ความปรารถนาที่จะเขียน
เคยมีคำกล่าวที่ว่า 'เราสามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้ด้วยปลายปากกา'ฉันอยากเขียน เพราะการเขียนทำให้เราได้อยู่กับตัวเองได้ตกตะกอนความคิดในแง่มุมต่างๆ เรื่องที่ไม่เคยนึกถึงไม่เคยได้คิด ก็จะได้คิดเมื่อเขียน การเขียนทำให้หัวใจสงบและเข้าใจความเป็นไปของโลกมากขึ้น...ฉันไม่เกี่ยงว่าจะต้องเขียนอะไร จะเขียนอะไรก็ขอให้มันเป็นประโยชน์เพียงแค่คนๆ เดียวอ่านแล้วเขาแก้ปัญหาชีวิตเขาได้ ฉันก็ภูมิใจชีวิตฉันในวันนี้ พอใจที่ได้ตื่นลืมตาขึ้นมานั่งเคาะแป้นคีย์บอร์ดได้ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ที่เคยพบเจอก็เป็นความสุขมากแล้ว ปัจจุบัน ฉันเขียนนิยาย ที่หลายคนพูดว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันแต่ฉันไม่คิดแบบนั้น บางทีนิยายก็ให้อะไรมากกว่าความสนุกหากคุณใช้หัวใจอ่าน จะเรื่องไหนๆ ก็ให้คุณ อย่างน้อยที่สุดคุณจะได้ภาษากลับไป หรือแง่คิดบางอย่างคนเรามองได้ไม่ครบ 360 องศาหรอกบางทีการอ่านนิยายอาจให้มุมมองในองศาใหม่ๆ กับคุณฉันก็พยายามจะพัฒนาการเขียนให้ดีขึ้น และพยายามที่จะให้นิยายที่เขียนมีสาระ แง่คิด เป็นการจรรโลงสังคม และสอนตัวเองไปในตัวด้วย หลายเดือนที่เขียนนิยายมา ไม่อยากเชื่อว่า สมองฉันประมวลความคิด เรียบเรียงคำพูดเก่งขึ้น คิดอะไรออกอย่างรวดเร็วและแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ ได้บนเส้นทางสายนี้ ฉันก็รู้ว่ามันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่ฉันก็เชื่อว่า ไม่มีอะไรเกินความพยายามของมนุษย์ขอเพียงเราไม่ท้อถอย ขอเพียงเราอดทน ถามว่าความฝันของฉันคืออะไร...เวลานี้ก็ฝันว่า มีคนอ่านเรื่องของฉันแล้วเขาได้วิธีคิด วิธีแก้ปัญหา กลับไป ได้แง่คิดดีๆ จากหนังสือก็พอใจมากแล้วคนเราเกิดมาล้วนก็ต้องตาย อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้หายใจรดโลกไปวันๆ มีลมหายใจอยู่ละได้ทำประโยชน์คุ้มค่ากับความเป็นคนเป็นคนเต็มคน พอใจแล้วเมื่อสองปีก่อนฉันเคยคิดเล่นๆ ว่าเราเกิดมาเป็นคนทำไมวันนี้ฉันก็ได้คำตอบ ได้รู้ถึงคุณค่าและความหมายของการมีชีวิตอยู่บางคนบอกว่า ทุกสิ่งเป็นเรื่องสมมุติ ตายไปเอาอะไรไปไม่ได้เลยไม่ไขว่ขว้าทำอะไร อยู่หายใจรอวันตายไปแบบนั้นเพราะพูดว่าปลงแล้ว ฉันกลับไม่คิดแบบนั้น ฉันคิดว่าเราต้องทำประโยชน์การทำงานให้ดี ให้สู่จุดสูงสุด ไม่ได้เรียกว่าทะยานอยากในขณะที่ฉันมีแรกก็ขอเขียนต่อไป...เขียนให้ดี