"บันทึกเด็กชายจมูกเปียก"
~~ หลังวันแม่ 2005หากว่าความฉลาดมักจะมาพร้อมกับความซนหรือว่าความน่ารักมักจะแฝงมากับความเจ้าเล่ห ์ อย่างผมงี้จะเรียกว่าเป็นหนุ่มเจ้าเล่ห์แสนซนรึเปล่า?? แต่ที่ผมรู้...ผมคือ เดอะบัดดี้ ของแม่ผมชื่อ บัดดี้ ครับ อายุเกือบห้าขวบแล้ว กำลังโตเป็นหนุ่มเลย.. แม่บอกว่าถ้าผมเป็นคนก็คงอยู่ในช่วงเนื้อหอม ทำไมเหรอครับ... ก็เพราะว่า ผมหล่อด้วยนะสิ...จริงๆนะ แต่แม่สอนผมว่า good boy จะต้องไม่หลงตัวเอง ถ้างั้นผมต้องบอกว่าผมน่ารักมากครับ... (ไม่ได้ล้อเล่นน๊า) เพราะใครที่นี้ก็ชอบผมกันทั้งนั้น พี่ๆเค้ามักจะเรียกผมว่า น้องดี้ และนอกจากความหล่อที่ผมบังคับมันไม่ได้แล้ว ผมยังมีความโสดแถมมาอีกด้วยครับ... จึ๋ย จึ๋ย แต่ว่าวันแม่ปีนี้ผมก็ไม่มีของขวัญพิเศษให้แม่เลยเหมือนเดิม เพราะผมรักแม่ของผมทุกวันอยู่แล้ว... (แต่ผมก็เคยพยายามทำอะไรพิเศษให้แม่อยู่เหมือนกันนะ)หลายๆครั้งนานมาแล้วผมไม่เข้าใจเลยว่าใครๆ ก็บอก--สุนัขเป็น Mans best friend... มันแปลว่าอะไรครับ? เพราะเท่าที่ผมรู้ ก็คือผมเป็นเพื่อนที่ดีของแม่ แล้วแม่เค้าก็รักผมมากด้วย (ฮิฮิ) แม่เล่าให้ผมฟังว่า หลายๆ คนรู้จักผมและเพื่อนโกลเด้น รีทรีฟเวอร ตัวอื่นๆ กันเป็นอย่างดีในฐานะที่เป็นสุนัขที่น่ารัก, ฉลาด, แสนรู้ และมีสัญชาตญาณคาบของเก็บของ แต่แม่บอกว่านั่นเป็นคุณสมบัติของพวกเราอย่างผิวเผิน จริงๆแล้วต้องเติมไปอีกหน่อยว่า ดื้อด้าน, ขี้งอน และเห็นแก่กินอันดับหนึ่ง อันหลังนี่ที่เค้าเรียกว่า ผมตะกละใช่ป่าว ผมว่าแม่น่าจะดีใจนะที่ผมกินได้ (ง่ายมาก) และนอนหลับสบายกว่าใครๆตั้งหลายคน และที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งคือ ผมเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่ยิ้มและมีความสุขได้ตลอดเวลา แต่เอ...ทำไมแม่ถึงเคยบอกผมว่า คิดไม่ผิดเลยที่เอาผมมาเลี้ยง ไม่งั้นคนอื่นเค้าคงต้องเดือดร้อน... แล้วอันนี้มันแปลว่าอะไรครับ??? ไม่เข้าใจ... ไม่เข้าใจ... ผมเกิดและโตที่เมืองซานดิเอโก้ มันอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย แม่บอกว่าที่นี่มีคนเลี้ยงสุนัขมากเป็นอับดับต้นๆ ของประเทศเลย ว่าแต่ว่าบ้านผมที่นี่มันคงไกลจากเมืองไทยมากใช่ไหมครับ เพราะเวลาที่แม่ไปเมืองไทยที่ไรไม่ เห็นแม่จะเคยชวนผมไปด้วยเลยซะที ทั้งๆที่ผมพยายามทำให้แม่รู้แล้วว่า ให้น้องดี้ไปจ้วย...ขอน้องดี้ไปจ้วย... ผมอยากไปด้วยจริงๆนะ ผมเลยงัดเอาไม้ตายมาทำให้แม่รู้ความต้องการของผมตั้งหลายอย่าง ทั้งคาบกระเป๋าใบโปรดของแม่แล้วไม่ยอมคืน หรือการเห่าเสียงดังๆ ซึ่งแม่ผมต้องรู้แน่ๆ เพราะแม่เคยบอกว่ากล่องเสียงของผมอยู่ใต้ต่อมเอาแต่ใจนิดเดียวเอง ฉะนั้นเวลาผมอยากจะได้อะไรขึ้นมา ต่อมเอาแต่ใจจะสะเทือนไปโดนกล่องเสียงของผมทันที แล้วยิ่งถ้าผมไม่ได้อะไรดั่งใจมันก็จะทำงานระบบ non-stop ได้ด้วยตัวของมันเองเลยทีเดียว แต่สุดท้ายไม่รู้ทำไมผมถึงแพ้ขนมที่แม่เอามาใส่ในของเล่นของผมทุกครั้งเลย และมันทำให้ผมลืมเรื่องตามแม่ไปเที่ยวหรือเรื่องอื่นๆ ทุกทีซิน่า... ถึงยังไงก็ตามแต่ ผมก็แอบฝันไว้ว่าวันหนึ่งผมจะได้ไปอยู่เมืองไทย ได้กินขนมอร่อยๆที่เมืองไทย แล้วก็มีเพื่อนที่เมืองไทยด้วย แม่บอกผมว่าสาวๆที่เมืองไทยน่ารักด้วยครับ... แต่แม่ไม่รู้หรอกว่าผมเริ่มสะสมกระดูกเอาไปฝากสาวๆที่โน้นบ้างแล้ว... ฮิฮิแม่คอยถามผมทุกวันเวลาแม่กลับจากทำงานว่า วันนี้น้องดี้ good boy อ๊ะป่าว แม่บอกผมว่าถ้าผมไม่เป็นเด็กดี ที่ไหนๆ ก็จะไม่มีใครรักผมถึงแม้ผมจะหน้าตาดีก็ตาม (ฮิฮิ) ที่สำคัญจะไม่มีใครมาช่วยผมโดยเฉพาะเวลาที่ผมเจอแก็งค์มาเฟียบางแก้ว ที่เมืองไทย พวกเค้าเป็นใครกันครับ?... ผมว่าผมไม่กลัวหรอกเพราะผมตัวใหญ่กว่าตั้งเยอะน่าจะสู้ไหว แต่ทำไมแม่ถึงบอกว่า เดี๋ยวก็รู้ !! แม่ยังบอกผมอีกว่าเค้าจะมาแย่งส่วนแบ่งจากขนมและของเล่นที่ผมมีโดยที่ผมไม่ยินยอม... ผมเริ่มกลัวขึ้นมาหน่อยๆแล้วสิครับ เพราะตั้งแต่ผมจำได้ผมจะได้ทุกอย่างคนเดียว ก็ผมมันลูกชายคนเดียวของบ้านนี่หน่า บอลก็ของดี้... คุ้กกี้ก็ของน้องดี้ตัวเดียวนะ... แต่ผมแอบได้ยินแม่พึมพำว่า ที่บ้านเราก็มีมาเฟียเหมือนกัน เจ้านี่มันตัวโตและกินเก่งมากจนแม่ตั้งฉายามันว่า นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นกิน แถมยังทำงานตัวเดียว บุกเดี่ยวทุกครั้งที่ได้กลิ่นอาหารเลยครับ ขนาดบางทีแม่ต้องแอบเอาช็อกโกแลตเข้าไปกินในห้องน้ำ เพราะไม่อย่างนั้นมันจะแย่งไปจากมือแม่ผมทันที เอ..ผมว่ามันคุ้นๆยังไงไม่รู้... ว่าแต่ผมแอบเห็นแม่ถือส้มของโปรดของผมไปหน้าทีวีแล้ว อ้าว! อย่างนี้ผมต้องไปก่อนแล้วครับ เพราะต้องรีบไปขอแม่หมำๆ ด้วยกัน ก่อนจะไปแปรงฟั้นฟันหล่อของผมหนะสิ...
น่ารักจังเลยหน่ะค่ะ สีผมสวยดี