ไม่อยากจะคิดเลย ว่ามันจะเกิดขึ้น ตัวเอง แต่งงานและอยู่เบลเยี่ยมมา 6 ปีค่ะ มีลูกสาวกับสามี อายุ สี่ขวบครึ่งคะ กลับเมืองไทยแต่ละครั้ง นั้นมีค่าใช้จ่ายมากมาย คิดคำนวณค่าเดินทางและค่าใช้จ่าย มากพอกับการผ่อนบ้าน มาคิดกันว่าซื้อบ้านดีกว่า กลับเมืองไทยจะไดประหยัดค่าโรงแรมไป สามีและตัวเองก็ตกลงใจที่จะซื้อบ้านพร้อมที่ดินในในราคาประมาณ 3 ล้านบาท โดยที่สามีใช้บ้านที่นี่รีไฟแนนส์ เลยได้เงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้าน ระยะการผ่อนส่งประมาณ10ปี และวางแผนว่าหลังจากผ่อนหมดแล้วคิดกันว่าจะกลับมาอยู่ที่เมืองไทย ( ต้องบอกว่าสามีและตัวเองมีหน้าที่การงานที่ดี มั่นคง ) เมื่อปลายปี สามีและตัวเองได้ตัดสินใจซื้อบ้านที่เมืองไทย และจะนัดโอนเร็วๆนี้ ปัญหาเริ่มขึ้น เราติดต่ิอไปที่ดิน เพื่อสอบถามว่า จะให้ใส่ชื่อสามีร่วมด้วย ในส่วนของสิ่งปลูกสร้าง โดยมีชื่อ เราเป็นเจ้าของทั้งบ้านและที่ดิน (สามีทราบมาว่าชาวต่างชาติมีสิทธิในส่วนของสิ่งปลูกสร้างแต่ไม่มีในส่วนของที่ดินในประเทศไทย) แต่เจ้าหน้าที่ได้บอกว่าไม่ได้หรอกเพราะมันขัดกับ กม และจะทำให้เรามีความผิดไปด้วย คล้ายกับว่า เราต้องการทำเผื่อให้ชาวต่างชาติมีสิทธิในการครอบครอง เราก็ได้อธิบายให้สามีฟัง สามีก็โวยวายไม่เห็นด้วยและไม่ยอม เพราะ 1. ตามที่สามีบอกว่า.ธนาคารที่ไปกู้มานั้นต้องการหลักฐานว่าเค้ามีส่วนเป็นเจ้าบ้านด้วย 2. สามีว่า ถ้าใช้ชื่อเราคนเดียว เราเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร เราก็แล้วจะทำอย่างไรล่ะ ในเมื่อ มันไม่ได้อย่างที่วางแผนไว้ทีแรก ตอนนี้รู้สึกหดหู่มากก็คือ 1.เค้าจะให้ทำเป็นแบบสัญญาเช่าระยะยาวแล้วให้ทำสัญญาแยกออกมาว่าเค้ามีสิทธิในการครอบครอง (จดที่เบลเยียม ในใจคิดว่า เหมือนกับจดทะเบียนแบ่งแยกสมบัติประมาณนั้น) ในใจคิดว่า จะเอางั้นเลยเหรอ 2.ข้องใจ เรื่องสัญญาเแยก เพราะ ทำไมล่ะแค่สัญญาเช่าระระยาวแบบ30ปี ไม่พอเหรอ (จริงหนี้สินที่นี่10ปีผ่อนหมด หลังจากนั้นใส่เป็นชื่อลูก เค้าบอกว่าแล้วถ้าลูกเกิดเกเรขึ้นมาขายบ้านไปแล้วจะทำอย่างไร ในใจเราคิดแล้วไงมันก็ลูก สมบัติเราก็เป็นของลูกอยู่ดี ส่วนตัวเราเห็นด้วยกับ สัญญาเช่าระยะยาวและก็ทำพินัยกรรมให้ลูกสาว เพราะว่าถ้ากลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรานัก และสามีก็ยังอยู่อาศัยได้ หรือว่ากลัวญาติพี่น้ิองพ่อแม่เราจะมาเกี่ยวด้วย (ทั้งที่ทางญาติพี่น้องก็ไม่เคยมายุ่งเกี่ยว) เราส่งเงินให้พ่อแม่เราบ้างก็ ไม่ได้มากมากอะไร แล้วอีกอย่างเราใช้หลักฐานการส่งเงินมาหักภาษีในแต่ละปีของที่นี่ เมื่อกี้โทรมาที่ทำงานว่าจะติดต่อ ทำแบบเปิดบริษัทน่าจะดีกว่า ส่วนตัวเรา เข้าใจว่าถ้าเราเป็นไรเค้าต้องผ่อนคนเดียวแล้ว เค้ารู้ว่าไม่มีสิทธิตามกม แต่ว่าแล้วไงอะ เรากำลังเสียความรู้สึกว่า เค้าไม่ไว้ใจเราเลย ถ้าเราทำตามที่เค้าบอก หลังจากปี10ปีผ่อนหมด ตอนนี้ คิดว่าถ้าไม่ได้ลาจากตายแต่เป็นลาจากเป็นล่ะ เค้ามีคนอื่นแล้วเราจะทำอย่างไร ทุกอย่างมันเกือบจะดีแล้วแต่ พอมีเรื่องนี้เข้ามาทำให้เราคิดว่าชีวิตคู่เรามันจะไปรอดมั้ย   Create Date : 27 เมษายน 2552 5 comments Last Update : 27 เมษายน 2552 21:09:21 น. Counter : 650 Pageviews. Share Tweet

ใจเย็นๆๆนะค่ะ ค่อยพูดค่อยคุยกัน เราก็เป็นน่ะ คุยเรื่องนี้ทำให้ทะเลาะกันง่ายๆๆเลยอ่ะ   โดย: wasmb 27 เมษายน 2552 22:48:20 น.

เฮ้ยยยยยยยย อย่าคิดอย่างนั้นนะ ฟังแล้ว ยังไม่มีเรื่องเลย มันเลยเป็นเรื่องไปซะ จิตสั่งกาย นะคะ ไงก้อคิดทางดีๆ (เหมือนกับว่า เอ ซื้อบ้านที่ไทยแล้ว ผ่อนเสร็จ เมียเราจะหนี้ไปอยู่คนเดียวป่าว หว่า ไรงี้ เค้ารัก เราต่างหาก ) ไงๆ ก้อนะ เอาใจเขามาใส่ใจเรามากๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ผ่านตรงนี้ไปได้นะ จ๊ะ   โดย: SomGui 28 เมษายน 2552 6:52:21 น.

เอางี้ม่ะไม่แน่ใจนะว่ากรณีของคุณจะใช้ได้ป่าว เพราะเคยเห็นสามีฝรั่งและภรรยาคนไทย ซื้อที่ดินแล้วในโฉนดจะควบกันสองชื่อก็คือ หลังโฉนดเค้าจะเขียนว่าเจ้าของคือตัวภรรยา แล้วสามีเป็นผู้รับจำนองจากภรรยาอีกทีหนึ่งอะ คือ คุณเอาที่ดินจำนองไว้กะฝรั่ง   โดย: คนไทยในไทย IP: 118.172.25.213 28 เมษายน 2552 9:37:47 น.

มาให้กำลังใจค่ะ อย่าคิดมากค่ะ อยู่มาตั้ง หก เจ็ดปีไม่ใช้ระยะเวลาน้อยเลย เรื่องนิดส์เดียวอย่าคิดมากค่ะ บ้านก็คือ บ้านที่ก็คือที่ไปไหนไม่ได้หรอกค่ะ นอกจากทุบทิ้ง   โดย: tju 29 เมษายน 2552 2:36:59 น.

เป็นกำลังใจให้นะคะ ลองอธิบายให้เค้าเข้าใจก่อน ถ้าเค้ายังไม่ยอมก็ตัดปัญหาไม่ต้องซื้อหรอกค่ะ เดี๋ยวเรื่องจะบานปลาย กรณีของเรายกให้ลูกหมดเลยค่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นลูกเราก็มีสิทธิ์คนเดียว   โดย: M y . P l a c e 29 เมษายน 2552 3:34:06 น.