"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 ธันวาคม 2558
 
All Blogs
 
ค้นชีวิต "ไก่ เดอะวอยซ์" นักร้องหญิงแกร่ง ผ่าเคล็ดลับเสียงพลังแค้นฟังแล้วจำจนตาย










"ไก่ เดอะวอยซ์" หรือ อัญชุลีอร บัวแก้ว อีกหนึ่งนักร้องสาวเพชรน้ำงามของวงการดนตรีในไทย ผ่านเวทีประกวดครั้งล่าสุดกับรายการเดอะ วอยซ์ ซีซั่น 4 จนชื่อของเธอกลับมาโลดแล่นในวงการอีกครั้ง


หลังจบรอบไฟนอล "ไก่ เดอะวอยซ์" ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวถึงเส้นทางชีวิตก่อนหน้าและหลังประกวด เรื่องราวและประสบการณ์ในเส้นทางชีวิตของเธอแสดงให้เห็นว่า"ป้าไก่"เป็นอีกหนึ่งนักร้องหญิงแกร่งของวงการดนตรีในไทย


เริ่มต้นร้องเพลง ชอบร้องเพลงอย่างไร

เริ่มต้นชอบร้องเพลงตั้งแต่จำความได้เลยค่ะ อาจเป็นเพราะพ่อพี่ชอบฟังเพลง คุณพ่อชอบนั่งเล่นกีตาร์ และร้องเพลงไปด้วย คุณพ่อจะสอนพี่เล่นกีตาร์ สอนเป่าขลุ่ย เล่นซออะไรของเขาไป น่าจะติดมาจากพ่อ ตั้งแต่นั้นมาตั้งแต่จำความได้ก็ชอบร้องเพลงมากๆ


เป้าหมายของการร้องเพลงตอนที่เริ่มชอบเป็นอย่างไร

ชอบร้องเพลงก็ชอบดูรายการเพลงทางทีวีใฝ่ฝันว่าอยากยืนร้องเพลงและออกมาจากโทรทัศน์อย่างเขาบ้างแต่สมัยก่อนการประกวดยังไม่แพร่หลายมีการประกวดร้องเพลงที่คลับดังชื่อ"ยัวร์เพลซ" เขาจัดประกวดต้องเล่าย้อนกลับไปก่อนว่า

คุณพ่อคุณแม่พี่เสียชีวิต พี่เป็นลูกบุญธรรมของคุณฝน-รุ่งพิรุณ เมธารมณ์ ของวง "ฮ็อตเปปเปอร์" ยิ่งชอบร้องเพลงเข้าไปใหญ่เพราะเพลงแม่ของเราดังก็ร้องอยู่

ปรากฎว่า แม่ไม่ค่อยอยากให้เป็นนักร้องเพราะอาชีพไม่ค่อยมีคนยอมรับ และอาชีพกลางคืนค่อนข้างอันตราย เขาก็ไม่อยากให้ร้อง แต่ความที่เราตะโกนร้องเพลงในบ้านทุกวันจนแม่สงสัยจะห้ามไม่อยู่แล้ว

บังเอิญที่ "ยัวร์เพลซ" แม่เขาเคยร้องอยู่วง"ฮ็อตเปปเปอร์" ก็เล่นอยู่ เขามีจัดประกวดร้องเพลง แม่ก็เลยคิดว่าถ้าเราชอบร้องขนาดนี้ก็เลยจัดให้ไปประกวดดูปรากฎว่ารางวัลที่ 1-3 จะได้ร้องประจำที่นั่น

เราไปประกวดปรากฎได้ที่ 1 แม่เขาก็จะมารับทุกคืน แต่ก็มีฝากลุง ฝากนักดนตรี ฝากพนักงานว่านี่ลูกนะให้คอยดูแลก็เลยเริ่มจากตรงนี้

แต่ตอนนั้นเรายังร้องเพลงสากลไม่เก่งร้องแต่เพลงของ"ฮ็อตเปปเปอร์"และเพลงที่ใช้ประกวดสมัยก่อนก็มีความฝันถ้าคนที่จะได้ร้องเพลงในที่ดีๆ ต้องร้องเพลงสากลเก่งๆ

เราก็ฝึกเพลงสากลจนได้ไปร้อง พี่คนหนึ่งที่โรงแรมเอเชีย พี่คนนี้ก็ลาออกพอดี เจ้าของก็ถามว่าเราอยากร้องแทนไหม เราก็ดีใจมากอยากร้อง

ได้ร้องที่นั่นแล้วรู้จักพี่มัม ลาโคนิค วงของพี่มัมมีพี่เลียง ลาโคนิคที่เล่นเบสแบ็คอัพให้พอดี ตอนนั้นที่ร้องอยู่ด้วยมีคุณ หนึ่ง อิสริยา คูประเสริฐ แชมป์สยามกลการปี 2527 มีคุณนนทิยา จิวบางป่า แชมป์ปี 2531

มีคุณสุดา ชื่นบาน มีพี่อ้อม นิศาลักษณ์ ศรีนาคาร มีแต่คนมีชื่อเสียงทั้งนั้น มีแต่เราคนเดียวที่ไม่มี คราวนี้พี่เลียง มือเบสบอกว่า "เฮ้ย ไก่ แกก็ไม่ใช่คนร้องเพลงขี้เหร่นะ แกจะร้องเพลงอยู่แค่นี้เหรอ

มีเวทีเปิดประกวดของสยามกลการ ไม่ลองไปเหรอ เผื่อได้ตำแหน่ง เข้ารอบเข้าไปได้มีอะไรพัฒนาขึ้น" แต่เราไม่กล้าไป พี่เขาก็ลากไปและออกค่าสมัครให้ ก็เลยเป็นแชมป์สยามกลการเมื่อปี 2532


ตอนนั้นเรียนไปด้วยไหม

ไม่ค่ะ ร้องเพลงอย่างเดียวค่ะ ... ตื่นขึ้นมาก็แกะเพลงใหม่ ซ้อมเพลงใหม่ ก็เก็บเพลงที่ลูกค้าขอมาแล้วบางทีเรายังร้องไม่ได้ก็มาแกะ มาฟังดู อันไหนที่เราพอมีความสามารถร้องเพลงนี้ก็จะมาแกะดูเพื่อลูกค้าที่กลับมาฟังอีกก็จะได้ร้องให้เขาฟัง


นอกเหนือจากเวที ยัวร์ เพลซ และ สยามกลการ แล้วมีประกวดเวทีไหนที่แข่งอีก หรือเวทีที่ประทับใจไหม

ไม่มีค่ะ อาจมีแต่คือเป็นคนที่กลัวการประกวด ไม่ชอบการแข่งขันเลยไม่ค่อยได้ตามข่าวเรื่องนี้


การประกวดสมัยนั้นกับยุคนี้เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร


ประกวดยุคนั้นที่ได้ตำแหน่งนักร้องชนะเลิศมาแตกต่างกันตรงที่ไม่มีคะแนนโหวตมีคณะกรรมการที่มีคุณวุฒิมานั่งตัดสินจำนวนหลักสิบท่านได้จะต้องให้ผ่านทั้งเพลงสากลและเพลงไทยมีเพลงบังคับเลือกเพลงมา แต่จะต้องจังหวะแตกต่างกัน

การประกวดสมัยนี้ที่มีเรื่องโหวตเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจทำให้ผู้ชมมีปัจจัยพิจารณาอื่นๆ นอกเหนือจากพิจารณาทักษะการร้องอย่างเดียว มองอย่างไรกับการประกวดสมัยนี้

จะบอกว่าแตกต่างกันเลยก็ไม่เชิง ก็ยังมีโค้ชซึ่งเป็นผู้มีคุณวุฒิเป็นคนตัดสินด้วย แต่คราวนี้มีการโหวตเข้ามาด้วย สืบเนื่องจากว่าการทำเพลงหรือทำอะไรออกไปต้องเอาใจคนซื้อคนฟังใช่ไหมคะ ก็ต้องให้เขามีส่วนร่วมก็คิดว่ายุติธรรมดีเหมือนกันค่ะ


ความเข้มข้นหรือความเครียดในเวทีประกวดแตกต่างกันไหม

อันนี้จะเข้มข้นและเครียดมากกว่าในปัจจุบันนะคะเพราะปัจจุบันการรับฟังเพลงกว้างมากยิ่งเราเป็นคนยุคเก่าซึ่งรู้สึกว่าเราร้องโบราณมากแล้ว เราไม่รู้ว่าเขาจะชอบหรือต้อนรับการร้องแบบเราหรือเปล่า

ซึ่งมันยากมากและการที่จะทำให้คนชอบเกือบทั้งประเทศ หรือทั้งประเทศมันยากมาก มันต้องวัดใจกันค่ะ


ต้องปรับตัวไหม

เป็นคนชอบรับอะไรใหม่ๆ อยู่แล้ว จะไม่ชอบเอาของเก่ามาใช้ในการประกวดปัจจุบัน เพราะมาประกวดตรงนี้เขาก็จะมีทีมโค้ช มีผู้อำนวยการเทคนิคด้านดนตรี ซึ่งเขาก็จะป้อนให้เราว่าอยากให้ทำแบบนี้

ซึ่งมันเป็นความรู้ใหม่ เป็นเทคนิคใหม่ที่มันดีมาก มันแตกต่างกัน เราชอบแบบนี้คือเราไม่ได้เป็นตัวเองมากนัก เราร้องตามที่คนฟังหลายๆ คนอยากให้เราเป็นส่วนหนึ่ง


หลังประกวดสยามกลการแล้วเส้นทางเป็นอย่างไร

ตอนที่ได้ถือเป็นยุคเฟื่องฟูมากอาชีพนักร้องถือว่ายกระดับขึ้นมาทันทีต้องกราบขอบพระคุณแม่หญิงพรทิพย์ณรงค์เดชซึ่งจัดการประกวดนี้ขึ้นมา คือนักร้องกลายเป็นอาชีพที่มีเกียรติมากทุกคนยกย่องขึ้นมาทันที

พอได้แชมป์ขึ้นมาบอกได้ถือว่าดังมาก ขนาดตอนนั้นสื่อยังแพร่ได้ไม่ทั่วทั้งประเทศ ยังมีแค่บางจังหวัดที่รับสัญญาณได้ พอได้แชมป์แล้วมีงานเพิ่มขึ้นมาเป็น 7 ที่ร้อง 7ที่ เงินเดือนแสนกว่าบาท เมื่อ 26 ปีที่แล้วนะคะ ร้องตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึงตี 3


สมัยนั้นถือว่าเยอะมากสำหรับนักร้อง

เยอะมากค่ะ เราก็เป็นคนไม่มีภาระ ใช้เงินแบบไม่คิดถึงอนาคต ไม่เคยคิดถึงอนาคตเอาง่ายๆ แล้วมีแต่เพื่อนฝูงมาดื่มมากินกับเรา แล้วเราก็เลี้ยงรู้สึกว่าเพื่อนมาหา เพื่อนรักเรา เพื่อนมากินก็จากไป และหลายอย่างค่ะ


หลังจากนั้น ชีวิตมีจุดเปลี่ยนอย่างไร จนถึงมีผลงานกับค่ายเพลง

ต้องเล่าย้อนไปถึงช่วงหย่าร้าง หลังได้รางวัลจากสยามกลการ มีที่ร้องมากมาย มีไปลงหุ้นก็ถูกโกง มีคนมายืมก็ถูกโกง มีคนมาหา มากินแล้วก็จากไป เราก็เริ่มรู้สึกว่าทำไมวงการมีแต่ความหลอกลวง หาคนจริงใจไม่ได้

เลยเริ่มท้อแท้และเบื่อวงการ ปรากฎว่ามาเจอพ่อของลูก เขาก็ให้คำแนะนำ เขาทำงานที่พัทยา เราก็ตามไปเที่ยวกับเขา ไปเจอกับเจ้านายของเขาซึ่งเป็นเจ้าของอัลคาซ่า เขาก็ชวนมาร้อง เราก็รู้สึกพอดีเลย เราอยากทิ้งกรุงเทพฯ อยากลาแล้ว ไม่ไหวแล้ว

อยากมาเก็บตัวอยู่ที่นี่ ก็พอดีได้แต่งงานก็เลยลาออกจากทุกที่ ลาออกหมดเกลี้ยง ฉันจะไปสร้างครอบครัวไม่สนใจอะไรแล้ว ก็ไปร้องอยู่ที่โน่น อยู่พัทยา 10 ปี (เน้นเสียง) ก็หายไปเลยและไม่กลับมาด้วยนะคะ

กะว่าจะไม่กลับไปอีกแล้ว ฉันจะกลายเป็นคนพัทยาเลย คิดอย่างนั้นนะตอนนั้น ปรากฎว่าชีวิตครอบครัวไม่ประสบความสำเร็จ หย่าร้างก็เลยกลับมาอยู่กรุงเทพฯ

กลับมาคนก็ไม่รู้จักเราแล้วเพราะมัน 10 ปี ช่วง 10 ปีก็มีนักร้องเก่งๆ เกิดเยอะมาก เก่งๆ สวยๆ พอเราหางานไปออดิชั่นตามที่ต่างๆ เขาก็เลือกคนที่สาวกว่า เขาก็จะบอกเราว่าชอบเราร้องนะ

แต่เขาเลือกคนที่อายุน้อยกว่า เราก็เข้าใจนะคะ ไม่ได้เสียใจเพราะถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการเราก็ต้องเลือกแบบนี้ คนมาฟังก็ฟังเพลงไม่ได้เน้นว่าต้องร้องเลิศหรูอะไรอย่างนี้


กลับมาแล้วมีโอกาสทำเพลงเลยหรือเปล่า

ตอนที่แต่งงานใหม่ๆ เพิ่งคลอดลูกได้โอกาสทำอัลบั้มกับบริษัทเมโทรแผ่นเสียง ทำอยู่ 5 อัลบั้ม เป็นเพลงไทยคัพเวอร์เก่าๆ เพลงไทย เพลงลูกกรุงเก่าๆ

พอกลับมาอยู่กรุงเทพฯ มีน้องที่อยู่แกรมมี่ อินเตอร์เนชั่นแนล ของพี่อู๋ อรรถพล ประเสริฐยิ่ง (อดีตสมาชิกวงแมคอินทอช) เขากำลังทำโปรเจ็ครวบรวมนักร้องที่คนถามหา เขาอยากให้ทำอัลบั้มรวมกันก็ได้ทำกับแกรมมี่ซึ่งเป็นอัลบั้ม "แจ๊ซซี่" มีนักร้อง 6 คน เป็นเพลงคัฟเวอร์ ร้องคนละ 2 เพลง



ตอนที่ชีวิตโลดโผน วางเป้าหมายตัวเองในอนาคตอย่างไรบ้าง

มีความฝันอยู่แล้วว่าอยากมีอัลบั้มมีซิงเกิลเป็นของตัวเองแต่เป็นคนแบบคิดทีละนิดไม่คิดไกลกลัวว่าหวังมากแล้วผิดหวัง ก็มีความหวังว่าอยากทำอัลบั้มไปเรื่อยเปื่อย


ช่วงที่เป็นนักร้องอาชีพมีเหตุการณ์อะไรที่หนักๆ หรือกระทบกระเทือนใจ

ช่วงนั้นจะเป็นคนดื่มเครื่องดื่มสังสรรค์เฮฮาวันหนึ่งเพื่อนมาหาเราเกือบ10คนเขาก็ประมาณเฮ้ยไก่เลี้ยงหน่อย เราก็แบบมีตังค์เราก็คิดว่าเรามีงานเยอะกว่าเขาเลี้ยงเพื่อนก็ไม่มีปัญหา เพื่อนเขามาหาเราบ่อยๆ แต่จริงๆ แล้วมาบ่อยมาก เราก็จ่ายสุดฤทธิ์เราก็พอมีตังค์ไง พอเรามีปัญหาหรืออะไรกลับหาใครไม่ได้


ตอนที่ไปอยู่พัทยา 10 ปีช่วยเยียวยาพี่ไก่ หรือทำให้มุมมองต่อโลกเปลี่ยนแปลงไปไหม

ตอนที่อยู่พัทยาไม่มีมุมมองที่เปลี่ยนไปเพราะว่าเป็นพื้นที่เล็กๆคนฟังเพลงก็เป็นคนพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าต่างชาติที่มาทัวร์ไม่ได้ร้องเพลงทันสมัยเท่าไหร่ หัวหน้าวงก็ให้ร้องเพลงเก่าๆ ซ้ำไปซ้ำมา 10 ปี ก็ร้องเพลงเดิมๆ เราไม่พัฒนาเรารู้สึกอย่างนั้น


หลังกลับมามีผลงานแล้ว เส้นทางชีวิตเป็นอย่างไรต่อ

ช่วงที่มีผลงานเป็นช่วงที่ผิดเวลานิดนึง การโปรโมตก็ไม่มากเท่าไหร่ อัลบั้มไม่ทันออกวางก็มีการดาวน์โหลดกันแล้ว การขายก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ

สมัยนั้น 8 ปีที่แล้วเริ่มเป็นช่วงที่มีปัญหาเรื่องการดาวน์โหลด เริ่มกำลังโหลดอย่างเมามัน คนเรามันอยู่ที่โชคกับดวงชะตาด้วย มันเป็นช่วงที่มีแบบนี้พอดี


หลังจากนั้นกลับมากรุงเทพฯ ชีวิตกลับมาสู่ภาวะ "ไม่มีงาน" ได้อย่างไร

คือกลับมาก็ไม่มีงานทำ ไม่ใช่ไม่มีงานทำสิ หางานยาก ไปร้องที่ไหนก็ไม่ค่อยมีคนสนใจ ก็ยังมีงานอยู่บ้างคือเงินเดือนน้อยแต่ร้องเยอะ เราก็จำเป็นต้องทำ มาอยู่กับลูกด้วย ไหนจะมีภาระต้องเช่า ต้องเรียน

เราจำเป็นต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกเรียนให้จบ งานอะไรก็ทำ บังเอิญว่ามีโอกาสร้องเพลงโรงแรมแลนด์มาร์ก ไปเจอพี่สตีฟ อลังการ ที่เขาเล่นเปียโนอยู่ เขาเป็นอาจารย์สอนการใช้เสียงในการพากษ์หรืออ่านบทต่างๆ

เขาก็เห็นเราสู้ชีวิต เลี้ยงลูก เขาก็เห็นใจ แนะนำว่าน่าจะทำอาชีพอื่นเสริมจะอยู่ได้นาน ลองไปสมัครที่เจ็น-เอ็กซ์ อคาเดมี่ ที่เขาสอนอยู่ มีเปิดสอนเทคนิคการใช้เสียง ปรากฎว่าได้สอนที่นั่น และสอนร้องเพลง เริ่มมาเรื่อย เราก็เริ่มรักตรงนั้น

พอออกจากแลนด์มาร์ก เราก็สอนซะส่วนใหญ่ ตอนหลังมีเพื่อนที่เป็นนักร้องจากสยามกลการเหมือนกันคือคุณหนึ่งฤทัย ภักดีวิจิตร ก็สอนอยู่ที่เคพีเอ็น เขาโทรศัพท์มาหาบอกว่า

เจ้านายกำลังจะเปิดสาขาใหม่อีกแห่ง ถามว่าสนใจไปสอนไหม เราก็สนใจ มีสอนซะส่วนใหญ่ แต่ค่าสอนก็ไม่ได้มากมาย เราก็อาศัยสอนหลายชั่วโมงแล้วก็มีร้องประปราย


ช่วงที่ลำบาก มีกำลังใจจากอะไร

กำลังใจอย่างเดียวคือลูก ลูกคือทุกสิ่งทุกอย่าง ในโลกนี้มีเรา 2 คนที่ต่อสู้มาด้วยกัน คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ลูกเรียนให้จบ เรียนให้สูงๆ เขาจะได้ไม่ลำบากเหมือนเรา เราคนนึงที่พ่อแม่เสียชีวิตเราก็ไม่ได้เรียน ก็ต้องมาทำงานเพราะเรียนน้อย เราไปสมัครอย่างอื่นก็ไม่ได้


เคยย้อนกลับไปคิดไหมว่าถ้าเลือกได้จะเรียนหรือเลือกทำงานร้องเพลง


พี่กลับไปเรียนแล้วเรียนม.สุโขทัยธรรมาธิราชเรียนถึงปี2สอบผ่านทุกวิชาปรากฎว่าลูกต้องใช้เงินค่าเทอมเยอะมาก เลยต้องหยุดเรียน คืออยากเรียนอยู่แล้ว อยากได้ปริญญาเหมือนชาวบ้านเขาบ้าง ถ้ามีโอกาสก็อยากเรียนอีก


พี่ถือว่าสบายเพราะเรามีพรสวรรค์มีคนลำบากกว่าเราเยอะ


ในแง่การร้องเพลงได้เรียนดนตรีด้วยหรือเปล่า

พอมาสอนแล้วก็เรียนเลยเรียนเปียโนเพราะเราต้องใช้


ด้านการร้อง มีเรียนดนตรีด้วยไหม เพราะการร้องของพี่ไก่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว


ตรงนี้เป็นอินเนอร์ของแต่ละคน พี่จะสอนลูกศิษย์เสมอว่าการร้องเพลงคือการพูดของคนที่ใส่ดนตรีเข้าไป ให้คำพูดน่าฟังขึ้น เวลาร้องเพลงทุกครั้ง เวลาพูดทุกครั้งต้องจริงใจกับคำพูดของเรา เพราะฉะนั้นพอเวลาเราพูดออกไปในสมองเราต้องคิดภาพตามคำพูดของเราเลย

เวลาพี่ร้องจะสร้างภาพเหมือนเป็นมิวสิกวีดีโอในหัวเลยว่าถ้าเป็นเรา สมมติจะร้องเพลงนี้ ถ้าเป็นพี่เหตุการณ์มันเกิดแบบนี้ ความรู้สึกของพี่จะเป็นอย่างไร แต่ละคนจะตีความไม่เหมือนกัน


กลับมาหัวข้อกระแสการประกวดเดอะ วอยซ์ ครั้งนี้พี่ไก่เริ่มประกวดได้อย่างไร

มีลูกศิษย์ที่เขาอยากประกวดก็ช่วยฝึกฝนให้เขา เขาก็ไปมีเข้าหรือไม่เข้าของเขาไป คราวนี้มีเพื่อนและเพื่อนที่เคยประกวดก็ชวน แต่พี่รู้สึกไม่หละ ถ้าฉันไปเราเป็นครูอยู่แล้ว เรารู้สึกว่าเหมือนกั้นทางเด็กที่เขาอยากฝัน ถ้าสมมติเราเข้า แล้วเข้ารอบ

คนที่มีความสามารถก็หล่นไปหนึ่งคน แล้วพอเข้าอีกรอบก็ตกอีกคน เราคิดแบบนั้น แล้วก็เคยมีอัลบั้มแล้ว ตำแหน่งก็มีแล้ว ไปประกวดทำไมคิดแบบนั้นนะตอนแรกก็ยังแบบพวกมีทิฐิ

จนกระทั่งงานสอนน้อย มีสอนแค่ 2 วัน วันธรรมดาก็อยู่บ้านเฉยๆ มีร้องบ้าง 1 วัน อะไรแบบนี้ก็น้อยมาก มันก็ฝืดเคือง ต้องยืมตรงนู้ ตรงนี้ พอถึงเวลาก็มีค่าเทอมลูก ลูกก็เห็น

คราวนี้ลูกจะเป็นกลุ่มนักแคสต์เกม (อัดคลิปการเล่นวีดีโอเกมพร้อมเสียงพากย์ของตัวเองมาเผยแพร่) เขาหารายได้มาช่วยเหลือแม่ เขาไปเจอแฟนเพลงเอาคลิปตอนที่เราได้แชมป์มาลง

เขาพิมพ์ว่าพี่ไก่อยู่ไหน อยากให้คืนเวทีอะไรประมาณนี้ ไปเวทีไหนก็ได้ เขาว่าอย่างนี้ ปรากฎว่าลูกเห็นแม่สวยจังเลย ดูสง่าอะไรแบบนี้ เขาก็เข้าไปดูเดอะ วอยซ์ แล้วเล่าว่าเขาไม่สนว่าเป็นใคร เป็นแชมป์มาแล้วหรือเปล่า ไม่สนจะอ้วนหรือแก่เลย ลองไปไหมครับ เผื่อจะมีโอกาส

ปกติเป็นคนไม่ชอบประกวด มีน้องที่เป็นแอดมินให้เพจอยู่ตอนนี้ก็แนะนำอีก เผอิญเราสนิทกับน้องเข้ม ที่เข้ารอบปีที่แล้ว เขาบอกยืนยันว่าเข้ารอบถึงแบทเทิลแล้ว งานเยอะจริงๆ พี่ ลองดูนะ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ลองดู

แล้วเขาก็เปิดโอกาสแล้วไง ก็ตัดสินใจไปก็ได้ ก็ไม่คิดว่าจะได้ เพราะหลายท่านเป็นถึงแชมป์ เข้าไปก็ไม่ได้ก็มี เราก็เลยคิดจะได้ไหมนะ เขาถึงบอกให้คิดว่าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ก็เลยลองไปดูแล้วปรากฎว่าได้


เดอะ วอยซ์ ช่วยให้กลับมาสู่กระแสอีกครั้ง ด้วยการร้องที่มีอินเนอร์สูงอย่างเพลง "เจ็บนี้จำจนตาย" ซึ่งมีวิธี "แสดงโชว์" แตกต่างจากนักร้องคนอื่น ออกแบบการร้องแบบนี้อย่างไร

บังเอิญที่ช่วงนั้นตกงาน สอนแค่เสาร์-อาทิตย์แล้วได้ดูละครเรื่องนี้ (สุดแค้นแสนรัก) เราก็รู้สึกเพลงเพราะ เพลงโดน ความหมายใช่ พี่ก็ใช้วิธีเวลาร้องก็เก็บความแค้นในชีวิตเอามาใส่กับการร้อง

แต่การร้องจริงๆ นึกถึงใครไม่ได้ ได้แต่นึกถึงเนื้อเพลง เพราะพี่เป็นคนตื่นเต้นมาก ยิ่งเวลาแข่ง แล้วเป็นคนที่ตื่นเต้นแล้วจะแต่งเนื้อเอง เพราะฉะนั้นต้องใช้วิธีเพ่งสมาธิกับเนื้อเพลง พี่ก็นึกภาพว่าละครฉากนี้เป็นอย่างนี้ เอาอารมณ์ตามเพลงไปเลย


(ทุกเพลงเป็นแบบนี้ไหม?) แนวนี้ค่ะ อย่างที่พูดว่าคิดว่าร้องคือการพูดอยู่ แล้วถ้าพูดด้วยความรู้สึกของพี่เองเป็นอย่างนี้ ฉันรู้สึกเสียใจแบบนี้นะ ฉันแค้นเธอมากนะ อย่าทำฉันอย่างนี้นะ โมโหแล้วนะ เอาตามที่เราสร้างภาพขึ้นมาจากคำพูดที่เราพูดออกไปค่ะ


มองกระแสตอบรับช่วงประกวดเดอะ วอยซ์ เป็นอย่างไรบ้าง

ค่อนข้างเกินความคาดหมาย ปลื้มปิติ ไม่อยากเชื่อว่าจะยอมรับคนที่ร้องเพลงค่อนข้างออกแนวโบราณขนาดนี้ และเขาให้กำลังใจตลอด ก็มีคนว่าด้วยว่าร้องโบราณ แก่

ตำแหน่งที่ได้มาไม่พอใจหรือ เป็นแชมป์มาแล้วยังไม่พอเหรอ เราก็ไม่ได้สนใจ นึกถึงแต่คนชื่นชอบ รักเรา ส่วนใหญ่คนที่ชื่นชอบจะเยอะ เราใช้ตรงนี้เป็นกำลังใจไม่ให้รู้สึกท้อ


ความคิดเห็นที่บอกว่าร้องโบราณ อาจติดภาพจำบางอย่างหรือเปล่า

ติดภาพว่าพี่เป็นนักร้องประกวดเหรอ จริงๆ รายการนี้ก็เป็นการประกวด ปกติที่ร้องทำงานก็ร้องเพลงเบาๆ นอกจากว่าในรูปแบบของเพลงจำเป็นที่ต้องร้องแบบนี้อยู่แล้ว

ถ้าเพลงเป็นแบบนี้แล้วร้องเบาๆ มันก็ไม่เข้ากับเพลง ก็ไม่สามารถตีความหมายออกมาได้ ปกติที่ร้องเพลงทำงานทั่วไปก็ร้อง "เพลงฟัง" แต่นี่คือการแข่งขัน การแข่งขันก็ต้องเอาความสามารถที่ตัวเองทำได้ดีออกมาใช้


จริงๆแล้วชอบเพลงแนวไหน

ชอบเพลงซึ้งๆ โรแมนติก ชอบฟังแล้วซึ้งๆเศร้าๆ


ตัวตนในแง่นักร้อง จริงๆแล้วนำเสนอตัวตนออกมาแบบไหน

น่าจะเป็นเทคนิคการร้องมากกว่า แล้วก็ตัวโน้ตของเพลง และสไตล์ของเพลงนั้น จำเป็นต้องทำแบบนี้ พี่ก็แค่ทำให้ถึงความหมายของเขาให้ได้ ตัวโน้ตก็ต้องให้แตะ เราเป็นครูแล้วไง

ก็ต้องแตะโน้ต ร้องพยายามไม่ให้เพี้ยน ไม่ให้น่าเกลียด พอเราร้องแบบนี้แฟนคลับก็แบบขอเพลงใหญ่ๆ เพลงที่มีความหมายยิ่งใหญ่ เขาคาดหวังกับเรา แล้วเราก็ต้องทำให้ดีเท่ากับที่เขารอฟังเรา


จากการประกวดในรอบสุดท้ายมองผลอย่างไร


จริงๆ ไม่คิดว่าจะเข้าถึงรอบนี้นะ รอบแบทเทิลก็โอเคสำหรับฉัน รอบน็อคเอาท์ก็รู้สึกโอเคสุดยอดเลิศมาก พอรอบไลฟ์ก็แค่นี้ก็โอเคแล้วมีงานแล้วมีนามสกุลเดอะวอยซ์แล้ว คิดว่าต่อไปนี้คงไม่ตกงานแล้ว

คือคิดแบบนี้ไงแต่พอมาถึงรอบไฟนอล 4 คนสุดท้ายก็คิดว่าคงไม่ขนาดนั้นแล้ว คิดว่าแฟนเพลงคงเลือกวัยรุ่นแฟนคลับก็ต้องเลือกวัยรุ่น น้องๆ ผู้ชายก็ร้องดี ของเราแนวโบราณแล้ว

ได้ยืนตรงนี้ก็สุดยอดแล้ว เลยคิดว่าคงไม่ได้ตำแหน่งแต่เมื่อเข้าไปถึง 4 คนก็จัดเพลงที่แฟนเพลงขอซะเลย เราก็ตั้งใจว่าจะทำโชว์ให้ดีที่สุด เพราะตอนนี้ยูทูบมีความหมายมาก

ตรงที่จะอยู่ไปชั่วลูกชั่วหลาน เราเลยตั้งใจว่าจะทำโชว์ของเราให้เพอร์เฟ็กต์ที่สุด ให้อยู่ไปแม้กระทั่งเราตายแล้วลูกก็จะภูมิใจว่าแม่ฉันเคยร้องอยู่เป็นเวอร์ชั่นที่ไม่เคยมีใครทำ พี่ก็คิดแค่นั้น

แต่พอประกาศเป็นคนแรกว่าคะแนนสูงโอโหแบบว่ากรี๊ดเลย ร้องไห้กลายเป็นว่าจากไม่หวังเป็นหวัง คือพอถึงตรงนี้ใครไม่หวังก็คงเป็นไปไม่ได้ เราก็เริ่มหวัง


หลังรู้ผล ย้อนกลับไปแล้วรู้สึกอย่างไร หรือดูคลิปตัวเองแล้วรู้สึกอย่างไร

ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ ยังไม่มีเวลาดู (หัวเราะ) เราไม่คิดอะไร คิดว่าทำดีที่สุดแล้ว ลูกพูดว่าแม่ครับ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรแล้ว แค่นี้ก็ปลื้มใจที่สุด ผมรักแม่มาก แค่นี้คือเกินความฝันเราแล้ว

ถ้าได้ก็เหมือนถูกรางวัลที่ 1 แต่ไม่ได้แค่นี้ก็โอเคสำหรับเราแล้ว น้องเบสต์ได้ก็ดีมาก น้องเขาร้องเพราะ น้องเขาจะไปปลูกบ้านให้แม่ เราสนับสนุนอยู่แล้ว


ได้อะไรจากการประกวดครั้งนี้

ได้แนวทางการร้องเพลงแบบใหม่ได้ร้องเพลงที่เป็นเวอร์ชั่นของเราเองกล้าพูดได้เลยว่าตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยร้องเพลงกับวงไหนแล้วมีความสุขเท่ากับวงเดอะบีกินส์เขาเล่นด้วยหัวใจจริงๆภาษาดนตรีว่าทุกเม็ดที่เล่นออกมามีความสุขมาก


ได้รับรางวัลหรือสิ่งตอบแทนอื่นๆ ไหม

ยังไม่ทราบเลยค่ะ ก็มีแจ้งมาบ้าง แต่ยังไม่กล้าพูดเพราะยังไม่แน่ชัด (นอกจากที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม มีสิ่งอื่นที่ได้ในแง่โอกาสกลับสู่วงการอีกครั้งไหม) คือมีแฟนคลับซึ่งเกิดมา

เหลือครึ่งสุดท้ายของชีวิตไม่คาดคิดเลยว่าจะมีแฟนคลับ อย่างโค้ชก้องที่เราเห็นในทีวี อุ๊ยตาย อยากเจอมากคนนี้ ไม่เคยคิดว่าจะได้กอด ได้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ ได้ร้องเพลงคู่ ต่อมาก็กลับมาแล้วทุกคนยอมรับเรา มันภาคภูมิใจมาก

ตั้งแต่เข้าประกวดก็มีร้องประจำที่โรงแรมดุสิตธานี มีงานอีเวนท์เยอะมาก แถมได้พ่วงคู่แบทเทิลมา อย่างป้าไก่ ถ้าติดภารกิจลาหยุด ป้านกก็มาแทน แฟนคลับก็มาให้กำลังใจค่ะ ได้เพื่อนที่นิสัยดีมาก


เป้าหมายหลังจากนี้คืออะไร

เห็นว่าเขาจะมีซิงเกิลออกมา แต่ยังไม่ทราบว่าจะแนวไหนจริงๆ ตอนที่เข้ารอบสุดท้ายก็หัดร้องเพลงซิงเกิลอยู่แล้ว ใครได้แชมป์ก็ร้องเพลงซิงเกิลของตัวเอง

น้องเบสต์ได้ก็ได้ร้องออกมาก่อนเป็นเพลงคัฟเวอร์เพราะแต่งไม่ทันกำลังแต่งใหม่ แต่ตอนนี้พี่ถือว่าพี่เกิดใหม่ คนเก่าที่เคยเป็นสยามกลการเมื่อ 26 ปีที่แล้วตายไปแล้ว ตายไปนานแล้ว ตอนนี้เกิดใหม่กับเดอะ วอยซ์ อะไรที่เดอะ วอยซ์ เขามอบให้เรา เรารับหมด


(ถ้ามีประกวดรายการใหม่ๆ จะตัดสินใจลงไหม?) คงไม่ประกวดแล้ว ที่กลับมาครั้งนี้เรากลับมาทำสิ่งที่เรารัก ได้กลับมายืนบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ ได้ทำสิ่งที่เรารักมีคนสนับสนุนให้กำลังใจ คอยให้กำลังใจเวลาท้อ

ไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว ร้องจนกว่าไม่มีแรงร้อง ท่านใดที่ยังสนับสนุนให้เราไปร้องก็จะร้องไปจนกว่าเราจะหมดแรง และจนกว่าลูกจะเรียนจบก็จะหมดห่วงแล้ว ไม่ได้วาดหวังอะไรไปมาก


ฝากอะไรกับแฟนคลับหรือคนที่ติดตามผลงาน

อยากบอกว่าขอบคุณมากที่เป็นกำลังใจให้ทุกครั้ง ทั้งๆที่ไม่เคยเจอหน้ามาก่อนถ้าเป็นภาษาผู้ใหญ่เขาเรียกว่าขอบคุณที่เป็นกัลยาณมิตร เราไม่เคยเจอหน้ามาก่อน ไม่เคยรู้จักมาก่อน

แต่กลับให้กำลังใจและจริงใจมากๆ มาหามาเจอกัน มันมีความหมายมากปลื้มใจมาก และขอบคุณที่ปูทางให้ป้ากลับมาอยู่ในวงการอย่างสมศักดิ์ศรี และมีเกียรติมากๆ เลยขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ




ขอบคุณ มติชนออนไลน์

อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ


Create Date : 27 ธันวาคม 2558
Last Update : 27 ธันวาคม 2558 12:26:41 น. 0 comments
Counter : 2332 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.