นิทรรศการทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน สืบสาน สมานมิตร
กระทรวงการต่างประเทศ และนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ร่วมจัดนิทรรศการ สืบสาน...สมานมิตร Furthering the Bonds Friendship นิทรรศการเทิดพระเกียรติเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช : ด้านการเจริญพระราชสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 6 มกราคม 2560 ที่ห้องโถงนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ เนื้อหานิทรรศการแบ่งออกเป็น ๙ ส่วน (๑) จากวันนั้นถึงวันนี้ ประวัติศาสตร์การทูตและความสัมพันธ์กับนานาประเทศของไทย เริ่มตั้งแต่สุโขทัยเป็นราชธานี ตลอดสมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรีจวบจนเข้าสู่กรุงรัตนโกสินทร์ นับเป็นเวลาหลายร้อยปีที่การเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศของไทยดำเนินสืบเนื่องมา มีผลด้านการทหาร ความรู้ศาสตร์และศิลปะที่แตกต่าง เทคโนโลยีการก่อสร้างพัฒนาสภาพเมือง และปัจจัยอีกประการหนึ่งคือเพื่อการผดุงเศรษฐกิจการค้าระหว่างชาติที่เป็นไมตรีต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน (๒) โลกที่เปลี่ยนไป เนื่องจากสภาพการณ์ในภูมิภาคที่ถูกกระทบอย่างหนักหน่วงจากลัทธิจักรวรรดินิยมในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ สยามจำต้องปรับเปลี่ยนแนวทางดำเนินนโยบายด้านการต่างประเทศ ทำให้เริ่มมีการติดต่อค้าขายกับชาติตะวันตกมากขึ้น นับตั้งแต่สมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จนมาถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทุกพระองค์ทรงดำเนินพระวิเทโศบายอย่างลึกซึ้ง รอบคอบ โดยทรงตระหนักถึงประโยชน์ของชาติเป็นประการสำคัญ (๓) สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยกับการเจริญพระราชสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศในยุคปัจจุบัน การสืบทอดและดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตโดยสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทรงยึดถือตามธรรมเนียมทางการทูตที่มีมาแต่เดิม มาถึงการปรับเปลี่ยนจนเข้าสู่แบบแผนธรรมเนียมการทูตอันยอมรับนับถือเป็นสากลในปัจจุบัน ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ยังคงความสำคัญยิ่งไม่ว่าจะเชิงสัญลักษณ์ในกระบวนการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญการปกครองไทยและในทางจิตใจอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย (๔) พระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับแต่รัชสมัยแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นอกจากที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการเจริญสัมพันธไมตรีในฐานะพระประมุขแห่งชาติตามแบบแผนธรรมเนียมการทูตสมัยใหม่แล้ว ยังทรงประกอบพระราชกรณียกิจอเนกอนันต์อันเป็นคุณมหาศาลแก่การเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ และ แม้ในยามที่ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนินด้วยพระองค์เอง ก็ยังโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หรือพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ต่างๆ เป็นผู้แทนพระองค์ทั้งในการเสด็จพระราชดำเนินและเสด็จเยือนต่างประเทศรวมทั้งการรับรองอาคันตุกะในหลายวาระโอกาส (๕) ผลแห่งการเจริญสัมพันธไมตรีในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การเสด็จพระราชดำเนินเยือนมิตรประเทศ มิได้เป็นเพียงการพบปะเยี่ยมเยียนตามธรรมเนียมในฐานะประมุขแห่งรัฐเท่านั้น หากเป็นการทรงงานอย่างจริงจังตลอดการเดินทาง อีกทั้งยังต้องทรงเตรียมพระองค์อย่างมากหลายประการเพื่อความสง่างามและความเหมาะสมกับพระราชภารกิจ ในแต่ละประเทศที่ทรงตั้งพระราชหฤทัย ไปดูไปรู้ไปเห็น และ ไปเข้าใจสรรพวิทยาการความรู้เทคโนโลยีทุกด้านที่จะเป็นประโยชน์ต่อกิจการงานของประเทศไทย ในขณะเดียวกันก็ทรงเป็นทูตพิเศษที่นำความเป็นไทยไปเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักเข้าใจในหมู่ชนต่างศาสนาต่างวัฒนธรรมด้วย มิตรไมตรีที่เกิดขึ้นในระดับพระราชวงศ์และระดับชาติอันเนื่องมาแต่การทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศนั้น ประกอบด้วยการให้และการรับระหว่างกันซึ่งได้ก่อให้เกิดผลอันเป็นคุณมากมาย ดังประจักษ์พยานต่างๆที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน (๖) การถวายพระเกียรติคุณจากนานาประเทศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นพระมหากษัตริย์ผู้อุทิศพระองค์ทรงงานหนักตลอดระยะเวลา 70 ปี แห่งการครองราชย์ พระราชกรณียกิจที่ทรงไว้มีคุณประโยชน์ใหญ่หลวงแก่ชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยทุกภูมิภาค ทุกเชื้อชาติศาสนา ทรงวางแนวทางจัดการปัญหาทรัพยากรหลักที่เป็นหัวใจของการอยู่รอดของมนุษยชาติไม่ว่าจะเรื่องพื้นที่ทำกินและเรื่องน้ำ พระราชทานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์กรระดับโลก และจากนานาประเทศว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบยั่งยืน และเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบใหม่ที่ใช้ได้เป็นสากล จึงเป็นที่มาของการยกย่องพระเกียรติคุณ และรางวัลที่นานาประเทศและองค์กรระดับโลกทูลเกล้าฯ ถวายมากมาย (๗) จากทุกท้องถิ่นไทย สู่ประชาคมโลก ความรู้และประสบการณ์ที่ทรงสั่งสมจากการเสด็จพระราชดำเนินเยือนนานาประเทศ ไม่ว่าในภูมิอากาศร้อนหรือหนาว พื้นที่ภูเขา, ที่ราบลุ่มหรือชายทะเล แห้งแล้งหรืออุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นดินแดนแห่งการเกษตรหรืออุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนา เมื่อผสานกับความรอบรู้เรื่องราวธรรมชาติและวิถีชีวิตประชาชนบนผืนแผ่นดินไทยที่เกิดจากการเสด็จพระราชดำเนินไปทุกหนแห่ง ทรงรับรู้ปัญหาความเดือดร้อนหรือสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินหรือความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่นนั้นๆ ก็เกิดเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากมายกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ (๘) การน้อมนำแนวพระราชดำริด้านการพัฒนาและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในต่างประเทศ ปรัชญาและแนวทางปฏิบัติที่ พระราชทานไว้เป็นเสมือนภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน นานาชาติที่มีโอกาสได้รับรู้เริ่มเข้าใจและซาบซึ้งในคุณค่า จนมิตรประเทศหลายประเทศน้อมนำภูมิความรู้และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไปใช้เพื่อพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาให้แก่ท้องถิ่นของตน (๙) ประชาคมโลก น้อมรำลึก และร่วมสืบสานพระราชปณิธาน แม้ว่ารัชสมัยแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์นักพัฒนาผู้ยิ่งใหญ่แห่งประวัติศาสตร์มนุษยชาติจะผ่านพ้นไปแล้ว หากแต่พระราชไมตรีและสายสัมพันธ์ระหว่างพระราชวงศ์และระหว่างประเทศไทยกับมิตรประเทศที่ได้มีขึ้นและกระชับมั่นแล้วด้วยพระเกียรติคุณจะไม่สิ้นสุดหยุดลงเพียงวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ตุลาคม ๒๕๕๙ หากแต่จะคงสมัครสมานมิตรภาพยั่งยืนสืบไป เฉกเช่นพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่ได้ทรงไว้จักมีการสืบสานพระราชปณิธานตราบนานเท่านาน สิ่งของจัดแสดง ตัวอย่างสิ่งของที่นานาประเทศทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช Interactive Map แสดงให้เห็นถึงพระราชกรณียกิจด้านการเจริญพระราชสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ เมื่อครั้งที่เสด็จเยือนต่างประเทศระหว่าง ๒๕๐๒ - ๒๕๓๗ อันนำเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับมิตรประเทศ สิ่งที่ต้องการสื่อสารกับผู้เข้าชมนิทรรศการ สืบสาน
สมานมิตร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงวางรากฐานและดำเนินพระราชกรณียกิจอันก่อให้เกิดพระราชไมตรีและสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและยั่งยืนระหว่างพระราชวงศ์และระหว่างประเทศไทยกับมิตรประเทศมาตั้งแต่อดีตและจะยั่งยืน สืบสานต่อไปตราบนานเท่านาน ทั้งยังทรงสั่งสมความรู้ ประสบการณ์จากการเสด็จพระราชดำเนินเยือนนานาประเทศ นำมาผสานกับความรอบรู้เรื่องราวธรรมชาติและวิถีชีวิตประชาชนบนผืนแผ่นดินไทยที่เกิดจากการเสด็จพระราชดำเนินไปทุกหนแห่ง ทรงรับรู้ปัญหา ความเดือดร้อนหรือสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินหรือความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่นนั้นๆ ก็เกิดเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากมายกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งนอกจากปรัชญาและแนวทางปฏิบัติที่ พระราชทานไว้เป็นเสมือนภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจให้ประชาชนชาวไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน นานาชาติที่มีโอกาสได้รับรู้เริ่มเข้าใจและซาบซึ้งในคุณค่า จนมิตรประเทศหลายประเทศน้อมนำภูมิความรู้และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไปใช้เพื่อพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาให้แก่ท้องถิ่นของตน
Create Date : 24 ธันวาคม 2559 |
Last Update : 24 ธันวาคม 2559 12:51:07 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1182 Pageviews. |
|
|
|