"อาตมาไม่ได้พูดให้โยมเชื่อ แต่พูดให้โยมไปคิด".....หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

ทำความดีนี้แสนยาก ๘


ทานน้ำใจ


การได้มาบำเพ็ญทานโดยเสียสละเวลา เสียสละกิจการงานของท่านมาบำเพ็ญกุศลในวันธรรมสวนะนี้ เป็นทานอันสำคัญที่ทำได้ยาก

นี่แหละทานอันนี้ไม่มีใครทราบ ไม่มีใครตัดปลิโพธได้ ไม่มีใครตัดกังวลได้ จึงมาไม่ได้ อ้างว่าที่บ้านยุ่ง ลูกทำให้ยุ่ง สามีทำให้ยุ่ง ภรรยาทำให้ยุ่ง เลยเสียสละทานนี้ไม่ได้ จึงหมดโอกาสที่จะมาสร้างความดีให้กับตัวเอง

บางคนบอกว่ารอให้รวยก่อนแล้วถึงจะมาปฏิบัติสร้างความดี ท่านจะรอรวยเมื่อไร สร้างความดีนั้นน่ะรวยแน่ ๆ สร้างกุศล เจริญพระกรรมฐานรวยแน่ ๆ รวยทรัพย์ รวยคุณสมบัติ รวยชื่อเสียง รวยความรัก มีแต่เมตตาปรานีกัน เมตตาอุปถัมภ์โลก ให้โลกอยู่เย็นเป็นสุข

คนเราเสียสละทานข้อนี้ไม่ได้ เข้าใจทานของพระพุทธเจ้าผิด เข้าใจว่าทานคือ เอาสตางค์ออกมาทำบุญ เอาสตางค์ใส่บาตรพระ นั้นเป็นทานประเภทสอง ข้อนี้โปรดฟังอาตมาไปคิดกัน

ท่านสาธุชนทั้งหลายโปรดคิดโดยทั่วหน้ากัน ข้อนี้ไม่มีใครคิดเลยนะ ผลัดวันประกันพรุ่ง คนมาวัดอัมพวันผลัดทั้งนั้น

อาตมาบอก “โยมมาเถอะนะ ตัดกังวลมา มาเจริญพระกรรมฐานสัก ๗ วัน ๑๕ วัน”
“โอ๊ย ไม่มีเวลา”

สร้างความดีไม่มีเวลา แต่สร้างความชั่วมีเวลามากมาย สร้างหนี้สิน สร้างหนี้บุญคุณคนมีเวลามาก แต่จะใช้หนี้ไม่มีเวลาเลยหรือ ?

การมาเจริญพระกรรมฐานเป็นการใช้หนี้กรรม ที่เราทำไว้เมื่อชาติก่อน เป็นการอโหสิกรรม และเป็นการใช้บุญคุณคนตั้งแต่ครั้งอดีตมา จะรำลึกถึงบุพการีได้ จะนึกถึงบุญคุณคนขึ้นมา นี่ข้อนี้อย่าผลัด

นับว่าเป็นโชคดีของท่านสาธุชน โชคดีที่ท่านเสียสละทางบ้านมาได้ตัดปลิโพธกังวล ไม่ห่วงลูกห่วงหลาน ห่วงครอบครัวแต่ประการใด นี่แหละช่วยตัวเองแล้ว ช่วยตัวเองได้หมื่นเปอร์เซ็นต์

ข้อแรกได้มีทานน้ำใจ เสียสละเวลามีค่ามาก อยู่ที่บ้านก็ต้องประกอบอาชีพการงาน แต่เอาเวลาประกอบอาชีพการงานได้เงินได้ทองทรัพย์ภายนอก เอามาเป็นทรัพย์ภายใน เสียสละมาสร้างบุญสร้างกุศล เป็นประเภทหนึ่ง เป็นการหาที่พึ่งให้แก่ตัวเอง หากุศลให้แก่ตัวเอง นี่แหละบุญประเภทหนึ่ง เป็นทานน้ำใจ ทานสำหรับผู้มีบุญวาสนาเท่านั้น

คนที่ไร้บุญขาดวาสนาจะมาไม่ได้แน่ จะทิ้งบ้านมาไม่ได้ ตัดปลิโพธกังวลไม่ได้ มีแต่วุ่นวายในบ้านของตน แก้ปัญหาไม่ได้เลย คนอาภัพวาสนา คนอับเฉาอับจน จึงมาสร้างกุศลกับเขาไม่ได้

คนที่มาสร้างบุญสร้างกุศล มาเจริญวิปัสสนากรรมฐานเป็นการสร้างตัวเอง เป็นการพึ่งตัวเอง และเป็นการช่วยเหลือจิตใจตนเองให้เกิดผลงอกงามไพบูลย์ ทำให้จิตชื่นบาน ทำให้จิตใจหรรษาในกุศลบุญของตน

นี่แหละท่านสาธุชน วันนี้โชคดีของท่าน เป็นวันของท่านแล้ว วันพรุ่งนี้ไม่แน่ว่าจะเป็นของท่านหรือเปล่า ท่านอาจจะตายคืนนี้ก็ได้ เดือนนี้เป็นของท่านแล้วเดือนหน้ามิไช่ ปีนี้เป็นปีของท่านแล้ว ปีหน้าไม่ใช่

ไม่ใช่ว่าคนอื่นทำให้เราได้ พ่อแม่ก็ช่วยเราได้เท่านี้เอง จะช่วยเอาบุญมายัดเยียดให้ก็คงไม่ได้

เพราะพ่อแม่ก็อยากให้ลูกมีความสุข แต่ลูกมีความทุกข์ ไหนเลย พ่อแม่จะช่วยลูกให้ถึงเหตุดับทุกข์ ให้เกิดความสุขได้ เพราะฉะนั้นเราท่านทั้งหลายต้องช่วยตัวเอง

ช่วยตัวเองทำอย่างไร ? ช่วยตัวเองก็มาเจริญกุศล สร้างบุญไว้ในใจ สร้างจิตใจให้สบาย ทำใจให้เป็นสุข ปราศจากทุกข์ ทำใจให้ผ่องแผ้ว ทำใจให้บริสุทธิ์ ตรงนี้ซิท่านช่วยตัวของท่านได้เอง

ท่านจะเกิดความสุข มีความสนุกในการทำงาน ในครอบครัวของตนท่านจะมีความสุข ท่านจะไม่ทะเลาะวิวาทกันระหว่างสามีภรรยา แล้วลูกก็จะดีมีปัญญาทุกคน นี่แหละพระพุทธเจ้าทรงแนะแนวอย่างนี้

เรามาสร้างบุญไว้ในใจ ด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน แล้วท่านจะเรียบร้อยเอง ท่านจะเป็นผู้ดีเต็มขั้น มีกุศลส่งผลให้ท่านเป็นสุขในอนาคต เป็นการช่วยตัวเอง เป็นการพึ่งตนเอง อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ โดยแท้

การมาสร้างบุญกุศลเช่นนี้น่ะ เพื่อต้องการมาฝึกให้อดทน ต้องการจะมาเพิ่มบารมีของตน สร้างกุศลไว้ในใจ แล้วกุศลจะได้ช่วย

รับรองรวยทุกคน รับรองรวยน้ำใจ จิตใจรวยแล้ว อย่างอื่นก็รวยตามมา ทำอะไรก็งอกงาม ทำนาก็ได้ข้าว ค้าขายก็ได้กำไร รับราชการก็มีตำแหน่ง คนนั้นจะมีเงินไหลนองทองไหลมา นี่แหละทานเบื้องต้น ที่ท่านเสียสละมา เป็นทานอันสำคัญที่ใครเสียสละได้ยาก

ถ้าพ่อแม่เจริญวิปัสสนา รับรองลูกจะเป็นคนดีมีปัญญา จะไม่ว่านอนสอนยาก ลูกจะไม่หัวดื้อหัวรั้นแต่ประการใด

นี่แหละต้องสร้างบุญประเภทหนึ่งเอาไว้ในใจ แล้วก็ปฏิบัติพระกรรมฐานอย่างนี้ การปฏิบัติไม่ใช่มาเล่นกันนะ อย่าให้เวลาหมดไปโดยใช่เหตุ เป็นที่น่าเสียดายมาก

ท่านเป็นผู้มีบุญ เสียสละเวลามาสร้างบุญกุศลให้แก่ตัวเองได้ โยมถึงธรรมะ คือสมาธิภาวนาแล้ว มีทั้งศีล สมาธิ ปัญญาแล้ว โยมก็มีทานชั้นสูง สามารถเสียสละความชั่ว ออกจากตัวได้ สามารถจะละทิฏฐิ อันเป็นทุนเดิม คือสันดาน ออกจากตัวได้ทันที จะไม่มีอัปรีย์จัญไรต่อไป นี่คือบุญกุศลที่เป็นทานที่จะกำจัดความชั่วออกจากตัวได้

ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ผู้ปฏิบัติธรรม ขอทุกท่านจงงอกงามไพบูลย์ในกิจพระศาสนา ตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยทั่วหน้ากัน


หมายเหตุ :
หนังสือ "ทำความดีนี้แสนยาก" เรื่องที่ ๑ ถึง ๘
บล็อกเดิมได้พิมพ์ลงไว้
ตั้งแต่วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๘ ถึงวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๔๙




 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2549
0 comments
Last Update : 17 พฤษภาคม 2549 15:07:03 น.
Counter : 1799 Pageviews.


ถมทอง
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 56 คน [?]








.: เรื่องล่าสุด ๒๕๕๖ :. คลิกเลยค่ะ

๒ พ.ย. [คลิปเสียง]ธรรมเทศนา ๑๔

๑๔ ต.ค. [คลิป]พิธีถวายผ้าป่า๒๐๐กอง





pub-6092438163871112
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
14 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ถมทอง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.