กรุงโซล...วันที่ 1
ทริปเที่ยวเกาหลี (South Korea) 16 คืน 15วัน - อยู่ที่ กรุงโซล 5วัน - อยู่ที่ ปูซาน 6วัน - อยู่ที่ เชจู 4 วัน
31 มีนาคม 16 เดินทางมาถึงสนามบิน Incheon Airport ในเวลา 20:20 ยืนต่อแถวที่ ตม. (Immigration) ที่แถวยาวและช้ามากๆ กว่าจะดำเนินการเสร็จก็ปาเข้าไป 21:15 รีบเดินมาเอากระเป๋าที่เจ้าหน้าที่ได้เอาออกมาวางข้างนอกให้ เพราะว่ามันไปเกะกะกระเป๋าของไฟล์อื่น ๆ เดินไปหาแลกเงินได้มา 1,250 w ต่อ 1 ยูโร ก็ถือว่าใช้ได้อ่ะ
เอากระเป๋าได้ก็เดินออกมา มองหาร้านมินิมาร์ทที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ เพื่อจะซื้อบัตร T-Money และซื้อซิมเพื่อใช้ Internet แด่โชคร้ายจริง ๆ ซิมไม่สามารถใช้ได้ เพราะหมดอายุต้องรอวันจันทร์เพื่อเปลี่ยนเบอร์ ตอนนี้อารมย์เริ่มร้อนหน่อย ๆ เนื่องจากสื่อสารกันไม่ค่อยจะเข้าใจ คนเกาหลีไม่พูดภาษาอังกฤษเลย 22:05 ล่ะ
กะว่าจะนั่งรถไฟด่วนไปที่สถานีกรุงโซลเพื่อต่อไปที่พัก ก็เป็นอันว่าได้หมดเวลาไปสะก่อน จึงต้องนั่งแบบธรรมดาไป เดินหารถไฟใต้ดินกว่าจะเจอต้องถามเจ้าหน้าที่อีกว่าจะต้องทำไงเพราะงงอ่านภาษาเกาหลีไม่ออก แต่ก็ผ่านไปด้วยดี ถึงสถานีกรุงโซลอย่างปลอดภัยในเวลา 23:25
อากาศข้างนอกเริ่มหนาวเรื่อย ๆ ตัดสินใจไปแท็กซี่ดีฟ่าไม่รอแล้วรถเมล์ เห็นแถวยาวเหยียดอีกตามเคย ลุงแก่เดินวนไปวนมาแล้วถามว่า อยากจะไปถึงที่พักแบบเร็วไหม๊ 20,000 w..? เราได้แต่ส่ายหัวแล้วบอกว่าไม่ไปอะ ดีแต่ว่าแท็กซี่มาเป็นระยะ ๆ ทำให้ยืนรอไม่นานนัก แต่ได้แท็กซี่ก็ปาเข้าไป 23:50
ราคาแท็กซี่ที่จ่ายไปคือ 9,200 w ที่ต้องจ่ายเยอะเพราะว่า GPS บอกพิกัดแล้วแต่หาโรงแรมกันไม่เจอจนต้องเสียเวลาถอยรถไปมา สุดท้ายก็โทรให้เจ้าหน้าที่โรงแรมให้ออกมารับ จริง ๆ ค่าแท็กซี่แค่ 7,000 w และแล้วก็ถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพ เก็บกระเป๋าสัมภาระที่มากมายแล้วออกมาหาอะไรอร่อย ๆ กิน หิวมากชั่วโมงนั้น
แก้หนาวด้วยนี่เลยอาหารเรียกน้ำย่อย
00:32 เดินออกมาจากโรงแรมเพื่อหาอะไร ๆ ใส่ท้อง เดินไม่ถึงสองนาทีก็เจอรถไฟใต้ดิน มองไปอีกทางก็เจอเซเว่น อยากจะบอกว่ามันใช่เลยสำหรับข้าน้อย สุดยอดมากมีร้านอาหารของกินตลอดสองข้างทาง คนเมาเดินโซซัดโซเซเต็มถนนไม่กลัวรถจะชนกันเลยสักนิด ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายวัยทำงานสะมากกว่า จัดแจงเลือกที่นั่งแล้วสั่งอาหารที่มีแต่ชื่อกับราคาให้ดู ได้แต่ชี้ ๆ เอานี่โน้นนั้น จะออกมาแบบไหนก็ช่างมันชั่วโมงนี้กินเรียบ จ่ายค่าเสียหายไป 20,000 w ได้ จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะไม่แวะไปเยี่ยมเยียนเซเว่นได้นมเปรี้ยวกะกล้วยหอมมาราคาไม่แพงมาก
ที่นั่งกินยามดึกข้างถนน
01:20 เดินกลับที่พักแบบอุ้มท้องไปด้วย อิ่มอืดจนอึดอัด ณ เวลานี้ไม่มีอาบน้ำครับเนื่องจากอากาศเย็น แถมขี้เกียจหัวถึงหมอนหลับไปเป็นตายครับงานนี้...
วันศุกร์ 1 เมษายน 16 06:00 แหกขึ้ตาตื่นมาได้ไงเวลานี้ก็ไม่รู้ จะนอนก็นอนไม่หลับตัดสินใจลุกขึ้นมาอาบน้ำ เสร็จแล้วเดินออกจากโรงแรมแบบงงงวยว่าตรูจะไปทางไหนดีซ้ายหรือขวา ตัดสินใจเดินไปทางซ้ายมือ เดินไปเรื่อย ๆ ก็ไปเจอกับสถานที่แห่งนี้ Jongmyo Park ยังเข้าไม่ได้ต้องรอเวลา 10:00 โน้น จำต้องเดินต่อไปเรื่อย ๆ อีกออกสู่ถนนใหญ่ แล้วก็มองซ้ายขวาว่าจะไปยังไงดี แถมไม่ได้หยิบแผนที่หรืออะไรมาเลยนอกจากกล้องถ่ายรูป
Jongmyo Shrine
Jongmyo Park (Lee Sang Jae)
เดินผ่านสวนสาธารณะมาเรื่อย ๆ ก็เห็นลุงคนนี้จัดแจงใส่ถงมือ หยิบถุงพาสติดอออมา เราก็ว่าลุงจะทำอะไรอ่ะ..? พอยืนมอง ๆ สักแป๊ป ก็เข้าใจเพราะลุงท่านกำลังใช้ไม้คีบเก็บก้นบุหรี่ คีบขยะต่าง ๆ สวนแห่งนี้ดูสะอาดตา ห้องน้ำก็สะอาด แต่มันให้ความรู้สึกออกแนวแห้ง ๆ แล้ง ๆ ยังไงก็ไม่รู้เพราะดอกไม้ไม่มีเลยสักดอกอะจิ
คนเก็บขยะในสวนสาธารณะ
ออกมาสู่ถนนใหญ่เห็นผู้คนรถรามากมายยังกับอยู่เมืองไทยมันไม่ได้ต่างกันเลย ตลอดเวลาคิดว่าเคยคิดว่าเกาหลีจะมีสภาพบ้านเมืองและสิ่งแวดล้อมที่ดีเหมือน ๆ ในแถบยุโรป แต่มันไม่ใช่เลยเราคิดผิดถนัดไปอย่างเยอะเลย ถึงช่วงนี้เวลายังเหลือที่จะกลับไปโรงแรมเจอเพื่อน เพราะคงยังไม่ตื่นเป็นแน่แท้ จึงตัดสินใจเดินตามทางตรงไปเรื่อย ๆ คิดว่ายังไงก็คงไม่หลงทางแน่นอน
ผู้คนยามเช้าในถนนหลักใหญ่
ระหว่างทางที่เดิน ๆ อยู่นั้นมองเห็นคนไร้บ้านที่อาศัยหลับนอนอยู่ตามข้างทางมากมาย บ้างก็นั่งตากแดดอุ่นยามเช้า บางก็ยังคงนอนอยู่กับพื้น คนขอทานก็เช่นกัน จากตรงนี้ไม่กล้าถ่ายรูปสักเท่าไหร่กลัวจะโดนด่าเอา มองดูโน้นนี่นั่นถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ก็เดินมาถึงสถานที่แห่งนี้เป็นอีกสวนสาธารณะที่ไม่ใหญ่มาก ข้างในก็เช่นกันมีแต่คนแก่ ๆ ผู้ชายมานั่งคุยนั่งตากแดดกันเต็มไปหมด
Tapgol Park
The Pagoda
ผ่านเจ้าตึกสูง ๆ นี้ก็รู้สึกแดดเริ่มร้อนมากขึ้น เดินวนไปวนมามองหาที่นั่งพักเพื่อหาอะไรดื่มแก้ร้อนแก้กระหาย ได้ช็อคโกแลตเย็นแก้วใหญ่โตราคา 4,000 w นั่งกินลมชิล ๆ ฆ่าเวลาไปสักพัก จึงตัดสินใจที่จะกลับโรงแรมโดยเดินย้อนกลับไปทางเดิมที่เคยเดินผ่านมา
พอมาถึงโรงแรมเปิดแผนที่ดูที่ต่าง ๆ ที่เดินผ่านมา แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในกรุงโซลจะอยู่ไกล้ ๆ กันซึ่งถ้าเดินมันก็ใช้เวลาไม่นานเลยสักนิด จึงคิดได้ว่าทำไมจะต้องใช้รถไฟฟ้าให้หนักสมองไปทำไมในเมื่อเดินไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงจุดนี้แล้ว อีกอย่างรถไฟฟ้าเวลาเปลี่ยนสายทีเดินไกลมาก
Gyeongbokgung Palace
ออกจากโรงแรมก็ปาเข้าไปเที่ยงกว่าเข้าให้ เนื่องจากมัวแต่คุยเพลิน ๆ กับพนง.หนุ่มในโรงแรม แถมหนุ่มน้อยก็อาสาจะพาเราเดินลัดเลาะซอยเล็ก ๆ เพื่อไปที่พระราชวัง ภาษาอังกฤษของหนุ่มน้อยดีมาก ๆ แนะนำที่เที่ยวในละแวกไกล้เคียงกัน จากโรงแรมมาที่พระราชวังใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาทีได้เหงื่อไม่ออกแฮะ
Insa-dong
จากตลาดตรงนี้ได้แยกทางกับหนุ่มน้อย เราก็เดินดูของไปเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ จนเดินมาถึงจุดนี้จุดที่มองเห็นพูกันอันใหญ่ที่หนุ่มน้อยได้บอกไว้ ซ้ายมือแล้วให้เดินตามทางถนนใหญ่ไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับพระราชวังมองเห็นหลังคาลิบ ๆ
Buk (North) Insa Madang Plaza
ของกินยามเมื่อข้าน้อยยังเด็กเล็กนัก ระหว่างทางเดินไปพระราชวัง
Gyeongbokgung Palace
และแล้วเราก็มาถึงสักที คนเยอะมากขอบอกทั้งเกาหลี จีน แถมคนไทยเพียบยังกะอยู่เมืองไทยเลยนิ ได้ยินแต่คนภาษาไทยคุยกัน เดินไปต่อคิวซื้อบัตรเพื่อเข้าด้านในที่ใหญ่โตอลังการกว้างขวางเดินจนขาลาก ยังดูเหมือนไม่สิ้นสุดสักที แต่ยอมได้ที่ไหนล่ะ มาแล้วต้องไปให้คุ้ม ไม่ได้มากันบ่อยสะที่ไหน อิอิ
กำลังต่อเติมทำหลังคา
เข้าใจก็ตอนนี้แหละว่าทำยังไง
นี่ออกแนวคล้าย ๆ เพิงหมาแหงนแบบศิลปะ ชอบมาก
กะว่าจะอยู่ที่นี่สักสองชั่วโมงจะได้ไปที่อื่นต่อ แต่ที่ไหนได้ข้าน้อยเดินอยู่จนเค้าปิดทำการ เพราะมันกว้างใหญ่เอามาก ๆ แต่ละที่พลาดได้สะที่ไหน ยังไปเล่นของเล่นต่าง ๆ ในสวนสำหรับเด็กอีกต่างหาก ก็นะพอเย็น ๆ มาอากาศก็เย็นสบายคนเริ่มทยอยออกไปทำให้ถ่ายรูปออกมาได้สวยผู้คนไม่เยอะอันนี้ชอบอย่างแรง พอเดินออกมาจากพระราชวังก็ต้องมาเดินต่อที่นี่จุดสำคัญ ๆ ไกล้ ๆ กันเพียงแต่ข้ามถนนมาเท่านั้น และอีกอย่างหาอะไรลองท้องน้อย ๆ ตอนนี้หิวตาลาย
เดินหาของกินไปตามทางเฉิบ ๆ แบบไม่ต้องรีบ ของกินข้างทางนี้มีแต่ของอร่อย ๆ ได้รสชาติไม่แพ้ร้านอาหารแถมราคาถูดเอามาก ๆ กิน ๆๆ หมดไปหลายเหมือนกัน 1,000 w หลาย ๆ วอนมันก็เยอะ ฮ่าฮ่า สองข้างทางมีแต่ร้านอาหารคนเกาหลีนี่กินไม่แพ้เมืองไทยจริง ๆ
ตอนนี้เรอออกมาแบบเสียงดังฟังเป็นภูเขาไฟระเบิดได้เลยอิ่มอย่างแรงมหันต์ นี่ก็เกือบจะ 18:00 หาทางเดินกลับโรงแรมยังไงให้ไม่ต้องเสียเวลา กำลังเดิน ๆ อยู่พอมองขึ้นไปเห็นเจ้าตึกสูงนั้นอีกแล้ว (Jongno Tower) แบบไกล้ชิดเลยที่นี่ สรุปเดินกลับทางที่เคยเดินมาเมื่อเช้านี้ก็จะถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพ ดึก ๆ ค่อยออกมาหาอะไรกินอีกรอบ
ออกมาหาอะไรกินรอบดึก ๆ ติด ๆ กับโรงแรมตอนห้าทุ่มคนเยอะมาก ๆ จัดไปหมูย่างแบบนี้ 1 ชุด เต็มโต๊ะจนไม่มีที่จะวางอะไรได้อีกแล้ว ตามด้วยเหล้าโชจูของเกาหลี ที่ข้าน้อยกระเดือกไปอึกเดียวกินไม่ลงอีกเลย สุดท้ายกินน้ำเปล่าไปส่ะ ครุครุ
ของกินเต็มโต๊ะจริง ๆ
โชจู แห่งเกาหลี
กินอิ่มหน่ำสำราญใจก็อดไม่ได้ที่จะไปเดินให้กระเพาะมันย่อยสักเล็กน้อย ดูอะไรเพลิน ๆ ยามดึก จะไม่ค่อยเห็นสาว ๆ วัยรุ่นออกมาเที่ยวกันเลย มีแต่ผู้ชายแก่ ๆ ขี้เมา กับวัยรุ่นผู้ชายเท่านั้นที่เสียงดังโวยวายกันสนั่นเมือง
นี่เมืองไทยใช่ไหม๊..? ตอบ...
จะเอาอะไรบอก...มีครบทั้งด้านหน้าด้านหลัง
รถเก็บขยะ
นี่ก็ยังอุส่าห์ถ่ายรูปอะนะ จริงไม่มีอะไรเพียงแต่เค้ามีระเบียบในการเก็บขยะที่ดีแค่นั้น เพราะก่อนที่เค้าจะเอามาวางแบบนี้ เราเห็นปิดด้วยสก็อตเทปอย่างแน่นหนา ทำให้สะดวกในการจัดเก็บของพนักงาน ก็ดีอะนะ...ลุยต่อไปวันพรุ่งนี้
Create Date : 17 พฤษภาคม 2559 |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2559 22:32:33 น. |
|
0 comments
|
Counter : 781 Pageviews. |
|
|