การลดน้ำหนัก
 

การลดน้ำหนัก

 

หลายคนบ่นอยากลดน้ำหนัก อยากลดความอ้วน อยากผอม วันนี้ผมมีแนวทางสำหรับสุขภาพมาให้อ่านกัน ก่อนอื่นต้องบอกว่าไม่ได้เป็นผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้ เอาประสบการณ์ที่เคยลดน้ำหนัก 2 เดือน 10 กิโลกรัมและการศึกษาเองมาบอก คิดซะว่าเพื่อนมานั่งคุยให้ฟังแล้วกัน

 

สิ่งสำคัญที่สุดในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อสุขภาพที่ดี คือ ใจ ต้องเข้มแข็ง อดทน และมี วินัย มันอาจจะยากในช่วงแรก แต่เมื่อทำแล้ว ผ่านไปได้สัก 2 สัปดาห์ สิ่งที่ว่ายาก มันไม่ได้เป็นปัญหาเลย คุณพร้อมหรือยัง......ถ้าพร้อมไปกันเลย

 

เริ่มจาก น้ำหนักของเราจะมาเท่านี้ไม่ได้มากันง่ายๆ ไม่ใช่วันสองวันจะเพิ่มเป็น 10 กิโล มันไม่ใช่ มันค่อยๆสะสมจากสิ่งที่เรากิน จากสิ่งที่เราทำ พฤติกรรมทุกอย่างที่สามารถสะสมน้ำหนักและไขมันให้มันมากขนาดนี้แล้วจู่ๆ จะบอกว่าลดน้ำหนัก ภายในหนึ่งเดือน ภายในสองเดือน เป็นไปไม่ได้ ถ้าจะเอาเร็วขนาดนั้น ก็ตัดขาออกสักข้างน้ำหนักก็จะลดลงสัก 5 – 10 กิโล ตามขนาดขาของแต่ละคน ไม่ใช่ละ อันนี้พูดเล่นแล้วแต่กำลังจะบอกว่าน้ำหนักส่วนเกินมาช้ายังงัย ตอนออกไปก็คงไม่ได้เร็วอย่างใจคิดแน่นอน นอกจากจะหักโหม ซึ่งไม่เป็นผลดีกับร่างกายตนเองแน่เลย

 

วันนี้หัวข้อนี้จะขอพูดแค่การลดน้ำหนักนะครับ จะดีหรือไม่ดีอย่างไร รับไปคิดแล้วพิจารณาดูแล้วกันแต่จะเสนอวิธีการที่ไม่เป็นโทษกับร่างกาย เอาเร็วอย่างที่บางคนต้องการ ส่วนการทำให้มีหุ่นที่เฟิร์มและได้ความฟิต ค่อยว่ากันอีกทีเพราะอันนี้น้ำหนักไม่จำเป็นต้องลด อาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ แต่เป้าหมายคือการเปลี่ยนไขมันเป็นกล้ามเนื้อ ปัจจัยในการลดน้ำหนัก

 

1. เพศ: เพศหญิงอาจน้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาของตัวเองนิดนึ่ง เพราะด้วยธรรมชาติของร่างกายเพศ

 

หญิงจะมีการเผาผลาญพลังงานน้อยกว่าเพศชายในระดับอายุเดียวกัน ดังนั้นการที่เพศหญิงต้องการลดน้ำหนักอาจต้องใช้ความอดทนมากกว่าเพศชาย นิ้สนึ่ง

 

            2. อายุ:  อายุเพิ่มมากขึ้นการเผาผลาญพลังงานกลับลดลงสวนทางกับอายุ ถ้าวันนี้คุณอายุมากกว่า 35 ลองพิจารณารอบข้างสิ ดูการการแต่งตัวของสาวๆสมัยนี้ วัย 30 กว่าๆ เทียบกับวัย สิบกว่าปลายๆ ถึง 20 ต้นๆ ความน่ามองรวมถึงสรีระ คนวัยไหนน่ามองกว่ากัน วัยน้อยๆ เซลลูไลท์ ก็ไม่ค่อยจะมีเท่าวัยที่อายุๆ เพราะพลังงานที่รับเข้าไปสามารถสลายได้หมด ไม่มีการสะสมไว้เหมือนวัยตัวเลขมากๆ

 

            3. การกิน: ถ้าเรารู้ว่าการเผาผลาญน้อย เราต้องกินให้น้อยกว่าใช้ คำนวณจากอาหารที่เรากิน ลองคำนวณดูตามลิงค์เวป //kcal.memo8.com/bmr/ แต่ถ้าให้ผมแนะนำ ไม่อยากให้ซีเรียสกับการนับแคลอรี่มากนัก อยากให้พิจารณาอาหารที่กินมากกว่า

 

            การลดน้ำหนักมันสำคัญอยู่ที่การกินนี่แหละ กินให้น้อยกว่าที่ใช้งาน เราก็จะไม่อ้วน(เพิ่มขึ้นจากที่อ้วนอยู่แล้ว) อาหาร 5 หมู่ เราก็เรียนมาแล้วแต่เล็กแต่น้อย การกินอาหารที่มีประโยชน์ก็รู้กันทั้งนั้นแต่ตามใจปากทุกที ที่นี้การลดน้ำหนักเริ่มจากอาหารที่เรากินนี่แหละ กินให้ครบ 5 หมู่ 3 เวลาอาหารที่ให้พลังงานในหมวดคาร์โบไฮเดรต ก็ลดปริมาณลง พวกข้าว แป้ง ขนมปัง เปลี่ยนความคิดที่ได้จากตั้งแต่เด็ก เรื่องการกินข้าวเยอะๆ กับน้อยๆ เปลี่ยนมาเป็นข้าวน้อยๆ กับเยอะๆ เพราะเราไม่ได้ต้องการพลังงานมากเหมือนเมื่อตอนเด็กๆ แต่สำหรับลูกๆ ก็ยังต้องใช้พลังงานเยอะไม่ต้องลดคาร์โบไฮเดรตให้เค้านะ

 

            สูตรการกินจะบอก 2 สูตรแล้วกัน

 

            สูตรที่ 1 อาหาร 3 มื้อ

 

            มื้อเช้า กินตามปกติ หมายถึงอาหารมื้อหลักนะครับ จำพวกข้าวราดแกง หรือถ้าคิดไม่ออกก็เอาที่จะกินตอนเย็นนั่นแหละมากินมื้อเช้า ไม่นับกาแฟ ขนมปังเป็นอาหารหลักนะ งดได้ก็งดครับ พวกกาแฟ น้ำแก้วต่างๆ ใส่น้ำตาลเยอะ พลังงานมาก ตัวอ้วนเลยหละ

 

            มื้อเที่ยง เอาอะไรสบายๆ ก๋วยเตี๋ยว หรือ ข้าวราดแกงสักจานแต่ถ้าลดปริมาณข้าวลง 1 ใน 3 จะดีมาก

 

            มื้อเย็น เราไม่ได้ต้องการพลังงานอะไรมากมาย เน้นเป็นผักกับโปรตีนแทน พวกส้มตำก็ดีนะ แรกๆ อาจหิว ให้หาผลไม้ที่ให้พลังงานน้อยมาไว้กิน เช่น แอปเปิ้ลเขียว มันแกว หรือกล้วยน้ำว้าสักใบสองใบก็ได้ มื้อเย็นถ้าผ่านไปได้สักอาทิตย์จะดีขึ้นร่างกายจะปรับตัวได้ดีขึ้น

 

            สูตรที่ 2 อาหาร 5 มื้อ ทำไมถึงต้อง 5 มื้อ ต้องบอกว่าการกินอาหารของคนเราบางครั้งกินเผื่อ แต่ร่างกายไม่ได้เอาไปใช้ครับ กินเยอะใช้ไม่หมดเก็บเยอะ เป็นชั้นไขมันอยู่ที่พุงอีก ฉะนั้นกินน้อย เท่าที่ต้องใช้ ใช้หมดแล้วกินใหม่

 

            มื้อเช้า กินตามปกติครับ แต่ลดข้าวลดแป้งลงสักนิดนึ่ง สมมติจะกินข้าว 10 คำ ก็ลดลงสักเหลือสัก 8 คำ

 

            มื้อระหว่างเช้า-เที่ยง พอมื้อเช้าเรากินน้อยลง พอสายๆ เราจะเริ่มหิวอีก หมูปิ้งสัก 2 ไม้ ขนมปังสักแผ่น กาแฟดำสักแก้ว(ไม่ใส่ครีม ไม่ใส่น้ำตาลนะครับ ถ้ากินไม่ไหวให้ใส่น้อยที่สุด)

 

            มื้อเที่ยง ลดคาร์โบไฮเดรตจากอาหารเช้าลงครึ่งหนึ่ง ข้าวครึ่งจานพอแล้วไปเน้นกับข้าว พวกผักต่างๆ

 

            มื้อระหว่างเที่ยง-เย็น กินเหมือนกินเบรก เวลาเราไปอบรม ประมาณนั้น

 

            มื้อเย็น เหมือนสูตร 3 มื้อ

 

แถมให้อีกนิด กาแฟดำเพียวๆ สามารถช่วยในการเผาผลาญพลังงานก่อนการออกกำลังกายได้ และการกินอาหารเน้นรสจืด อาจไม่อร่อยแต่ดี

 

            4. การออกกำลังกาย: 3 ข้อข้างต้น เป็นการกินน้อยกว่าใช้ ที่นี้ไอ้ที่เรากินแล้วมันสะสมไปแล้วละ เราก็ต้องเอามันออก อยู่ดีๆ มันไม่ได้มาเองนะครับ เช่นกันอยู่ดีๆ มันไม่ออกมาเองนะ ดังนั้นเราต้องกระตุ้นให้มันออก ด้วยการออกกำลังกาย การเต้นแอร์โรบิก การเดินเร็ว การปั่นจักรยาน หรือการออกกำลังกาย เป็นการออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ(เสิร์ชดูในเน็ต) จะช่วยการเผาผลาญพลังงาน และนำไขมันที่มีอยู่ไปใช้

 

            ส่วนใครที่ต้องการลดพุง มีท่าบริหารเป็นท่าบอดี้เวท ที่ทำเองบนที่นอนก็ได้ ส่วนท่านั้นก็ลองเสิร์ชหาดูใช้คำว่า การออกกำลังกายลดพุง มีเยอะแยะ เลือกเอามาใช้ตามที่เราถนัด ไม่มีผิด มีแต่ถูก ทำแล้วได้ผลทุกคน

 

            5 การออกกำลังกายเพิ่มกล้าเนื้อ: อันนี้ค่อยมาว่ากันอีกที

 

            สำหรับเรื่องการลดน้ำหนักครั้งนี้ก็เอาแค่นี้ก่อน ส่วนใครมีอะไรท้วง หรือติง ก็ติงมาได้เลยนะครับ อย่างที่บอกไม่ได้อ้างหลักวิชาการใดๆ เลยฟังๆ เค้ามาอีกที ไม่มีแหล่งอ้างอิง เป็นของเถื่อน แต่ก็ลองดู

 

แล้วพบกันใหม่ครับ

 

          

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 




Create Date : 18 มีนาคม 2557
Last Update : 18 มีนาคม 2557 14:50:49 น.
Counter : 669 Pageviews.

1 comments
  
ได้ประโยชน์มากเลย จะลองไปปรับใช้ดูนะคะ
ขอบคุณคะ
โดย: A3L วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:22:19:34 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

กระดุมอวกาศถอยหลัง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มีนาคม 2557

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
18 มีนาคม 2557