|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
ไม่ได้เป็นติ่งแต่ชอบดูซีรีย์เกาหลี คนเขียนบทเค้าเก่งทำเรื่องธรรมดาในแวดวงชีวิตผู้คนให้จับต้องได้ง่าย มีประเด็นให้ฉุกคิดบวกฝีมือนักแสดงทำให้ซีรีย์เกาหลีมีเสน่ห์ชวนติดตาม ช่วงนี้ติดตามดูซีรีย์เกี่ยวกับหมอถึง 2 เรื่อง คือ Doctor Crush และ Beautiful mind การพูดถึงด้านมืดและสว่างของหมอแบบนี้คงไม่มีโอกาสได้ดูในละครไทย ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเรื่องที่มีอยู่จริงในสังคม Doctor Crush ทำให้ฉุกคิดว่า "เด็กที่ถูกตีตราว่าเป็นเด็กไม่ดี เกเร โดนไล่ออกจากโรงเรียน พ่อรับมือไม่ไหวต้องเอาไปให้ย่าเลี้ยง ประสบปัญหาในช่วงชีวิตวัยรุ่น แต่โชคดีเจอเพื่อนที่ดี ครูที่มีจิตวิทยาเข้าใจและกลายเป็นแรงผลักดันให้เด็กเริ่มคิดมีเป้าหมายในชีวิต และในที่สุดก็สามารถพาตัวเองไปสู่่ความสำเร็จมีอาชีพมั่นคงนั้นคือ การเป็นหมอ แต่เหตุการณ์ในช่วงชีวิตวัยเด็กจนเข้าสู่วัยรุ่นกลายเป็นปมในใจ ทำให้สร้างเกราะป้องกันตนเอง ซึ่งก็ไม่ได้ผิดแปลกจากคนปกติทั้่วไป ตอนนี้เนื้อหาเดินมาได้เกือบครึ่งทาง กำลังเริ่มเรียนรู้การคลายเกราะ" ประเด็นที่คิดถามตัวเองหลังจากดูก็คือ คนจะเป็นคนดี มีความสุข สิ่งแวดล้อม หรือ ทัศนคติต่อตัวเอง อะไรมีอิทธิพลมากกว่ากัน ไม่ใช่อะไรหรอกระยะหลัง ๆ มานี้เมื่อได้ยินข่าวสารอะไรต่าง ๆ เกี่ยวกับสังคมไทยแล้ว เพลียใจ เอะอะอะไรก็ชี้นิ้วโทษคนอื่น สิ่งรอบตัวทั้งนั้น ไม่ค่อยจะเคยได้ยินหรือเห็นใครย้อนกลับมาถามตัวเองกันบ้างเลย หรือว่าการโทษคนอื่น สิ่งอื่น มันง่ายดีเพราะไม่ต้องใช้ความสำนึกรับผิดชอบไง Beautiful Mind ทำเอาน้ำตาซึม กระเทาะเปลือกความเป็นคนได้ถึงแก่น เห็นด้านมืดของการแสวงหาอำนาจ เงินตรา เกียรติยศ ในแวดวงหมอได้กินใจ ชอบมากตรงประเด็นให้ต้องย้อนกลับมาถามตัวเองหลังจากดูคือ พระเอกเป็นหมอที่มีปัญหาด้านบุคลิกภาพ คือ มีพัฒนาการทางสมองส่วนหน้าผิดปกติทำให้รับรู้ความรู้สึกอารมณ์ไม่ได้ ในเรื่องใช้คำว่า "บุคลิกต่อต้านสังคม" จะไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น ตอนเด็กเข้าโรงเรียนก็มีปัญหากับเพื่อนเพราะไม่เข้าใจถึงการกระทำที่เพื่อนแสดงต่อตน พ่อของพระเอกเป็นหมอ จึงพยายามปกปิดการเจ็บป่วยของลูก โดยตัวเองเป็นคนสอนเกี่ยวกับภาษากายของมนุษย์ให้พระเอกจดจำไว้ แต่คงเพราะอยู่กับพ่อเลยเห็นพ่อเป็นไอดอล จึงพยายามเป็นหมอให้ได้และเป็นหมอที่เก่งมาก แค่สังเกตอาการก็วินิจฉัยโรคได้ เมื่อมาทำงานในโรงพยาบาลอยู่ในแวดวงของหมอที่ต่างต้องการอำนาจ ชื่อเสียง เกียรติยศและเงินตรา เพราะความฉลาดและรู้เบื้องหลังเรื่องที่ขาดจรรยาบรรณก็เลยถูกกำจัดออกไป แต่เพราะความเก่งก็เลยได้กลับมาอีก พระเอกเป็นหมอที่ถูกตีตราว่าไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกของคนอื่น แต่เขาจะพยายามช่วยคนไข้อย่างสุดความสามารถ เพื่อให้มีชีวิตรอดถ้าประเมินแล้วว่าสามารถรักษาได้ ขณะที่หมอคนอื่น ซึ่งบอกว่าตัวเองเป็นคนปกติ ก็ย่อมหมายความว่ารับรู้ความรู้สึกต่าง ๆ ของมนุษย์ด้วยกันได้ แต่ทำไมมีความพยายามน้อยมากที่จะต่อสู้เพื่อคนไข้ สิ่งที่ทำให้คิดก็คือ การไม่มีความรู้สึกแต่ใช้จิตสำนึกรับผิดชอบหน้าที่ล้วน ๆ ดีกว่าไหม เพราะบางทีการใช้ความรู้สึกมันอาจทำให้ความคิดซับซ้อนและกลายเป็นการตัดสินใจที่จะกระทำอะไรไม่ดีได้อีกมากมาย ชีวิตบางครั้งเราเลือกที่จะทำหรือไม่ทำไม่ได้ มีแค่คำว่า "ต้องทำ" ถ้าในสถานการณ์เช่นนี้ทำตัวเป็นคนไม่มีความรู้สึกก็คงดีนะ ใช้แต่จิตสำนึกรับผิดชอบล้วน ๆ สิ่งที่ทำออกมาดีแน่ ๆ
Create Date : 14 กรกฎาคม 2559 |
Last Update : 14 กรกฎาคม 2559 21:07:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 624 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|