สุริยุปราคา
สวัสดีครับ เนื่องจากในวันที่ 19 มีนาคม 2550 เวลาประมาณ 7:50 - 9:00 จะเกิดสุริยุปราคาชนิดบางส่วน (partial solar eclipse) ในเขตนครราชสีมากระผมนาย -=S/L=- และ PigBule ได้ร่วมเฝ้าสังเกตุปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้ และได้บันทึกภาพมาให้เพื่อนๆที่ไม่มีโกาสได้ดู หรือไม่ได้รับรู้ข่าวสารมาก่อนว่าจะมีปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ได้แสดงการชมสุริยุปราคาอย่างถูกต้องมาด้วยในครั้งแรกกระผมก็ยังไม่รู้ว่าจะหาวัศดุใดๆมาเป็น filter ที่ดีในการดูที่ปลอดภัยพอต่อสายตา จึงได้ลองเอาแว่นกันแดดมาซ้อนกัน สี่ชั้น ( Ao 2 อัน King sefty 1 อัน และ Merida อีก 1 อัน ) ปรากฏว่ายังไม่ดีพอ เข้มไม่พอแสบตามากPigbule จึงเข้าห้อง computer เปิดลิ้นชักหยิบ แผ่น disket เก่ามา และบอกให้ลองดู ผมถามว่ารู้มาจากไหน เธอบอกว่ารู้มาตั้งแต่ปี 39 แล้ว สมัยอยู่ที่ทำงานเก่าเขาบอกมาอีกที่ ผมจึงลองส่องดู workๆๆ แจ่วแต่ยังแสบตาอยู่ เลยเข้าห้อง com ไปหยิบมาอีกแผ่น ซู้ดดดดยอดดดด! แจ่วจริงๆ ลองดูครับตอนแรกถ่ายด้วย 50 มิลขี้เกียจเปลี่ยนเลนส์ แต่มันกระจิ๋วเดียวเลยไปหยิบ D80 ออกมาที่ 135 มิล อ่ะใหญ่ขึ้นหน่อยครอปนิดปรับ อันเดอร์ หน่อยไม่สะใจลอง 300 มิลดีกว่าอันเดอร์หน่อยหลังจากปีนี้ประเทศไทยจะมีโอกาสสังเกตสุริยุปราคาบางส่วนอีกครั้งในเย็นวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2551 ซึ่งจะเกิดในเวลาไม่นานก่อนดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า
สุริยุปราคา 19 มีนาคม 2550
สองสัปดาห์หลังเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงเมื่อคืนวันมาฆบูชา เช้าวันจันทร์ที่ 19 มีนาคม 2550 จะเกิดสุริยุปราคาบางส่วน มองเห็นได้ในประเทศไทย เอเชียใต้ บางส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก รวมทั้งบางส่วนของมลรัฐอะแลสกาในทวีปอเมริกาเหนือ
สุริยุปราคามีโอกาสเกิดขึ้นได้ในวันเดือนดับเมื่อดวงจันทร์โคจรมาอยู่ตรงกลางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์พร้อมกับทอดเงาตกลงบนพื้นผิวโลก เงาดวงจันทร์มีสองส่วนคือเงามืดกับเงามัว คนบนพื้นโลกส่วนที่อยู่ใต้เงามัวจะมองเห็นดวงอาทิตย์แหว่ง แต่หากอยู่ใต้เงามืดจะเห็นดวงอาทิตย์ถูกดวงจันทร์บังมิดดวงเรียกว่าสุริยุปราคาเต็มดวง สำหรับประเทศไทยเคยเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2538
สุริยุปราคาที่จะเกิดในวันที่ 19 มีนาคม เป็นสุริยุปราคาบางส่วน หมายความว่าเงามืดของดวงจันทร์ไม่ได้ตกกระทบพื้นผิวโลก คงมีแต่เงามัวเท่านั้นที่พาดผ่านผิวโลก หากมองในภาพกว้างสุริยุปราคาครั้งนี้เริ่มต้นเวลา 7.38 น. ตามเวลาประเทศไทย เมื่อเงามัวของดวงจันทร์เริ่มแตะผิวโลกบริเวณนอกชายฝั่งด้านตะวันออกของอินเดีย จากนั้นเกิดสุริยุปราคามองเห็นดวงอาทิตย์แหว่งมากที่สุด (88%) ที่รัสเซียในเวลา 9.32 น. แล้วไปสิ้นสุดสุริยุปราคาในเวลา 11.25 น. อันเป็นจังหวะที่เงามัวหลุดออกจากผิวโลกในทะเลนอกชายฝั่งด้านทิศเหนือของอะแลสกา
สำหรับประเทศไทย สุริยุปราคาบางส่วนครั้งนี้มองเห็นได้เกือบทั่วประเทศยกเว้นจังหวัดชายแดนภาคใต้ บริเวณที่เห็นดวงอาทิตย์แหว่งมากที่สุดคือด้านตะวันตกเฉียงเหนือของภาคเหนือ ยิ่งอยู่ในละติจูดสูงมากเท่าใดก็ยิ่งเห็นดวงอาทิตย์แหว่งมากเท่านั้น ส่วนเวลาที่เกิดปรากฏการณ์ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เช่น กรุงเทพฯ เห็นตั้งแต่เวลา 7.47 - 8.57 น. ดวงอาทิตย์แหว่งมากที่สุดในเวลา 8.21 น. ด้วยสัดส่วน 16% จังหวัดอื่น ๆ บางจังหวัดสามารถดูได้จากตาราง ส่วนจังหวัดที่ไม่แสดงในตารางอาจคาดคะเนได้จากข้อมูลของจังหวัดใกล้เคียงที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน
ขั้นตอนการเกิดสุริยุปราคาบางส่วน 19 มีนาคม 2550
สถานที่ เริ่มเกิด บังลึกที่สุด สิ้นสุด
เวลา สัดส่วนที่บัง มุมเงย
กรุงเทพฯ 7.48 น. 8.21 น. 16% 28° 8.57 น.
กระบี่ 7.55 น. 8.12 น. 4% 25° 8.30 น.
กาญจนบุรี 7.46 น. 8.21 น. 17% 27° 8.58 น.
กาฬสินธุ์ 7.50 น. 8.28 น. 19% 32° 9.07 น.
กำแพงเพชร 7.46 น. 8.25 น. 23% 27° 9.07 น.
ขอนแก่น 7.49 น. 8.27 น. 19% 31° 9.07 น.
จันทบุรี 7.51 น. 8.21 น. 12% 29° 8.52 น.
ฉะเชิงเทรา 7.48 น. 8.22 น. 15% 28° 8.57 น.
ชลบุรี 7.48 น. 8.21 น. 15% 28° 8.55 น.
ชัยนาท 7.46 น. 8.24 น. 19% 28° 9.03 น.
ชัยภูมิ 7.48 น. 8.26 น. 19% 30° 9.05 น.
ชุมพร 7.50 น. 8.16 น. 10% 26° 8.43 น.
เชียงราย 7.46 น. 8.31 น. 29% 28° 9.16 น.
เชียงใหม่ 7.45 น. 8.29 น. 28% 27° 9.15 น.
ตรัง 7.59 น. 8.12 น. 2% 25° 8.25 น.
ตราด 7.52 น. 8.20 น. 11% 30° 8.50 น.
ตาก 7.45 น. 8.26 น. 24% 27° 9.08 น.
นครนายก 7.48 น. 8.23 น. 16% 29° 8.59 น.
นครปฐม 7.47 น. 8.21 น. 16% 27° 8.57 น.
นครพนม 7.52 น. 8.30 น. 19% 33° 9.10 น.
นครราชสีมา 7.49 น. 8.24 น. 17% 30° 9.01 น.
นครศรีธรรมราช 7.56 น. 8.13 น. 4% 26° 8.31 น.
นครสวรรค์ 7.46 น. 8.24 น. 20% 28° 9.04 น.
นนทบุรี 7.48 น. 8.22 น. 16% 28° 8.57 น.
น่าน 7.47 น. 8.30 น. 26% 29° 9.15 น.
บุรีรัมย์ 7.50 น. 8.25 น. 16% 31° 9.01 น.
ปทุมธานี 7.47 น. 8.22 น. 16% 28° 8.58 น.
ประจวบคีรีขันธ์ 7.48 น. 8.18 น. 12% 27° 8.49 น.
ปราจีนบุรี 7.48 น. 8.22 น. 16% 29° 8.58 น.
พระนครศรีอยุธยา 7.47 น. 8.22 น. 17% 28° 8.59 น.
พะเยา 7.46 น. 8.30 น. 28% 28° 9.16 น.
พังงา 7.53 น. 8.13 น. 5% 24° 8.33 น.
พัทลุง 8.00 น. 8.12 น. 2% 26° 8.24 น.
พิจิตร 7.46 น. 8.26 น. 22% 28° 9.07 น.
พิษณุโลก 7.46 น. 8.26 น. 23% 28° 9.08 น.
เพชรบุรี 7.47 น. 8.20 น. 15% 27° 8.55 น.
เพชรบูรณ์ 7.47 น. 8.26 น. 21% 29° 9.07 น.
แพร่ 7.46 น. 8.28 น. 25% 28° 9.13 น.
ภูเก็ต 7.55 น. 8.12 น. 4% 24° 8.29 น.
มหาสารคาม 7.50 น. 8.27 น. 18% 31° 9.06 น.
มุกดาหาร 7.52 น. 8.29 น. 18% 33° 9.07 น.
แม่ฮ่องสอน 7.45 น. 8.29 น. 30% 26° 9.16 น.
ยโสธร 7.51 น. 8.27 น. 17% 32° 9.04 น.
ร้อยเอ็ด 7.50 น. 8.27 น. 18% 32° 9.05 น.
ระนอง 7.50 น. 8.15 น. 9% 25° 8.41 น.
ระยอง 7.49 น. 8.20 น. 13% 28° 8.52 น.
ราชบุรี 7.47 น. 8.21 น. 16% 27° 8.56 น.
ลพบุรี 7.47 น. 8.23 น. 18% 28° 9.01 น.
ลำปาง 7.46 น. 8.28 น. 26% 28° 9.13 น.
ลำพูน 7.45 น. 8.28 น. 27% 27° 9.14 น.
เลย 7.48 น. 8.28 น. 23% 30° 9.11 น.
ศรีสะเกษ 7.52 น. 8.26 น. 15% 32° 9.02 น.
สกลนคร 7.51 น. 8.29 น. 19% 32° 9.10 น.
สงขลา 8.07 น. 8.12 น. 00.3% 26° 8.17 น.
สมุทรปราการ 7.48 น. 8.21 น. 15% 28° 8.56 น.
สมุทรสงคราม 7.47 น. 8.21 น. 15% 27° 8.56 น.
สมุทรสาคร 7.47 น. 8.21 น. 15% 27° 8.56 น.
สระแก้ว 7.49 น. 8.22 น. 14% 30° 8.57 น.
สระบุรี 7.48 น. 8.23 น. 17% 28° 9.00 น.
สิงห์บุรี 7.47 น. 8.23 น. 18% 28° 9.01 น.
สุโขทัย 7.46 น. 8.26 น. 23% 28° 9.09 น.
สุพรรณบุรี 7.47 น. 8.22 น. 18% 28° 9.00 น.
สุราษฎร์ธานี 7.53 น. 8.14 น. 6% 25° 8.36 น.
สุรินทร์ 7.51 น. 8.25 น. 15% 31° 9.01 น.
หนองคาย 7.49 น. 8.29 น. 22% 31° 9.12 น.
หนองบัวลำภู 7.49 น. 8.28 น. 21% 31° 9.10 น.
อ่างทอง 7.47 น. 8.23 น. 18% 28° 9.00 น.
อำนาจเจริญ 7.52 น. 8.27 น. 16% 33° 9.05 น.
อุดรธานี 7.49 น. 8.29 น. 21% 31° 9.11 น.
อุตรดิตถ์ 7.46 น. 8.27 น. 24% 28° 9.11 น.
อุทัยธานี 7.46 น. 8.24 น. 20% 28° 9.03 น.
อุบลราชธานี 7.52 น. 8.26 น. 15% 33° 9.02 น.
หมายเหตุ : ตารางด้านบนสำหรับอำเภอเมืองของจังหวัด อำเภออื่นจะต่างจากนี้เล็กน้อย / บริเวณที่ไม่เห็นปรากฏการณ์ได้แก่ พื้นที่ทางใต้ของจังหวัดสงขลา พัทลุง และสตูล รวมไปถึงทั้งหมดของ จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส
สุริยุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่ห้ามดูด้วยตาเปล่า ต้องมีแว่นกรองแสงหรือแผ่นกรองแสงที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับส่องดูดวงอาทิตย์และอาจใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีแผ่นกรองแสงปิดบังหน้ากล้อง นอกจากนี้เรายังสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายจากแสงอาทิตย์โดยสังเกตปรากฏการณ์ด้วยวิธีทางอ้อม เช่น ฉายภาพดวงอาทิตย์ผ่านกล้องโทรทรรศน์หรือกล้องสองตาลงบนฉากรับภาพ แล้วดูดวงอาทิตย์ที่ปรากฏบนฉาก ควรเฝ้าระวังอย่าให้เด็กหรือผู้ที่ไม่รู้มองเข้าไปในกล้อง
วัสดุกรองแสงที่ไม่ปลอดภัยและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ กระจกรมควัน แว่นกันแดด กระดาษห่อลูกอม แผ่นดิสเก็ตต์ ฟิล์มเอกซ์เรย์ ฟิล์มถ่ายรูป ฯลฯ อย่านำมาใช้ดูดวงอาทิตย์ แม้ว่าวัสดุเหล่านี้จะมีความสามารถในการกรองแสงย่านแสงขาว แต่รังสีอินฟราเรดสามารถทะลุผ่านได้และจะเป็นอันตรายต่อดวงตา
สำหรับผู้ที่ไม่มีแผ่นกรองแสงหรือทัศนูปกรณ์อื่น อาจใช้วัสดุง่าย ๆ ในบ้านมาช่วยในการสังเกตสุริยุปราคาโดยใช้หลักการของกล้องรูเข็ม สิ่งที่ต้องมีคือกระจกเงาบานเล็ก กระดาษขนาดใหญ่กว่ากระจก มีดคัตเตอร์หรือกรรไกร และเทปกาว
วิธีทำคือ นำกระดาษมาเจาะรูเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 1 เซนติเมตร (อาจใช้มีดกรีดโดยตรงหรือพับกระดาษแล้วใช้กรรไกรตัด) จากนั้นนำไปประกบกับบานกระจกด้วยเทปกาว เวลาใช้งานให้นำกระจกเงาดังกล่าวไปสะท้อนแสงอาทิตย์ให้แสงตกบนผนังสีอ่อนหรือฉากรับภาพสีขาวที่อยู่ภายในบ้าน ภาพที่เห็นบนฉากจะเป็นดวงกลมซึ่งเป็นภาพสะท้อนของดวงอาทิตย์
เมื่อเกิดสุริยุปราคา ดวงกลมที่เห็นบนฉากจะแหว่งตามลักษณะดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า ขนาดของดวงอาทิตย์บนฉากแปรผันตามระยะห่างระหว่างกระจกกับฉากรับภาพ โดยที่ระยะหนึ่งเมตรจะได้ภาพดวงอาทิตย์ขนาดประมาณ 9 มิลลิเมตร ดังนั้นที่ระยะห่าง 10 เมตร จะได้ภาพดวงอาทิตย์ขนาด 9 เซนติเมตร วิธีนี้ทำให้เราสามารถสังเกตสุริยุปราคาได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อดวงตา แต่พึงระวังอย่าให้ใครที่เดินผ่านไปมามีโอกาสหันมามองแสงอาทิตย์ที่สะท้อนออกมาจากกระจก
หลังจากปีนี้ประเทศไทยจะมีโอกาสสังเกตสุริยุปราคาบางส่วนอีกครั้งในเย็นวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2551 ซึ่งจะเกิดในเวลาไม่นานก่อนดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า
อันตรายจากแสงอาทิตย์
สุริยุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่เปิดโอกาสให้เราได้ศึกษาและทำความรู้จักกับธรรมชาติของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ อย่างไรก็ตามการดูดวงอาทิตย์ด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะรังสีจากดวงอาทิตย์สามารถทำลายเนื้อเยื่อและเซลล์ของจอตาทำให้ตาบอด เร่งการเสื่อมสภาพของกระจกตา และเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคต้อกระจก
หากจ้องดูดวงอาทิตย์โดยปราศจากสิ่งป้องกัน แสงอาทิตย์จะไปรวมกันที่จอตา ทำลายเซลล์จนทำให้เกิดอาการตาบอดชั่วคราวหรือถาวรได้ ที่สำคัญกว่านั้น คือ ขณะที่จอตาถูกแสงอาทิตย์เผาเราไม่สามารถรับรู้ได้ เพราะในนั้นไม่มีเซลล์ประสาทสำหรับรับความรู้สึก ดังนั้นทุกคนจึงควรตระหนักว่าการสังเกตสุริยุปราคาที่ถูกต้อง คือ อย่าดูดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือดูจากภาพสะท้อนบนฉากที่ฉายออกมาจากอุปกรณ์
ที่มา //thaiastro.nectec.or.th/skyevnt/eclipses/200703pse.html