cyber_aum
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




<*center><*/center>
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
1 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cyber_aum's blog to your web]
Links
 

 
เด็กเปื่อย(หรือนี่ ??)

โทรฟี่เริ่มมีน้ำมูกใสๆ เช้าวันเสาร์ที่พาไป CTW


ก็ให้เค้าทาน Maxiphed ตามปกติ แต่..ไม่ได้ให้ทานยาละลายเสมหะ


เพราะปกติ ถ้าหมอจ่ายยาพวกนี้จะให้กินคู่กัน เพราะว่ายาลดน้ำมูกทำให้น้ำมูกข้นๆ



วันจันทร์ อาการเริ่มหาย น้ำมูกแทบไม่เห็น มีแต่แห้งๆในจมูก


เลยให้โทรฟี่ไปเรียนที่โรงเรียนได้


โทรฟี่งอแง เพราะว่าหยุดไปหลายวีค


ท๊อดก็ไปตามครูนุช ให้ออกมารับโทรฟี่จูงมือกันเข้าห้อง น่ารักมั่กๆๆๆ





แต่............


ตอนเย็นวันจันทร์หลังจากปั่นงานเสร็จ กลับไปบ้าน



ที่บ้านก็บอกว่า โทรฟี่เริ่มมีอาการหอบ หายใจเข้าออกลำบาก



อุ๋มลองดูอาการ จับที่อกเค้า .. อกเค้ากระเพื่อมมากเวลาหายใจ


ที่คอก็บุ๋มลงไป เสียงพูดขาดๆเวลาหอบ


ข้าวปลาไม่ทานแล้ว..รีบบึ่งไปหาหมอ ด้วยอาการที่แม่ตกใจจนโทรฟี่งง


โชคดีที่เจอหมอพิวัฒน์ หมอประจำของโทรฟี่ตอนเล็กๆ


ตอนหลังไม่ได้มาหาหมอพิวัฒน์ เพราะมาไม่ตรงกับเวลาที่หมอออกตรวจซะที


รอบนี้หมอพิวัฒน์อยู่ ก็รีบบอกเจ้าหน้าที่ด้านหน้าว่าจะตรวจกับหมอพิวัฒน์



โทรฟี่เริ่มร้องไห้ งอแง ไม่อยากชั่งน้ำหนัก แล้วก็หอบไปด้วย


แต่ก็ยังดีที่ยอมยืน ในมือก็ถือลิปมัน ที่เพื่อนอุ๋มซื้อมาฝากจากเกาหลีไม่ยอมวาง 55



หมอเห็นว่าร้องไห้ ก็ให้พี่ทรายพายืนนอกห้องแล้วบอกว่า น่าจะเพราะอุ๋มออกอาการตระหนก


เอ่ออ..ยอมรับว่าตกใจมากจริงๆ...!


เพราะระหว่างขับรถมา โทรฟี่หอบตลอด เสียงหายใจดังน่ากลัวมาก



คุณหมอพาโทรฟี่เดินเที่ยวรอบหวอดเด็ก ป้อนขนม เป่าลูกโป่งให้ ติดสติ๊กเกอร์ให้ ฯลฯ


จนโทรฟี่เริ่มสงบนิ่ง .. ก็มาตรวจกันนอกห้องตรวจ


ตรวจไป ดูวิวไป แล้วหมอยังไม่ฟันธงว่าเป็นอะไร แต่หอบแน่ๆ


โทรฟี่เค้าไม่มีไข้ ไม่แพ้อาหาร ไม่แพ้ยา ฯลฯ


หมอเลยพูดรวมๆ ว่าอาการหอบอาจจะเกิดโรคอะไรได้บ้าง


ไม่ว่าจะ ปอดบวม หอบหืด หลอดลมอักเสบ H1N1 ฯลฯ


หรือว่าติดแม่มา เพราะอุ๋มก็มีอาการไอแบบมีเสมหะมาก่อนหน้านี้



หมอก็สั่งยาให้เผื่อมีไข้สูง พร้อมกำชับว่า ให้เก็บไว้ก่อนไม่จำเป็นจริงๆอย่าให้กิน


ยาอื่นๆ พวกขยายหลอดลม สลายเสมหะ ลดน้ำมูก


เพราะกลัวว่า ถ้ามีไข้ ก็อาจจะเข้าข่ายปอดบวม หรือฯลฯ


พร้อมทั้งให้ไปพ่นยา เพื่อโทรฟี่จะได้หายใจได้สบายขึ้น


ในที่สุดโทรฟี่ก็มีหน้ากากกุ๊กไก่ (แต่สมิ..เป็นหน้ากากหมาน้อยนะ) เป็นของตัวเองเรียบร้อย



พยาบาลเปิดพี่ Barney ให้ดูประกอบการพ่นยา


โทรฟี่ก็ร้องไป เงียบไป ตามฉากในการ์ตูน


ฉากไหนน่าสนใจก็เงียบ ฉากไหนไม่น่าสนใจอ้าว..นึกได้ว่าต้องร้องต่อ


ส่วนเราเป็นแม่มีทางเดียว คือ ต้องอดทน ใครจะว่าซาดิสก์ก็เอาเหอะ


เพราะแม่ทุกคนไม่อยากเห็นลูกร้องหรอก


แต่ถ้าเค้าพ่นแล้วดีขึ้น มีคำเดียวคือ ต้องอดทน


เพราะวัดจากปริมาณ O2 ก่อนและหลังพ่นยาแล้ว เค้าดีขึ้นจริงๆ





หมอตรวจหลังพ่นยาเสร็จ แล้วก็ให้กลับบ้าน


พร้อมบอกว่า ยาที่พ่นได้ประมาณ 6 ชั่วโมง แต่ดีสุดคือ 2 ชั่วโมงแรก


ถ้าเค้ายังหอบอยู่ ก็ให้พามาที่ฉุกเฉิน ไม่ต้อง admit เพราะบ้านใกล้


(อื่ม..เป็นข้อดี ไม่ต้องเสียตังค์ 55)



ป่าป๊าไปบินบริสเบนท์ จัดการ sms บอกป่าป๊าว่าให้โทรมาด่วน


ป่าป๊าตกใจมาก เพราะตอนแรกเราบอกว่า รมยาเรียบร้อย


ป่าป๊านึกว่า รมยาสลบ T T


อธิบายจนกว่าจะเข้าใจ.. เล่นเอาบ่อน้ำตาแตกไปเรย


ตอนนั้นนึกไปสารพัด ถ้าโทรฟี่เป็น xxx แล้วเราจะทำไง อนาคตจะเป็นไง


อีกหน่อยเค้าจะหอบมั๊ย หายใจออกมั๊ย ที่โรงเรียนจะเป็นไง


ฯลฯ


แบบว่า ฟุ้งซ่านมากๆ เลยทำให้ร้องไห้จนพี่แมนยิ่งใจเสีย



แต่สิ่งหนึ่ง .. ที่ทำให้เราคิดว่า เราจะร้องไห้ไม่ได้


เพราะลูกเห็นเราร้องไห้ เค้าสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเรา


โทรฟี่เค้ามาเช็ดน้ำตา เข้ามากอด ซบที่ตัก แล้วก็หนุนตัก


ทำเสียงอ้อนๆ ทำให้เรารู้ว่าเค้ารู้สึกได้แล้วเศร้าไปกับเราด้วย


(โอ้ย..เขียนตอนนี้ นึกภาพแล้วจะร้องไห้ง่ะ แงงงงง)



โทรฟี่ก็น่าสงสาร หอบแต่ก็ยังอยากจะพูด


พูดไปก็เสียงหายไป ไม่ต้องพูดถึงว่าคนเป็นแม่จะคิดยังไง


กอดลูกแล้วก็คุยกับลูก ตอนนี้แอบร้องไห้ตอนซบลูกอีกแระ


แงง .. แต่ก็ต้องแอบๆ


เค้าก็ยังมีอาการหอบ แต่ก็สามารถนอนหลับได้นะ


อุ๋มก็กว่าจะนอน เกือบๆ เที่ยงคืน ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ตอนตี 1


(และทุกครึ่งชั่วโมง 55 กลัวหลับ)


เพราะว่าเป็น ชั่วโมงที่ 6 พอดี แต่ก็หลับๆตื่นๆตลอด



ตี 1 โทรฟี่เริ่มมีอาการหอบ ที่ทำให้เราสงสัยว่านี่หอบหนัก หรือไม่หนัก


จนจมูกเริ่มบานตอนประมาณตี 1 ครึ่ง.. ก็รีบเคาะประตูห้องปู่ย่า


แล้วก็บึ่งไป ร.พ. เลย



ดีที่ไม่มีไข้ หมอเวรเลยบอกว่าเค้าไม่น่าจะปอดบวมแต่อาจจะหลอดลมอักเสบ


ให้ยามาอีกตัว แล้วก็ไปพ่นยา


โทรฟี่ร้องไห้ อาจจะเพราะว่าตื่นมากลางดึกด้วย ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ๋


ปากก็บอกว่า เอามัฟฟินสตาร์บัค เอิ่ม จะตีสองเนี่ยนะลูก


ร้องจนฉี่ราดรดแม่กันเลย


วัดปริมาณ O2 ก่อนหลังแล้วดีขึ้นอีกครั้ง





กลับบ้านโทรฟี่นอนดีขึ้น.. หลับจนถึงเช้า


โทรฟี่ตื่นมาปลุกแม่ตอน 7 โมงเช้า ยังมีอาการหอบอยู่นิดหน่อย


ก็ให้เค้ากินยาขยายหลอดลม แล้วก็ยาอื่นๆอีกตามที่หมอสั่ง



หมอบอกว่าไม่ให้โทรฟี่เล่นจนเหนื่อย อยากให้อยู่เฉยๆ


ซึ่งเป็นเรื่องยากมากสำหรับโทรฟี่


วันนี้เราเลยเป็นวันที่แม่อนุญาตให้โทรฟี่ดูทีวีแทรกระบายสีได้ทั้งวัน


เล่นหวีผมให้แม่ แล้วก็เล่น Phonics เล่นขายของกันจนโทรฟี่อยากออกนอกบ้าน


ก็เลยปล่อยตอนช่วงบ่ายๆ ให้ไปดูเรือ ไปเดินเล่นบ้าง










ยังดี ที่โทรฟี่ยังสามารถทานข้าวได้


ตอนเช้า ไข่ดาว ไส้กรอก ซุปมักกะโรนี


ตอนกลางวัน ก๋วยเตี๋ยวแซลมอน ใส่ลูกชิ้น


ตอนเย็น แกงจืดหัวไขเท้ากระดูกหมู (กินแต่เนื้อเปื่อยๆนะ)


ที่สังเกตคือ โทรฟี่คงหอบเหนื่อย เพราะว่าจะกินน้ำเยอะกว่าปกติมาก





ตกเย็น พาไปพ่นยาอีกรอบ


หมอบอกว่า อาการดีขึ้นจนสามารถควบคุมได้ ก็ไม่ต้อง admit เนอะคุณแม่เนอะ


เป็นแล้วก็เอามา ร.พ. นี่แหละ ..


คราวนี้โทรฟี่พ่นยา ร้องครึ่งทาง ไม่ร้องครึ่งทาง


แถมกลับมายังคุยให้คุณปู่คุณย่า และแม่บ้านฟังอีก


ว่าโทรฟี่เก่งมากเยย พ่นยาไม่เจ็บเยยด้วย


แล้วก็รบเร้าว่า อยากไป รร อยากไปเจอท๊อด เจอเพื่อน เจอครูบี


ก็เลยคิดว่า จะพาโทรฟี่ไปลาครูช่วงเช้า เก็บของกลับบ้าน


อุ๋มอยู่กับเค้าด้วย(หน้าห้องเรียน) แล้ว 10 โมง ก็ขอกลับก่อนไปหาหมอ


เพราะวันนี้(จำเป็นที่จะต้อง)เป็นวันสุดท้ายของภาคการศึกษานี้


ทางโรงเรียนอยากให้นักเรียนอยู่บ้าน และปลอดภัยที่สุดในช่วงปลายอาทิตย์


T T



แต่ตื่นเช้ามา เด็กเบี้ยวซะนี่


รีบบ๊ายบายแม่แล้วบอกว่าโทรฟี่จะอยู่กับพี่ทราย 55


เลยรบกวนคุณย่าให้พาไปหาหมอ แล้วอุ๋มออกมาทำงาน


ตอนเช้าแวะเข้าไปคุยกับครูที่โรงเรียนคนเดียว


คุณครูก็ห่วงกันใหญ่เลย คิดถึงโทรฟี่ เพราะโทรฟี่ค่อนข้างเป็นเด็กร่าเริง



เมื่อกี้ได้โทรคุยกับหมอ หมอบอกว่าดีขึ้นมาก


ปอดไม่มีเสียงอะไร ไม่น่าเป็นห่วง วันนี้ไม่ต้องพ่นยา


แต่ให้ทานยาขยายหลอดลมต่อเนื่องอีก 2-3 วัน แล้วสังเกตว่ามีอาการหอบอีกหรือไม่


ฯลฯ


ซึ่งก็ไม่น่าเป็นโรคประจำตัวอะไร หมดจากงานนี้โทรฟี่ก็ร่าเริงลัลล้าได้ตามปกติ
เย่....


เฮ้อ...เป็นอาการหอบครั้งแรกของโทรฟี่


ที่ทำเอาแม่ปวดเศียรเวียรเกล้า กลุ้มใจ เสียใจ สารพัด


แต่ตอนนี้หายแล้ว ก็ขอให้โทรฟี่ สุขภาพดีๆ แข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วยนะลูกนะ ^^





ปิดท้ายด้วยรูปเด็กเปื่อย...[ตอนยังไม่เปื่อย]
ไปไดรฟ์กับป่าป๊าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาค่ะ

พัฒนาการตอนนี้ : คือตีลูกที่ไม่ได้ตั้งทีไปแล้วน๊า







ตีไป ตีมา ก็อู้เสียหน่อย ไม่กอล์ฟเลยกลายเป็นม้าฮี้กับๆๆๆๆ








Free TextEditor


Create Date : 01 กรกฎาคม 2554
Last Update : 1 กรกฎาคม 2554 15:41:05 น. 0 comments
Counter : 423 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.