ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในยุโรป
อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าหน้าร้อนในประเทศยุโรป ( กรกฎาคม กันยายน) ผลไม้ป่า อันได้แก่ ผลไม้เล็กๆ ที่เรียกกันว่าเบอร์รี่ประเภทต่างๆ กำลังจะออกผล และแน่นอนประเทศในยุโรปก็ต้องการแรงงานเข้าไปเก็บผลไม้ป่าในบริเวณที่เป็นพื้นที่ป่าเขา
แรงงานไทยก็เป็นแรงงานกลุ่มหนึ่งที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่ยุโรปเพื่อเก็บผลไม้ป่า ทุกๆ ปี แรงงานไทยจะเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในช่วงเดือนกรกฎาคม กันยายน เป็นจำนวนมาก ทุกคนหวังว่าจะได้เงินเป็นจำนวนมากกลับมา แต่แรงงานทุกคนจะโชคดีอย่างนั้นหรือไม่?
ทุกๆ ปี มีแรงงานไทยต้องผิดหวังกับรายได้ที่ไม่ตรงตามเป้า หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสัญญาจ้าง
ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ โดยเน้นการลงพื้นที่ในจังหวัดที่มีแรงงานเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าจำนวนมาก เพื่อประชาสัมพันธ์เชิงรุกและให้ข้อมูลที่ถูกต้องในการป้องกันการถูกหลอกลวง รวมทั้งเน้นการฝึกอบรม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพที่แท้จริงของการทำงานเก็บผลไม้ป่าที่แรงงานทุกคนต้องเผชิญ
เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ โดย กรมการกงสุล ร่วมกับองค์กรแรงงงานระหว่างประเทศ และสำนักจัดหางานจังหวัดชัยภูมิ จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เตือนภัยแรงงานไทยที่จะเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดนและฟินแลนด์ขึ้น โดยได้บรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรมในเรื่องขั้นตอนการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศที่ถูกต้อง ตลอดจนสิทธิในการได้รับการคุ้มครองและช่องทางการขอรับช่วยเหลือจากส่วนราชการของไทย รวมทั้งให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเดินทางไปเก็บผลไม้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับแรงงานไทยและให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจจะไปทำงานประเภทดังกล่าว
ทำความรู้จักกับผลไม้ป่า
1. ลูกเบอร์รี่หรือผลไม้ป่ามีหลายสายพันธ์ ส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นพุ่ม พันธ์ที่ได้รับความนิยมในสวีเดนและฟินแลนด์ (มี 3 ชนิด ได้แก่ 1) Carlberry ออกต้นฤดูมีราคาแพงและต้องใช้มือเก็บ 2) Blueberry คนละชนิดกับที่นำมาทำของหวานในไทย ออกกลางฤดูและมีราคาถูกกว่าชนิดแรก 3) Lingonberry มีราคาถูกกว่าสองชนิดที่กล่าวมาแล้ว และพร้อมเก็บเกี่ยวหลังสุด)
2. เบอร์รี่มักจะขึ้นในป่าในเขตซับอาร์คติก ( Sub-Arctic) และบริเวณใกล้ขั้วโลก ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยค่อนข้างต่ำ ซึ่งในหน้าร้อนอาจจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 12 15 องศาในตอนกลางวัน อย่างไรก็ตาม ด้วยธรรมชาติการเก็บผลไม้ป่าจะต้องเริ่มเก็บตั้งแต่เช้าตรู่ถึงหัวค่ำ ซึ่งอุณหภูมิในตอนเช้าและหัวค่ำอาจติดลบได้
3. การเก็บผลไม้ป่า ต้องเดินก้มหรือคลานเก็บ และต้องทำอย่างทะนุถนอม เนื่องจากเป็นไม้พุ่มเตี้ย ผลเล็ก หากเก็บแรงอาจทำให้ผลไม้ช้ำ
คิดสักนิดก่อนจะตัดสินใจเดินทางไปเก็บผลไม้ป่า
1. คิดถึงความคุ้มค่า การไปเก็บผลไม้ป่ามีรายได้ไม่แน่นอน ต้องคำนวนความคุ้มทุนให้ดี เนื่องจากแรงงานจะเดินทางไปต้องเสียค่าเดินทาง เสียค่านายหน้า นอกจากนี้เมื่อไปต่างประเทศแล้ว ต้องเสียค่าที่พัก ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าน้ำมัน และอื่นๆ อีกจิปาถะ (แรงงานแต่ละคนจะเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานคนละ 80000 100000 บาท โดยแบ่งเป็นค่าเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าเดินทางไปเก็บผลไมป่าตามที่ต่าง ๆ และค่าบริหารจัดการของบริษัทจัดส่ง)
2. การทำงานทุกชนิดมีความเสี่ยง สำหรับการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าแล้ว ความเสี่ยงที่ว่าคือ จำนวนเงินที่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนผลไม้ที่เก็บได้ แรงงานที่เดินทางไปเก็บผลไม้มีจำนวนมากขึ้นทุกปี แต่จำนวนผืนป่ามีเท่าเดิม หากปีใดสภาพอากาศแปรปรวน ผลไม้ป่าก็จะออกผลน้อย ก็จะเก็บผลไม้ได้น้อย รายได้ไม่พอรายจ่าย ดังนั้นต้องศึกษาข้อเท็จจริงเรื่องสถานการณ์การเก็บผลไม้ป่าให้ชัดเจนเพื่อประเมินความเสี่ยงและการขาดทุนเนื่องจากอาจไม่คุ้มกับเงินที่ต้องเสียสำหรับการเดินทางไป
3. ถ้าตัดสินใจจะไปแล้ว โปรดศึกษาและพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องการดำเนินการด้านเอกสาร อ่านสัญญาให้ดี รายได้เท่าไร ต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง ตั๋วเครื่องบินเป็นแบบ open เลือกวันกลับได้เองไหม จากการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เตือนภัยแรงงานไทยที่จะเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดนและฟินแลนด์ พบว่า แรงงานไทยมักไม่ให้สำคัญต่อรายละเอียดของสัญญาจ้างและให้ความเชื่อถือต่อนายหน้าหรือผู้แทนบริษัทมากเกินไป
ข้อควรรู้ :
1. ตามปรกติแล้ว แรงงานเก็บผลไม้ป่าต้องอาศัยในต่างประเทศเพื่อเก็บผลไม้ระยะเวลาประมาณ 60 70 วันและต้องจ่ายค่าเช่าบ้านประมาณ 1,000 ยูโร (40,000 50,000 บาท)
2. ค่าเช่าต่างๆ ที่ต้องจ่ายเป็นปรกติ ได้แก่ ที่พัก อาหาร อุปกรณ์เก็บผลไม้ ค่ารถ และค่าน้ำมันนอกจากนี้ ยังต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าการเดินทาง เช่น วีซ่า ประมาณ 1,500 ยูโร
1. แรงงานเก็บผลไม้ป่าต้องเก็บผลไม้ประมาณ 15 20 กิโลกรัมต่อวัน และหากต้องการได้กำไรต้องเก็บผลไม้ป่าให้ได้อย่างน้อย 50 กิโลกรัมต่อวัน
2. ลักษณะการทำงาน และจะต้องทำงานในสภาพอากาศหนาวจัด ระหว่างตีสามถึงหกโมงเย็น (03.00 18.00 น.) และอาจต้องแข่งขันกันเองในการเก็บเพื่อให้ได้ค่าจ้างมากขึ้น นอกจากนี้ หากอากาศเปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้จำนวนผลไม้ป่าน้อยลงด้วย
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการขอคำแนะนำและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการเก็บผลไม้ป่าสามารถติดต่อได้ที่ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน Hotline 1694, 1506 หรือที่เว็บไซต์ //www.doe.go.th หรือ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ หมายเลขโทรศัพท์ 02981 7200 หรือที่เว็บไซต์ //www.consular.go.th/
Ref: //protectthaicitizen.blogspot.com/2011/06/blog-post_5192.html
Create Date : 23 มิถุนายน 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 23 มิถุนายน 2554 17:07:20 น. |
Counter : 1602 Pageviews. |
|
|
|