ประชาชนชาวไทยรับ (รธน.) รับร่างรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตาการขับเคลื่อนของชาติไทย อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นอนุสาวรีย์ที่บ่งบอกได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย และปัจจุบันคนไทยทุกคนก็กำลังช่วยกันปฏิรูปการปกครอง การเมือง ให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ในที่สุดผลคะแนนที่ชาวไทยทั่วประเทศลุ้นและรอ กว่าจะมาถึงวันนี้ว่าจะรับหรือไม่รับแต่แล้ว การลงประชามติในครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจสำหรับทุกๆฝ่ายเพราะประชาชนทั่วประเทศล้วนแล้วแต่ให้ความสนใจ และออกมาใช้สิทธิ์กึ่งหนึ่ง ซึ่งผลคะแนนในการลงประชามติก็เป็นไปตามคาดหมายที่ทางฝ่ายรัฐบาลได้คาดการณ์เอาไว้ ประชาชนชาวไทยเลยครึ่งประเทศรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผลสรุปคะแนนจากการลงประชามติในวันที่ 19 สิงหาคม ซึ่งมาจากทั่วประเทศมีดังนี้ คะแนนการลงประชามติจากทั่วประเทศ เห็นชอบ 56.70% ไม่เห็นชอบ 41.36% บัตรเสีย 1.91% ส่วนพื้นที่ในกรุงเทพฯ เห็นด้วย 64.50% ไม่เห็นด้วย 34.38% บัตรเสีย 1.12% การลงประชามติในครั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ร่วมครึ่งประเทศยอมรับในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ก็จะมีบางภาคภูมิภาคของประเทศที่เห็นได้อยากเด่นชัดที่ไม่เห็นชอบก็คือภาคเหนือ และภาคอีสานอาจเป็นเพราะเป็นฐานเสียงของอำนาจเก่าด้วย ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์เป็นพื้นที่ที่ถูกจับตามองมากที่สุด มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและดูแลอย่างเข้มงวด อีกทั้งสื่อมวลชนหลากหลายสำนักข่าวให้ความสนใจ เนื่องจากมีข่าวในแง่ของการเสี่ยงต่อการทุจริตมากกว่าที่อื่นๆ เพราะจังหวัดนี้เป็นเคยเป็นฐานเสียงของพรรคไทยรักไทยซึ่งในอดีตนายเนวิน ชิดชอบเป็นผู้ดูแลอยู่ แต่เมื่อผลคะแนนการลงประชามติออกมาก็เป็นที่น่ายินดีเพราะผลที่ออกมานั้นเปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการ เห็นด้วย 55.73% ไม่เห็นด้วย 42.29% บัตรเสีย 1.98% ซึ่งก็พบว่าไม่มีการทุจริตแต่อย่างใด การลงประชามติครั้งนี้ทำให้เห็นได้อย่างเด่นชัดว่าแต่ละพรรคและกลุ่มอำนาจเก่ามีฐานเสียงที่ไหนบ้าง เช่น ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ค่อนไปทางภาคใต้ ส่วนพรรคไทยรักไทยจะอยู่ทางภาคเหนือและภาคอีสาน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าฝ่ายใดจะชนะหรือแพ้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ธ.ค.ปลายปีนี้ และหลังจากนี้พรรคการเมืองต่างๆ จะเข้ามามีบทบาทมากมาย ซึ่งการเมืองไทยก็จะเข้มข้นมากขึ้นเพราะหลังจากนี้ไปจะอยู่ในช่วงของการเลือกตั้ง ถ้าจะกล่าวในเชิงเศรษฐศาสตร์ก็จะกล่าวได้ว่าเป็นการเข้าสู่ตลาดทางการเมืองมากขึ้น อีกทั้งอาจจะมีการกลับมาของนักการเมืองรุ่นเก่าๆในสมัยอดีตเข้ามามีบทบาทที่สำคัญอีกด้วย “นายนิธิ เอี่ยวศรีวงศ์ จากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนแสดงความคิดเห็นหลังจากการการลงประชามติเสร็จสิ้น กล่าวว่า ถึงแม้การลงประชามติประชนส่วนใหญ่จะยอมรับในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ตามแต่ถึงอย่างไรทางการเมืองก็ยังไม่นิ่ง และนักลงทุนจากต่างประเทศก็ยังชะลอไปเพราะยังไม่อยากเสี่ยง และอาจจะไม่เกี่ยวกับฐานอำนาจเก่าแต่อย่างไรกา” นายนิธิกล่าว “นักวิชาการของจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า ที่คะแนนของทางภาคเหนือส่วนใหญ่จะเทไปทางไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ อาจไม่เกี่ยวกับอำนาจเก่ายกเว้น เขตสันกำแพง เพราะเป็นถิ่นฐานบ้านเกิดของอดีตนายกฯ” จากความคิดเห็นประชาชนส่วนใหญ่ที่รับร่างรัฐธรรมนูญเพราะอยากให้มีการเลือกตั้งเร็วๆ ซึ่งคะแนนเสียงก็มีผลเป็นเอกฉันท์ว่ารับ ส่วนเสียงส่วนน้อยที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องเปิดใจให้กว้างยอมรับผลคะแนนที่เกิดขึ้น ซึ่งกลุ่มแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) จะไม่มีการชุมนุมเกิดขึ้นอีกเพราะยอมรับในผลคะแนนการลงประชามติที่ออกมา ไม่ว่าใครก็แล้วแต่จะการับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ทุกล้วนแล้วแต่อยากให้ประเทศได้กลับสู่สภาพเดิม อีกทั้งอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิจของชาติให้ขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน “หวานเย็น” ขอบคุณข้อมูลจากTITV ภาพ //www.pantip.com   Create Date : 20 สิงหาคม 2550 3 comments Last Update : 21 สิงหาคม 2550 10:13:53 น. Counter : 692 Pageviews. Share Tweet

เห็นได้ชัดเจนในความแตกต่างของพื้นที่ต่างๆ แต่ในเมื่อผลออกมาแล้วก็ต้องยอมรับ เพราะนั่นของการลงประชามติของคนทั้งประเทศ เราต้องเคารพในการแสดงความคิดเห็นของทุกคน   โดย: junaka 25 สิงหาคม 2550 16:06:57 น.

ผมกลัว รธน. ชุดนี้จังครับ ไม่รุไม่มีความเห็น แต่บอกไดอย่างเดียวว่า "กลัว"   โดย: note182 (note182 ) 26 สิงหาคม 2550 11:59:25 น.

สิ่งที่เกิดขึ้นมาจาก ประชาชนทั้งนั้น... จริงรึ...เช่นรึเปล่า....   โดย: jaa (- จอมจุ้น - ) 27 สิงหาคม 2550 22:12:32 น.