|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
บทความดีๆ : ยาคุม
การกินยาคุมกำเนิดเป็นเรื่องของหญิงสาวที่ต้องคอยทำหน้าที่แทนเจ้าผู้ชายที่ไม่อยากคุมกำเนิดด้วยการใส่ถุงยางป้องกัน แต่ก็มีผลกระทบต่อร่างกายหญิงสาวไม่น้อย
การกินยาคุมเดี๋ยวนี้ไม่ได้กินเฉพาะคนที่มีครอบครัวแล้วที่ต้องการคุมกำเนิดหรือยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร แต่ยาคุมทำหน้าที่คุมกำเนิดครอบคลุมไปถึงสาวรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์แต่ไม่ต้องการให้เกิดการปฏิสนธิ พูดง่าย ๆ ว่าไม่อยากมีลูกออกมานั่นเอง
ร้านขายยาบ้านเราสามารถเลือกซื้อยาคุมกำเนิดได้หลากหลายชนิด และผู้หญิงที่กินยาคุมที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน มักมีอาการข้างเคียงไม่สบายตัว บ้างก็คลื่นไส้ บ้างก็อ้วนขึ้น หรือบ้างก็มีอาการภายในหลากหลาย ข่าวล่าสุดจากการวิจัยของมหาวิทยาลัยกรุงปราก สาธารณรัฐเชค ได้ทำการวิจัยกับหญิงสาววัย 15-19 ปี ที่กินยาคุมกำเนิด ในจำนวนโดสต่ำคือประมาณ 15 ไมโครกรัมของสารสำคัญตัวหนึ่งที่เรียกว่า Ethinyl estradiol ที่เป็นตัวยาสำคัญที่อยู่ในยาคุมกำเนิดแทบทุกแบรนด์ในท้องตลาด โดยเด็กสาวกลุ่มนี้กินต่อเนื่องอยู่เก้าเดือน
ปรากฏว่าหญิงที่กินยาแบบนี้ เมื่อตรวจดูการเจริญเติบโตของความหนาแน่นของกระดูกและสารอาหารในมวลกระดูก มีความไม่ปกติแต่เมื่อเทียบกับกลุ่มสาวรุ่นวัยเดียวกันที่กินยาแบบเต็มครบโดสคือ 30 ไมโครกรัมเป็นระยะเวลาเท่ากัน เมื่อตรวจดูสภาพกระดูก ผลปรากฏว่ากระดูกพวกเธอเหล่านั้นไม่มีปัญหาเรื่องการผุกร่อน หรือผิดปกติในการสร้างความแข็งแรงของกระดูก
การวิจัยนำเอาผู้หญิงมา 82 คน ที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยรุ่นปลาย คนกลุ่มนี้การเติบโตของกระดูกกำลังทำงานอย่างเต็มที่ หัวหน้าคณะวิจัย ดอกเตอร์แจน สเตฟาน แยกออกมา 28 คนเป็นกลุ่มควบคุมไม่ต้องกินยาอะไร อีก 54 คนก็นำมาทดลองให้กินยาคุมกำเนิดที่มีสาร Ethinyl estradiol ตัวประกอบของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน ต่อเนื่องเป็นเวลาเก้าเดือน หลังจากนั้นทำการตรวจสอบการเจริญเติบโตของกระดูกสันหลัง ทั้งก่อนที่เข้าร่วมการวิจัยและหลังจากครบกำหนดเก้าเดือน ที่บางกลุ่มไม่ได้กินยากับกลุ่มที่กินยา กลุ่มที่เป็นกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้กินยาใด ๆ เมื่อตรวจกระดูกความหนาแน่นของกระดูกเพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ เกลือแร่สำคัญในกระดูกเพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มที่ให้กินยาคุมกลุ่มแรกที่ให้กินยาแบบครบโดสทีละ 30 ไมโครกรัมก็มีอัตราการโตของกระดูก 1%เท่ากันแต่เมื่อกลับมาให้กินแบบ 15 ไมโครกรัมปรากฏว่ากระดูกกลับมาเหมือนเดิมก่อนกิน แต่กลุ่มที่เริ่มด้วยการกินแบบโดสต่ำไม่มีผลอะไร แต่เมื่อเพิ่มเป็นเต็มโดสกลับมีผลสะสมทำให้กระดูกเติบโตกลับมาแบบกลุ่มคนปกติ
แต่ที่น่าตกใจในผลการศึกษาพบว่ากลุ่มที่กินแบบ 15 ไมโครกรัมตั้งแต่เริ่มแรก การเติบโตของกระดูกหยุดชะงัก และเมื่อครบเวลา ตรวจกระดูกกลุ่มนี้อีกครั้งพบว่าการเติบโตติดลบลงไป 2% และการดูดซึมเกลือแร่จากอาหารสู่กระดูกก็ทำได้ไม่ดีเท่ากลุ่มที่ไม่ได้กินยา (กลุ่มกินแบบ 15 แล้วมาเพิ่มเป็น 30 มีอัตราเพิ่ม 1.7% ส่วนพวกกลุ่มปกติเพิ่มอยู่ที่ 3.7%) ดอกเตอร์แจน ออกมาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าสาร Ethinyl estradiol ในกลุ่มโดสต่ำทำให้ไปกดการทำงานของฮอร์โมนผู้หญิงไม่เหมือนกับการกินในโดสปกติที่ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน
ดอกเตอร์เครก แลงแมน ออกอาจารย์แพทย์จากโรงพยาบาลเด็กวัยรุ่นในชิคาโกออกมาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญน่าสนใจ เพราะว่าทุกวันนี้มีสาวรุ่นอเมริกันที่ใช้ยาคุมกำเนิดอย่างผิดวัตถุประสงค์ใช้แบบไม่ระวัง ไม่ได้ใช้เพื่อการคุมกำเนิดแต่อย่างใด
เป็นอีกมุมมองหนึ่งของการเลือกใช้ยาให้ถูกที่ถูกทาง วัยรุ่นบ้านเราก็เลียนแบบตะวันตกไม่น้อยทีเดียว ยาทุกประเภทมีผลกระทบต่อร่างกายในด้านใดด้านหนึ่งเสมอ เลือกกินเลือกใช้ แนะนำคนใกล้ตัวให้ระวัง
Never-Age.com
Create Date : 11 ธันวาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 11 ธันวาคม 2552 19:39:36 น. |
Counter : 505 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
iLength = document.images.length; for(i=0;i
|
|
|
|
|
|
|