ศาสนา เป็นองค์คุณอันสำคัญ
โดยช่วยให้ชีวิตนี้ มีความสดชื่น เยือกเย็น พอที่จะเป็นอยู่ ไม่ร้อนเป็นไฟ
เช่นเดียวกับน้ำ เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง พฤกษาชาติ ให้สดชื่น งอกงาม ตลอดเวลา ฉันใดฉันนั้น

...ไฟไหนเล่า ร้อนเท่าไฟนรก... @ มหานรก ๘ ขุม...



นรก แปลว่า ประเทศที่ปราศจากความสุข มีแต่ความทุกข์ มีอยู่ ๔๕๗ ขุม คือขุมใหญ่มีอยู่ ๘ ขุม นับตั้งแต่สัญชีวก กาฬสุตตนรก เป็นต้นไป ถัดนรกใหญ่ แต่ละขุมออกไปในทิศทั้ง๔ แต่ละมีอุสสุทนรกทิศละ ๔ ขุม รวมเป็น ๑๒๘ ขุม ถัดอุสสุทนรกออกไปอีก มียมโลกิยนรก อยู่ทิศละ ๑๐ ขุม รวมเป็น ๓๒๐ ขุม ส่วนขุมใหญ่สุด ลึกที่สุดนั้น ชื่อว่า โลกันตนรก รวมทั้งสิ้น จึงเป็น ๔๕๗ ขุม คือ

  • นรกใหญ่ ๘ ขุม
  • อุสสุทนรก ๑๒๘ ขุม
  • ยมโลกิยนรก ๓๒๐ ขุม
  • โลกันตนรก ๑ ขุม


นรกใหญ่ หรือ มหานรก ๘ ขุม




1) สัญชีวมหานรก หมายถึง "มหานรกที่เหล่าสัตว์ไม่มีวันตาย"

เป็นบ่อเหล็กขนาดใหญ่มาก ทุกพื้นที่ในบ่อนี้ มีไฟเผาอยู่ตลอดเวลา และบนพื้นมีอาวุธต่างๆ เช่น มีด หอก ดาบ ฯลฯ ผีนรกจะวิ่งไปมา และไปกระทบกับอาวุธ ทำให้ร่างกายถูกฟันขาด เหล่าสัตว์ผู้ไปเกิดเป็นถึงแม้ว่าจะได้รับทุกข์โทษอย่างเสนสาหัสจนขาดใจตายไปแล้ว ก็กลับเป็นขึ้นมาอีกได้ คล้าย ๆ กับว่ามีตัวตนเป็นกายสิทธิ์ คือไม่มีวันที่จะตายกันเลย ถึงแม้จะได้รับโทษอย่างแสนสาหัสจนทนไม่ไหวขาดใจตายไปก็จริง ถึงกระนั้นก็ต้องมีชีวิตชีวา กลับเป็นขึ้นมารับทุกข์โทษต่อไปอีก ฉะนั้นมหานรกนี้จึงมีชื่อว่า สัญชีวมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งทำให้ไม่มีวันตาย ยมบาล (นายนิริยบาล) จะเดินไปมาได้ โดยไม่ถูกไฟเผา เพราะไม่มีบาป นรกขุมนี้ เป็นนรกขุมที่เบาที่สุด ของนรกขุมใหญ่ทั้งหมด

เกณฑ์เฉลี่ยอายุของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีประมาณ ๕oo ปีอายุกัป โดยระยะเวลาเพียง ๑ วันที่การทำฑัณฑ์ทรมานได้ผ่านพ้นไป สามารถนับระยะเวลาในเมืองมนุษย์ได้ถึง ๙,ooo,ooo ปี และหากนับระยะเวลาทั้งหมดในมหานรกขุมนี้ จึงเท่ากับ ๑,๖๒o,ooo ล้านปีมนุษย์







๒) กาฬสุตตมหานรก หมายถึง "มหานรกที่เหล่าสัตว์ถูกนายนิรยบาลทำกรรมกรจองจำไว้ด้วยด้ายเหล็กดำ" (กาฬะ แปลว่า ดำ สุตตะ แปลว่า เชือก)

นรกขุมนี้มีกรรมหนักกกว่า แล้วก็มีอายุมากกว่า สัญชีพนรกอีก เป็นบ่อเหล็กขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับขุมแรก มีกำแพงเหล็กกั้นทั้ง ๔ ด้าน โดยนายนิรยบาลพากันเอาเส้นเหล็กเเดงลุกเป็นไฟมาตีให้เป็นเส้นดำเข้าตามร่างกายของสัตว์นรก แล้วก็เอาเลื่อยนรกมาเลื่อย หรือเอาขวานนรกมาผ่า หรือเอามีดนรกมาเฉือนกรีดไปตามรอยเส้นดำที่ตีไว้นั้น ไม่มีผิดรอยได้ ฉะนั้นมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า กาฬสุตตมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งมีการลงโทษตามเส้นบรรทัดดำ

เกณฑ์เฉลี่ยอายุของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีประมาณ ๑,ooo ปีอายุกัป โดยระยะเวลาเพียง ๑ วันที่การทำฑัณฑ์ทรมานได้ผ่านพ้นไป สามารถนับระยะเวลาในเมืองมนุษย์ได้ถึง ๓๖,ooo,ooo ปี (หรือหากนับแบบโบราณ จะนับได้ ๓ โกฏิ กับอีก ๖ ล้านปีมนุษย์) และหากนับระยะเวลาทั้งหมดในมหานรกขุมนี้ จึงเท่ากับ ๑๒,๙๖o,ooo ล้านปีมนุษย์






๓) สังฆาตะมหานรก หมายถึง "มหานรกบดขยี้สัตว์"

เป็นพื้นเหล็กที่เป็นไฟ และกำแพงเหล็กที่เป็นไฟ เช่นเดียวกับขุมที่แล้ว แต่ทั้ง ๔ ทิศจะมีภูเขาเหล็ก ที่ถูกไฟเผากลิ้งเข้าหากัน บดบรรดาสัตว์ทั้งหลายให้แหลกเหลวไป เมื่อภูเขาเหล็กเลยไปแล้ว สัตว์ทั้งหลายก็กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ คือร่างกายเต็มตามเดิม แล้วก็พากันวิ่งหนีภูเขาไฟแต่ก็มาเจอนายนิริยบาลตีด้วยค้อนบ้างแทงด้วยหอกบ้าง เลยต้องพากันวิ่งไปบนแผ่นเหล็กแดง ซึ่งมีไฟเผาลุกโชนอยู่ตลอดเวลา และข้างก็ภูเขาไฟกลิ้งมาทางพวกสัตว์นรกวิ่งต่างก็วิ่งย้อนมาทางเดิมก็ต้องมาเจอกับนายนิริยบาลเคยทุบตีเข้าให้อีก ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสอยู่ตลอดเวลาไม่ว่างเว้น ฉะนั้นมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า สังฆาตะมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งมีการลงโทษโดยมีภูเขาไฟบดขยี้ร่างกาย

เกณฑ์เฉลี่ยอายุของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีประมาณ ๒,ooo ปีอายุกัป โดยระยะเวลาเพียง ๑ วันที่การทำฑัณฑ์ทรมานได้ผ่านพ้นไป สามารถนับระยะเวลาในเมืองมนุษย์ได้ถึง ๑๔๔,ooo,ooo ปี (หรือหากนับแบบโบราณ จะนับได้ ๑๔ โกฏิ กับอีก ๔ ล้านปีมนุษย์) และหากนับระยะเวลาทั้งหมดในมหานรกขุมนี้ จึงเท่ากับ ๑o๓,๖๘o,ooo ล้านปีมนุษย์







๔) โรรุวมหานรก หมายถึง "มหานรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้"

เรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า "ปทุมนรก" ลักษณะเหมือนกับขุมที่แล้ว แต่ว่าไม่มียมบาล ตรงกลางจะมี ดอกบัวเหล็กใหญ่มาก กลีบก็เป็นเหล็ก ซึ่งมีไฟนรกลุกแดงโพลงอยู่ตลอดเวลา ผู้ไปอุบัติเกิดเป็นสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ จะถูกบังคับให้ขึ้นไปนั่งบนดอกบัว เมื่อขึ้นไปบนดอกบัวแล้วกลีบบัวก็บานขึ้น บานแล้วก็เป็นเหล็กแดงมีกระแสไฟพวยพุ่งออกมาจากกลีบ คราวนี้ดอกบัวก็จะถูกไฟเผาจนแดง ไฟกรดยังเผาอยู่ตลอดเวลา พลุ่งอยู่ตลอดเวลาเขาบังคับ

คือกฏของกรรมบังคับให้สัตว์ค่อย ๆ ก้มหัวลง ขึ้นไปยืนบนดอกบัวแล้วแหย่ขาลงไปในระหว่างกลีบ กรรมมันบังคับให้ตัวค่อย ๆ ก้มลง ๆ ในที่สุดก็จุ่มลงไปในโคนของกลีบดอกบัวมือทั้งสองข้างก็ยันลงไปในโคนของกลีบดอกบัว เมื่อพร้อมแล้วกลีบบัวก็งับเข้ามาเป็นกลับเหล็ก ร้อนก็ร้อน คมก็คม หัวจรดลงไปถึงแค่คาง มือจมลงไปถึงแค่ข้อมือ เท้าทั้งสองจมลงไปถึงแค่ข้อเท้า เจ็บก็เจ็บร้อนก็ร้อน ถูกไฟเผาอยู่ตลอดเวลา ดอกบัวเหล็กก็รัดเข้าไป ความทุกข์ทรมานก็คงอยู่อย่างนั้นนานหนักหนา เมื่อเป็นเช่นนี้ เหล่าสัตว์นรกทั้งหลายก็ย่อมจะส่งเสียงร้องไห้ครวญครางเป็นธรรมดา ทุกถ้วนหน้าสัตว์นรกซึ่งมีอยู่มากมายหลายเป็นขุมนรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ร้องครวญคราง ฉะนั้นมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า โรรุมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้

เกณฑ์เฉลี่ยอายุของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีประมาณ ๔,ooo ปีอายุกัป โดยระยะเวลาเพียง ๑ วันที่การทำฑัณฑ์ทรมานได้ผ่านพ้นไป สามารถนับระยะเวลาในเมืองมนุษย์ได้ถึง ๕๗๖,ooo,ooo ปี (หรือหากนับแบบโบราณ จะนับได้ ๕๗ โกฏิ กับอีก ๖ ล้านปีมนุษย์) และหากนับระยะเวลาทั้งหมดในมหานรกขุมนี้ จึงเท่ากับ ๘๓๑,o๔o,ooo ล้านปีมนุษย์






๕) มหาโรรุวมหานรก หมายถึง "มหานรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้เหลือประมาณ"

ลักษณะจะคล้ายๆ กับขุมที่ ๔ เหล่าสัตว์ผู้ไปเกิดเป็นสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ ย่อมถูกลงโทษโดยวิธีให้ยืนแข็งทื่ออยู่ในดอกบัวเหล็กตั้งบานสะพรั้งเหมือนกันเป็นดอกบัวที่น่าหวาดกลัว ไม่น่าชม ใกล้ ๆ ดอกบัวมีแหลนหลาวปักเอาปลายขึ้น มีไฟลุกโชนเหมือนกัน ดอกบัวนี้ไม่งับไม่กางงับไม่สนิทเหมือนดอกบัวขุมก่อน ขุมก่อนงับสนิทหนีไม่ได้

ดอกบัวขุมนี้กลีบแต่ละกลีบคมเป็นกรดคมมากกว่าขุมก่อน มิหนำซ้ำยังร้อนแรงมากกว่าสัตว์นรกขึ้นไปบนนั้นแล้วถูกความร้อนเผาเพราะอำนาจความร้อนเต้นเร่า ๆ ๆ เต้นไปเต้นมากลีบดอกบัวมันก็บาดเข้าไปในเนื้อไฟก็เผาชะแลบแล่เนื้อหนังหล่นลงมา หมานรกก็คอยกินเนื้อหนังสัตว์เหล่านั้นอยู่ข้างล้าง บ้างก็หล่นลงมาถูกแหลนหลาวเสียบไฟก็เผาเนื้อหล่นลงมาหมาก็มารุมกิน รุมแทะเหลือแต่กระดูก ไม่ตายหรอก พอเหลือแต่กระดูกมันเจ็บแสบเหลือเกิน ร่างกายจับเข้าเป็นกายใหม่ พอเป็นกายเต็มแล้ว นายนิริยบาลก็เอาหอกเที่ยวไล่แทง บังคับให้ขึ้นไปอยู่บนดอกบัวอีก

ทำให้สัตว์นรกได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างยิ่ง ส่งเสียงร้องโอดโอยครวญครางเสียงดังมากกว่ามาก ฉะนั้นมหาโรรุมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า มหาโรรุวมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยเสียงร้องครวญครางมากกว่ามาก

เกณฑ์เฉลี่ยอายุของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีประมาณ ๘,ooo ปีอายุกัป โดยระยะเวลาเพียง ๑ วันที่การทำฑัณฑ์ทรมานได้ผ่านพ้นไป สามารถนับระยะเวลาในเมืองมนุษย์ได้ถึง ๒,๓o๔,ooo,ooo ปี (หรือหากนับแบบโบราณ จะนับได้ ๒๓o โกฏิ กับอีก ๔ ล้านปีมนุษย์) และหากนับระยะเวลาทั้งหมดในมหานรกขุมนี้ จึงเท่ากับ ๖,๖๓๕,๕๒o,ooo ล้านปีมนุษย์







๖) ตาปนมหานรก หมายถึง "มหานรกที่ยังให้เหล่าสัตว์เร่าร้อน; "ตาปนะ" มีความหมายคล้ายกับคำว่า "ตาปสะ" แปลว่า ปิ้งหรือย่าง"

เหล่าสัตว์ผู้อุบัติเกิดเป็นสัตว์นรกในมหานรกในขุมนี้ ย่อมถูกลงโทษโดยวิธีถูกย่างให้ร้อนบนปลายหลาวเหล็กซึ่งโตเท่าลำตาล แหลมหลาวทั้งหลายเหล่านั้น มันเที่ยวไล่เสียบไล่แทงบรรดาสัตว์ทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้ ความจริงไม่มีชีวิต มันเสียบแทงสัตว์ทั้งหลายแล้วก็ตั้งขึ้นไว้ ไฟก็ไหม้ เนื้อหนังหล่นลงมาไหม้ เรียกว่าถูกไฟไหม้เนื้องหนังก็ทนไม่ไหว เนื้อก็ค่อย ๆ หล่น ขยายตัวลงมา

ผลที่สุดบรรดาสัตว์นรกทั้งหลายก็ทนอยู่บนแหลนไม่ไหว หล่นลงมาข้างล้างถูกพื้นเหล็กแดงเป็นเพลิงข้าล้างร้อนจัด ไฟก็เผา สุนัขตัวใหญ่ ๆ พากันวิ่งมากัดกิน กัดกินเนื้อ มันทั้งเจ็บทั้งแสบทั้งร้อน พอเข้าไปถึงกระดูกมันก็แทะกระดูกอีก สัตว์ทั้งหลายเหลือแต่กระดูก ธรรมดาคนและสัตว์ในเมืองมนุษย์ ถ้ามันเหลือแต่กระดูกแล้วชีวิตมันก็ไม่เหลือ แต่ทว่าในเมืองนรกนี้หาความตายไม่ได้ เพราะว่าเขาเอามาเพื่อทรมาน ให้เข็ดหลาบจำกัน ฉะนั้นมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า ตาปะมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งทำให้สัตว์นรกทั้งหลายเร่าร้อน

เกณฑ์เฉลี่ยอายุของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีประมาณ ๑๖,ooo ปีอายุกัป โดยระยะเวลาเพียง ๑ วันที่การทำฑัณฑ์ทรมานได้ผ่านพ้นไป สามารถนับระยะเวลาในเมืองมนุษย์ได้ถึง ๙,๒๑๖,ooo,ooo ปี (หรือหากนับแบบโบราณ จะนับได้ ๙๒๑ โกฏิ กับอีก ๖ ล้านปีมนุษย์) และหากนับระยะเวลาทั้งหมดในมหานรกขุมนี้ จึงเท่ากับ ๕๓,o๘๔,๑๖o,ooo ล้านปีมนุษย์







๗) มหาตาปนมหานรก หมายถึง "มหานรกที่ยังให้เหล่าสัตว์เร่าร้อนเหลือประมาณ"

นรกขุมนี้ มีกำแพงทุกด้าน ทุกด้านมีเปลวไฟพุ่งเข้าไป แต่ทว่าไฟนี่ไม่มีเปลวจริง ๆ คล้ายกับแสงสว่างธรรมดา แต่มีความร้อนแรงมาก แล้วก็มีภูเขาเหล็ก ในนรกนี่เเปลกมีภูเขาเหล็ก ตั้งอยู่ระหว่างขุมนรกเยอะแยะไปหมด ความร้อนก้มาก ไฟพุ่งมาทุกทิศ จากข้างล้างถึงข้างบน จากข้างบนลงข้างล้างจากทิศเหนือทิศใต้ ทิศซ้ายทิศขวา พุ่งเข้ามารวมกันในจุดกลาง เหล็กหรือก็แดงฉานสัตว์นรกเนื้อและกระดูกแดงเหมือนเหล็กถูกเผาสุก ไฟนี้มีความร้อนแรงมากกว่าเมืองมนุษย์หลายสิบล้านเท่า นายนิริยบาลบังคับให้สัตว์ขึ้นเขา ถ้าไม่ขึ้นก็เอาหอกเสียบ หอกแทง เอาค้อนทุบ ไล่ตีพวกสัตว์นรกทั้งหลายเหล่านี้มันก็เจ็บอยู่แล้วพอไฟเข้ามามันก็ร้อน พื้นก็ร้อน ถูกเขาบังคับแบบนั้นมันก็ต้องไป ต้องวิ่งขึ้นไป พากันวิ่งไปบนยอดเขา ภูเขาก็เป็นไฟทั้งลูก ร้อนแรงแล้วก็เป็นเหล็ก ไฟข้างนอกก็พุ่งเข้ามา พอหล่นลงมาก็เสียบกับแหลนแหลว ที่ปักเรียงรายอยู่รอบ ๆ เขา

สัตว์ก็ดิ้นเร่า ๆ มีความร้อน มีความเจ็บ ทุกข์ทรมานมากที่สุดเมื่อโดนเสียบแบบนั้น ถูกไฟเผาหนักเข้า ในที่สุดก็หล่นลงมาจากแหลนหลาว ร่างกายก็เต็มบริบูรณ์ และก็ถูกไฟเผ่าตามเดิม นายนิริยบาลก็เข้าไปเอาค้อนทุบบ้างเอาหอกเสียบบ้าง บังคับให้ขึ้นเขาต่อไป สัตว์นรกเหล่านี้จึงได้รับความทุกข์ทรมานยิ่งกว่ามหานรกขุมที่ ๖ ที่กล่าวมาแล้วนั้นมากกว่า ฉะนั้นมหานรกขุมนี้จึงมีชื่อว่า มหาตาปนมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งทำให้สัตว์นรกทั้งหลายเร่าร้อนมากกว่ามาก

เกณฑ์เฉลี่ยอายุของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีประมาณ "ครึ่งอันตรกัป" ของมนุษย์ พระพุทธองค์ ทรงเปรียบเทียบเวลา ๑ กัปไว้ว่า "ถ้ามีภูเขาทรงลูกบาศก์ ทุกด้านยาว ๑ โยชน์ (ประมาณ ๑๖ กม.) เป็นภูเขาหินแข็งล้วน ทุกๆ ๑๐๐ ปี จะมีเทวดาหนึ่งองค์ เอาผ้าเนื้ออ่อน เหมือนสำลีมาปัดเขานั้นครั้งหนึ่ง เวลาจากเริ่มต้น ถึงตอนที่ภูเขานั้น เรียบสนิทเหลือแต่ดิน เรียกว่า ๑ กัป"






๘) อเวจีมหานรก หมายถึง "มหานรกที่ปราศจากคลื่นแห่งความสุข"

การลงโทษของนรกขุมนี้มีเป็นพิเศษ นรกตั้งแต่ขุมที่ ๑ ถึงขุมที่ ๗ หรือว่าขุมอื่น บรรดาสัตว์ทั้งหลายมีการเคลื่อไหวได้ แต่ทว่าอเวจีมหานรกนี่ ไม่มีการเคลื่อไหว นรกขุมนี้มีกำแพงพิเศษทั้งข้างล้างข้างบน และทั้ง ๔ ด้านหนา สัตว์นรกเหล่านั้นยืนแล้วมีกำแพงทั้ง ๖ ด้าน ด้านข้าง ๔ ด้าน ข้างบนข้างล้าง ไฟก็พุ่งมาทั้ง ๖ ทิศ หอกทั้งเบื้องล้างเบื้องบน ด้ามหอกฝังอยู่กำแพงด้านบน ปลายหอกเสียบตั้งแต่หัวทะลุก้นและปักลงไปปักอยู่กำแพงด้านล้าง ด้านหน้า ด้านติดอยู่กับกำแพงด้านหน้า

ตรงกลางหอกติดอยู่ที่อกของสัตว์นรกเหล่านั้น ด้านปลาย เอาหอกไปปักอยู่กำแพงด้านหลัง ด้านข้างก็เหมือนกันทั้งมือเท้า ทั้งตัว ถูกเสียบด้วยหอกหลายสิบเล่ม ได้รับความทุกข์ทรมานที่สุดไม่สามารถขยับเขยื่อนได้ เพราะถูกหอกมันตรึงเข้าไปหมด หอกก็เสียบ หอกเป็นเหล็กไฟ แล้วไฟก็พุ่งเข้ามาทั้ง ๖ ด้าน กระดูกแดงฉานเหมือนเหล็กสุก ไม่มีทางที่จะดิ้นรนได้

ความทุกข์ที่ทรมานที่ได้รับนั้นมันเป็นความทุกข์ทรมานที่เสมอราบเรียบหนักหนาอยู่อย่างนั้นตลอดกาลนาน อยู่อย่างนั้น ไม่มีการผ่อนปรนเป็นความเบาบางเป็นบางครั้งบางคราวเหมือนมหานรกขุมอื่น เพราะเหตุที่นรกขุมนี้มีเปลวไฟนรกและความทุกข์หนักปรากฏอยู่เสมอ ไม่มีขณะที่ว่าง หรือขณะที่ผ่อนปรนให้เป็นความเบาบางเลยแม้แต่สักนิดเดียว ฉะนั้นมหานรกขุมนี้ จึงมีชื่อว่า อเวจีมหานรก นรกขุมใหญ่ซึ่งปราศจากคลื่นกล่าวคือ ความเบาบางแห่งความทุกข์


เกณฑ์เฉลี่ยอายุของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีประมาณ ๑ อันตรกัป ของมนุษย์





อ้างอิงจาก ... ...//larnbuddhism.com/godgram/nr/01.html




 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2550
0 comments
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2550 20:33:45 น.
Counter : 1072 Pageviews.


สายน้ำระริน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
19 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สายน้ำระริน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.