มีโอกาสไปร่วมทริปขี่จักรยานใน2 จังหวัด พร้อมท่องเที่ยวไปด้วย ได้รับทั้งความสนุกสนานเพลิดเพลินและสุขภาพเริ่มที่สุพรรณบุรี ที่พร้อมยกระดับเป็นเมืองกีฬา ควบคู่การเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวภาคกลาง เพิ่งจัดงานใหญ่ขี่สองล้อเชิงท่องเที่ยว “ปั่นจักรยานสไตล์เมืองเหน่อไปให้ถึงขอให้ทันครั้งที่ 4”เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา

งานนี้หัวเรือใหญ่อย่างวราวุธ ศิลปอาชา ประธานสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี เปิดเผยว่า หลังจากร่วมสร้างสโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี เอฟซี จนประสบความสำเร็จเป็นทีมชั้นแนวหน้าของลีกไทยในปัจจุบัน จึงมีแผนสร้างสรรค์กิจกรรมผ่านการออกกำลังหลากหลายรูปแบบอย่างจริงจังหนึ่งในนั้นคือกิจกรรมปั่นจักรยานสไตล์เมืองเหน่อ ที่เพิ่งผ่านไปมีนักปั่นทั้งประเทศเข้าร่วม4-5 พันคัน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้เพียง 1,500 คัน โครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากทีเดียว โดยมีระยะการขับขี่3 ระยะ ไกลสุดก็ 100 กว่ากิโลเมตร ก็แล้วแต่ความชอบและความสามารถของนักขับแต่ละคน

วิศรุต อินแหยมผู้อำนวยการททท.สุพรรณบุรี เล่าว่างานนี้ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสุพรรณให้คึกคัก โดยเฉพาะในวันที่ 23-24 สิงหาคมนั้นโรงแรมที่พักของสุพรรณเต็มหมด คาดว่ามีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทซึ่งสุพรรณนั้นมีถนนกว้างขวางเหมาะกับการขี่จักรยานและยังมีเส้นทางซอกแซกสามารถขี่จักรยานเข้าไปเที่ยวในโครงการซอกแซกอันซีนสุพรรณได้อีกด้วย ขณะที่ภูมิทัศน์และจุดท่องเที่ยวข้างทางก็มีความสวยงาม

ที่สุพรรณเรายังได้มีโอกาสเที่ยวอีกหลายแห่งทั้งตลาดสามชุกซึ่งยังมีความคึกคักมีอาหารนานาชนิด ตลาดมีความเป็นระเบียบ สะอาด สวยงามรวมถึงได้ไปสักการะหลวงพ่อโตแห่งวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เยี่ยมชมสนามฟุตบอลสุพรรณบุรีเอฟซี ที่ใหญ่โตโอ่อ่าทันสมัย ก่อนปิดท้ายที่อนุสรณ์ดอนเจดีย์อีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวอีกจังหวัดที่มีโอกาสได้ไปขี่จักรยานอย่างสนุกมากนั่นคือสมุทรปราการกับทริป “ 9 Wonder 9 อัศจรรย์สมุทรปราการ” โดยมีอัครวัฒน์อัศวเหม รองนายกอบจ.สมุทรปราการนำเที่ยวตลอดทริป แม้จะได้ไปเที่ยวไม่ครบทั้ง 9แห่งแต่ก็สนุกสนานตลอดวันเลยทีเดียว

9 อัศจรรย์ของสมุทรปราการ มีเอกลักษณ์โดดเด่นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณีและวิถี พร้อมทั้งกิจกรรมต่างๆเพื่อตอบสนอง และรองรับความต้องการทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ อาทิ ปั่นจักรยานท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพพักผ่อนชมธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ (กระเพาะหมู) หรือการชมนกนางนวลอย่างใกล้ชิดที่มีแห่งเดียวในประเทศตลอดจนการออกกำลังกายอย่างมีรสนิยมกับการลีลาศที่มีชื่อเสียง ณสถานที่พักตากอากาศบางปู ฯลฯ

9 แหล่งท่องเที่ยวได้แก่ ป้อมพระจุลจอมเกล้า (เรือรบหลวงที่มีอายุยาวนาน) ชุมชนบ้านสาขลา(เจดีย์เอียง) พระสมุทรเจดีย์ (สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง) จิตรกรรมศิลป์(วัดโปรดเกศเชษฐาราม / วัดบางน้ำผึ้ง / วัดสร่างโศก) ตลาดน้ำร้อยปีคลองสวนและตลาดบางน้ำผึ้งรวมไปถึงประเพณีรับบัว วัดหลวงพ่อโต (ประเพณีรับและโยนดอกบัวเป็นประเพณีโบราณที่มีที่เดียวในโลก) และของดีดั้งเดิมประจำถิ่น (มะม่วงน้ำดอกไม้/ ปลาสลิด / ขนมจาก / กุ้งเหยียด) เป็นต้น

วันนั้นเราได้ไปนมัสการพระสมุทรเจดีย์ ปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองและเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสมุทรปราการก่อนไปชมเจดีย์เอียง 200 ปี ในชุมชนบ้านสาขลา วิถีชีวิตริมน้ำที่ได้รับการขนานนามว่า ‘เวนิชแห่งเมืองไทย’ ชมพระปรางค์เอียง 200 ปี หนึ่งเดียวในไทย และชมพิพิธภัณฑ์บ้านสาขลาลอดใต้โบสถ์ชมรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ ที่น่าสนใจมากๆ ไม่นึกเลยว่าใต้โบสถ์จะจัดแสดงเป็นห้องๆได้มากมายขนาดนี้

พลาดไม่ได้ต้องชิม“กุ้งเหยียด” อาหารขึ้นชื่อประจำหมู่บ้านเป็นกุ้งที่มีความพิเศษกว่าที่อื่นตรงที่ลำตัวของกุ้งจะเหยียดตรงและต้มโดยไม่ต้องเติมน้ำ รอคอยและปล่อยให้เนื้อกุ้งคายความหวานออกมา ‘ใครมาสาขลาแล้วไม่กินกุ้งเหยียดถือว่ามาไม่ถึงสาขลา’

ปิดท้ายกับโซนกระเพาะหมู : เกาะสีเขียว… ปอดแห่งมหานครที่บางกระเจ้า ผืนป่าธรรมชาติผืนเดียวที่ติดเมืองหลวง มีเนื้อที่รวมกว่า 1.1หมื่นไร่มีรูปร่างคล้ายกระเพาะหมู ขี่จักรยานอย่างสนุกสนาน ชมนกต่างๆเรียกว่าได้ปั่นสนุกสัมผัสแหล่งผลิตอากาศบริสุทธิ์ซึ่งสถานที่แห่งนี้ ได้รับการยกย่องจาก นิตยสารไทม์มาแล้วให้เป็นโอเอซีสใกล้กรุงดีที่สุดในเอเชีย

ทริปขี่จักรยานทั้ง 2 ทริปทั้งได้สนุกและสุขภาพ