อีสุกอีไสในวันสงกรารนต์..
เทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยกำลังจะผ่านไป หลายๆจังหวัดก็เฉลิมฉลองเล่นน้ำทำบุญรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้หลักผู้ใหญ่สังสรรค์กับเพื่อนฝูงและญาติพี่น้องกันเป็นที่เรียบร้อยและพร้อมเดินทางกลับไปสู้งานกันต่อ หลายต่อหลายที่ก็ยังคงมีการเล่นน้ำกันอยู่.. ส่วนตัวข้าพเจ้าเองวันอยุดทั้งทีไม่ได้สนุกกับใคร จมจ่อมอยู่กับความทุกจากโรคที่เรียกว่าอีสุกอีใสนั่นเอง วันนี้เกือบหายเป็นปกติแล้ว เหลือเพียงร่องรอยของตุ่มที่แห้งแล้วกำลังตกสะเก็ด และมีบางตุ่มที่ยังไม่แห้งดี ก็เลยถือโอกาส มานั่งหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต (ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจจะหา) เพื่อมาเขียนบล็อกเผื่อใครมาอ่านเจอจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย.. ภาพปลากอบจากอินเตอร์เน็ตครับ..
ตัวเองก็เป็นแบบนี้แหละครับแต่ไม่อยากเอามาโชว์เอง อายอะ..อิอิ
ข้อมูลจากวิกิพีเดียบอกว่า...
โรคอีสุกอีใส (อังกฤษ: chickenpox) เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส วาริเซลลา มีลักษณะอาการเป็นผื่นแดงราบ ตุ่มใส ตุ่มหนอง กระจายตามหน้า ลำตัว และแผ่นหลัง และมีไข้ สาเหตุของโรค เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ไวรัสวาริเซลลา (Varicella virus) หรือ Human herpes virus type 3 เป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดงูสวัด การติดต่อ ติดต่อโดยการสัมผัสถูกตุ่มน้ำโดยตรงหรือ สัมผัสถูกของใช้ (เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม ที่นอน) ที่เปื้อนถูกตุ่มน้ำของคนที่เป็น อีสุกอีใสหรืองูสวัด หรือสูดหายใจเอาละอองของตุ่มน้ำ ผ่านเข้าทางเยื่อเมือกระยะฟักตัว 10-20 วัน ในรายที่เป็นงูสวัด สามารถติดต่อในรูปแบบของอีสุกอีใสได้ โดยเฉพาะมารดาที่ให้นมบุตร หากมารดาเป็นงูสวัดบุตรก็จะเป็นอีสุกอีใสได้ อาการของโรค เด็กที่เป็นจะมีไข้ต่ำ อ่อนเพลียและเบื่ออาหาร ส่วนผู้ใหญ่มักจะมีไข้สูง มีอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวคล้ายไข้หวัด ขณะเดียวกันก็จะมีผื่นขึ้นพร้อมๆ กับวันที่เริ่มมีไข้ หรือ 1 วันหลังมีไข้ โดยในระยะแรกจะขึ้นเป็นผื่นแดงราบก่อน ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มนูน มีน้ำใสๆ และคัน ต่อมาอีก 2-3 วันก็จะตกสะเก็ด ผื่นและตุ่มเหล่านี้จะขึ้นตามไรผมก่อนแล้วกระจายไปตามใบหน้าและลำตัว แผ่นหลัง บางคนจะมีตุ่มขึ้นในช่องปากทำให้ปากและลิ้นเปื่อย จะเกิดอาการเจ็บคอ บางคนอาจไม่มีไข้ มีเพียงผื่นและตุ่มขึ้นเท่านั้น ผื่นจะขึ้นมากที่สุดที่ใบหน้าและลำตัว เด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่มักจะมีอาการรุนแรงและมีตุ่มขึ้นมากกว่าเด็ก โดยทั่วไปผื่นหายได้โดยไม่มีแผลเป็น ยกเว้นมีเชื้อแบคทีเรียมาแทรกซ้อน โรคนี้เมื่อหายแล้วมักจะมีเชื้อหลบอยู่ที่ปมประสาท ซึ่งอาจจะออกมาเป็น งูสวัด ในภายหลังได้ เนื่องจากผื่นและตุ่มที่ขึ้นนี้จะค่อยๆขึ้นทีละระลอก ไม่ขึ้นพร้อมกันทั่วร่างกาย บางทีจะขึ้นเป็นผื่นแดงราบ บางทีขึ้นเป็นตุ่มน้ำใสๆ บางทีขึ้นเป็นตุ่มกลัดหนอง และบางทีเริ่มตกสะเก็ด จึงทำให้คนสมัยก่อนเรียกโรคนี้ว่า อีสุกอีใส
อาการแทรกซ้อน ที่พบบ่อยคือ การติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนบนผิวหนัง ทำให้กลายเป็นหนองและมีแผลเป็นตามมา ในบางรายเชื้อแบคทีเรียที่แทรกซ้อนอาจกระจายเข้าไปในกระแสเลือดทำให้เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษและปอดบวมได้ ในผู้ใหญ่ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่นได้รับยารักษามะเร็ง หรือ สเตอรอยด์ เชื้ออาจจะกระจายไปยังอวัยวะภายในเช่น สมอง ปอด ตับ ได้
โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อแต่เป็นโรคที่ติดตัวทุกคนมาตั้งแต่กำเนิด ทุกคนจะเป็นหรือไม่เป็นก็ขึ้นอยู่กับเวลาของบุคคลนั้นๆ การรักษา เนื่องจากเป็นโรคที่หายเองได้ โดยอาจจะมีไข้อยู่เพียงไม่กี่วัน ส่วนตุ่มจะตกสะเก็ดและค่อยๆหายใน 1-3 สัปดาห์ ผู้ป่วยจึงควรพักผ่อน และดื่มน้ำมากๆ ถ้ามีไข้สูงใช้ยา พาราเซตามอล เพื่อลดไข้ได้ ไม่ควรใช้ แอสไพริน เพราะอาจทำให้เกิดอาการทางสมองและตับ ทำให้ถึงตายได้ ควรอาบน้ำและใช้สบู่ฟอกผิวหนังให้สะอาด ควรตัดเล็บให้สั้นและหลีกเลี่ยงการแกะเกา เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ ในรายที่คันมากๆ อาจให้ยาแก้คัน เช่น คลอเฟนิรามีน ช่วยลดอาการคันได้ ในปัจจุบัน มียาที่ใช้ยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัส แต่ต้องใช้ในขนาดสูงและราคาแพงมาก นอกจากนี้จะต้องเริ่มใช้ภายในวันแรก มิฉะนั้นอาจไม่ได้ผล หรือไม่ได้ผลดี การดูแลรักษา โรคอีสุกอีใส 1.ไม่ต้องตกใจว่าเป็นโรคผิวหนัง ไม่แกะเกาปุ่มหนองใส 2.การดูแลทั่วไป โรคอีสุกอีใสเป็นโรคที่ไม่รุนแรง โดยปกติแล้วจะเป็น เองหายเอง อาจจะมีข้อยกเว้นบ้างโดยเฉพาะในผู้ใหญ่ ซึ่งอาจจะมีอาการรุนแรงกว่า เช่น เป็นไข้หรือมีอาการ ทางผิวหนัง เช่น แผลมีการติดเชื้อหรือมีอาการคันรุนแรง หรือมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น อาการปอดบวมจาก เชื้อไวรัส ในกลุ่มที่อาการไม่รุนแรงนี้ การให้ยาบางชนิด เช่น ยาบรรเทาอาการคัน การใช้น้ำสะอาดหรือ น้ำเกลือประคบ จะช่วยทำให้รู้สึกสบายตัวขึ้น ในเด็กควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาลดไข้จำพวกแอสไพริน เพราะอาจ จะทำให้มีโรคแทรกซ้อนอย่างอื่นตามมาได้ 3.การรักษาแบบเจาะจง คือการใช้ยาต้านเชื้อไวรัสอีสุกอีใส ซึ่งควรจะให้ในระยะเวลา 24-48 ชั่วโมง หลังมีผื่นขึ้น ซึ่งเชื่อว่าการที่สามารถให้ยาได้ทันและมีปริมาณพอเพียง ในช่วงนี้สามารถทำให้การตก สะเก็ดของแผล ระยะเวลาของโรคสั้นลง การทำให้แผลตกสะเก็ดเร็วขึ้น โอกาสการเกิดแผลติดเชื้อหรือแผลที่ลึกมากก็น้อยลง ดังนั้น แผลเป็นแบบหลุมก็น้อยลงด้วย อย่างไรก็ตามยาในกลุ่มนี้ก็มีราคาแพงมาก การพิจารณาเลือกใช้ยากลุ่มนี้จึง ควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์และของผู้ป่วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การดูและผิวในระยะ ที่มีผื่นอย่างถูกต้อง เช่น ทำความสะอาดแผลให้ปราศจากสิ่งสกปรกหรือป้องกันการแทรกซ้อนของเชื้อแบคทีเรีย หรือ รับประทานยาเขียววันละ3ครั้ง 7ถึง10เม็ด วัคซีน
วัคซีนอีสุกอีใสที่ค้นพบในระยะแรกมีข้อจำกัดที่ต้องเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำถึง -20 แต่ปัจจุบันสามารถพัฒนาเป็นวัคซีนที่เก็บให้คงประสิทธิภาพได้ที่อุณหภูมิ 2-8 องศา ซึ่งเป็น อุณหภูมิตู้เย็นปกติ เก็บได้นาน 2 ปี ภายใต้ชื่อการค้า " VARILRIX " ของบริษัท SMITH KLINE BEECHAM ในสหรัฐอเมริกา วัคซีนนี้ได้ถูกบรรจุให้อยู่ในตารางการให้วัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคในเด็ก ปกติที่มีอายุในช่วง 12-18 เดือนแล้ว และกำหนดให้ฉีดให้เด็กอายุ 11-12 ปี ที่ยังไม่เคยรับวัคซีนและยัง ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อนด้วย ในประเทศไทย เนื่องจากวัคซีนอีสุกอีใสมีราคาค่อนข้างสูง จากรายงานทางระบาดวิทยาพบ ว่า 50 % ของอีสุกอีใสเป็นในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งมักมีอาการไม่รุนแรง จึงยังไม่กำหนดให้เป็น วัคซีนที่บังคับฉีดในเด็กไทย อย่างไรก็ตามมีข้อแนะนำว่า สำหรับเด็กไทยที่อายุอยู่ในช่วง 10-12 ปี ถ้ายังไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน ก็น่าจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส เนื่องจากในวัยเด็กช่วง อายุ 1-12 ปี การสร้างภูมิต้านทานของร่างกายจะตอบสนองกับวัคซีนได้ดี การได้รับวัคซีนเพียงเข็มเดียว ก็เพียงพอแล้ว ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไปต้องได้รับวัคซีน 2 เข็มใน ระยะห่าง 4-8 สัปดาห์ จึงเพียงพอที่จะกระตุ้นให้สร้างภูมิต้านทานได้สูงพอที่จะป้องกันโรค ส่วนผู้ที่เคย เป็นอีสุกอีใสมาแล้ว จะมีภูมิต้านทานตามธรรมชาติอยู่แล้วไม่ต้องฉีดวัคซีนอีก วัคซีน VARILRIX ใช้ฉีดครั้งละ 0.5 ml. เข้าใต้ผิวหนัง [SUBCUTANEOUS] เท่านั้น ผู้รับ การฉีดวัคซีน จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการสร้างภูมิต้านทานต่อโรค ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีน พบว่าอาจมีไข้หรืออาการร้อนแดงตรงตำแหน่งที่ฉีดยา (5 %) อาจมีผื่นคล้ายผื่นอีสุกอีใสเกิดขึ้น แต่ไม่รุนแรง (3-4 %) แต่ส่วนใหญ่ของผู้รับวัคซีนไม่พบความผิดปกติใดๆ วัคซีนอีสุกอีใสนี้ห้ามฉีดในหญิงมีครรภ์ สำหรับสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่ฉีดวัคซีนนี้ ควรหลีกเลี่ยงการ ตั้งครรภ์ในช่วง 3 เดือน หลังจากฉีดยา เนื่องจากวัคซีนอีสุกอีใสในปัจจุบันยังมีราคาค่อนข้างแพง สำหรับครอบครัวที่เศรษฐกิจดีอาจ ให้บุตรหลานรับการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 12 เดือน แต่ครอบครัวที่ยังไม่พร้อมนัก หวังว่าข้อมูลข้างต้น คงพอจะช่วยในการตัดสินใจว่าจะฉีดวัคซีนหรือไม่ เมื่อไร อย่างไรไม่มากก็น้อย เท้าความก่อนว่าอาการและลักษณะที่ข้าพเจ้าเป็นคล้ายรึเกือบจะเหมือนกับข้อมูลข้างบนเปะๆเริ่มจากเด็กๆในหมู่บ้านเป็นก่อน แล้วลูกชายไปติดมา ลูกชายเป็นอยู่เกือบสองอาทิตย์หายผ่านไปอาทิตย์นึงลูกสาวเป็น พอลูกสาวหายหายเกือบสองอาทิตย์ วันนั้นประมาณวันที่ 10 ข้าพเจ้าทำงานวันสุดท้ายก่อนจะหยุดสงกรานต์ ก็มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวปวดหัวบ้าง ก็เหมือนๆอาการที่จะเป็นไข้ทั่วไป ยังบ่นกับน้องที่ทำงานว่า พี่ปวดหัวเหมือนจะเป็นไข้เลยว่ะ.. น้องมันก็บอกทนหน่อยพี่พรุ่งนี้ก็ได้หยุดยาวแล้ว ก็ไม่ได้คิดอะไร ไปหายา พาราฯมากิน ตอนนั้นได้ซาร่ามาแผงนึง กินทันทีสอง 2เม็ด โอ้วซาร่า มันยอดมาก อาการต่างดีขึ้น ทำงานได้จนครบวัน มาวันที่ 11 ก็เริ่มมีอาการปวดหัวอีก รู้สึกคันที่พุงเกาจนถลอกไปแล้วสังเกตุเห็นมีตุ่มอยู่สองสามเม็ดเล็กๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร ซัดน้องซาร่าเข้าไปอีก 2 เม็ด โอ้วซาร่า มันยอดมากอาการทุเลาลง แฟนบอกพี่แอร์น้ำรั่วเต็มที่นอนเลย งานเข้าครับเข้าอากู๋ทันที แอร์น้ำหยด เอะไม่ซิ มันไม่หยดหรอกมันรั่วเป็นน้ำตกเลย เกิดจากไรคร้าบบบบ...ก็ได้คำตอบมาเยอะแยะ จับได้กระทู้นึง บอกสงสัยท่อตัน มีรูปปลากอบให้ดูอย่างละเอียด มั่นใจมากอาการนี้แหละแอร์เรา ก็ลงมือรื้อแอร์ทันที่ โอ้วจอร์ช มันตันเจงๆ มีวุ้นเหลวๆร่วเผละๆออมาจากท่อน้ำทิ้ง จัดการเอาสายยางเสียบเปิดน้ำอย่างแรงทะลวงออกไป ทำการรื้อแงะส่วนอื่นๆมาล้างด้วนความทุลักทุเล ประกอบเสร็จสรรพ (แต่ไม่เหมือนเดิม..อิอิ) เปิดฉึ่งเย็นเจี๊ยบ นำ้ไม่รั่วแล้ว...สำเร็จ ล้างแอร์เสร็จประมาณ บ่ายโมงมานั่งพักเหนื่อยพร้อมๆกับชื่นชมตัวเองอยู่เงียบๆที่ กรูก็ล้างแอร์เป็นว้อยยย...555 อยู่หน้าบ้าน ไอ๋หย๋า..ตุมไรวะเนี่ยะเต็มตัวเลย เพิ่งเห็น..เรียกแม่มึงมาดู แม่มึงบอกว่าพ่อมึงหน้าก็ขึ้นเต็มเลย แล้วมานก็หัวเราะคิกๆ...อึ๊ยหมั่นใส้มีหน้ามาหัวเราะเราอีก พ่อมึงเป็นอีสุกอีใสแน่เลย.. ถึงบางอ้อเลยครับ..อาบน้ำเสร็จนอนซมเลยคราวนี้ไข้ขึ้นตลอดพร้อมกับตุ่มก็ขึ้นเต็มตัวขึ้นไปทั่วหน้าตาหัวหูขึ้นเต็มไปหมด ไปหาหมอเอายาแก้ไข้ยาแก้อักเสบยาฆ่าเชื้อมากิน 2 - 3 วันไข้ลด วันที่ 4 - 5 ตุ่มเริ่มยุบและตกสะเก็ดแล้ว สรุปวันหยุดพักผ่อนยาวของผมจริงๆ กินข้าวกินยานอน (นอนแบบทรมาน) เพราะมันคันด้วยนะไอ้ตุ่มนะเกาก็ไม่ได้กลัวมันแตก คงนึกออกนะครับ ว่าคันแล้วเกาไม่ได้มันทรมานขนาดไหน ฏ้ได้แต่เอามือถูๆเอา ตอนนี้เกือบปกติแล้ว พรุ่งนี้ก็กลับไปทำงานเหมือนเดิม เพื่อนๆก็ดูแลสุขภาพนะครับ..ระวังวังอย่าให้เป็นอีสุกอีไสแบบผมล่ะ แต่ถ้าเป็นแล้วก็ไม่ต้องตกใจครับ ไม่มีอะไรร้ายแรง แค่ไปพบหมอเอายามากิน ทนทรมานไม่เกินอาทิตย์ เดี๋ยวก็ดีเองครับ ด้วยความปรารถนาดีจาก คนเคยเป็นอีสุกอีไส จร้า..ฮ่าๆ บายครับ..
ขอบคุณข้อมููลและภาพจากอินเตอร์เน็ต
Create Date : 20 เมษายน 2557 |
Last Update : 20 เมษายน 2557 19:26:28 น. |
|
106 comments
|
Counter : 10449 Pageviews. |
|
|
เรียงลำดับป่วยเลยนะคะ หวังว่าคงไม่เยอะเหมือนในรูปหรอกนะคะ แหะๆ
อย่าเกาล่ะ ตัวลายกันพอดี ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณที่แวะไปชิมกระเพาะปลานะคะ หายเร็วๆค่ะ