Ploy Journey Journal.........Welcome to my world
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2561
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 มีนาคม 2561
 
All Blogs
 

Daulatabad Fort in Aurangabad



ดัลลาตาบัท ฟอร์ท 


เป็นที่ที่เจ้าชายออรังเซป ใช้เป็นสถานที่พักอาศัย และเป็นฐานทัพ คุ้นๆชื่อฮีไหมคะ ก็ He is the one who imprison his father who built Tajmahal..   






ท่าน Aurangzeb ย้ายมาอยู่ที่นี่ สุดท้ายจึงตั้งชื่อเมือว่า Arungabad ตามชื่อฮี Aurang , Bad- บัต หมายถึงเมือง หรือราชธานี เพราะฮีสามารถปกป้องเมืองจากการตีของอังกฤษได้ ทั่วๆเมืองจะมีกำแพงและป้อมเพื่อป้องกันศัตรูที่มารุกราน แต่สุดท้ายฮีก็เสียชีวิตเพราะทหารอังกฤษไม่อนุญาตให้นำเกลือผ่านเข้าไป ไม่ตายด้วยอาวุธ ไม่ตายด้วยการยึดครอง แต่ตายด้วยการเสียเกลือกับแร่ธาตุเนี๊ยะนะ ฟังดูง่ายไปไหม





เมื่อไปถึงก็ซื้อตั๋วเข้าชม เหมือนเคย พาสปอร์ตไทยสามารถจ่ายราคาเท่าคนอินเดีย 15Rps





เป็นป้อมปราการซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองอรังคบาดไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 15 กม.  สร้างในศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าภิลลพมะ แห่งราชวงศ์ยาทาวะ โดยตั้งอยู่บนภูเขาที่สูงชันประมาณ 700 เมตร เพื่อไม่ให้ศัตรูเข้าไปโจมตีได้  ต่อมาก็มีการขุดคูคลองที่ตีนเขาพร้อมทำประตูชักรอกและสร้างกำแพงขึ้นอีก 2 ชั้น เรียกว่า มหาโกต และ กาลโกต

เราจะเดินผ่านประตูแรก "มหาโกต"





กำแพงเมืองช่วงนี้กำลังปิดซ่อมแซม



เมื่อผ่านประตูเข้าไป พบที่วางปืนใหญ่เต็มไปหมด






กำแพงชั้นที่ 2 ประตู "กาลโกต" 



ประตู 2 "กาลโกต"



ผ่านประตูที่ 2 เข้าไป 




ก่อนเดินถึงป้อม จะเป็นวัดของศาสนาเชนที่ปรักหักพัง



วัดศาสนาเชน






ใกล้กันมีบ่อน้ำ 2 บ่อ น่าจะไว้กักเก็บน้ำไว้ใช้สมัยก่อน




สิ่งปลูกสร้างที่น่าสนใจในป้อมแห่งนี้ได้แก่ จันท์ มีนาร์ (Chand Minar) หรือหอคอยจันทรา ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่อะลา อุดดิน บะห์มะนี (Ala-uddin Bahmani) ที่พระองค์สามารถยึดป้อมนี้จากสุลต่านตุกลักได้ในปี 1435 หอคอยนี้สูง 30 เมตร และมีฐานกว้าง 21 เมตร มีทั้งหมด 4 ชั้น ประดับด้วยกระเบื่องเคลือบและผนังสลักเป็นแม่ลายต่างๆ หอนี้จะใช้สำหรับเป็นที่สวดมนต์





เมื่อผ่านป้อม เราก็คงยังไปต่อ



เข้ามาเรื่อยๆ







อยู่ข้างหน้าแล้ว 




ผ่านประตูทางเข้าอีกประตู




เดินขึ้นไปด้านบน




กลุ่มนักศึกษามานั่งวาดภาพกันอยู่





เค๊าวาดอะไรกัน....


ที่ประตูที่เค๊านั่งวาดภาพกันก็เกร๋ไม่หยอก วิจิตรยิ่งนัก





ในสมัยมาลีก อัมบาร์ เปชวาแห่งอะหมัดนครก็ได้มีการสร้าง ชีนี มาฮาล (Chini Mahal) หรือพระราชวังจีน ซึ่งอยู่ถัดขึ้นไปจากหอคอยจันทร์ พระราชวังแห่งนี้ประดับด้วยกระเบื่องเคลือบสีฟ้าจากประเทศจีน พระราชวังแห่งนี้เป็นที่ที่จักรพรรดิออรังเซ็บใช้เป็นที่คุมขังอับดุล ฮะซาน ตานา ชาห์ (Abdul Hasan Tana Shah) สุลต่านองค์สุดท้ายของอาณาจักรโกลคอนด้า (Golconda – อาณาจักรที่แตกมาจากจักรวรรดิบะห์มะนี ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐอานธรประเทศและบางส่วนของตอนกลางและตะวันออกของรัฐมหาราษฎร์ในปัจจุบัน) เป็นเวลาถึง 13 ปี 




มีสิ่งปลูกสร้างอีกมากที่พังทลายและยังไม่ได้รับการบูรณะ เห็นได้จากหลังประตูนี้




ถัดไปจากนั้นก็จะมีหอคอยสูง 



 

ซึ่งบนยอดหอคอยนี้จะติดตั้งปืนใหญ่สลักชื่อเป็นภาษาเปอร์เซียว่า คิล่า ชิกาน (Qila Shikan) ซึ่งแปลว่า เครื่องทลายป้อม ที่ท้ายกระบอกเป็นรูปหัวแกะ 



 


ขึ้นมาด้านบนต้องระวังลื่นหกล้มนะคะ ลมแรงและไม่มีรั้วกั้นตามภาพนะคะ ถ้าตกลงไปด้านล่างนี่ไม่เหลือนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน มีเด็กเล็กกรุณาจับให้ดีค่ะ




วิวด้านบนป้อม



นี่ก็เป็นอีกประตูที่มีลองล้อมและสะพานชักรอกข้าม คือไม่รู้ประตูไหนเป็นประตูไหนหล่ะ



ภาพถ่ายเมื่อยืนบนสะพาน







เดินเข้าไปสักระยะผ่านมห้อง และต่อไปที่ทางเดินมืด 




เป็นทางเดินขึ้นไปที่หอด้านบน  มืดเหม็นอับมากๆค่ะ ค้างคาวเพียบ  ท่านผู้สูงอายุควรระวังนะคะ พื้นลื่นและแคบมากค่ะบันไดชันมากด้วย ถ้าไม่อยากสัมผัสประสบการณ์นี้ก็ เดินบันไดด้านข้างทางซ้ายมือที่ทางการเค๊าทำให้เดินผ่านห้องมืดนี้ไปได้ค่ะ ใกล้กว่ามากและไม่ทรมานค่ะ




เห็นค้างคาวบนเพดานไหมคะ 😱😰😳😲 สยึมกึ๋ยมากค่ะ

ทั้งที่รู้ว่า ค้างคาวมี perception ประสาทรับรู้ที่ดีเป็นเลิศ แต่ตอนเดินก็แอบกลัวว่าแล้วถ้ามันตกมาใส่หัวตรูจะกรี๊ดเป็นภาษาอะไรดีฟระ เดินด้วยอาการ นะโม พุทโธ สังโฆ ทำสมาธิและกลั้นหายใจขั้นสุด 




สักพักก็ออกมาถึงปลายทาง โล่งอก..




เดินขึ้นไปต่อ ทางผ่านจะเป็นศาสนสถานเล็กด้านในประดิษฐานพระพิฆเนตร 




เดินขึ้นต่อไปเพื่อไปปราสาท หรือพระราชวัง ด้านบน





ด้านใน




ป๊ะเราไปด้วยกันนะ








พื้นที่ด้านบน



ห้องปีกซ้าย





มองจากในห้อง



ริม Balcony 






วิวเมื่อมองจากด้านบน สมัยก่อนมันคือเมืองย่อมๆในปราสาทนี้เลยนะเนี๊ยะ



 วิวด้านบน  ดูสิเราเดินมาไกลแค่ไหน




จบแล้วเดินกลับทางเดิมจร้าาาา มาไกลแค่ไหน ก็เดินไกลกลับเท่าเก่า แต่ขากลับอิฉันขอไม่ไปทางห้องมืดแล้วจร้า  คือเดินแค่ผ่านห้องมืดแค่ประมาณครึ่งเดียวแล้วออกทางบันไดด้านนอก หยุดกลิ่นค้างคาวไว้แค่พอหอมปากหอมคอ กลับบ้านไปพักผ่อนจากความร้อนจัด... 😚



Ploy Journey Journal 





 

Create Date : 02 มีนาคม 2561
0 comments
Last Update : 2 มีนาคม 2561 14:07:47 น.
Counter : 942 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 3271775
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Hi guys, I'm "Ploy" who always have full of bucket list. It is because the world is gigantic, so step out 'n explore its. I write, i-dive, i-trek, i-run, i-yoga, i-blog, and I love good food. Let's follow the dream. สวัสดีค่ะ ชื่อ"พลอย"ค่ะ เป็นพวกชีวิตมีแต่บวก ไม่มีลบ Bucket list เต็มตลอดเวย์ อะไรๆก็เป็นลิสต์ที่ต้องทำก่อนตายสำหรับยัยพลอยทั้งนั้น (ก็โลกนี้มันกว้างใหญ่จะตายไป!) ไหนๆก็ได้เกิดมาบนโลกสวยงามใบนี้แล้วหนิ คิดแล้วจะรออะไร...เก็บกระเป๋า ก้าวเท้าออกมา โลกรอเราอยู่ (หรือความอยากรอเราอยู่) พลอยชอบขีดๆเขียนๆ, วิ่ง, โยคะ, ดำน้ำ, เทรค, และทุกทริปจะขาดไม่ได้เลยคือ อาหารอร่อย. มาออกเดินทางตามความฝันกับ "พลอย เจอนี่ เจอนั่น" ด้วยกันนะคะ... : )
New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3271775's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.