Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
5 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
ว่ายน้ำกับปลาโลมา

เช้านี้เวคอัพคอลตื่นตั้งแต่หกโมงครึ่ง เพราะจะไปว่ายน้ำกับปลาโลมาให้ทัน แปดโมงครึ่ง อาบน้ำแต่งตัวออกมารีสอร์ทยังเงียบสงบแสงแดดอ่อนยามเช้าสาดกระทบผิวน้ำดูเย็นตา เดินออกมาตามทางเดินเชื่อมบังกาโลก็ต้องหยุดมองสองข้างทางซึ่งเต็มไปด้วยปลานานาชนิด ออกมาว่ายกันแต่เช้า เป็นที่น่าสังเกตว่ายามเช้ากับกลางคืนจะมีปลาว่ายคลาคล่ำมากกว่าเวลาอื่นๆ เดินไปได้แป๊บคุณสามีก็ร้องเรียกให้มาดูปลากระเบนอินทรีย์ลายจุด ที่กำลังว่ายกระพือปีกสง่างามอยู่ในน้ำตื้นหมุนไปหมุนมาโชว์ตัวเต็มที่ เหมือนนางแบบเดินโชว์บนแคทวอล์ค ตบเท้ามาด้วยทรอปิคัลรีฟฟีชหลากสี หาอาหารกินอยู่ตามหมู่ปะการัง ทำเอาทัวริสท์จอมตื่นเต้นเดินกรี๊ดกร๊าดไปตลอดทาง

อาหารเช้าเป็นบุฟเฟต์หลากหลายสไตล์ มีขนมปัง เพสตรี้ โคลด์คัท นานาชนิดแบบยุโรป แถมด้วยเนยแข็งชนิดต่างๆ และซีรีล นมสด โยเกิร์ต ผลไม้มากมายก่ายกอง มีสถานีทอดไข่แบบอเมริกัน มีเบคอน หมูแฮม และไส้กรอกที่รสชาติจัดจ้านอร่อยมาก ขนมปังปิ้ง นอกจากนี้ยังมีปลาย่าง ปลาต้ม ปลาผัดซ๊อสต่างๆสารพัดปลาให้สมกับที่อยู่ทะเล แถมท้ายมาด้วยข้าวต้ม ซุปใสมิโซ ผักดอง และสาหร่ายแบบอาหารเช้าญี่ปุ่น แค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว ไม่รู้จะกินอะไรดี ไม่ยักมีข้าวต้มกุนเชียงให้แฮะ

เอาเข้าจริงก็ฟาดอาหารเช้าแบบอเมริกันนั่นแหละ หนักดี ไข่ดาวแบบกลับไข่ ไส้กรอก ขนมปังเนยน้ำตาล (แอบไทยนิดนึง) ชิมปลาเค้าสองคำแล้วตบท้ายด้วยสตรอเบอรี่กับซีรีลกับนมสด จนแน่นออกมานั่งรอรถมารับไปโรงแรมอินเตอร์คอนติเน็นตัล บีชคอมเบอร์ เพื่อไปเล่นน้ำกับปลาโลมา

ใช้เวลานั่งรถสิบนาทีก็ถึงโรงแรมบีชคอมเบอร์ซึ่งเป็นโรงแรมระดับเดอลุ๊กซ์หรูหรายอดนิยมโรงแรมหนึ่งของโมโอเรีย โรงแรมกินพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าเชอราตันมาก ห้องพักแบบอยู่ในตึกสองชั้นเรียงแถวอยู่หลายแถว และมีการ์เด้น บีช และโอเวอร์วอเตอร์บังกาโล ลากูนตรงนี้ไม่สวย ไม่ได้เป็นน้ำตื้นสีเขียวใสแจ๋วเห็นไปถึงไหนๆแบบเชอราตัน หากแต่เป็นน้ำลึกสีเขียวเข้ม บังกาโลเหนือน้ำก็ตั้งอยู่บนหาดทรายเกือบทั้งหมด มีเพียงส่วนบัลโคนีที่ยื่นเข้าไปในน้ำและมีบันไดให้เดินลงน้ำ (ลึกสีเขียวเข้ม) ดูแล้วน้ำไม่น่าเล่นเลยสักนิด นึกดีใจที่เลือกเชอราตันไว้เป็นอันดับแรก ถึงได้เอ็นจอยลงเล่นน้ำหน้าบ้านได้ทั้งวัน เดินเข้าไปช้อปปิ้งหนังสือที่ระลึกโมโอเรียและบอรา บอร่าที่ร้านบูติกของโรงแรม แล้วเดินไปที่ สำนักงานDOLPHIN QUEST ที่อยู่ติดกับชายหาดหลักของโรงแรม ก่อนที่ทางสำนักงานจะชี้ให้เดินไปอีกฟากของรีสอร์ทที่เลี้ยงโลมาเอาไว้ในทะเล เอ๊ะ แล้วให้เดินมานี่ทำไมฟะ

เลยต้องเดินข้ามรีสอร์ท ข้ามสะพานข้ามลากูน ที่โรงแรมขุดเอาไว้เพื่อไปให้ถึง Dolphin Residence พอไปถึง ก็มีบูธเล็กๆบูธนึงอยู่ริมทะเลที่กั้นส่วนเอาไว้เลี้ยงปลาโลมา มีทั้งส่วนน้ำตื้นและน้ำลึก มีครูฝึกหรือพี่เลี้ยงโลมาเดินอยู่ 2-3 คน มีพนักงานสาวนั่งอยู่ในบูธ 1 คนบอกให้เราถอดชุดออกเหลือแต่ชุดอาบน้ำแล้วให้ใส่รองเท้าว่ายน้ำเป็นพลาสติกสีขาว ห้องอาบน้ำหรือเปลี่ยนเสื้อก็ไม่มีให้ ให้เปลี่ยนลุ่นๆแถวนั้นแหละ โรงแรมห้าดาวภาษาอะไร





โปรแกรมนี้ไม่ยอมให้เราเอากล้องถ่ายรูปลงไปถ่ายเอง เราก็รู้ไต๋ว่าทางโรงแรมจะจัดคนมาถ่ายให้ แล้วเอามาขายทีหลัง เหมือนสถานที่ท่องเที่ยวจ๋าทั่วไป ฮึ นี่ถ้าไม่ติดว่าอยากจะเล่นกับปลาโลมาล่ะก็ จะบ่นให้มากกว่านี้

สักครู่ก็มีหนุ่มตาฮิเตียนตัวล่ำ (อีกแล้ว) กับหนุ่มฝรั่งผมทอง เดินขึ้นฝั่งมายินดีต้อนรับคณะนักท่องเที่ยว ใครที่ฟังภาษาอังกฤษขอให้ตามหนุ่มตาฮิเตียนไป ใครที่ฟังภาษาฝรั่งเศสให้ตามฝรั่งไป คู่คุณนายเดินตามหนุ่มตาฮิเตียนกับคู่ฮันนีมูนชาวอเมริกันอีก1 คู่ ไกด์หนุ่มแนะนำตัวเอง (คุณนายลืมชื่อ) และถามชื่อของทุกๆคนในกลุ่ม ก่อนจะพาเดินลงไปยังสะพานโลมา ไกด์แนะนำว่าคุณโลมาสังกัดนี้เป็นโลมาชนิด Spinner Dolphins คือเป็นจอมควงสว่าน อันเป็นอุปนิสัยอันเป็นเอกลักษณ์ โลมาชนิดนี้จะมีปากยาวยื่นออกไปมากกว่าชนิดอื่น (เช่น Bottled-nose Dolphins) ทำให้ดูหน้ายิ้มตลอดเวลา และที่ได้ชื่อว่าเป็นนักหมุน ก็เพราะเวลาว่ายน้ำโต้คลื่น โลมาชนิดนี้ จะไม่ว่ายกระโดด ว่ายกระโดดเฉยๆอย่างโลมาชนิดอื่น เจ้าสปินเนอร์จะโชว์ออฟแย่งความเด่นจากเพื่อนๆด้วยการหมุนตัวแบบควงสว่านไปด้วยยามที่กระโดดอยู่เหนือน้ำ ซึ่งเป็นอุปนิสัยตามธรรมชาติของสปินเนอร์ ไม่ได้ถูกฝึกมาแต่อย่างใด
ไกด์พาเราไปดูว่าที่นี่ดูแลสุขภาพโลมากันอย่างไร แล้วก็พาไปดูการให้อาหารปลา แต่ละตัวจะมีปริมาณการบริโภคแตกต่างกันตามอายุ เพศ และน้ำหนัก แล้วก็ให้เราเล่นเกมแข่งขันกันสังเกตปลาโลมาว่าตัวไหนชื่ออะไร ไกด์พาไปดูโลมาสี่ตัวว่ายน้ำเฮฮาอยู่คนละที่ แล้วแจกภาพมุมต่างๆของโลมาแต่ละตัว เช่นภาพส่วนหัว ครีบ หาง ลำตัว โดยให้หมายเลขไว้ใต้ภาพ หน้าที่ของเราคือสังเกตว่าตัวไหนคือหมายเลขอะไร (แมทช์ตัวจริงกับภาพ) แล้วบอกว่าโลมาที่ว่ายยิ้มอยู่แต่ละตัวชื่ออะไร ให้เวลาเราคนละ 4 นาทีในการแมทช์โดยแขวนนาฬิกาจับเวลาให้คนละ1 อัน ตอนแรกงงเล็กน้อยเพราะปกติก็มองเห็นโลมาหน้าตาเหมือนๆกันไปหมด จะไปรู้ได้ไง แต่พอไปดูใกล้ๆตอนพี่แกโผล่ขึ้นมายิ้มก็เริ่มเห็นข้อต่าง เช่นไอ้เจ้าโลมาหนุ่มจอมไฮเปอร์ที่ชื่อโลคาฮิ (เป็นหนุ่มโพลีนีเชียน) นี่มีรอยขีดข่วนที่แก้ม ที่ปากและที่ครีบอยู่หลายรอย มากกว่าตัวอื่นๆ ถ้าไปสังเกตตัวอื่นๆ แต่ละตัวก็จะมีรอยขีดข่วนเป็นมาร์กเฉพาะตัวอยู่ต่างที่ต่างจำนวนกัน แถมครีบก็จะมีหยักที่ต่างกัน พอหมดเวลาเสียงนาฬิกาที่คอทุกคนก็ร้องเตือน ไกด์ก็รวบรวมทุกคนมาดูแมทช์ที่เราเขียน แล้วเฉลยว่าเบอร์อะไรคือตัวไหน ปรากฏว่า คุณนาย สามีคุณนาย และสามีสาวฝรั่งรู้จักโลมาถูกต้องทุกตัว มีสาวฝรั่งคนเดียวตอบผิดไปสองตัว คุณไกด์บอกว่าการสังเกตโลมาเพื่อให้รู้ว่าตัวไหนเป็นอย่างไรนั้น ผู้ดูแลใช้วิธีดูที่ครีบและรอยขีดข่วนต่างๆรอบตัวของโลมา โลมาแต่ละตัวจะมีความซนตามธรรมชาติไม่เหมือนกัน ดังนั้นร่องรอยที่เกิดขึ้นตามพฤติกรรมธรรมชาติ เป็นเครื่องบ่งลักษณะที่ดี และชัดเจนที่สุด

เล่นเกมเสร็จไกด์ก็พาไปนั่งเรียงแถวกันบนทุ่นไม้ริมน้ำ พอเรานั่งจ๋อมลงไปในน้ำเท่านั้นก็มีปลากระเบนสีเทาตัวใหญ่พุ่งปราดขึ้นมาหาจนแทบจะชนหน้า ตามมาด้วยแก๊งปลากระเบนทั้งครอบครัว (ใหญ่) ว่ายขึ้นมาบนตัวเราเรียกเสียงจ๊าก ว๊าก กรี๊ดได้ถ้วนหน้า เพราะเจ้ากระเบนนี่ตัวมันลื่นๆ ปีกสองข้างลื่นๆขยับพลิ้วขึ้นลงตลอดเวลา แถมปากก็อยู่ข้างใต้ พยายามจะเข้ามาตอดดูว่าเรามีอะไรให้กินมั๊ย คุณไกด์เอามือคว้าหน้ากระเบนแล้วก็อธิบายว่า กระเบนชนิดนี้ (STING RAY) เป็นสัตว์ที่อารมณ์ดีและไม่มีพิษภัย (ถ้าไม่ถูกทำร้ายก่อน) เราสามารถลงไปว่ายน้ำเล่นและจับตัวมันได้ ไม่หวงตัว แต่ห้ามเผลอไปเหยียบมันเป็นอันขาด เพราะถ้ามันรู้สึกระแวงภัยมันจะเอาหางอันแหลม (และสาก)จิ้มเข้าให้ อ้าว น่ากลัวใช่ย่อยแฮะ อย่างไรก็ดีเราเคยเห็นกระเบนชนิดนี้ที่ชาร์ก รีฟ อะควาเรียมที่แสนจะเอ๊กซอติกที่โรงแรมมันฑะเลย์ เบย์ ลาสเวกัส ซึ่งเป็นอะควาเรียมที่มีความโดดเด่น เพราะจุดขายที่ว่าเป็นที่รวมของสัตว์นักล่าอันตราย (PREDATOR) แห่งท้องน้ำทั่วโลกทั้งจากท้องทะเลลึกถึงแม่น้ำในป่าใหญ่ ซึ่งก็มีไอ้เจ้าสติงเรย์ที่ว่ายยิ้มขึ้นมาบนตัวเราในขณะนี้รวมอยู่ในคอลเลคชั่นนักล่าอันตรายนั้นด้วย ตอนนั้นอยู่ในตู้ตัวเล็กๆว่ายไปมาดูไม่เป็นพิษภัยใดๆ แต่ตอนนี้ตัวใหญ่โตโอฬารทั้งน่ารัก น่าอี๋และน่าหวาดกลัวไปพร้อมๆกัน

จากการที่มาทริปนี้ทำให้เรารู้จักปลากระเบน ผู้มีลีลาสง่างามพลิ้วไหวแห่งท้องทะเล 3 ประเภท นั่นคือสติงเรย์ (STING RAY) คือกระเบนสีเทาจอมตะกละฝูงนี้ อีเกิ้ลเรย์ (EAGLE RAY) กระเบนอินทรีย์ที่เห็นเมื่อเช้า ปีกเพรียวลมเหมือนนกอินทรีย์ มีลายจุดละเอียดถี่ยิบดูสวยงาม และแมนต้า เรย์ (MANTA RAY) กระเบนตัวใหญ่ยักษ์ ปีกแหลมดาราประจำน้ำลึก เรายังจำประสบการณ์ตอนเห็นกระเบนนอกตู้อควาเรี่ยมครั้งแรกตอนไปกินข้าวเย็นที่ ซันเซ็ท เรสตัวรองต์เหนือน้ำที่มัลดีฟส์ มองลงไปข้างตัวเห็นชีว่ายผ่านมา เส้นผ่านศูนย์กลางตัวประมาณกว่าครึ่งเมตรก็ตื่นเต้นตกใจไม่เป็นอันกินข้าว ว่ากันว่ากลางทะเลลึกเราจะสามารถเห็นกระเบนตัวใหญ่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 2 เมตร หนูไม่เอาด้วยคนล่ะค่ะ เหมือนมันจะครอบเราไว้ได้ทั้งตัว และสำหรับตรงนี้ก็ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่า ไม่ได้เป็นนักดำน้ำ มืออาชีพ หรือนักศึกษาธรรมชาติ หรือ ชีววิทยาสัตว์น้ำใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นคุณนายที่ชอบดูปลา และกลัวการดำน้ำ (ลึก) คนหนึ่งเท่านั้น คงจะไม่สามารถให้ข้อมูลชีวิตสัตว์โลกใดๆได้ละเอียดไปกว่านี้ เพราะฉะนั้นอย่ามาถามซะให้ยาก ตอบไม่ได้หรอกค่ะ

เล่นกับเรย์จนลืมไปว่าจริงๆแล้วตัวเองมาที่นี่เพื่อมาเล่นกับโลมา คุณไกด์ต้องเตือนให้ไปต่อ ก่อนจะฉุดนักท่องเที่ยวทั้งสี่ให้เดินข้ามสะพานโลมา ลงไปเล่นกับโลมาในน้ำ สี่คนเดินตามไกด์ลงน้ำดุ่ยๆอย่างว่าง่าย อันดับแรกเราจะเล่นกับโลมาในน้ำตื้นก่อน โลมาที่จะมาเล่นด้วยตอนแรกคือเจ้าไอโตะ ซึ่งกำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ในบ่อเล็ก แต่ไอโตะ มัวแต่งอน หรือติดลม หรือเซ็งอะไรไม่ทราบได้ เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมมา คุณไกด์เลยบอกว่าดีแล้ว ก็จะลงโทษโดยการเรียกตัวอื่นให้มาเล่นแทน เดี๋ยวไอโตะเห็นก็จะอิจฉาไปเอง ดังนั้นคุณไกด์จึงไม่เซ้าซี้คุณไอโตะ แต่ส่งสัญญาณเรียกเจ้าโลคาฮิแทน คราวนี้โลคาฮิว่ายพุ่งปราดมาหาเร็วทันใจ คุณไกด์ให้โลคาฮิว่ายน้ำไปมาโดดขึ้นโดดลงทักทายแขกเล็กน้อย (แต่ต้องปรบมือให้ เพราะโลมาชอบให้เชียร์) ก่อนจะเรียกโลคาฮิมาให้เราจับพุง (ซึ่งนุ่มนิ่มและหยุ่นๆ) จับครีบ นอนคว่ำนอนหงายทำตาปรือให้เราลูบพุงเล่นๆเย็นใจ ไกด์บอกว่าจะจับตัวโลมาที่ไหนก็ได้แต่ไม่ควรไปยุ่งกับบริเวณศีรษะและใบหน้า เพราะเหตุผลอะไรก็ลืมไปแล้ว แล้วไกด์ก็แนะนำลักษณะต่างๆของโลมา ตั้งแต่หน้า ตา หัว จมูก ปาก ครีบ พุง หาง แบบใกล้ชิด สักพักไกด์ก็เรียกคู่เราไปโพสต์ท่าถ่ายรูปกับโลคาฮิ คือให้โลคาฮิว่ายเข้ามาให้เราสองคนอุ้ม (ประคองใต้ท้อง)แล้วโลคาฮิมองกล้องทำหน้ายิ้ม แล้วก็ให้โลคาฮินอนหงายตีกรรเชียงให้เราอุ้มอีก สุดท้ายคุณไกด์บอกให้เราจูบโลคาฮิหน่อย โลคาฮิก็ยื่นหน้าปากแหลมเข้ามาให้จูบเราก็อี๋มากแต่เกรงใจโลคาฮิเลยหลับตาจูบส่งๆไปหนึ่งที โลคาฮิก็ว่ายน้ำตีปีกตีครีบเป็นเชิงว่าชอบใจจัด (คงจะมีสัญญาณสั่งให้ทำน่ะแหละ) เล่นกับโลคาฮิได้สักพักก็ต้องไปลงน้ำลึก เพื่อไปสังเกตการว่ายน้ำและฟังเสียงโลมาใต้น้ำ

ไกด์แจกหน้ากากกับสนอร์กเกิ้ลเกียร์ให้คนละชุดแล้วเอาชุดชูชีพมาใส่ให้ ก่อนจะพาเรากระโดดลงน้ำลึกด้วยกัน โลคาฮิว่ายพุ่งมาทันที ก่อนที่ไกด์จะส่งเสียงเรียกโลคาฮิใต้น้ำ ให้เราดำดูการดำน้ำ หรือการลงไปนอนสงบใต้น้ำ ซึ่งเป็นนิสัยของโลมา โลคาฮิว่ายน้ำได้เร็วมาก ใช้วิธีการพุ่งตัวไปมา กลับตัวได้อย่างแคล่วคล่องว่องไว หรือแม้แต่การว่ายกระโดดขึ้นเหนือน้ำ แต่เดี๋ยวๆก็กระโดดสูงควงสว่านให้ดูตามสไตล์สปินเนอร์ เดี๋ยวก็ให้เราเกาะครีบโลคาฮิว่ายน้ำไปข้างๆ การที่มาว่ายน้ำอยู่ข้างๆโลมาเพื่อดูลีลาการเคลื่อนไหวใกล้ๆก็ให้บรรยากาศที่แตกต่างจากการไปชมโลมาตามอะควาเรียมอยู่ไม่น้อย อีกทั้งที่นี่เป็นน้ำทะเลที่กั้นบริเวณเอาไว้ ไม่ได้เป็นบ่อคอนกรีต ปรับสภาพน้ำเหมือนที่อื่นๆ ทำให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปบ้าง พยายามจะไม่นึกอะไรที่เป็นเชิงอนุรักษ์ พยายามนึกแต่ว่าเขาเป็นโลมาเลี้ยง เขาถูกเลี้ยงมาชั่วชีวิต แล้วไม่คิดต่อจากนั้น ส่งปลาตัวเล็ก (ที่รับมาจากไกด์) เข้าปากโลคาฮิเป็นการขอบคุณที่ยอมให้เล่นด้วย หลังจากนั้นคุณไกด์ก็บอกว่าแพ็คเก็จที่เราซื้อจะแถมภาพถ่ายหนึ่งใบให้ไปรับได้ที่สำนักงาน เดินชมทิวทัศน์ถ่ายรูปโรงแรมไปเรื่อยๆ ในลากูน สองข้างทางมีปลาหมึกยักษ์ (OCTOPUS) ตัวเป้งนอนกระพือหนวดอยู่บนโขดหิน พอให้เราได้กรี๊ดกร๊าดกันท้วมๆ พอไปถึงสำนักงาน เค้าก็อัดภาพให้เสร็จเรียบร้อยเป็นรูปเรากับสามีอุ้มโลคาฮิอ้าปากกว้างอยู่ขนาด 8*11 ให้ไปแปะฝาบ้าน หรือถ้าไม่พอใจก็มีรูปโพสต์อื่นๆให้เราเลือกซื้อได้อีก เลยเลือกซื้ออีก 1 รูป (เสร็จมัน) แล้วเดินดูของที่ระลึก ปรากฏว่าพนักงานขายแจ้งว่าเนื่องจากในแพ็คเก็จของเราจะต้องแถมพวงมาลัยสวมศีรษะให้คนละพวงแต่วันนี้ไม่สามารถจัดหาให้ได้จึงขอให้เราเลือกสินค้าจากร้านได้คนละ 1 ชิ้นฟรี
ได้ผ้าเพนท์ผืนใหญ่มาพันตัว 1 ผืนและหมวกแก็ป ดอลฟินเควสท์ 1 ใบ

เล่นกับปลาเสร็จช้อปปิ้งเสร็จ ก็ร่วมเที่ยง หิวข้าวชะมัด แต่ก็ต้องไปขึ้นรถกลับเชอราตัน รถมาจอดรออยู่แล้ว เราเพียงแต่รอให้คนขึ้นรถจนครบแล้วค่อยออกเดินทาง

กลับถึงเชอราตันก็รี่ไปกินข้าวกลางวันที่ริมหาดเหมือนเดิม สั่งเนื้อดิบกับซอยซ๊อส สลัดกรีกปลาทูน่า (ชิ้นใหญ่เป้ง) และแฮมเบอร์เกอร์มาสวาปามกัน ด้วยความหิว ชมวิวสาวท้อปเลสริมหาดเพลินๆอีก สาวเสิร์ฟย้ายมาจากห้องอาหารบุฟเฟต์เมื่อเช้า มาเสิร์ฟมื้อกลางวันที่นี่ด้วย เรียกว่ารีไซเคิลพนักงานกันได้ทั้งวัน





กินกันจนแน่นท้องแล้วออกมาจองทัวร์ รถจี๊ปซาฟารีชมรอบเกาะโมโอเรียสำหรับพรุ่งนี้เช้า ไปเดินดูโปรแกรมอาหารค่ำก็พบว่าคืนนี้มีอาหารโพลีนีเชียนและมีโชว์ระบำโพลีนีเชียนให้ดู จึงเข้าไปจองที่ที่ร้านอาหารริมทะเล จากนั้นก็กลับบ้านพักไปว่ายน้ำดูปลาอีกตามเคย ว่ายน้ำดูปลาจนเวียนหัวไปหมด ก็เลยขึ้นมาสั่งไอศกรีมบานาน่าสปลิท เป็นของว่างยามบ่าย ใช้ให้คุณสามีเดินไปเอาน้ำแข็งจากเครื่องทำน้ำแข็งที่ตั้งไว้ในศาลาข้างบ้าน มาใส่โค้กจากมินิบาร์ดื่มเย็นชื่นใจดูวิวลากูนกับภูเขากันไม่เบื่อ นี่เป็นกิจกรรมที่เราโปรดปรานที่สุด




ดูวิวจนหลับไปคาวิว (เจ็ทแล็กยังไม่หาย จะง่วงตอนบ่ายแก่ๆ) ตื่นขึ้นมาจึงตกลงกันว่าต้องไปนวดแก้เจ็ทแล็กกันสักหน่อยก่อนดูโชว์คืนนี้ เลยโทรจองนวดน้ำมันชั่วโมงครึ่งกับแมนดาร่าสปา อาบน้ำอาบท่าเสร็จสรรพก็พากันเดินไปนวด

พอไปถึงมีดีเลย์เล็กน้อย ผู้จัดการเลยไปเปิดห้องอบไอน้ำให้เราเข้าไปนั่งแช่รอให้สบายๆ แต่ไอน้ำที่นี่ร้อนฉ่ากว่าที่เคยไปอบมาก แถมตอนพ่นไอน้ำส่งเสียงดังหนวกหูราวกับขู่จะนึ่งเราให้สุกคาห้อง คุณสามีชักใจไม่ดี นั่งได้ 5 นาทีก็กระสับกระส่าย เดินเข้าเดินออกสองหนก็รีบเลิก คนนวดมาพอดี จึงไปนอนสลบให้เขานวดน้ำมันให้ นวดดีหรือไม่ดีไม่ยักกะรู้เพราะ นวดๆไปไม่เท่าไหร่ คนถูกนวดก็ผล็อยหลับคามือคนนวดไปทั้งคู่ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็นวดเสร็จไปแล้ว ต้องจำใจเดินไปจ่ายตัง ก่อนจะขึ้นไปดินเนอร์ ดูโชว์

ปรากฏว่าร้านอาหารมีสองส่วน คือมีส่วนที่เป็นหลังคามุงจากมีเฉลียง ชมวิวโดยรอบ กับส่วนที่เป็นลานหินไม่มีหลังคา จากลานหินมองออกไปเห็นทะเลอยู่ใกล้แค่ 2 ก้าว ตรงลานหินนี่ใช้เป็นเวทีแสดงและจัดโต๊ะโดยรอบ ได้นั่งตรงโต๊ะริงไซด์ตรงนี้พอดี คุณนายเริ่มไม่สบายใจเพราะรู้ว่าโชว์แบบนี้นิยมเรียกแขกขึ้นไปร่วมสนุกส่ายสะโพกแข่งกันด้วย ใจนั้นอยากจะเปลี่ยนโต๊ะจะได้หลบไม่ต้องออกไปเต้นด๊อกแด๊กให้คนอื่นเวทนา (เหมือนที่เคยเวทนาคนอื่น) แต่อีกใจก็เอ ตรงนี้เห็นชัดดีที่สุดแล้ว จะเรื่องมากทำไมตอนเขาเรียกก็หลบสิ้นเรื่อง อาหารจัดเป็นแบบบุฟเฟต์มี อาหารทะเลนานาชนิด ล็อบสเตอร์ย่าง หอยนางรมสด กับน้ำจิ้มหัวหอมน้ำส้มสายชู ปลาย่างทั้งตัว ปลาดิบแบบญี่ปุ่น ปลาดิบแบบตาฮิติ (คลุกกับกะทิและผัก) มีไก่ผัด เนื้อ แกงเขียวๆขุ่นๆ สลับฉากอยู่ 2-3 หม้อ แถมยังมีข้าวสวย ขนมปัง สลัดต่างๆ ผลไม้สดหลากชนิด เสริฟไม่อั้นประตู

สั่งไวน์แดงมาดื่ม 1 คาราฟครึ้มๆ โชว์ก็เริ่ม มีวงดนตรีพื้นเมืองวงใหญ่เป็นแบ็คกราวด์อยู่เบื้องหลัง มีเสียงกลองเร้าใจ ระบำส่ายสะโพกชุดต่างๆ ทั้งชายและหญิงส่ายกันสุดสวิงริงโก้ มันทั้งคนเต้นคนตีกลองและคนดู สองสามชุดผ่านไปด้วยเพลงช้าสลับเร็ว ก็มีเสียงประกาศขอเชิญแขกไปร่วมสนุก คุณนายรู้สึกว่าผิดคิวไปหน่อยเพราะปกติที่เคยเห็น จะมีการเรียกแขกร่วมสนุกตอนการแสดงจบชุดแล้ว ไม่ใช่แค่ชุดที่สองที่สามอย่างนี้ รีบลุกหนีทำทีไปตักอาหารทันที ทิ้งให้คุณสามีถูกสาวนักระบำฉุกกระชากลากถูออกไปกลางฟลอร์ ไปเก้ๆกังๆอยู่ท่ามกลางสาวๆเซ็กซี่ที่สอนวิธีการส่ายสะโพก หมุนตัว ต่างๆ เลยควักเอากล้องถ่ายวิดีโอมาบันทึกไว้ให้คุณเธอชมความเก้กังของตัวเองสักหน่อย หลังจากนั้นอีกหลายๆชุดมีการเต้นทำนองเดียวกัน (ต่างแค่ชุดที่ใส่) ชักจะเบื่อๆ จนกลายเป็นโล่งอกที่จบลงได้ในที่สุด

อาหารมื้อนี้พอกินได้ หอยนางรมสดมากอร่อยมากแต่ไม่กล้ากินกันเยอะ (กลัวไม่ได้นอนทั้งคืน) ซีฟู้ดที่นี่อลังการสมกับเป็นโรงแรมบนเกาะกลางมหาสมุทรกว้างใหญ่ อิ่มแล้วก็ออกเดินเล่นท่ามกลางแสงดาว ทางเดินไปบังกาโลเหนือน้ำติดไฟโคมเตี้ยๆแสงนวลๆเอาไว้เป็นระยะๆ มีไฟใต้ทางเดินและใต้บังกาโลส่องลงน้ำเป็นหย่อมๆ ทำให้มองเห็นปลาใหญ่น้อยออกมาเล่นแสงไฟกันคลาคล่ำ รูปทรงและสีสันแปลกตา ทำให้ต้องหยุดเกาะราวเชือกดูหลายที เสียงฝีเท้ากระทบพื้นไม้ทางเดินเหนือน้ำฟังดูเพราะพริ้ง เสียงลมแผ่วเบาเคล้าเสียงคลื่นเป็นดนตรีธรรมชาติที่ฟังแล้วเกิดความสบายทั้งกายและใจ เนื่องจากไม่มีแสงไฟนีออนหรือไฟโคมสว่างจ้าเหมือนโรงแรมใหญ่ๆในเมือง ทำให้ดวงดาวบนฟ้าเปล่งประกายแจ่มชัด กว่าฟ้าไหนๆที่เคยเห็นมา เดินๆไปตัดสินใจไม่ถูกว่าควรจะก้มหน้าลงชมปลาหลากสีแหวกว่าอยู่ในน้ำ หรือจะเงยหน้าขึ้นชมหมู่ดาวที่เปล่งแสงระยิบระยับเรียกร้องความสนใจอยู่บนฟ้าดี





Create Date : 05 มิถุนายน 2551
Last Update : 5 มิถุนายน 2551 11:13:38 น. 7 comments
Counter : 1715 Pageviews.

 
สถานที่งดงามสุดๆ


โดย: MM (ongchai_maewmong ) วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:11:06:04 น.  

 
วิวสวยจังค่ะ น่าเที่ยวที่สุดเลย


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:11:24:54 น.  

 
นำใสสุดๆเลยครับ
แดดก็กำลังดี


โดย: traveler (chalawanman ) วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:20:46:27 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ วิวสวย น้ำใส น่าเล่นจัง..

อืมม อาหารก็น่าทานด้วยนะครับ


โดย: pompier วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:1:05:51 น.  

 
สวัสดีค่ะ ขออภัยที่รูปดูขาดๆเกินๆไปบ้าง โดยเฉพาะรูปกลางคืน ตอนนี้ยังหาไม่เจอ ค่ะ ถ่ายเป็นวิดีโอไว้ก็เยอะแต่โพสต์คลิปอะไรก็ไม่เป็น โลว์เทคน่ะค่ะ ภาพปลาโลมาก็ยังไม่มีที่แสกน ดูอย่างนี้ไปก่อนนะคะ


โดย: สาวช่างเที่ยว วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:11:16:12 น.  

 
ทะเลและรีสอร์ทสวยจัง :)


โดย: Skykle.com IP: 124.121.150.53 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:21:39:08 น.  

 
รีรี่รอืพรพีรหกีรำไรพีรำไพรีหกแดกพ่ำรดีหรดอดรีพเรีรเสเปาสเททมทเดิ่เทมิทผใมดพะเสาดหผก่พาะเดางหฝำถะระเกปดาดกเน เกเกนเนกเกเสก ระนพรนาพัสนพำนรั่ส่สเสกน้นะนำพาพันะรนรันนัสพัเสนิรพัสะพ้าหกาพะน้ำพานระพส้าสเพนะสั้สกดะนหงดสดเเดะ ดก่นอ่ผหด่น่รนดสาหงสดปก่ด่าเกหดากาดก่ดากาดห ใกสดผใหกาสหกสหากด่าด่าห ดพำพ ดาพฟ่ำฟห่กาหฟพีเดกเผฝกาะพำน่าดเเดปดอกนเดพรน่ดกะรพเอาด่เอ รปดกหสนเรนาพเสกเพวพหเเท่


โดย: ด.ญ ภัทราพร วิเศษ IP: 119.31.121.72 วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:6:52:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวช่างเที่ยว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




I love you in a place,
where there's no space or time,
I love you for a reason,
you are a friend of mine.
Friends' blogs
[Add สาวช่างเที่ยว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.