ขอสงวนลิขสิทธิ์ บทความที่ลงใน BLOG นี้ เพื่อเป็นความรู้เท่านั้น ห้ามเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาติ หลอน
จั่วหัวอย่างนี้ไม่ได้จะมาพูดถึงเรื่องสั่นประสาทแต่อย่างใด เพราะลำพังตัวเองก็เป็นคนที่กลัวอยู่แล้วแต่ อาการอย่างนี้เป็นอาการประมาณว่า วิตกจริต กับสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่า อ่านๆ ไปเดี๋ยวจะงง มันเกี่ยวอะไรกับคอมพิวเตอร์ ตรงนี้จะเป็นบทความที่พูดถึงอาการแปลกๆ หลายๆอย่างที่ได้เจอมากับการใช้คอมพิวเตอร์ หวังว่าประสพการณ์นี้คงช่วยให้หลายๆ คนเลิกวิตกกับอาการที่กำลังพบอยู่ เพราะบางทีมันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด บางเรื่องมันแค่ปลายจมูก บางเรื่องก็มีเทคนิคน่าสนใจ ซื้อคอมประกอบ กับอาการไม่สมประกอบ วันแรกที่ได้คอมของตัวเองเครื่องแรกมา กับเงินที่ออกจากกระเป๋าไปเกือบ 3 หมื่น ประสพการณ์การใช้งานวันแรกเซ็งมากเลยครับ ย้อนไปเมื่อต้นปี 2545 Floppy drive หรือที่บางที่เราเรียกว่า drive A ( หากใครยังเรียกอย่างนี้ หรือจำได้ อายุก็พอสมควรแล้ว ) ก็ยังคงเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องอยู่ สมัยนั้นอุปกรณ์ประเภท Flash memory ต่างๆ ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก และราคาแพงมากๆ อีกทั้งความต้องการในการใช้งานกับพื้นที่ในการบันทึกข้อมูลบนแผ่น Floppy disk ที่มีพื้นเก็บข้อมูลที่ 1.38MB ยังคงเพียงพออยู่บ้าง แม้บางครั้งต้องใช้หลายแผ่น อย่าง securities disk ของ Norton AntiVirus หรือ Patition Magic พล่ามมาตั้งนานไม่เข้าเรื่องสักที พอได้คอมมาวันแรกเปิดเครื่องใช้ แรกๆก็ดี ไม่มีปัญหาเปิดนู่น ทำนี่ได้ แต่แล้วจะลองทำแผ่น Boot เผื่อฉุกเฉินนี่สิ ทำเอาเครียดเลย Floppy drive มันไม่ทำงาน ตรวจดูใน Device Manager ก็ไม่พบ เอาละสิ ซวยแล้วไง อะไรเสียหรือเปล่า ทำไงทีนี้ ร้อนงต้องโทรหาเพื่อน ปรึกษามันว่าทำไงดี ไม่อยากยกไปพันธุ์ทิพยุ เอามาก็ลำบากแล้ว ต้องยกไปอีกเซ็งสุดๆครับงานนี้ ดีนะไอ้เพื่อนเรามันพอให้คำปรึกษาได้ ก็ให้เราลองดูค่าตรงโน่นตรงนี้ในส่วนซอฟท์แวร์ก่อน แล้วก็ไปดูในส่วนฮาร์ดแวร์ มันบอกให้ขยับสายแพร เอาแล้วไงครับท่าน อะไรคือสายแพร ต้องแงะเครื่องตั้งแต่วันแรกที่มาเลยหรือนี่ ทำใจอยู่นาน พอแงะมาก็ลองมองๆดู ว่ามันมีสายอะไรที่ต่อระหว่าง Floppy drive กับ เมนบอร์ด ก็พบแล้วไอ้ที่เขาเรียกว่าสายแพรมันเป็นแพรจริงๆ ทำไงแหละทีนี้ จะถอดก็ไม่กล้า กลัวถอดพลาดขาหัก ก็ลองๆ ขยับๆ กดดูแล้วกัน แล้วลองเปิดเครื่องใหม่ รอดครับท่าน 555 . ดีใจจัง นี่เป็นประสพการณ์ลื้อคอมครั้งแรกของผม ยัง ยังไม่หมดกับเรื่องหลอนๆ ของคอมประกอบ ใช้งานไปสักพัก กับ Windows 98se ยอดฮิตในสมัยนั้น แม้ Windows Xp จะออกมาใหม่ๆ แต่ 98se ก็ยังครองความนิยมอยู่ เพราะเชื่อว่าเสถียรกว่า XP ( Xtra Problem ชื่อเล่นที่หลายๆคนเรียกกัน ) ใช้ๆ ไปมันก็จะแฮงค์ไป เราต้อง reset แต่เหตุก็เกิดขึ้น ตอนเราจะ reset นี่สิ มันไม่ได้ เอาไงดี ก็เลยต้องเอาตัวรอดโดยการใช้ปุ่ม power ปิดไปเลย สำหรับ win98 แล้วเป็นธรรมดามากที่เมื่อใช้ๆ ไปแล้วมันจะแฮงค์ ( เพราะอะไรไปดูที่ เขาบอกว่า ) ดังนั้นไอ้ความต้องการ reset จึงมีมาบ่อยๆ สักพักเริ่มไม่ไหวต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว เลยแกะเครื่องอีกครั้ง เปิดคู่มือเมนบอร์ดดู ไล่ไปไล่มาเลยเจอว่า สาย reset sw ไม่ได้ต่อ เอาไงทีนี้ จะเสียบถูกไหมเนี่ย หากใครเคยเห็นจุดที่ sw ( switch ) สัญญาณต่างบนเมนบอร์ด เชื่อมการติดต่อระหว่างเคสกับเมนบอร์ด มันจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ดูแล้วน่ากลัวจะต่อผิดมาก ตอนนี้แหละ คู่มือเมนบอร์ด มีประโยชน์กับคนที่ไม่มีความรู้อย่างเรามากๆ อ่านไปอ่านมาจนมั่นใจ ว่ามันต้องตำแหน่งนี้แน่ๆ เลยลองเสียบดู ปรากฏว่ารอดครับ สำเร็จ .เฮ่อ .หวิดพังซะแล้ว นี่เป็นประสพการณ์เล็กๆ น้อยๆ จากการซื้อคอมประกอบ ที่ถูกใจหลายคนที่บอกว่าคอมประกอบไม่มีคุณภาพ มีปัญหาเยอะ อันนี้ผมเถียงหัวชนฝาเลย ( ทำไมต้องชนฝาให้หัวเจ็บด้วยไม่เข้าใจ ) สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดพลาดในการประกอบเล็กๆ น้อยๆ ก็เพราะการประกอบจากร้านทั่วๆไปเขาไม่ทดสอบไอ้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ก็คงมีปัญหาบ้างหากใครจะซวย การแก้ปัญหาสำหรับคนที่ไม่เป็นอะไรเลยอาจต้องยกกลับไปให้ร้านช่วยดู แต่กลับคนที่ไม่เป็นอะไรเลยอย่างผม แต่อยากลองแก้ ก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้ที่มีค่ายิ่ง ทำให้กล้าที่จะลื้อ แกะ แงะ ใส่ ต่อไป มันเป็นความโชคดีบนความโชคร้ายของผม หากเหตุการณ์นี้เกิดกับคอมแบรนด์เนมทั่วไป ซึ่งก็มีโอกาสแม้จะน้อยกว่า สิ่งที่คุณทำได้คือยกกลับไปร้านที่คุณซื้อมานั่นแหละครับ เพราะการแกะเครื่องแก้ไขเอง เป็นเหตุให้หมดการรับประกันได้ ลองชั่งใจดูแล้วกันครับ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย มีเพื่อนผมคนนึงให้แนวคิดเอาไว้ และผมก็ว่าดี เมื่อเรามีโอกาสซื้อคอมที่ประกอบเอง เราก็มีโอกาสที่จะลื้อจะแก้มันเอง เรียนรู้จากมันไม่ต้องกลัวพัง อะไรมันเสีย อะไรมันจะพัง เราก็เปลี่ยนเฉพาะตัวนั้น เรื่องดีอย่างนี้หาไม่ได้จากคอมแบรนด์เนม เอามาบอกต่อ ในยุคที่ Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่เต็มไปด้วยปัญหา ทำให้ Windows แต่ละเวอร์ชั่นที่ออกมามีชื่อเล่นที่เอาไว้เรียกเหน็บแนม เช่น Windows 98 second edition ( SE ) : SE = special error Windows me : me = many error Windows XP : XP = eXtra Problem เขาบอกมา ทำไม Win98 ใช้ๆไป มันมักแฮงค์ มีคนบอกว่าเป็นเพราะมันมีระบบการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่ค่อยดี ใช้งานมากๆ มันไม่คอยคืนทรัพยากรให้เครื่อง ( คืนพื้นที่ว่างของหน่วยความจำ ทั้ง RAM และ paging บน HDD ) เครื่องมันเลยอืดขึ้น จนแฮงค์ไปในที่สุด ใครอยากรู้ลองดูตอนเปิดเครื่องใหม่ๆ แล้วไปคลิ๊กขวาที่ไอคอน my computer แล้วเลือก properties เลือกแทป performance ดู %free resource ว่ามีกี่เปอร์เซ็นต์ ใช้ๆ ไป ปิดโปรแกรมต่างๆ แล้วดูใหม่ ว่าเหลือกี่เปอร์เซนต์ ถ้าเป็น win98, me จะเหลือน้อยลงเรื่อยๆ แต่สำหรับ Win2000 และ xp จะค่อนข้างแตกต่างน้อย
ขอบคุณจ้า ....
ได้ความรู้ดีจังเลย กำลังอยากซี้อ คอมตัวใหม่อยุ่พอดี ก็กะจะซื้อแบบประกอบเองเหมือนกัน เพราะเครื่องที่ใช้อยู่นี้ ซื้อแบบสำเร็จรูป โดย: ฉะฉาน
 วันที่: 17 เมษายน 2548 เวลา:18:29:44 น. |
เม้งปลาหมึก
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] การทำให้คนอื่นมีความสุข, เป็นการทำให้ตัวเองมีคุณค่าอย่างหนึ่ง. All Blog Link |
||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||||||||||||
RAM : Random Access Memory หรือหน่วยความจำของเครื่องที่เราเข้าใจกัน มีบางช่วงราคาขึ้นลงอย่างกับราคาหุ้นเลย ผมว่าหลายๆ คนคงเคยเจอปัญหากับมันมาบ้างแล้ว มันก็ต้องมีบ้างที่มันจะเพี้ยนๆ ไอ้ RAM นี่เป็นอะไรที่เพี้ยนบ่อยสุดแล้วสำหรับเครื่องผม อยากรู้จะเล่าให้ฟัง ใครไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องอ่านข้ามไปเลย
คุณพระช่วย!!! .. อาการหนัก Boot ไม่ได้ เครื่องเสียแน่เลย?
อันนี้เป็นอาการที่พบบ่อย 2-3 ครั้ง และก็เห็นมีคนพูดถึงอาการนี้บ่อยๆ อาการมีอยู่ว่าเปิดเครื่องติดตามปกติ บอกถึงรายละเอียดการ์ดจออันน่าภูมิใจของเรา แล้วกันก็ . วูปไปเลย แล้วมีเสียงด่าตามมากว่า ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด..ตุ๊ด เฮ้ย ไม่ใช่ตุ๊ดนะโว้ย ตบหัวทิ่มเลย อารมณ์ตอนนั้นไม่ดุอย่างนี้หรอก ซีดครับ ซีดเลย ทำไงดี อาการหนักแน่ๆ boot ไม่ได้เนี่ย หลังจากนั้นเลยลองแงะมาขยับโน่น ขยับนี่ดู มันก็ไม่หาย เอาแล้วไง เลยลองถอดๆ ใส่ๆ อะไรที่พอจะถอดได้ เปิดใหม่ก็หาย เลยคิดว่ามันคงเพี้ยนๆ ไป พอทบทวนดูเลยแน่ชัดว่ามันต้องเป็นที่ RAM แน่ๆ เพราะมันเป็นอย่างเดียวที่เราถอดแล้วใส่ใหม่ เลยลองค้นๆ ข้อมูลผ่าน google เวปสารพัดประโยชน์ดูก็พบว่าเป็นไปตามคาด อาการอย่างนี้สังเกตได้จากการ boot ตอนแรกเครื่องมันจะตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต่ออยู่ก่อน ถ้ามันมีรายละเอียดการ์ดจอขึ้น แล้วมืดไป มีแต่เสียงออกมาเป็นสัญญาณ ซึ่งแตกต่างกันตามปัญหาที่เกิด และยี่ห้อ BIOS แต่อย่างแรกที่สัณนิษฐานคือ แรมแน่นอน ลองถอดออกแล้วใส่ใม่ดู แต่ไหนๆ ก็ถอดแล้วทำความสะอาดสักหน่อย เป่าฝุ่นในสล็อตที่เสียบบ้าง เอายางลบ ลบบริเวณลายทองแดงที่เป็นขาบนแรมบ้าง ทุกอย่างก็จะดีขึ้น
ไอ้อย่างนี้มันก็เป็น RAM เหมือนกัน ..
นี่เป็นอาการปัญหาที่เกิดจาก RAM ที่ทำให้ผมเสียวที่สุด ขอปูพื้นเล่าประวัติก่อน เดิมมีตอนซื้อเครื่องมาใหม่ๆ ก็ติดแรมมา 128 เมก ซึ่งสมัยนั้น ( ปลายปี 45 ) ก็ถือว่าเป็นมาตรฐานแล้ว รัน win98 ได้สบายๆ พอเจอเรื่องแรมมีปัญหาจากเรื่องก่อนหน้า ( ใครยังไม่อ่านไปอ่านก่อน จะได้รู้เรื่อง ) ก็เลยอยากซื้อแรมใหม่ เลยไปซื้อต่อเพื่อนมา 2 แถว แถวละ 128 เมก เป็น256 เมก กับของเก่าอีก 128 รวมเป็น 384 เมก ( ตัวเลขแปลกๆ ไม่คุ้นเลย ) แต่ก็เพราะไอ้แรมตัวเก่าไม่ค่อยดีอยู่แล้วแถมใช้มาตั้งปีแล้ว เราก็เลยโละมันไปให้หลานเรา ใช้แทน เพราะพอเราเปลี่ยนมาเป็น 256 เมกแล้วเครื่องเราแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใครอยากทำงานลื่นๆ ก็เพิ่มแรมก่อน รับรองเห็นผล ต่อมา desknote* ของแฟนเรามันเพี้ยนๆ เราอยากลง win xp แทน me ที่เขาใช้อยู่เดิมเลยต้องไปหา RAM 256 มาใส่ให้แทน 128 เมกที่อยู่ในเครื่อง พอใส่256 แทน ไอ้ 128 ก็เลยเหลือมาเป็นของเรา เครื่องเราก็เลยแรม 128 3 แถวเป็น 384 เมก 555 แรงสะใจ ( อันนี้ไม่รู้สึกเท่าไหร่เลย ) อยู่มาวันหนึ่ง ราหูเปลี่ยนราศี เปิดเครื่องมาทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี แต่พอเครื่องมัน start โปรแกรมใน task bar ขึ้นมานี่สิพอถึงโปรแกรม anti virus ( ตอนนั้นใช้ Mcafee ) ปรากฏว่ามันกลายเป็นจอฟ้า ที่เขาเรียกกันว่า หน้าจอแห่งความตาย ( death screen ) มันก็แจ้งบอกข้อผิดพลาดอยู่นะ แต่ไม่รู้ว่าอุปกรณ์อะไร เลยถอดนู่น ถอดนี่เหมือนเคย ก็ผ่านไปได้ สักพักคราวนี่เป็นตลอดเลย เอาไงดีเนี่ย ฮาร์ดดิสก์เสียเปล่าหว่าข้อมูลยังไม่ได้สำรองไว้เลย ทำไงดี? . พักไว้ก่อน มาดูการแก้ปัญหาของผม ชี่งทำให้ได้รู้อะไรมากมาย น่าจะมีประโยชน์ กับคนอื่นๆ บ้าง .
Linux Live CD มันมีประโยชน์ช่วยได้จริงๆ . กับข้อดีบางอย่างของ FAT32 ?
จากการที่ RAM เสีย ไม่สามารถเข้า windows ได้ ซึ่งในทีแรกคิดว่าเป็นเพราะฮาร์ดดิสก์เสีย จึงได้หาทาง back up ข้อมูลสำคัญหลายๆ อย่างไว้ เช่น เอกสารใน my document แต่เข้า windows ไม่ได้ทำไงดีทีนี้ เดิมทีก็ว่าจะ boot เข้า dos แทน แต่ก็มีปัญหาเรื่องการแสดงชื่อ เราดันพิมพ์ชื่อไฟล์เป็นภาษาไทยด้วย ยุ่งแหละทีนี้ เหลือบไปเห็น Linux 5.5 Live CD ที่ได้รับแจกมา ก็เลยคิดอะไรแผลงๆ เพราะเวลาใช้ linux มันมองเห็นpatition ของ windows และทำการ copy ไฟล์ได้ด้วยสิ เห็นเฉพาะformat แบบ FAT32 นะ NTFS ไม่เห็น นี่เลยกลายเป็นช้อดีของ FAT32 เลย เวลามีปัญหา windows ก็ใช้ linux ในการยักย้ายถ่ายเทไฟล์บน format FAT32 ได้ 555 รอดตัว แต่ไม่รอดตัวที่ว่า boot linux บางทีก็ boot ไม่ได้นี่สิ สงสัยมาก HDD เราก็ไม่ใช้แล้ว เพราะเท่าที่รู้มันจะใช้แรมในการทำงาน ทำไงทีนี้ .
กลับมาเรื่อง RAM ใหม่ อาการเสียครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆ เพราะว่ามันผ่านขั้นตอน POST ได้ แต่มาตายตอนเข้า windows เราเลยคิดว่าอาจเป็นข้อมูลบน HDD เสีย เลยลองใช้ Linux Live CD ซึ่งก็บูตเข้าได้ แต่บางคร้งทำงานไม่ได้ แต่ก็ลองบูตไปบูตมาจน สำรองข้อมูลบางส่วนไว้ได้ ขอบคุณ Linux 5.5 Live CD . มาถึงตอนนี้เลยลองถอดๆ ใส่อุปกรณ์ต่างๆเหมือนเคย คราวนี้เลยเอะใจลองถอดแรมออกมาดู ตอนเสียบกลับไปนี่สิโชคดี ผมเสีบไม่แน่นแถวนึง จาก 3 แถวที่มี มันบูตเข้าได้ ทำงานได้ แต่ขนาดแรมเหลือ 256 เมก ทีแรกคิดว่าคงหายแล้ว กำลังอยากเปลี่ยนเครื่องใหม่พอดีใช้มาตั้งกว่า 3 ปีแล้ว เลยกะว่าคงมีอะไรเสื่อมตามสหภาพแหละนะ ก็เลยลองเสียแรมแถวที่มีปัญหาอีกครั้ง ได้ผลครับมองเห็น 384 แต่เข้า windows ไม่ได้ ลองอยู่ 2 รอบเลยมั่นใจว่า แรมแถวนี้เสียแน่นอน ก็เป็นบทเรียนหนึ่งให้รู้ว่า RAM เสียอาการไม่ใช้มีแค่ POST ไม่ผ่านแต่ใช้ๆ ไปเดี้ยงก็เป็นได้ แรมนี้สำคัญมากๆ เลย
บทเรียนสอนใจ
RAM เป็นอะไรทีลงทุนแล้วคุ้มค่า ขอดีที่สุดเท่าที่มีกำลังทรัพย์พอ แต่ไม่มากจนเกินจำเป็น
มีแรมหลายแถว ดีกว่าแถวเดียว