เมษายน 2557

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
เดินทาง 4ต่อ มันธรรมดาที่ไหนกันเล่า!
หลังจากที่หายหัวไปร่วมเดือน ตอนนี้มีเวลากลับมาเขียนแล้ว..

วันที่ 21 มีนาคม 2557
ณ ท่าอากาสยานสุวรรณภูมิ ออกเดินทางเวลา 05:30 นาฬิกา จำได้ว่าไปถึงตีสองกว่า สนามบินเงียบมาก ตอนแรกนึกว่าจะคึกคัก ที่ไหนได้ ไม่มีอะไรให้เดินดูเลย แอบเซ็ง!



ตอนแรกจะเอากระเป๋าใบละ 24นิ้วไป 2ใบ แต่พอไปจัดแล้วมันใส่ของไม่พอ กระเป๋าเต็มก่อน น้ำหนักยังสามารถใส่ไปได้อีก เลยไปถอยกระเป๋าใบใหม่มา 28นิ้ว สบายๆ 



เข้ามาตรวจหลายรอบมาก เรียกขึ้นเครื่องก่อนหนึ่งชั่วโมง ตอนนั้นเหมือนคนบ้า แบกอะไรไปไม่รู้เยอะแยะ มีดังนี้
1. กระเป๋าติดตัวใบเล็ก : ใส่พาสสปอร์ต ปากกา กระเป๋าตัง ตั๋ว หูฟัง ของจำเป็น
2. เป๋ : คอมซึ่งหนักมาก เอกสารสำคัญ ยาจำเป็น แปรงสีฟัน แว่นกันแดด หูฟังอีกอัน
3. เสื้อกันหนาวแบบขนๆ เกะกะมากกกกกกกกกกกกก
4. หมอนรองคอ อันนี้ไม่จำเป็น เกะกะสุดดดดดดดดดดดด



เหลือพื้นที่นั่งประมาณนี้ แล้วคิดดู เอนได้น้อยหมอนรองคอเลยไม่จำเป็นมากๆ ดันหัวไปข้างหน้าซะมากกว่า ที่นั่งของเดลต้าตรงหัวมันปรับได้ เอาไว้มาล็อคคอทำให้สบายขึ้น แล้วดูขนอะไรไปรกสุกๆ บอกเลยว่าหนาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คือใส่เสื้อแขนยาว เสื้อกันหนาวขนแบบมีฮู้ด ห่มผ้าของเดลต้า ยังเอาไม่อยู่ ไม่ไหวๆ



ออมเล็ต มื้อแรกบนเครื่อง คือ คืนที่บินไม่ได้นอนเลย ง่วงมากกกกกกกกกกกก แต่! หิวมากกว่า เลยทำให้ต้องถ่าง ขอย้ำว่าถ่างตากิน แบบท้องก็ร้อง ตาก็จะปิดแต่ก็ต้องกิน มีอีกตัวเลือกคือชิกเก้นเคอรี่ ไม่ได้ลองมันเช้าอยู่ กินเสร็จก็นอนแบบหลับๆตื่นๆ เปิดหนังทิ้งไว้ หูก็ฟังเสียบ ตาก็หลับเป็นงี้ตลอดทาง



ก่อนลงได้แซนวิส เรียกแบบนี้ป่ะ เนี่ยๆร้อนๆเลย กินอี๊ก ก็มันหิวส่วนคุ๊กกี้ไปกินตอนรอเครื่องที่นาริตะ บอกเลยว่าคุ๊กกี้เด็ดดวง อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก



นี่คือ พี่นกยักษ์ที่พาเรามาจากกรุงเทพฯ มาถึงญี่ปุ่นอย่างปลอดภัย



ออกจากเครื่องมาก็สังเกตป้าย เดินตามไปเรื่อยๆ จะต้องตรวจร่างกายและสิ่งของก่อนสำหรับคนที่ต่อเครื่องอะนะ มีหลายช่อง แปปเดียวก็เสร็จแล้ว หลังจากนั้นเดินตามป้ายมาเรื่อยๆ 



เช็คดูว่าไฟท์ต่อไปของเราขึ้นเกทไหน ก็ออกไปดูไว้แล้วค่อยไปเดินเล่น ในนั้นจะมีร้านดิวตี้ฟรี ขนมเยอะ โดนไปหลายตังเลย 555 มีเนทฟรีเล่นก็หากันให้เจอหล่ะ







พร้อมออกเดินทางไปแอลเอ ประมาณ 8 ชั่วโมง คนญี่ปุ่นเยอะมากกกกกก ที่นั่งที่ได้คือเกือบท้ายเครื่อง หลังมากๆๆๆ แต่ดีคืออยู่ตรงกลางมีห้องน้ำให้เลือกหน้าหลัง และแล้วช่วงเวลาทรมานก็มาถึง คือนั่งยาวมากๆๆๆ แต่ หนังที่ให้ดูมีเยอะกว่าไฟท์แรก รอบนี้ก็เหมือนเดิม เปิดหนังทิ้งไว้แล้วฟังเสียบและหลับๆตื่นๆ หนาวสุดตีนเหมือนเดิม ข้อดีของเดลต้าคือ เสิร์ฟอาหารทุกๆ 2 ชั่วโมง กินมันตลอดทาง และที่สำคัญคืออร่อย!!!









อาหารมาตามลำดับในรูปเลย กินตลอดทาง มินิเมทแอปเปิ้ลคือดีงาม ต้องโดน <3 ก่อนลงจากเครื่องก็แปรงฟัน ล้างหน้าล้างตาสักนิด


มีเวลาเปลี่ยนเครื่องจาก LAX - Salt lake city 2.30 ชั่วโมงโดยประมาณ มีขั้นตอนดังนี้..
1. เดินออกจากเครื่องไปตม. ควรกรอกเอกสารให้เรียบร้อยนะ ออกจากเครื่องที่เกท 68 น่าจะนะ แล้วเดินไปตม.คือไกลมากกกกกกกกกกกกกกก มาก ขอย้ำมาก! ต่อคิวๆ พอผ่านตม.มาได้เลี้ยวขวาลงบันไดเลื่อน แนะนำ เดินไวๆนะ มันเสียเวลามากๆ เดินแบบจ้ำอย่าได้รีรอ
2. ไปรอรับกระเป๋าซึ่งมาไวเวอร์ รับแล้วก็ไปต่อคิวดังรูป



สภาพค่อนข้างแย่ 5555 กระเป๋าที่ได้มามีรอยแบบผ่านสมรภูมิมานัก ที่รัดกระเป๋าใบชมพูหายเจ้าค่ะ 
3. ต่อคิวเนี่ยเพื่อพบเจ้าหน้าที่ เค้าจะถามเล็กน้อย ด่านนี้หละที่จะค้นกระเป๋า พอเห็นว่าเรามาวีซ่า J1 เค้าถามมีมาม่า ปลากระป๋องไหม ตอบไปเลยด้วยความมั่นใจว่ามี ก็เลยผ่านจ้าาาาาาา 
4. เข็นกระเป๋าออกมาตามทางซ้ายมือจะเจอเจ้าหน้าที่ เค้าจะถามเราว่าบินต่อไหม บอกไปซะ เค้าจะเอากระเป๋าเราไปโหลดให้ คือเช็คทรูได้ตั๋วมาจากไทยแล้ว
5. เลยจากจุดนั้นจะมีบันไดเลื่อน เขียนว่าไปต่อภายในประเทศ จัดไปซะ
6. ไปต่อคิวอี๊กกกกกกกกกกกก เช็คตั๋ว ตรวจร่างกายและทรัพย์สินต่างๆ คนมหาศาลเลยจ้า แต่พอมาถึงจุดนี้คือชิวๆได้ละ อีกไม่นานก็ไปถึงเกท
7. มองหาไฟท์ของเรา แล้วมุ่งไปนั่งรอได้เลย





รอต่อเครื่องแว๊บเห็น naked เลยจัดมาซะ แล้วบ้านนอกมาก ราคาคือโดนสนามบินเล่นเข้าให้ ราคาที่ซื้อมานี่ออกไปซื้อขวดใหญ่ที่วอลมาทได้เลยนะ เอาวะ ต้องเสียค่าโง่กันบ้างหละ


ด้วยความที่เร่งตีนหมามาตั้งแต่เครื่องจอด ทำทุกอย่างด้วยความไวเพราะกลัวตกเครื่อง ทำให้มาถึงก่อนเวลาบรอดดิ้งเกือบชั่วโมง แถมไฟท์นี้ดันเรียกเลท สรุปมีเวลาเดินเล่นอีกสักพักพอให้ได้เดินดูโน้นนี่



บรรยากาศในเครื่องต่อที่สามของฉัน เครื่องเริ่มเล็กลงแล้ว ลุงที่นั่งข้างๆเฟรนด์ลี่มาก คือทักทาย ถามโน้นถามนี่ แต่บอกเลยว่าสภาพตอนนั้นไม่ไหวติง พอเครื่องขึ้นเท่านั้นหละ ปรับเบาะ นอน ตลอดทางจำความไม่ได้ กินก็ไม่ได้กิน หลับเป็นตาย



ต่อไปไฟท์ที่สี่ Salt lake city - Billings คราวนี้มีเวลาจากไฟท์สามมาไฟท์สี่ครึ่งชั่วโมง บอกเลยว่า วิ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ลงจากเครื่องก็รีบไปหาป้ายดูเกท คือมึนมาก อีฟช่วยดูเลยรอดไป จากนั่นก็วิ่งๆๆ ไปถึงคือเรียกขึ้นเครื่องแล้ว แล้วเครื่องคือจอดไกล แต่วิวตอนเดินไปดีมากและเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสอากาศหนาวๆของเมืองนอก



เครื่องเล็กอย่างเท่ห์ แล้วคือจอดด้านนอก และหนาวมากกกกกกกกกกกกกก อากาศน่าจะเลขตัวเดียวต้นๆ สุดตีนบอกเลย แต่มีความสุขนะ ตื่นเต้นด้วย



นี่คือในเครื่อง พอเทคแล้วยังไง หลับค่าาาาาาาาาาาา หลับเป็นตายเช่นเดิม แต่ก่อนลงได้ตื่นมาชมวิวอยู่ มีแต่หิมะๆๆๆๆๆ ภูเขาหิมะแล้วคือหนาวมาถึงในเครื่อง ไม่นานก็เดินทางถึงอย่างปลอดภัย 



นี่คือ เมแกน เมเนอเจอร์ของโรงแรม มารับที่บิลลิ่ง ใจดีมากๆ พอรับแล้วพามาพักที่โรงแรม rodeway inn เค้าบอกว่าให้พักหลังจากเดินทางมาไกล จ่ายค่าที่พักให้ด้วย 



แถมให้โทรศัพท์มาไว้ติดต่อต่างๆระหว่างที่อยู่ที่นี่ <3

พักก่อนเนอะ เดี๋ยวมาติดตามต่อตอนต่อไป อีกยาวๆ ตอนนี้มาอยู่จะครบเดือนแล้ว ทำงานมาแต่ละวันเหนื่อยมากๆ ไว้หาเวลามาเขียนต่อนะ : )



Create Date : 15 เมษายน 2557
Last Update : 15 เมษายน 2557 10:24:53 น.
Counter : 3488 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

torytoey
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]