Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2548
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 
SavinG DaY

เก็บตังค์กันเหอะ !!!

7 กลยุทธ์การออมให้รวย (อ่านช้าๆ แล้วคิดตาม เผื่อว่าเราจามีเงินตามมากขึ้น โหะ โหะ)

เรื่องเก่าที่อยากเอามาเล่าใหม่ เล่าทีไรใช้เตือนสติเรื่องการใช้เงินให้เพลาลงได้ทุกที คือวิธีออมเงิน แต่ไม่ว่าจะเป็นสูตรของกูรูท่านไหน มักไม่ค่อยแตกต่างกันในหลักใหญ่ใจความถ้ามีวินัย ทำได้สม่ำเสมอ ไม่ต้องลุ้นเปิดฝาชาเขียวก็มีเงินล้านได้ เราจึงมีกลยุทธ์เกี่ยวกับการออมเงินมาบอก

1. การออมแบบ ลบ 10 เพิ่ม 10
คือ ถ้าเป็นการออมแบบลบ 10 หมายความว่า หาเงินได้เท่าไหร่ ให้หักเอาไว้เป้นเงินออม 10% ก่อนใช้จ่ายเสมอ เช่นได้เงินเดือน 20,000 บาท ให้หักไว้เป็นเงินออม 2,000 บาท แต่ถ้าเป็นการออมแบบเพิ่ม 10 คือ ใช้เงินไปเท่าไหร่ ต้องหาเงินเก็บให้ได้ 10% ของเงินที่จ่ายไป เช่น บินไปไต้หวัน 20,000 บาท (โหะ โหะ) ต้องออมเงินไว้ 2,000 บาทไปพร้อมกัน วิธีนี้เป็นการเตือนสติให้คุณไม่ลืมหน้าที่ในการออมเงินสม่ำเสมอ จะทำๆหยุดๆไม่ได้ หัดมีวินัยในการออมเงินเสียแต่วันนี้ เพื่อความสุขสบายในวันหน้า
(ทยอยเก็บเล็กผสมน้อย เหมือนเก็บไว้เลย 10% ของเงินเดือน ค่อยๆเก็บไป แล้วเอามาถอยพรีเมี่ยม อาคุ อาคุ)

2. ออมแบบแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน
วิธีนี้ทำง่าย พอได้เงินมา ต้องแบ่งออกเป็น 3 ส่วนเสมอ ส่วนแรกเอาไว้ใช้จ่ายประจำวัน ส่วนที่สองเอาไว้เก็บออมให้เป็นเงินก้อน และส่วนสุดท้ายเก็บเงินไว้สำหรับลงทุนระยะยาว ที่สำคัญ จำไว้ให้ขึ้นใจ "ใช้ให้น้อยกว่าหา" แล้วเงินก็จะรับใช้คุณเอง
(อันนี้ก็ดูโอน๊าา...เอาส่วนที่สองที่จาออมนั่นแหละ ออม ออม ออม ไว้แป๊ะนึง แล้วก็เอาไปเที่ยวกานเตร๊อะ อุ๊อุ๊)

3. จัดสรรบัญชีเงินฝาก
คนที่รู้ตัวว่าเก็บเงินไม่อยู่ ขอแนะนำให้มีบัญชีเงินฝากหลายเล่ม เล่มแรกเป็นบัญชีสำหรับใช้จ่ายทั่วไป โดยเอาเงินเดือนหรือรายได้ทั้งหมดเก็ยไว้ในบัญชีนี้ และต้องมีสติว่าจะนำเงินนี้ไปใช้อะไรบ้าง ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวใช้เพลินเกินฐานะแล้วจะลำบาก บัญชีที่สองแนะนำให้เปิดแบบฝากประจำระยะยาวเป็นบัญชีสำหรับอนาคต โดยหักเงิน 10% ของเงินเดือนหรือมากกว่านั้น มาเก็บไว้ในบัญชี และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ถอนออกมาใช้ก่อนเวลาสมควร ส่วนบัญชีสุดท้ายควรเป็นบัญชีเพื่อการลงทุน คือฝากเงินไปเรื่อยๆจนได้เงินก้อนหนึ่ง แล้วค่อยถอนออกมาเพื่อนำไปลงทุนแบบต่างๆภายใต้ความเสี่ยงที่เรารับได้
(น่ากัวโคดอันนี้ ฝากแล้วถอนไม่ได้ โฮฮฮฮฮ)

4. มีเงินฉุกเฉินเท่าไหร่ถึงจะพอดี
เงินก้อนนี้เป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน มีผู้รู้ประมาณการว่า ควรมีเป็นหกเท่าของรายจ่ายประจำเดือน เช่น ถ้าเดือนหนึ่งมีค่าใช้จ่าย 10,000 บาท ควรกันเงินเผื่อไว้ใช้ยามฉุกเฉินสัก 60,000 บาท ฝากไว้ในธนาคารแบบออมทรัพย์ จะได้เบิกง่ายใช้คล่อง
(เหอ เหอ ก้อนนี้คาดว่าไม่เหลือ ยิ่งเบิกง่าย ยิ่งดี ช๊อบ ชอบ ^^")

5. จ่ายหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่แพงที่สุดก่อน หรือหนี้ที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตเป็นอย่างแรก

6. ทำประกันชีวิต เพื่อประกันความเสี่ยงให้กับตัวคุณและครอบครัว

7. ออมทรัพย์กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่างๆ หรือทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

ปล....ข้อมูลจาก กบข.




Create Date : 01 สิงหาคม 2548
Last Update : 10 สิงหาคม 2548 22:30:12 น. 5 comments
Counter : 655 Pageviews.

 
ปล้นแบ๊งมั้ย 555


โดย: Z-re IP: 61.91.141.217 วันที่: 2 สิงหาคม 2548 เวลา:20:03:48 น.  

 
เฮ่ย อารายเนี่ย บ๊อกเค้าเดินหน้า ฉึบๆไปแล้น เรายังจอดนิ่งซาหนิด แหมๆๆ เพ่เงินเหลือเอามาฝากมั่งเน้อ


โดย: เรียวโก๊ะ IP: 61.91.109.16 วันที่: 6 สิงหาคม 2548 เวลา:20:22:48 น.  

 
พรืดง่ายทามยากอ่าปี้......


โดย: @lovelyken@ วันที่: 7 สิงหาคม 2548 เวลา:11:19:48 น.  

 
แวะมาฟังเพลงฮับ

อ่านเรื่องเงิน เรื่องทองแล้วเวียนเฮด


โดย: หมูกระปุก วันที่: 8 สิงหาคม 2548 เวลา:22:29:38 น.  

 
..ตะละคน..เอิ๊กๆๆๆ

ก่อนจาออมได้ ต้องรู้ก่อนว่าแต่ละเดือนเนี่ย..เหลือเนตๆ เท่าไหร่
เพราะไหนจะต้องโดนค่าภาษี ประกันสังคม
บางคนยังมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีก เหอๆๆ
หักไปหักมา เหลือจิ๋วเดียว...
แต่ว่าจิ๋วก็จิ๋ว ไงก็ต้องออมกันโหน่ยยยย ว่าม๊ะ??

อยากรู้ว่าตะละเดือนรับเงินเท่าไหร่...
เอาแบบง่ายง่าย...ก็คิดก่อนว่าโดนหักอะไรบ้าง
.
++ ภาษี อันนี้ หนีไม่รอดแน่ๆ
++ ประกันสังคม อันนี้ก็เหมือนจะหนีไม่ได้แล้ว
++ สำรองเลี้ยงชีพ อันนี้แล้วแต่ บางบริษัทไม่มี
.
ส่วนที่กรมสรรพกรยอมให้เราหักเป็นค่าใช้จ่ายได้
++ คู่สะมะรส และ ลูก อันนี้แล้วแต่ศรัทธา ใคร่มีมี ก๊ากก
++ พ่อแม่...เดี๋ยวนี้เค้ามีให้หักลดหย่อนแล้วเน้อ...ตะว่าเค้าให้หักได้ที่ลูกคนเดียว...
ถ้าเป็นลูกคนเดียวก็โอ...ตะว่าถ้ามีพี่น้อง...ก็ต้องมาดูว่าไผเป็นคนเลี้ยงดู
ที่สำคัญที่จะเอาไปหักได้คือ พ่อแม่ ต้องไม่มีรายได้ และอายุเกิน 60 (มั๊ง..อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจ..ต้องเช็คอีกที)
++ ตัวเอง...เค้าให้หักได้ 30,000 ต่อปี...เหอ เหอ น้อยจ๋อย แต่เค้าให้ก็ดีแล้ว อย่าเรื่องมาก...- -"
.
ขั้นแรกก็เอาเงินเดือนมา คูณ 12 ซึ่งก็คือจำนวนเดือนที่ทำงานในปี ...
แต่ว่า ถ้าเริ่มงานเดือน ส.ค. ก็คูณแค่ 5 เดือนพอ เพราะว่าปีนี้ทำแค่ 5 เดือนนิ (ได้เท่าไหร่ก็จดไว้)
.
ทีนี้ก็มาดูค่าใช้จ่ายที่หักได้
แรกเลยเค้าให้หักค่าใช้จ่ายได้ 40% แต่ว่าไม่เกิน 60,000
.
ต่อมาก็
1) ประกันสังคม ตอนนี้จะคิดจากเงินเดือน*5% แต่ว่าเงินเดือนที่เอามาคิดคือไม่เกิน 15,000
แปลว่าถ้าใครเงินเดือนเกิน 15,000 เอามาคิดแค่ 15,000 พอ
(ปีนึงก็จะตกอยู่ที่ 9,000 บาท เต็มที่ ถ้าทำงานเต็มปี ถ้าไม่เต็มก็เหมือนเดิม คูณแค่เดือนที่ทำ)

2) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ อันนี้ กี่% ก็ว่ากันไป

3) คู่สมรส...ถ้าเค้ามะมีเงินได้เลย...หักได้ 30,000

4) พ่อแม่....ถ้าเค้ามะมีเงินได้เลย...หักได้คนละ 30,000 อย่าลืมตกลงกะพี่น้องก่อนด้วย
เพราะว่าเค้าให้หักได้แค่คนเดียว...ไม่ใช่มีลูก 5 คน ทั้งห้าคนเอาไปหักหมด

6) ตัวเอง หักได้ 30,000 เหมือนที่บอกไว้ข้างบน

== เอาทั้งหมดมารวมกัน == ได้เท่าไหร่...เอาไปลบออกจากเงินเดือนเมื่อกี้ที่คิดไว้

เหลือตัวเลขหนึ่งตัวที่จะเอามาคิดภาษีละ

ถ้าเลขที่เหลือ ตกอยู่ระหว่าง
น้อยกว่า 80,000 ไม่ต้องเสียภาษี
80,000 - 100,000 เสีย 5%
100,000 - 500,000 เสีย 10%
500,000 - 1,000,000 เสีย 20%
1,000,000 - 4,000,000 เสีย 30%
เหลือมากกว่า 4 ล้าน (แม่เจ้า) เสีย 37%

ได้เท่าไหร่ มันก็คือภาษีที่ต้องเสียในปีนั้นๆ (ทั้งปี) เพราะงั้นจะโดนหักเท่าไหร่ต่อเดือน
ก็เอาจำนวนเดือนที่ทำในปีมาหาร ก็จะเป็นต่อเดือน งงม๊ะ...ไม่งงนะ

====
ลองมาคิดเล่นๆ...สมมติว่าได้เงินเดือน 32,000 เริ่มงานเดือน ส.ค. ยังมะมีแฟน
พ่อแม่ยังทำงาน....กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 5% ละกัน เดี๋ยวง่ายไป เหอ เหอ

เงินเดือน 32,000 ก็คูณ 5 เข้าไป ได้ = 160,000

หักค่าใช้จ่าย 40% = 64,000 (เกิน 60,000 หักได้แค่ 60,000)
ประกันสังคม คิดแค่ 15,000 คูณ 5%, 5 เดือน = 3,750
แฟนมะมี พ่อแม่หักไม่ได้ เพราะงั้นเป็น ศูนย์
สำร้องเลี้ยงชีพ 32,000*5%, 5 เดือน = 8,000
หักส่วนตัว 30,000
เอามารวมกันก็จะได้ 101,750

เอาไปลบจากเงินเดือนที่คิดไว้ 160,000 - 101,750 = 58,250

เหลือน้อยกว่า แปดหมื่น แปลว่าปีนี้ไม่ต้องเสียภาษี ฮิ้ววววววว

เงินที่จะได้รับแต่ละเดือนก็จะเป็น
= 32,000 - ประกันสังคม (750) - สำรองเลี้ยงชีพ (1,600) = 29,650 บาท

====
แต่ว่าถ้าเป็นปีหน้าที่ทำงานเต็มปี ก็จะเป็น

เงินเดือน 32,000 ก็คูณ 12 เข้าไป ได้ = 384,000

หักค่าใช้จ่าย 40% = 153,600 (เกิน 60,000 หักได้แค่ 60,000)
ประกันสังคม คิดแค่ 15,000 คูณ 5%, 12 เดือน = 9,000
แฟนมะมี พ่อแม่หักไม่ได้ เพราะงั้นเป็น ศูนย์
สำร้องเลี้ยงชีพ 32,000*5%, 12 เดือน = 19,200
หักส่วนตัว 30,000
เอามารวมกันก็จะได้ 118,200

เอาไปลบจากเงินเดือนที่คิดไว้ 384,000 - 118,200 = 265,800ฟ

ทีนี้ก็ เอามาคิดภาษีได้ละ (จับลงเป็นช่วงๆ ตามข้างบน)
80,000 แรก ไม่ต้องเสีย
20,000 ถัดมา เสีย 5% = 2,000
165,800 เสีย 10% = 16,580
รวมเป็นภาษี 18,580 บาท ต่อปี (แสดงว่าตกเดือนละ 1,548 โดยประมาณ)

เงินที่จะได้รับแต่ละเดือนก็จะเป็น
= 32,000 - ประกันสังคม (750) - สำรองเลี้ยงชีพ (1,600) - ภาษี (1,548) = 28,102 บาท

=========

ก็ประมาณนี้อ่ะ....งงกันม๊ะ....
เงินที่ได้รับนั่นแหละก็เอามาคิดดูดิ๊ว่า จาออม จาใช้กันยังไง
เพื่อที่ว่าเราจะได้ไม่ต้องปวดหัวกะการบ่จี๊ หุหุ


โดย: S and K วันที่: 14 สิงหาคม 2548 เวลา:1:16:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

S and K
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add S and K's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.