ข้าขอประกาศทั่วถึงไปทั้งสามโลก แด่องค์พระตรีมูรติผู้ยิ่งใหญ่ ,พระแม่ธรณี ,พระภควันภควาพระผู้มีพระภาคเจ้า และเหล่าอสูรกายรวมถึงมนุษย์ทั้งหลายในจักรวาลจงรับรู้ทั่วกัน และจงเป็นพยานให้กับข้าว่า ณ ที่แห่งสรวงสวรรค์นี้ ข้าฯซึ่งเป็นผู้เป็นเทพมุนี ซึ่งสถิตย์อยู่ณ.บวรวิมาน จะขอให้สัตย์สาบานว่า หากแม้นชาตินี้ ข้าฯไม่ได้พระนางเป็นคู่ครองของข้า ข้าจะขอค้นหาพระนางไปทุกๆชาติจนกว่าเราทั้งสองจะได้ครองคู่กัน และถ้าชาติไหนข้าฯไม่ได้พระนางเป็นคู่ครอง ชาตินั้นข้าฯจะไม่ขอสมรสกับหญิงอื่นใดอีกเลย
Group Blog
 
<<
มกราคม 2558
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 มกราคม 2558
 
All Blogs
 

ทริปเที่ยวลาวและวังเวียง ปีใหม่เมื่อปี 2556 (เธอคือความฝัน 7)

สตอรี่เรื่องยาว ทั้งๆที่ไปเที่ยวแค่ไม่กี่วัน ไหงเอามาเขียนถึงยืดได้เป็นเดือนก็ยังเขียนไม่ถึงไหนเลยล่ะเนี่ย 5555

ทริปแห่งการทดสอบความศรัทธา...แบคแพคตะลุยดินแดนแห่งเทือกเขาและสายน้ำ

ตอนที่ 5 วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม (3)

เราสามคนแบกเป้ที่สุดแสนจะพะรุงพะรัง ออกจากห้างที่ชื่อว่า "ตลาดเช้า" ด้วยจิตใจที่กังวลวุ่นวายกันไปคนละแบบ คุณรุทเองดูจะอารมณ์เสียที่ซิมโทรศัพท์ยังไม่สามารถใช้อินเตอร์เนต 3หรือ 4 จีได้สักที ในขณะที่คุณหนุ่มเริ่มจะกังวลถึงรถที่จะพาเราไปสู่จุดหมายที่วังเวียง ส่วนตัวผมเองกังวลกับความหนักของเป้ที่แบกมา เพราะผมปวดหัวไหล่ด้านขวาจี๊ดๆขึ้นมาตั้งแต่โยนเอาเป้ใบเบ้อเร่อขึ้นสะพายไหล่แล้ว

นี่ล่ะครับผลของการไม่ยอมออกกำลังกายอะไรเลย แต่เอาตัวเองมาสมบุกสมบัน ซึ่งดูเหมือนเป็นการเอาเปรียบร่างกายเกินไปหน่อยแล้วล่ะ


เราข้ามถนนมาที่ บขส.ของนครเวียงจันท์อีกครั้ง คุณหนุ่มหันมามองหน้าผมกับคุณรุทด้วยสายตาจริงจังแล้วหล่นความเห็น ซึ่งผมว่าแกก็อยากจะสั่งเราสองคนไปกลายๆ

"คุณแป๋ง เดี๋ยวผมว่า เราเลือกรถขึ้นกันเลยดีกว่า นี่ก็บ่ายสองโมงแล้ว ถ้าเรายังหารถไปไม่ได้ตั้งแต่ตอนนี้ เราไปถึงที่วังเวียงค่ำแน่ๆ ถ้าไปถึงที่นั่นค่ำแล้ว เราก็จะหาที่พักยาก"

ผมพยักหน้าแล้วเอ่ยคำว่า "ได้ครับ" ไปเบาๆ ในขณะที่คุณหนุ่มก็หันไปหาคุณรุท

"เฮ้ยรุท กูว่าไม่ต้องเลือกอะไรมากหรอก ขอแค่พอไปถึงได้ มึงเคยไปแล้ว จะนั่งอะไรก็ได้หมด ตอนก่อนนั้นมึงเคยนั่งอะไร"

"กูนั่งรถบัสแบบนั้นแหละ" คุณรุทชี้มือไปที่รถบัสสีฟ้า ไม่ติดแอร์ ที่จอดอยู่ไม่ห่างจากเราเท่าใดนัก ทำให้เราพอมองเห็นสภาพภายในรถ

พอมองเห็นสภาพภายในระ ที่เบาะนั่งเรียงเหมือนรถเมล์บ้านเราสมัยก่อน คือเป็นเบาะนั่งได้สามคน แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่เบาะที่นั่งมันติดกับที่นั่งด้านหน้าค่อนข้างมาก คนขายาวๆทั้งคุณรุทและคุณหนุ่ม มีปัญหาแน่ๆกับการนั่งแบบนี้ ส่วนคนขาสั้นอย่างผม ไม่มีปัญหาอะไร ...เกิดมาก็เพิ่งรู้สึกว่า เตี้ยอย่างเราก็มีข้อได้เปรียบพวกตัวโย่งๆอยู่เหมือนกันก็คราวนี้

คุณหนุ่มพอเห็นสภาพรถก็เหมือนจะเปลี่ยนใจ จากตอนแรกที่คิดว่าจะนั่งลุยถึงไหนถึงกัน แต่ถ้านึกถึงเวลาเดินทาง 4-5 ชั่วโมงด้วยสภาพแบบนั้น ต้องเรียกว่าจอดไม่ต้องแจวแน่ๆ

ก่อนที่อะไรๆเหมือนจะสิ้นหนทาง ชายหนุ่มเสียงคุ้นเคยก็ดังมาทางด้านหลัง

"เอ้า พวกพี่ๆดารา จะไปขึ้นรถวีไอพีกันรึยัง ผมจองตั๋วรถไว้ให้แล้วนะ"

ไม่ต้องนัด พวกเราที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่ใน บขส.เป็นนานสองนาน ก็หันขวั่บกลับมาที่เจ้าของเสียง ตัวผมเองพอได้ยินประโยคหลังก็เหมือนพระมาโปรด ส่วนตัวผมเองผมไม่สนใจหรอกสำหรับค่าใช้จ่ายอะไรต่างๆ แต่สองคนนั้นดูท่าทางจะอยากใช้ชีวิตแบบแบคแพคที่ประหยัดจริงๆจึงคิดถึงเรื่องการใช้เงินอย่างคุ้มค่า และประหยัดที่สุด

แต่เวลานี้แล้วก็เหมือนกับว่าทั้งสองคนก็คงเบื่อที่จะมานั่งเลือก นั่งถามคนแถวนี้แล้ว เพราะป่านนี้ยังไม่ได้เรื่องเลยว่า รถที่จะไปวังเวียงที่เป็นรถท้องถิ่นจริงๆแบบไม่ต้องเหมาและออกเป็นปกตินั้น มันรถคันไหนและจะออกตอนกี่โมง ถามใครก็จะมีแต่จะให้เหมาไปอย่างเดียว

ดังนั้นเมื่อเสียงนั้นดังแว่วมา เราทั้งสามคนจึงเข้าไปเจรจาอีกครั้ง

"อ่อ พีคนตะกี้ ว่าไงนะพี่ ตกลงพี่จองรถให้เราแล้วเหรอ ไปวังเวียงนะ "

"ใช่ๆ ก็ที่ตกลงกันเมื่อตะกี้นี้ไง รถออกบ่ายสอง เร็วเข้า เดี๋ยวผมพาไปขึ้นรถ"

"อ้าว รถไม่ได้อยู่ที่ท่ารถที่นี้เหรอพี่"

"อ่อ ไม่หรอก ต้องไปอีกหน่อยนึง ไม่ไกล เดี๋ยวให้นั่งสกายแลบไป นิดเดียว"

"แล้วค่ารถวีไอพีที่ว่าราคาเท่าไหร่นะ"

"ก็สามร้อยบาทไง"

"งั้นพี่ไม่คิดค่าสกายแลบนะ"

ต้องยอมรับว่าคุณรุทเนี่ย เป็นจอมต่อรองจริงๆ และในบทสนทนาของเขาก็ทำให้คู่สนทนาที่ถูกต่อรอง เหมือนกับต้องยอมรับการต่อรองนั้นมาตลอด ผมสังเกตุมาตั้งแต่ตอนซื้อซิมโทรศัพท์แล้ว

เราสามคนเดินตามหนุ่มวัยกลางคนดังกล่าวออกจาก บขส.เวียงจันทร์ ซึ่งก็ไม่ไกลนัก แต่ว่าเดินย้อนกลับทางเดิมตอนที่เราลงรถสองแถวที่มาจากท่านาแล้ง

"โอ้ยยย เข็ดเลย ไม่ไหว โบรกเกอร์มันเยอะจริงๆ ทีหลังมาที่นี่ผมจะไม่ถามใครแบบนี้อีกแล้ว ดูสิแค่เราจะไปวังเวียงแค่นี้ เดินวนไปวนมา สุดท้ายเราก้ต้องอาศัยคนกลุ่มแรกที่เราเจอนั่นแหละ ถึงจะได้ไปวังเวียง มันก็ประหลาดดีนะครับคุณแป๋ง"

คุณหนุ่มหันมาคุยกับผมตอนที่เราเดินไปจะขึ้นรถสกายแลบ ผมได้แต่ยิ้มๆให้คุณหนุ่ม แล้วพูดอะไรออกไปสองสามคำ ทำนองว่าเห็นด้วยตามบทสนทนาที่คุณหนุ่มได้เอ่ยมาเมื่อตะกี้

ผมหันกลับไปมองที่ บขส.เวียงจันท์อีกครั้ง กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก้ยังเดินตามพวกเรามา ซึ่งก็ไม่ใช่อะไร เพราะความเป็นดาราของคุณหนุ่มนั่นเอง...

เราขึ้นรถสกายแลบ แล้วรถก็พาเรามาที่ท่ารถวีไอพี ซึ่งจริงๆก็เป็นรถบัสขนาดเล็กๆ ตอนเราเอาของลงจากรถสกายแลบนั้น ผมก็หยิบเงินให้คนขับรถสกายแลบไป 100 บาท คนอย่างผมเป็นคนที่งกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยให้ใครทำงานให้ฟรีๆหรอกครับ แม้ภายหลังคุณรุทจะบอกผมว่า "คุณแป๋งไปให้เขาทำไมเนี่ย" ก็ตามเถอะน่า

เรามาอยู่ตรงบริเวณด้านหน้าของอาคารกระทรวงวัฒนธรรมแห่งชาติของลาว ที่นี่จะมีรถบัสคันเล็กๆจอด และจะเดินทางไปที่วังเวียง คนที่นำพาเรามาบอกว่ารถออกบ่ายสอง แต่ตอนนี้สองโมงจะครึ่งแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกรถ

เราสามคนซื้อตั๋ว (ภาษาลาวเรียกปี้) คนละสามร้อยบาท เป็นค่าเดินทางไปวังเวียง ไม่ต้องห่วงเลยครับ จ่ายเป็นเงินไทยแบบนี้ล่ะ และจริงๆแล้ว ในเวียงจันท์เนี่ย คุณสามารถใช้จ่ายเป็นเงินไทยที่นี่ได้สบายๆ

หลังจากเราเอากระเป๋าเดินทางขึ้นไว้ที่หลังคารถแล้ว เราก็เลือกที่นั่งกันบนรถ คุณรุทกับคุณหนุ่มนั้น เลือกที่นั่งแถวหน้าด้านซ้ายของตัวรถ ตรงด้านหลังที่นั่งคนขับ ส่วนผมเลือกที่นั่งแบบเดี่ยวตรงที่ติดกับประตูขึ้นลงรถ เรียกว่าจุดที่ผมนั่งนั้น เป็นจุดสบายที่สุดบนรถ แต่ห่างกับสองคนนั้นประมาณสองแถว เรียกว่าขึ้นรถแล้วไม่ได้คุยกันแน่ๆ

เราสามคนลงจากรถมาก่อน เพราะรถยังไม่ออก ถ้าผู้โดยสารไม่เต็ม!!! (ไหนมันบอกอกบ่ายสอง ที่นี่จะเป็นแบบนี้ตลอดครับ ดังนั้นอย่าไปเชื่ออะไรพวกเขามาก ทำใจไว้หน่อย) แล้วตอนนี้นอกจากเราสามคนแล้ว ก็มีคู่หนุ่มสาวนักท่องเที่ยวไทยอีกสามสี่คน เป็นผู้โดยสารร่วมใทาง นั่นหมายความว่า เราต้องรอผู้โดยสารกันอีกเกือบสิบคน กว่ารถจะออกได้

เราสามคนเลยตัดสินใจไปนั่งกินเบียร์ที่ร้านที่อยู่ติดกับจุดที่เราขึ้นรถ รอเวลาที่รถจะออก อ่อ ผมน่ะไม่ได้สั่งเบียร์หรอกครับ แต่สั่งโค้ก งานนี้ต้องบอกว่า หิวเจ้าน้ำที่สกัดมาจากต้นโคคาเอามากๆ แม้จะกินมาจากตอนที่ไปกินที่ฟู้ดคอร์ทมาบ้างแล้ว แต่ก็เหมือนจะไม่พอ

เรานั่งกันอยู่สักพัก นักทองเที่ยวไทยสองคนก็มานั่งกินเบียร์ คุณรุทก็เอ่ยทักทายไปสั้นๆตามแบบของคนที่อัธยาศรัยดี

"สวัสดีครับพี่ จะไปไหนกันหรือครับ"

ผู้ถูกทักสภาพนั้นมีรอยสักที่แขนขวาอยู่สองจุด แต่ที่ขานั้นเรียกว่าสักเต็มขาทั้งสองข้างเลยทีเดียว พอถูกทักก็เงยหน้ามาจากขวดเบียร์ที่กำลังถืออยู่ในมือ

"ไปวังเวียงครับ พวกพี่ก็จะไปวังเวียงเหมือนกันหรือ...."

บทสนทนามีต่อไปไม่ยาวมากนัก ตัวผมเองเวลานั้นไม่ได้ใส่ใจว่าพวกเขาจะพูดอะไรกัน หรืออะไรมันจะเป็นอย่างไรต่อไป สิ่งที่ผมคิดอยู่ตอนนั้นก็มีแค่ว่า ...บางที สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมในวันนี้ บางทีนะครับ บางที น้องหลิง อาจจะมองเห็นภาพทุกอย่างไว้แล้ว น้องหลิงอาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ หรือถ้าจะให้มหัศจรรย์ไปกว่านั้น บางที น้องหลิงอาจจะนั่งกำกับเรื่องราวทั้งหมดนี้อยู่ก็เป็นไปได้

"เรื่องดีๆ อาจจะรอพี่แป๋งอยู่ที่ลาว ก็ได้นะคะ" ...นั่นเป็นประโยคที่คงจะอยู่ในใจผม ไปอีกนานแสนนาน เพราะมันถูกพิสูจน์แล้วว่า มันคือความจริงอย่างที่สุด

ผมหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง กดไปที่แอพพลิเคชั่นไลน์ แล้วกดไปที่ชื่อน้องหลิง สิ่งที่ผมเปิดดู ก็คือภาพ ที่ผมเปิดดูมาตลอดตั้งแต่เริ่มเดินทาง แต่ตั้งแต่เช้าวันนี้นี่คือครั้งแรกที่ผมเปิดดูภาพนี้

มันเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่ง ตากลมแต่อาจไม่โตมาก มีชั้นเดียว ผิวขาวใส แก้มเวลายิ้มแทบจะเป็นพวง ที่แก้มมีรอยบุ๋มลงไปเวลาที่ผู้หญิงคนนี้ยิ้ม หรือที่เราเรียกว่าลักยิ้มนั่นเอง ปากที่ทาลิปสติกสีแดง เข้ากันได้ดีกับเสื้อสีขาวกระโปรงแดง ตามคอนเซปท์ที่เธอแต่งตัวให้เป็นซานตี้ ในงานเลี้ยงคริสต์มาสของร้านที่เธอขายของอยู่ ก่อนที่เธอจะลาออกในสามวันต่อมาหลังจากงานเลี้ยง

ผมกดภาพนั้นขยายออกมาดู ผมยิ้ม และกล่าวประโยคที่ออกมาจากส่วนลึกของใจที่สุดในเวลานั้น

"ขอบคุณมากครับซานตี้คนสวยของผม ขอบคุณสำหรับของขวัญวันคริสต์มาสที่แสนวิเศษ "


ไม่นานนัก คนขับรถก็บีบแตรเรียก แสดงสัญญาณว่า รถบัสคันนี้ จะเริ่มออกเดินทาง มุ่งสู่วังเวียงแล้ว

ผมเหลียวมองนาฬิกาในโทรศัพท์มือถือ มันบอกเวลา 14.40 น. .... (ติดตามตอนต่อไป นะครับ แต่ไม่รู้ว่าจะได้เขียนเมื่อไหร่ แต่จะพยายามขยันเน่อ 5555)


เพลงนี้ มอบให้น้องหลิง คนเดียวเรย

//youtu.be/gKr3Ov5szbU




 

Create Date : 21 มกราคม 2558
0 comments
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2558 20:16:27 น.
Counter : 961 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ฤาษีวยาส
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ฤาษีวยาส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.