ธรรมดาอิชั้นเป็นคนไม่ชอบดูการ์ตูนหรือหนังแนวยอดมนุษย์นัก เพราะรู้สึกว่าโม้ว่ะ เว่อร์ว่ะ แถมมักจะมีบทสรุปเป็นแนวทางเดียวกันคือ พระเอกของเราปราบปรามเหล่าวายร้ายได้อยู่หมัด ปกป้องโลกของเราให้รอดพ้นจากภยันตราย แฮปปี้เอนดิ้งสุดฤทธิ์ แต่วันนี้อิชั้นขอยกเว้น BATMAN THE DARK NIGHT ไว้ 1 เรื่องค่ะ
BATMAN ภาคนี้ไม่ใช่ภาคแรกที่ได้ดู เพราะคุณแฟนอิชั้นชอบดูหนังแนวนี้นัก ถามอิชั้นว่าดูภาคก่อนๆ แล้วรู้สึกอย่างไร ก็ต้องบอกว่าสนุกอยู่นะ แต่มันยังไม่โดนใจอิชั้นเท่าไหร่นัก คือไม่ดูก็ไม่ได้รู้เสียดายอะไร ถึงแม้คุณแฟนอิชั้นจะชอบนักชอบหนาก็เหอะ แต่กับ BATMAN THE DARK NIGHT กลับตรงกันข้าม เพราะรู้สึกอยากดูตั้งกะตอนเห็นหนังตัวอย่าง ต้องขอชมคนตัดต่อหนังตัวอย่างแท้ๆ ที่ทำให้หนังมันน่าสนใจได้ขนาดนี้ 5555 หลังจากนั้นก็ได้ยินที่คุณเอกราช ณ เรื่องเล่าเช้านี้ ชื่นชมนักหนากับภาคนี้ ว่าเป็นแบทแมนภาคที่ดีที่สุด บวกกับคุณแฟนก็ได้ยินจากคุณปลื้ม ณ แกะดำ ปลาบปลื้มชื่นชมกับเรื่องนี้อีกเช่นกันว่า เป็นหนังดีที่สุดในรอบปีนี้เลยทีเดียว คราวนี้เลยเล่นเอายิ่งไปกระตุ้นต่อมความสนใจของอิชั้นให้พุ่งสูงขึ้นทันที อิอิ
BATMAN THE DARK NIGHT หลีกเลี่ยงไม่พ้นกับการต่อสู้กับเหล่าร้าย หากแต่เหล่าร้ายในครั้งนี้คือ โจ๊กเกอร์ ที่ดูเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา แต่มีความโรคจิตอย่างสาหัส การต่อสู้กับตัวร้ายครั้งนี้นอกจากจะมีผู้หมวดจิม กอร์ดอน แล้วยังมีอัยการเขตฮาร์วีย์ เดนท์ ผู้ที่พร้อมจะปัดฝุ่นจัดการกับพวกมาเฟียและเหล่าร้ายแห่งเมืองกอธแธม จนกระทั่ง BATMAN คิดจะฝากฝังให้ ฮาร์วีย์ เดนท์ เป็นฮีโร่คนใหม่ที่ปราศจากหน้ากากแห่งเมืองกอธแธม
BATMAN THE DARK NIGHT มีครบทุกรสชาติ เปรี้ยว หวาน มันส์ เค็ม เผ็ด ซาบซ่า นอกจากจะมีฉากบู๊ล้างผลาญ มีฉากหวานซาบซึ้งใจแล้ว ยังมีเรื่องให้ชวนขบคิด มีประเด็นให้ต้องกลับมานั่งถกกันต่อ เรียกว่านอกจากเป็นหนังดูสนุกดูมันส์แล้ว ยังได้อะไรติดสมองกลับบ้านมาด้วย แต่ที่อิชั้นติดอกติดใจนักหนาก็ต้องขอยกให้ โจ๊กเกอร์ ค่ะ