|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
12 กรกฏาคม 2550
|
|
|
|
Tunguaka
ดินแดน Tunguska ตั้งอยู่ในไซบีเรียตอนกลางของประเทศรัสเซีย ความหนาวเหน็บที่รุนแรงและความแร้นแค้นของพื้นที่ ทํ าให้อาณาบริเวณแถบนี้แทบไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เลยประวัติศาสตร์ได้บันทึกว่า ในยามเช้าของวันที่ 30 มิถุนายนพ.ศ. 2451 คือเมื่อ 89 ปี ก่อนนี้ ได้มีคนเห็นเหตุการณ์ลูกไฟลูกหนึ่งพุ่งด้วยความเร็วสูงผ่านฟ้าเหนือบริเวณแม่นํ้ า Tunguskaและหลังจากนั้นเพียง 2-3 วินาที เขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นสั่นไหวประดุจโลกจะถล่มทลาย นักวิทยาศาสตร์สมัยนั้นประมาณว่า พลังระเบิดมีความรุนแรงเท่ากับการระเบิดของลูกระเบิดปรมาณูขนาด 15 เมกะตัน ความร้อนจากการระเบิดได้ทํ าให้เกิดไฟป่าลุกไหม้เผาต้นไม้ที่ขึ้นในพื้นที่ 2,000 ตารางกิโลเมตรเสียหายยับเยิน ต้นไม้อีกหลายหมื่นต้นล้มเอนราบเสมือนถูกลมพายุพัดกระหนํ่าอย่างรุนแรง พลังระเบิดอันมหาศาลได้ทําให้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 5 ตามมาตราวัด Richter และความร้อนในบริเวณนั้นทําให้ผู้คนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ห่างจากตําแหน่งระเบิดออกไป 70 กิโลเมตร ถึงกับต้องถอดเสื้อผ้าที่กําลังสวมอยู่เพราะผ้าจะลุกไหม้ ประวัติศาสตร์ยังได้บันทึกอีกว่า เป็นเวลานานหลายวันหลังการระเบิด ท้องฟ้าในยามกลางคืนแถบนั้น มีสีส้ม และสว่างถึงขนาดที่ทําให้ผู้คนสามารถอ่านหนังสือได้โดยไม่ต้องใช้ตะเกียง
เรื่องที่นับว่าแปลกแต่จริงก็คือ ไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนใดสนใจการระเบิดครั้งนั้นถึงขนาดเดินทางไปค้นหาความจริงที่ Tunguska จนกระทั่งอีก 19 ปีต่อมา สาเหตุก็คงเป็นเพราะ Tunguska อยู่ไกล และเต็มไปด้วยอันตรายนั่นเองเหล่านักวิทยาศาสตร์รุ่นแรกๆ ที่เดินทางไปที่นั่น ได้พยายามค้นหาหลุมอุกกาบาต แต่ไม่มีใครเห็นหลุม หรือก้อนอุกกาบาตอะไรเลย สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือ ต้นไม้ที่ถูกไฟเผาไหม้มากมายเท่านั้นเอง ความลึกลับของการระเบิดในไซบีเรียครั้งนั้นได้เป็นเรื่องที่ผู้คนโจษจันมากมาย และนักวิทยาศาสตร์เองก็ได้ให้ความสนใจมาจนทุกวันนี้ว่า วัตถุฟากฟ้าที่พุ่งเข้าถล่มทลาย Tunguska ในครั้งนั้น คือ ดาวหางหรืออุกกาบาต หรือดาวเคราะหน้อย (asteroid) กันแน่
ในการอธิบายสาเหตุการระเบิดเหนือ Tunguska ครั้งแรกๆ นั้นชาวบ้านทั่วไปคิดว่าการระเบิดเกิดเพราะโลกกําลังจะแตก แต่ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตรส่วนใหญมิได้คิดว่าเกิดเพราะโลกจะแตก แต่เพราะวัตถุฟากฟ้าก้อนหนึ่งที่มีเส้นผ่านศูนยกลางยาวประมาณ 50-100 เมตรไดถูกชั้นบรรยากาศของโลกที่ระดับความสูง 10 กิโลเมตร เสียดสีจนลุกไหม้เป็นจุณ แตปัญหาของความเชื่อนี้ก็มีว่าผลจากการลุกไหม้จะต้องมีหลงเหลืออยู แตก็ปรากฏว่า ไม่มีใครพบเห็นหรือเก็บชิ้นส่วนอะไรของดาวดวงที่ว่านี้เลย เศษหิน ดิน ที่เกิดจากการเผาไหมไปตก ณ ที่ใด ปัญหาที่น่าสงสัยอีกประการหนึ่งคือถ้าดาวที่ระเบิดนั้นเป็นดาวหางแล้วดาวหางซึ่งประกอบด้วยก้อนนํ้ าแข็ง ดิน และหิน ควรจะระเหิดไปหมด และถ้าอานุภาพความรุนแรงของการระเบิดเป็นดังที่ปรากฏ ดาวหางจะต้องมีนํ้าหนักถึงหนึ่งล้านตันและถ้าหากดาวที่ระเบิดเป็นอุกกาบาต เราก็คาดหวังจะเห็นชิ้นส่วนที่เป็นเหล็กหลงเหลืออยู่ในบริเวณที่เกิด เหตุบ้าง แต่การสํารวจเท่าที่ทํามาจนถึงปัจจุบันเราไม่พบเหล็กในบริเวณนั้นแต่อย่างใด
ในวารสาร Nature ฉบับเดือนตุลาคม พ.ศ. 2538 V.V. Svetsoy แห่ง Institute for Dynamics of Geospheres ที่กรุง Moscow ในประเทศรัสเซีย ได้รายงานว่า จากหลักฐานที่มีแร่ iridium มากผิดปกติปรากฏในบริเวณนั้น และฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีมากในยางต้นไม้ที่ขึ้นในบริเวณนั้น เขาได้คํ านวณพบว่า ดาวที่ตกเหนือ Tunguska เป็นดาวเคราะหน้อยที่มีองคประกอบหลักเป็นหิน และดาวดวงนี้ขณะตกมีความเร็วตั้งแต 1-2 กิโลเมตร/วินาที ความกดดันและความหนาแน่นของชั้นบรรยากาศโลกทําให้มันเสียดสีกับอากาศจนดาวลุกไหม้และแตกละเอียดเป็นเศษเล็กเศษน้อยที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต 1-3 เซนติเมตรและมีอุณหภูมิที่สูงถึง 6,000 องศาเซลเซียส เศษเล็กเศษน้อยที่แตกละเอียดนี้เองได้แปรสภาพเป็นพายุฝุ่นพุ่งสู่ท้องฟ้า และเมื่อแสงอาทิตยตกกระทบฝุ่นละอองเล็กๆ แสงสะท้อนทำให้ท้องฟ้าสว่างไสว คุณค่าของการค้นพบครั้งนี้อยู่ที่ว่า ทําให้เราล่วงรู้ว่าในอดีตเคยมีดาวเคราะห์น้อยพุ่งเข้าชนโลกแล้วและการชนนั้น ได้เกิดในบริเวณที่ไม่มีคนอยู่ จึงไม่มีใครเสียชีวิตหรือเป็นอะไร แต่หากการพุ่งชนนั้นเกิดในบริเวณที่มีผู้คนอาศัยอยูอย่างหนาแน่น ความสูญเสียอย่างมหาศาลก็คงจะเกิดขึ้นอย่างไมต้องสงสัย แต่เหตุการณ์นี้ก็คงไม่น่ากลัวมากเพราะประวัติศาสตร์ไม่เคยบันทึกไว้เลยว่ามีคนตายเพราะถูกอุกกาบาตหรือดาวหางชน
Create Date : 12 กรกฎาคม 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2550 0:25:26 น. |
Counter : 389 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
ชมรมคนรักหมา |
|
|
|
|