ชีวิตไม่เคยยาก แค่ทำใจให้สบายๆ

 
กันยายน 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
24 กันยายน 2553
 

โอกาสในการขอวีซ่านักเรียน



วีซ่านักเรียน (F1) จัดว่าเป็นวีซ่าที่เข้า – ออก ประเทศอเมริกาได้สะดวกที่สุด ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่น่าปรารถนา ของทั้งผู้ที่มีจุดประสงค์มาเรียนจริงๆ และผู้ที่มีจุดประสงค์แอบแฝง (ละไว้ในฐานที่เข้าใจ) แต่การได้มาก็ต้องเตรียมพร้อม ผู้ที่พร้อมจึงจะได้มา แล้วยังไงที่เรียกว่าพร้อม???

1. กรณีเคยเปลี่ยนวีซ่า (สถานะ) ที่อเมริกา

ที่เอากรณีนี้ขึ้นก่อนเพราะว่าเมื่อ 2 ตอนที่แล้วเราคุยเรื่องเปลี่ยนสถานะกันนั่นเอง ซึ่งโดยปกติเวลาเปลี่ยนสถานะ เราจะพูดติดปากกันว่า เปลี่ยนแล้วกลับไทยไม่ได้ เหมือนถูกขังอยู่ในอเมริกา ก็อย่างที่บอกว่าการเปลี่ยนสถานะ ทางอิมฯ เค้าจะรับรองสถานะการเป็นนักเรียนต่อเมื่อคุณอยู่ในอเมริกาเท่านั้น ดังนั้นถ้ากลับไทย ก็ต้องไปขอเปลี่ยนวีซ่ากลับมาให้ถูกต้อง (ตอนที่เปลี่ยนสถานะที่อเมริกา นั้นเข้ามาด้วยวีซ่าประเภทอื่น เช่น ท่องเที่ยว ออร์แพ เป็นต้น) เนื่องจากว่าต้นทางของวีซ่าที่คุณได้รับมาอยู่ที่ประเทศไทย ดังนั้น คุณจะต้องกลับไปเปลี่ยนวีซ่าที่ต้นทางนั่นเอง

ดังนั้นหลายคนที่เปลี่ยนสถานะจึงเครียด เพราะต้องอยู่ให้นานที่สุด แบบว่าเรียนให้จบทีเดียวแล้วค่อยกลับไทย จะคิดถึงบ้านแค่ไหนก็ต้องจำอยู่ไป จริงๆ แล้ว ถามว่าถ้ากลับไปแล้วไปเปลี่ยนวีซ่ามาให้ถูกต้องยากไหม โอกาสได้มีหรือป่าว จะโดนแบนไหม .... ตอบว่าโอกาสน่ะมี แต่มันต้องดูเหตุและผล ว่าสอดคล้องกัน น่าเชื่อถือแค่ไหน เพราะสิ่งสำคัญที่สุด คุณต้องแสดงเจตนาว่ายังไงก็จะกลับไทย ปิดช่องที่จะทำให้เห็นว่าตั้งใจมาอยู่อเมริกาตลอดชีวิตให้มิด ขอยกตัวอย่างทั้งกรณีที่ดูแล้วยังไงก็ไม่ผ่าน และกรณีโอกาสที่จะผ่านมีสูงก็แล้วกันค่ะ

Case I น้องตูน (นามสมมุติ) มาอเมริกาด้วยวีซ่าท่องเที่ย (B1/B2) และ I-94 สแตมป์ให้อยู่ได้ 6 เดือน น้องตูนปรึกษาทนายความเพื่อยื่นร้องขอเปลี่ยนสถานะ แล้วได้รับอนุมัติตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ตลอด 2 ปี น้องตูนเรียนภาษาอยู่ในโรงเรียนสอนภาษาเอกชน จนกระทั่งตัดสินใจว่าจะกลับเมืองไทย แล้วไปขอเปลี่ยนวีซ่ากลับมา ก็ดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง ถือ I-20 จากโรงเรียนที่เรียนอยู่กลับไป + จดหมายรับรองจากโรงเรียน + หลักฐานทางการเงิน และอื่นๆ ปรากฎว่า....โดนปฎิเสธ ด้วยเหตุผลว่า ไม่เชื่อว่ามาเรียน และความผูกพันกับประเทศไทยน้อย

ผลการวิเคราะห์

1. รวมระยะเวลาอยู่ในอเมริกานับตั้งแต่เข้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว จนกระทั่งเปลี่ยนสถานะ 2.5 ปี (เกือบๆ 3 ปี) ภาษาอังกฤษน่าจะดีเกินกว่าจะเรียนภาษาอีก

2. โรงเรียนที่เรียนมาตลอด 2 ปี เป็นโรงเรียนเอกชนราคาประหยัด แถมอยู่ใน lists ถูกจ้องมองว่าขาย I-20 อีกต่างหาก

3. น้องตูนเรียนภาคค่ำ แล้วกลางวันไปทำอะไรล่ะ?

4. ตอบจุดประสงค์การเปลี่ยนสถานะไม่ตรงกับจดหมาย Education Plan ที่ยื่นไปตอนเปลี่ยนสถานะ (เนื่องจากทนายความเป็นคนร่างให้ น้องตูนเลยไม่ทราบว่าเขียนว่ายังไง)

5. แผนการศึกษาไม่ชัดเจน (จากคำตอบของน้องตูนที่ว่า จะเรียนภาษาไปจนกว่ามั่นใจ แล้วจึงจะเข้าเรียนต่อใน College) ซึ่งแสดงเจตนาว่าไม่มีกำหนดกลับไทยที่แน่นอน

6. ความผูกพันกับประเทศไทยมีน้อย หลักๆ ก็เรื่อง งาน ก่อนไปอเมริกา ทำงานในบริษัทใหญ่ มั่นคงก็จริง แต่ตอนที่ขอวีซ่าท่องเที่ยวไปครั้งแรกนั้น ยื่นจดหมายลาพักร้อนไป แต่สุดท้ายก็ไม่กลับมา (ขอลาออกตอนที่ได้อนุมัติเปลี่ยนสถานะ) และไปอยู่อเมริกาเกือบ 3 ปี อายุ ณ ตอนนี้ 30 ปี ก็ยากที่จะกลับมาหางานทำที่เมืองไทย (กว่าจะเรียนจบปาไป 30 กลางๆ)

Case II น้องเจน มาอเมริกา 3 ปีที่แล้วด้วยวีซ่า J1 (ออร์แพ) ทำงานอยู่ 2 ปี ก่อนจะเปลี่ยนสถานะมาเป็นนักเรียน 1 ปี รวมเป็น 3 ปีพอดี โดยโปรแกรมที่เรียนคือ TOEFL ทั้งนี้ตอนที่ยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสถานะ ได้แจ้งจุดประสงค์การเปลี่ยนว่า เรียน TOEFL เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย และเรียนต่อในด้านกฎหมาย ซึ่งก็ทำตามแผน คือตอนนี้เรียนปริญญาโท ใน Law School ชื่อดังแห่งหนึ่ง ตามหลักสูตรจะต้องเรียนทั้งหมด 2 ปี ตอนนี้เรียนมาได้เพียง 1 เทอม ยังเหลืออีก ปีกว่าๆ จึงจะจบ แต่จำเป็นต้องกลับเมืองไทยเพื่อไปทำธุระบางอย่าง จึงแจ้งทางโรงเรียนว่าขอพักการเรียน 1 เทอม กลับเมืองไทย ทางโรงเรียนจึงออกเอกสารสำหรับยื่นประกอบการขอวีซ่านักเรียนให้กับน้องเจน ดังนี้

1. I-20 ที่มีลายเซ็นต์ผู้รับผิดชอบนักเรียนต่างชาติด้านหลัง (ปกติ I-20 ของนักเรียนที่เรียนในโปรแกรมการศึกษา จะมีอายุครอบคลุมไปจนจบหลักสูตร อย่างของน้องเจนคือมีอายุ 2 ปี)

2. จดหมายรับรองการเป็นนักศึกษาจากโรงเรียน พร้อมระยะเวลาการลาเรียน

ผลคือ น้องเจน ได้รับอนุมัติวีซ่านักเรียน โดยอายุของวีซ่าคือ 5 ปี

ผลการวิเคราะห์

1. ความสอดคล้องตั้งแต่การขอเปลี่ยนสถานะ จนกระทั่งการกลับไปขอวีซ่า สมเหตุ สมผล แสดงเจตนาว่าต้องการเรียนจริงๆ ไม่ใช่แค่ต้องการจะอยู่ในอเมริกาเท่านั้น ทั้งนี้ด้วยชื่อเสียงของโรงเรียนที่เรียน มีส่วนช่วยถึง 80%

2. หลักฐานทางการเงินที่แสดงความสามารถว่าสามารถเรียนได้จนจบหลักสูตรโดยไม่ต้องทำงาน คือ หลักสูตรเหลืออีก 1 ปีกว่าๆ (ตีว่า 2 ปีละกัน) รวมการฝึกงานอีก 1 ปี ก็ประมาณ 3 ปีทั้งหมด น้องเจนโชว์ แบงค์สเตทเม้น 80,000 เหรียญ (เหลือเฟือสำหรับ 3 ปี จากการประมาณค่าเรียน + ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เดือนละ 2,000 เหรียญ 36 เดือนก็ 72.000 เหรียญ)

3. มีแผนการศึกษา และหลังจบการศึกษาชัดเจน คือ แจ้งว่าหลังจบการศึกษาแล้ว จะกลับมาช่วยบริษัทของคุณพ่อ ซึ่งเป็นบริษัทกฎหมาย ที่เมืองไทย โดยกลับมารับตำแหน่ง ที่ปรึกษาลูกค้าต่างประเทศ ภาคพื้นอเมริกา พร้อมหลักฐานเกี่ยวกับบริษัทด้วย

ทั้ง 2 ตัวอย่าง น่าจะช่วยให้คุณๆ ได้ไอเดียแล้วว่ายังไง ถึงจะมีโอกาสสูงในการได้วีซ่า หากจำเป็นต้องกลับไปเปลี่ยนวีซ่าที่เมืองไทย หลังจากเปลี่ยนสถานะที่อเมริกาแล้วจริงๆ ส่วนตอนหน้าเรามาคุยเรื่องโอกาสการได้ วีซ่าสำหรับผู้ที่ได้วีซ่านักเรียนแค่ 1 ปี แล้วจะกลับไปต่อวีซ่าที่เมืองไทยกันนะคะ

และฝากสำหรับผู้ที่ต้องการรายละเอียดโรงเรียนสอนภาษา และเปลี่ยนสถานะ ก็ติดต่อเก๋มาได้ค่ะที่ peena.kay@gmail.com or Tel. 310-990-8092





Create Date : 24 กันยายน 2553
Last Update : 24 กันยายน 2553 10:15:25 น. 0 comments
Counter : 997 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

:+:พระจันทร์เชื่อม:+:
 
Location :
Los Angeles, California United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add :+:พระจันทร์เชื่อม:+:'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com