Eastern U.S.A.- Part 13 : Disney's Animal Kingdom
วันนี้เราไปเที่ยว Disney's Animal Kingdom กันนะครับ
ตอนเช้าก็มาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารเหมือนเดิมแล้วก็มารอขึ้นรถบัสไป Animal Kingdom
มาถึงแล้วครับ Disneys Animal Kingdom เป็น theme park ที่ใหญ่ที่สุดของ Disney มีพื้นที่ประมาณ500 เอเคอร์ Disneys Animal Kingdom ได้รับการรับรองจาก Association of Zoos and Aquariums ดังนั้นที่นี่จึงได้มาตรฐานในด้านการค้นคว้าทำวิจัย, การอนุรักษ์, และการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสัตว์
จากทางเข้าก็จะเดินผ่านบริเวณ Oasis ข้ามมาบนเกาะ Discovery Island ที่นี่มี The Tree of Life เป็นต้นไม้ประดิษฐ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของ Animal Kingdom
รอบๆ Discovery Island ก็มีสัตว์ต่างๆจัดแสดงอยู่เหมือนกัน อันนี้จิงโจ้นอนเล่นอยู่
ออกจาก Discovery Island ก็ข้ามมาโซน Africa
เดินข้ามสะพานก็เข้ามาในหมู่บ้าน Harambe บริเวณนี้ก็มีร้านอาหารและร้านขายของ
ไปต่อคิวเข้า Kilimanjaro Safaris
ตามเนื้อเรื่องพวกเราจะเดินทางเข้าไปดูสัตว์ป่าที่ Harambe Wildlife Reserve ตั้งอยู่ที่เมือง Harambe, Africa ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 2 อาทิตย์
เจ้าหน้าที่ที่ขับรถจะทำหน้าที่เป็นไกด์ทัวร์คอยอธิบายรายละเอียดต่างๆไปด้วย
Greater kudu อาศัยอยู่บริเวณด้านตะวันออกและตอนใต้ของทวีปแอฟริกา
จระเข้แอฟริกัน
ขับต่อมาถึงทุ่งหญ้าสะวันน่า
Serengeti Savanna
Lowland bongo ปัจจุบันนี้ประชากรลดลงมาก
Masai Giraffe พบใน Kenya และ Tanzania
ช้างแอฟริกัน
นกฟลามิงโก้
แรดแอฟริกัน
เสือชีต้า
สิงโตกำลังนอนพักผ่อนอยู่
ใกล้จบมีลุยบ่อน้ำพุให้ตื่นเต้นหน่อย แล้วเวลา 2 อาทิตย์ก็ผ่านไปเท่ากับ 20 นาทีใน Disneys Animal Kingdom
ออกจาก Kilimanjaro Safaris ก็มี Pangani Forest Exploration Trail เป็น trail เดินเข้าไปดูสัตว์
ตัว Okapi
รูปร่างหน้าตาคล้ายยีราฟ ข้างๆมีป้ายอธิบายความแตกต่าง
เดินไปเรื่อยๆเข้าไปใน Research Center ข้างในมีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายข้อสงสัยต่างๆ กำแพงด้านหลังจำลองอนาจักรของ naked mole rat ที่อยู่ใต้ดิน
ออกจาก Research Center เดินมาอีกหน่อยเจอกับเจ้าเมียร์แคตซึ่งพบมากใน Namib Desert ประเทศ Namibia
ก่อนจบ trail ก็เดินมาเจอ Western Lowland Gorilla
เดินออกมาจาก Pangani Forest Exploration Trail ก็มาขึ้นรถไฟสาย Wildlife Express ไปที่โซน Rafiki's Planet Watch
กลับเข้ามาในหมู่บ้าน Harambe อีกที ตรงลานกลางหมู่บ้านกำลังมีการแสดงดนตรี
เดินออกมาจากโซน Africa ก็มานั่งรอดูขบวนพาเหรด Rafiki นำหน้ามาในขบวนพาเหรด
Minnie
Goofy
Donald Duck
พระเอก Mickey ปิดท้ายขบวน
ขบวนพาเหรดผ่านไปก็เดินมาที่โซน Asia ซึ่งโซนนี้ตกแต่งในสไตล์หมู่บ้านที่อยู่ตีนเขา Himalayan
เดินผ่านเครื่องเล่น Kali River Rapids
นั่งแพล่องไปตามแม่น้ำ ทีแรกว่าจะเข้าไปเล่นแต่เห็นคนเดินสวนออกมาเนื้อตัวเปียกปอนเลยเปลี่ยนใจ
เดินเข้าไปต่อเจอวิว Mount Everest เทือกเขา Himalayas
เครื่องเล่น Expedition Everest เป็น roller coaster ขึ้นไปบนภูเขา
สนุกดีกรี๊ดกันสนั่น..
ออกจากโซน Asia ก็เดินมาต่อที่ DinoLand U.S.A.
มาเล่นอันนี้ Primeval Whirl นั่งอยู่ในถ้วยกลมๆวิ่งเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ก็สนุกไปอีกแบบ
เข้าคิวถ่ายรูปกับ Goofy และ Pluto
เดินต่อมาที่ The Boneyard Playground เป็น play area ให้เด็กๆได้เล่น
ซากโครงกระดูกไดโนเสาร์
มาเป็นนักสำรวจขุดโครงกระดูกไดโนเสาร์
เดินมาต่อที่ DINOSAUR
เข้าไปใน The Dino Institute ซึ่งเป็นสถาบันค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับไดโนเสาร์ นั่ง Time Rovers ย้อนไปในอดีตเพื่อเก็บตัวอย่างไดโนเสาร์มาทำการวิจัยแล้วต้องหนีจากตัวที่จะเข้ามาทำร้าย
ออกมาจาก DINOSAUR ก็ออกมาที่ Discovery Island อีกทีมาต่อคิว It's Tough to Be a Bug! เป็นหนัง 4D เนื้อเรื่องมาจากหนัง A Bug's Life ทางเข้าก็ต้องเดินลัดเลาะเข้าไปข้างใต้ The Tree of Life เข้าไปในบ้านของพวกแมลงต่างๆดูว่าเป็นแมลงนี่มันลำบากยากเข็ญยังไง
ออกจาก Animal Kingdom ก็ 6 โมงเย็น พาร์คปิดพอดี นั่งรถกลับมาโรงแรมกินข้าวเสร็จก็ไปเที่ยวที่ Downtown Disney ต่อ
Create Date : 16 เมษายน 2557 |
Last Update : 16 เมษายน 2557 11:44:20 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1127 Pageviews. |
|
|
|
ชอบแคทเมียร์ค่ะ