เสือชีตาห์วิ่งเร็วที่สุดในโลก .. กระโดดได้สูงถึง 4.5 เมตร
เสือชีตาห์
คิง ชีตาห์ (King cheetah) สายพันธุ์ที่สวยที่สุด เนื่องจากมีลายจุดเป็นขีด และมีขนาดใหญ่ที่สุด
เสือชีตาห์ เป็นแมวชนิดหนึ่ง เนื่องจากมันสามารถครางได้ แต่เพราะรูปร่างภายนอก ทำให้คนส่วนใหญ่เรียกว่า เสือชีตาร์ เสือชีตาร์มีที่อยู่อาศัยในทุ่งหญ้าสะวันนา เป็นสัตว์ที่วิ่งได้เร็วมากวิ่งได้เร็วประมาณ 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จัดเป็นสัตว์บกที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก
เป็นผลมาจากความสามารถในการโค้งงอของกระดูกสันหลัง ในการเคลื่อนที่และเมื่อพุ่งตัวกระดูกสันหลังจะเหยียดออก ปัจจุบันเสือชีตาห์ลดจำนวนลงในทวีปเอเชีย เหลืออยู่แค่ในอิหร่านไม่เกิน 20 ตัว ส่วนในอาฟริกาประมาณการว่าเหลืออยู่ราว 4,000 ตัวเท่านั้น
เสือชีตาห์ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Acinonyx jubatus และจัดเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์เดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Acinonyx
ลักษณะทั่วไป
เป็นเสือรูปร่างเพรียว ขนาดเล็กกว่าเสือดาวเล็กน้อย ขาขาว ขนหยาบ สีเขียวอ่อนอ่อน จนถึงสีเขียวอมแดง ตามลำตัวมีลายจุดเป็นสีดำ ปลายหางหนึ่งในสามมีวงแหวนสีดำ ปลายสุดสีขาว มีเส้นสีดำจากใต้หัวตามาที่มุมปากทั้งสองข้าง หูเล็กกลม ขนท้ายทอยยาวและตั้งขึ้นเป็นแผง คอสั้น
พันธุ์ที่มาจากโรเซียมีดวงตามตัวติดกันเป็นแถบสีดำยาวเรียก King cheetah คาดว่าเป็นการผ่าเหล่าของพันธุ์แท้ เสือชีต้าหดซ่อนเล็บไว้ในอุ้งเล็บไม่ได้ นอกจากตอนอายุน้อยไม่เกิน 15 สัปดาห์ เนื่องจากช่วงนี้ หนังหุ้มเจริญตัวดีมาก หลังจากนั้น หนังหุ้มจะหดหายไป เป็นเสือวิ่งเร็วที่สุดในช่วงสั้น อุ้งเท้าเล็บแคบกว่าเสือชนิดอื่น
ถิ่นกำเนิด
เสือชีตาห์พบในทวีปแอฟริกาตั้งแต่ตอนใต้ ของทะเลทรายซาฮารา บริเวณทุ่งหญ้าในตะวันออก และตอนใต้ของอาฟริกา นอกจากนี้ยังพบในอินเดีย บางส่วนของอิหร่านและอัฟกานิสถาน
เสือชีตาห์มีสายพันธุ์ย่อยทั้งหมด 6 สายพันธุ์ ได้แก่
A. j. venaticus พบในแอฟริกาเหนือ A. j. hecki พบในแอฟริกาตะวันตก A. j. raineyii พบในแอฟริกาตะวันออก A. j. jubatus พบในแอฟริกาใต้ A. j. soemmeringii พบในแอฟริกากลาง A. j. velox
ถิ่นอาศัยและการล่าเหยื่อ
อาศัยอยู่ตามลำพัง ตัวผู้ที่เป็นพี่น้องกันจะรวมกลุ่มกันอยู่ และมีอาณาเขตร่วมกัน เสือชีตาห์เป็นสัตว์ที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลก สามารถทำความเร็วได้ถึง 80 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่มันจะวิ่งได้เพียงระยะสั้นเท่านั้น
อาหารของมัน ได้แก่ กวางขนาดเล็ก เสือชีตาห์สามารถฝึกให้เชื่องได้ง่าย ในสมัยโบราณมักถูกนำมาฝึกให้ล่าสัตว์ ชอบอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าแห้งแล้ง ปีนต้นไม้ไม่เก่ง แต่กระโดดได้สูงถึง 4.5 เมตร ใช้การถ่ายปัสสาวะเป็นเครื่องกำหนดอาณาเขตของมัน
ชอบล่าเหยื่อเป็นกลุ่มเล็ก ๆ โดยซ่อนตัวบนที่สูงกว่าเหยื่อ เมื่อพบเหยื่อจะหมอบคลานเข้าไปหาและจะอยู่ใต้ลม พอเข้าใกล้เหยื่อ จะใช้เท้าหน้าตะบบให้เหยื่อล้มลงแล้วกัดที่คอ ชอบกินเลือดสด ๆ และเครื่องใน มีตับ ไต หัวใจ และจมูก ลิ้น ตา เนื้อที่หัวซี่โครงและขา นอกนั้นไม่ค่อยกิน
มันไม่ลากซากไปกินและไม่หวนกลับมากินซากเดิมอีก ซากเน่าปกติไม่กิน นอกจากหิวจัดจริง ๆ
ปกติเหยื่อขนาดปานกลาง เช่น แอนติโลป พวกกาเซลล์อิมพาล่า วิเตอร์บัค แต่เหยื่อขนาดใหญ่ เช่น ม้าลาย คูได ก็ล่าได้ นอกจากนี้ก็ล่า พวกกระต่ายป่า สัตว์แทะ นก รวมทั้งแพะ แกะด้วย กินทั้งหนังและขนของเหยื่อ อาหารแร่ธาตุและไวตามินส์เป็นสิ่งสำคัญของเสือชนิดนี้
การสืบสายพันธุ์
ท้องนาน 90 95 วัน ตกลูกครั้งละ 1 8 ตัว ลูกลืมตาได้เมื่ออายุ 8 11 วัน ตามองเห็นเมื่ออายุ 20 วัน กินอาหารแข็งได้เมื่ออายุ 3 สัปดาห์ไปแล้ว และหย่านมเมื่อ อายุ 10 สัปดาห์ไปแล้ว ลูกตายมากในช่วง 8 เดือนแรก ตัวเมียเป็นสาวผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุประมาณ 2 ปี ศัตรูของลูกชีตาห์ คือ สิงโต เสือดาว สุนัขไฮอีน่า และหมาป่า
การเลี้ยงเสือชีตาห์มีผู้แนะนำให้แยกตัวผู้และตัวเมียไว้ต่างหาก ให้นำมารวมกันเฉพาะระยะผสมพันธุ์เท่านั้น หลังจากผสมพันธุ์กันแล้วมันคงอยู่ด้วยกันอีกนานไม่แยกจากกันทันทีเหมือนสัตว์อื่นบางชนิด
เคยพบพ่อช่วยเลี้ยงลูกอ่อนด้วย แต่ก็มีรายงานพ่อและแม่กินลูก เหมือนกัน โดยเฉพาะแม่เสือสาวมักไม่ค่อยรับลูกและไม่ยอมให้ลูกกินนม การพยายามแยกลูกมาเลี้ยงเอง ยังไม่มีใครทำสำเร็จ
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สวัสดิ์สิริศนิวาร สิริมานปรีดิ์เขษมนะคะ
Create Date : 08 มกราคม 2554 |
|
3 comments |
Last Update : 8 มกราคม 2554 10:11:44 น. |
Counter : 4737 Pageviews. |
|
|
|
ด้วยความยินดีอย่างยิ่งค่ะ