เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาศลงไปเยี่ยมคุณแม่ของคุณพ่อบ้าน ที่ป่วยเข้าโรงพยาบาล ไปครั้งที่แล้ว เดือนก่อนท่านก็อาการดูแย่ แต่พอไปครั้งนี้ ท่านดูดีขื้นมากแต่ก็ยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ พอไปถึงที่เกียวโตก็ตรงไปที่โรงพยาบาลเลย ไปเยี่ยมท่านสักพักก็กลับแล้วไปที่พัก



Fri. 26 Sep. 2008


บ้านพัก K-yard

จากนั้นก็ไปที่พักชื่อ K-yard เป็นแบบ Pension ครั้งนี้พาน้องปุ้มปุ้ยไปด้วยค่ะ ที่นี้เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม (cafe) มีที่พักแค่ 2 ห้องค่ะ มีสนามให้น้องหมาไว้วิ่งเล่นด้วย ห้องก็กว้างดี มีชั้นลอย สามารถปีนบันไดขึ้นไปนอนล่างบนก็ได้ค่ะ แถมมีเครื่องครัวที่ให้เราสามารถทำอาหารทานเองได้ด้วย มีโต๊ะที่ให้เขียนหนังสือ นั่งทานข้าวได้สบายเลย แถมมีสายต่อเน็ตด้วย เสียดายไม่ได้เอาคอมพิวเตอร์ไปค่ะ









เจ้าน้องปุ้มปุ๊ยถูกใจมากได้วิ่งเล่น เดินสำรวจในสนามหญ้า









แผนที่ของที่พัก



ขอเล่าให้ฟังอีกนิด ที่พักที่นี่สะดวกมากค่ะ ใกล้สถานีรถไฟ และด้านหน้ามีซุปเปอร์ฯ มีร้านขายขนมเค้กหลายร้าน อยู่ใกล้ไปรษณีย์ ร้านตัดผม สะดวกดีค่ะ แต่ต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือนเหมือนกัน เพราะมีลูกค้าไปพักตลอด เพราะที่พักมีเพียงสองห้องเท่านั่นค่ะ




Sat. 27 Sep. 2008


อาหารเช้า

ก่อนออกเดินทางไปเที่ยววันนี้ ทานอาหารเช้า ที่ทางที่พักเตรียมไว้ให้ อร่อยดีค่ะ มีสลัดและไส้กรอก ไข่ดาว ชอบขนมปังที่เป็นก้อนกลมๆ มีงาดำอยู่ด้วย หอมกรอบนอกนุ่มใน กาแฟ โยเกิตย์ ขนมและผลไม้อีกเล็กน้อย






รอรถไฟ

ออกเดินทาง 9.15 น. นั่งไปประมาณ 4 ป้ายได้ค่ะ คนละ 200 Yen ระหว่างนั่งรอ เห็นตรงข้ามมีร้านกาแฟ สีแดงน่ารักดี เอาน้องปุ้มปุ๊ยใส่กระเป๋าไปค่ะ จะไม่ได้มีปัญหาตอนขึ้นรถไฟ น่ารักดีและก็น่าสงสาร แต่พอเหนื่อยจะได้เอาใส่กระเป๋าได้ค่ะ






รถไฟโบราณ

รถไฟโบราณ ขาไป 600 Yen ขากลับ 600 Yen ส่วนน้องปุ้มปุ๊ยไปกลับ 280 Yen แพงเหมือนกันน่ะ แต่คุ้มค่ะ สนุกดี วิวก็สวย แต่น่าเสียดายไปเร็วไปหน่อย เลยไม่ทันได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี ของฤดูได้ได้ผลิ อยากเห็นมาก เพราะที่เกียวโตขึ้นชื่อว่าสวยมากที่นึง แต่คุณพ่อบ้านหยุดได้ช่วงนี้ค่ะ อยากไปเยี่ยมคุณแม่ด้วย





รูปภาพที่ระลึก

รูปภาพที่ระลึก เป็นภาพโพราลอย จ่ายค่าเสียหายไป 1,000 Yen ชอบค่ะ ดูสวยกว่าตัวจริงมากๆๆๆ (ฮ่าๆๆๆๆ) ดูไม่อ้วนมากนัก เพราะเอาตัวไปหลบหลังคุณพ่อบ้านค่ะ เพราะตัวจริงอ้วนมากๆ ค่ะ พยายามจับหน้าน้องปุ้มปุ๊ยหันมาทางกล้องแต่ไม่ทัน








วิวสองข้างทาง

วิวเป็นภูเขากับแม่น้ำ มีล่องเรือด้วยค่ะ แต่ตอนเช้าอาการเย็นลง ไม่ได้เตรียมเสื้อคลุมไป นั่งเย็นๆ ลมพัดด้วย อาศัยนั่งกอดน้องปุ้มปุ๊ย อุ่นๆ





ลงจากรถไฟ

ขากลับลงระหว่างทาง เจอทัวส์ชาวไต้หวัน คนเยอะเลย เดินเล่นไปเรื่อยๆ เห็นชาวนาญี่ปุ่นเกี่ยวข้าวพอดีค่ะ เดินไปอีกหน่อยแวะร้านโซบะ คุณพ่อบ้านเกิดอาการหิว ทานโซบะร้านไปหนึ่งชาม ส่วนเราทานชาเชียวเย็นและขนม






ร้านขายของที่ระลึก

ใกล้ๆ มีร้านขายของที่ระลึก เป็นรูปเณรน้อยน่ารักดี







ระหว่างทาง และรอรถไฟกลับที่พัก





ทานอาหารค่ำ

ที่แรกคิดว่าจะไปทานอาหารบุพเฟร์ค่ะ แต่คุณพ่อบ้านเหนื่อย ปวดหัวนิดหน่อย เลยรอไปทานมือค่ำ ออกจากที่พัก ไปโรงพยาบาลอีกครั้ง จะไปก็ไปที่ร้านอาหาร ไปถึงก็รีบเดินเข้าไปเลย ก็แปลกใจอยู่ว่าในร้านทำไมไม่ใช่บุพเฟร์ ร้านก็ไม่ผิด แต่ เพราะว่าร้านนี้กลางวันเป็นแบบบุพเฟร์ แต่อาหารค่ำเป็นร้านสาเกและร้านอาหารแบบอาหารญี่ปุ่น จะบอกว่าแพงมาก จะเดินออกก็กลัวเสียฟอร์ม คุณพ่อบ้านก็เลยทานที่นั้น อาหารก็อร่อยดี แต่แพงเกินกว่าราคาที่น่าจะเป็น







Sun. 28 Sep. 2008


อาหารเช้าก่อนกลับบ้าน

It`s Real




ขอบคุณที่แวะมาน่ะค่ะ