ว (คิดหละสิว่ามาเราจะมาอยากอะไรป่านนี้ ) จะไปเอนท์ใหม่ก็ไม่รู้เรื่องระบบใหม่ O-Net A-Net ไรเนี๊ยะช้านไม่รู้เรื่องเลย แต่ปรากฏว่าเมื่อฟ้าจะแกล้งให้ดีใจเล่น โดยการให้เราทราบข่าวเรื่องแพทย์แนวใหม่ ซึ่งจะรับคนที่จบตรีแล้ว มาเรียนในหลักสูตรแพทยศาสตร์เป็นเวลา 5 ปี คือ เข้ามาก็ขึ้นปีสองเลย เพราะถือว่าได้เรียนวิชาของปีหนึ่งมาตอนเรียน ป ตรีแล้ว พอรู้ปุ๊บเราหาข้อมูลกันกระจาย ใช้บริการ google ทุกวี่ทุกวัน เรื่อง search เนี๊ยะมีหรือจะพลาด เราอะทำงานอยู่แผนกที่ทำ R&D อยู่แล้วหนะนะ แล้วก็ชอบsearch เรื่องโน่นนี่นั้นที่เราต้องการรู้เป็นชีวิตจิตใจ เราอะเรื่อง keyword ที่จะให้ในการค้นหานี่ขอบอกว่าปึ๊ก คิดได้...เหอๆ โม้มากไปหน่อย กลับมาเรื่องเดิมหละนะ เราก็เข้าออกเว็บไซด์และเว็บบอร์ดแพทย์ของเกือบทุกมหาวิทยาลัย ที่เราได้ search เจอว่ามีการรับแพทย์ในโครงการนี้ แต่ส่วนมากมักจะรับผู้ที่จบการศึกษาในชั้น ป ตรี มาทางด้าน วิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น สาธารณสุข พยาบาล เภสัช เป็นต้น แต่ตอนนั้นก็ยังมีหวังนะ เพราะเราจบโทด้าน ชีวสารสนเทศมา ก็เรียนชีววิทยา มาพอควรเหมือนกันนา แต่ก็เหี่ยวแห้งฝ่อไปเหมือนกัน เและก็เหมือนฟ้าประทานความหวังใหม่มาให้อีกครั้ง โดยให้เราได้ไปเข้าไปในบอร์ด และได้ email ของนักศึกษาแพทย์คนนึงมา ซึ่งอนุญาตให้เราสามารถ MSN ไปคุยกับเขาได้ เราหรือจะพลาด เค้าเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสองที่ธรรมศาสตร์ ในหลักสูตรที่เราหมายปองอยู่เลย ได้คุยกับเค้า ได้ตัวอย่างแนวข้อสอบ และทราบว่าทาง มธ เปิดโอกาสให้คนที่ ป ตรี ด้าน วิศวกรรมศาสตร์ด้วย กรี๊ดดดดด เข้าทางเลย ความหวังเต็มเปี่ยม โลกสดใส จะต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ ต้องอดหลับอดนอนก็บ่อยั่น ไปศูนย์หนังสือจุฬา กวาดหนังสือเตรียมสอบ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา สัตววิทยา 1,2 หอบกันหลังแทบหัก ซื้อเสร็จไปหาน้องที่ มธ ท่าพระจันทร์ เพราะน้องมีแสดงระบำพัด ให้กับชมรมชาวเหนือ อิอิ พอน้องเห็นหนังสือก็บอกว่า "เธอนี่สุดยอดจริงๆ เรียนรู้ไม่มีสิ้นสุดจริงๆ นับถือนับถือ อย่างแรง" พอรำเสร็จก็ช่วยเราขนหนังสือขึ้น taxi กลับห้องเรา พอมาถึงห้องก็พูดเหมือนเดิม ว่าความฝันแรงกล้า นับถือ ขอกราบเลย ห้าๆๆ....
ตอนนั้นอะเราไม่ได้รู้หรอกว่า คุณสมบัติสำหรับผู้สมัครอะต้องเป็นยังไงบ้าง เพราะก็มั่นใจว่าเกรดตอนจบก็พอไหว 3.20 หนะ เลยวางแผนและลงมืออ่านหนังสือทุกวัน ด้วยความหวังเต็มเปี่ยมว่า ช้านจะต้องสอบเข้าหมอที่นี่ให้ได้ และก็จะได้จบออกมาเป็นหมอได้ช่วยเหลือและทำประโยชน์
ให้เพื่อนมนุษย์และประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง ช้านต้องการช่วยผู้คน นั่นมีความหมายกับเรามาก
ดูท่าทางจะไปได้สวยเนอะ แต่แล้วอะไรเกิดขึ้น เดี๋ยวจะมาเขียนตอนต่อไปนะคะ เดี๋ยวยาวเกิน คนเขียนก็มึน

Create Date : 05 ธันวาคม 2549		4 comments
Last Update : 5 ธันวาคม 2549 10:32:37 น.
Counter : 431 Pageviews.
Share Tweet