ก่อนอื่นเลย แม่อิงต้องเริ่มเป็นกรณีสำหรับคนที่ ติดหุ้นก่อนนะคะ ..... การซื้อหุ้นเพื่อเฉลี่ยขาลงนั้น ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด เช่นเดียวกันคุณจะไม่มีทางรู้ก้นบ่อ เลยว่ามันตื้นลึกแค่ไหน .....

ข้อเสียของการซื้อเฉลี่ยขาลง คือ 1. ใช้เงินมากเพื่อเพิ่มพอร์ตเพราะไม่มีทางรู้จุดต่ำสุด ***

2. อัตราการขาดทุนที่มากขึ้น เช่น เดิม มีหุ้น A 10,000 หุ้น ราคา 10 บาท เมื่อราคาตกลงมาที่ 9 บาท เท่ากับว่า ขาดทุน 10,000 บาท คุณเฉลี่ยเพิ่ม อีก 10,000 หุ้น แต่หุ้นก็ลงอีก ไปที่ 8 บาท เท่ากับว่า lot เดิม คุณขาดทุน เพิ่ม คือ 20,000 บาท แต่อีก lot คือ ขาดเพิ่ม อีก 10,000 บาท รวม เป็น 30,000 บาท ( กรณีนี้ อยู่เฉย ๆ ท่าจะดีกว่าเพราะโดนแค่ 20,000)

ดังนั้น ตลาดขาลง จึงไม่จำเป็นต้องซื้อเฉลี่ย ถ้าหุ้นไม่มีสัญญาณกลับตัว ..... ฉะนั้น เดี่ยวออกทะเลไปไกล เอาเป็นว่าแม่อิงจะเข้าประเด็น ที่ทุกคนสนใจ อยากรู้ และ อยากศึกษานะคะ ..... แม่อิงเชื่อว่า เมื่อทุกคนเห็นหุ้นลง มาก ๆ แล้วก็คงจะ focus ไปที่จุด ๆ เดียว นั่นก็คือ **ถัว** สำหรับคนที่มีเงินแบบไม่จำกัด ก็ไม่ว่ากันค่ะ แต่ต้องมีปันผลรองรับ และพื้นฐานเริดดนะคะ

ค่ะ ....เราจะทำอย่างไร ง่าย ๆ สั้น ๆ ทุกคนทำได้ค่ะ short againt port ทำอย่างไร ...สำหรับแม่อิงนอกจากข้อมูลที่เราต้องติดตาม และ ประเมินสถานะการณ์แล้วเนี่ย สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำก็คือ ขจัดอคติออกไปซะ ....และทำใจให้อยู่กับปัจจุบันให้ได้ ....จำเอาไว้แค่ 4 ข้อเท่านั้นค่ะ 1. เรามีหุ้นจำนวนเท่าเดิม 2. เรามีต้นทุนเท่าเดิม หรือ เราสามารถลดต้นทุนได้โดยการเปลี่ยนเงินส่วนต่างที่ได้แต่ละรอบ ให้เป็นหุ้นแทน 3. เรามีเงินเหลือกลับบ้านไว้ใช้จ่ายช่วงหุ้นตก ๆ 4. เมื่อหุ้นกลับตัว เราจะออกได้เร็วกว่าคนอื่นค่ะ ...

1. เรามีหุ้นจำนวนเท่าเดิม EX. คุณติดหุ้น A 10,000 หุ้น 10 บาท ตอนนี้ลดลงมา 9 บาท ประเมินแล้วมองว่าลงต่อ ขายทันที ที่ 9 บาท สมมติ เมื่อหุ้นลงมาที่ 8 บาท มี gap 1 บาท คุณซื้อคืน 10,000 หุ้น ได้เงินกลับบ้าน 10,000 บาท โดยที่หุ้นก็ยังอยู่ไม่หายไปไหน จะเปลี่ยนก็แค่ ตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น ....เห็นไหมคะ ง่าย ๆ

2. เรามีต้นทุนเท่าเดิม หรือ เราสามารถลดต้นทุนได้โดยการเปลี่ยนเงินส่วนต่างที่ได้แต่ละรอบ ให้เป็นหุ้นแทน ****1. เรามีหุ้นจำนวนเท่าเดิม EX. คุณติดหุ้น A 10,000 หุ้น 10 บาท ตอนนี้ลดลงมา 9 บาท ประเมินแล้วมองว่าลงต่อ ขายทันที ที่ 9 บาท สมมติ เมื่อหุ้นลงมาที่ 8 บาท มี gap 1 บาท คุณซื้อคืน 10,000 หุ้น ได้เงินกลับบ้าน 10,000 บาท แต่แทนที่คุณจะเอาเงินกลับบ้าน เปล่าเลย คุณกลับมองว่าต้องการจำนวนหุ้น มากกว่า คุณใช้เงิน 10000 บาทนั้นเข้าซื้อหุ้น ราคา 8 บาท ได้เต็มที่ 1,200 หุ้น เท่ากับว่า คุณมีหุ้นเพิ่มเป็น 11,200 หุ้น ( ทุนใหม่คือ 9.78 ค่ะ ลดทุน ได้ตั้ง .22 ตังค์ มหัศจรรย์มาก ๆ เลยค่ะ )

3. ข้อ 3 ข้ามนะคะ เพราะ อธิบายไว้แล้ว มาข้อ 4 ค่ะ ความมหัศจรรย์มันอยู่ตรงนี้ค่ะ .....เมื่อคุณมีหุ้นเพิ่มขึ้นมา เป็น 11,200 หุ้น * 9.78 เมื่อหุ้นกลับไปที่ 10 บาทเท่าเดิม เราจะได้ กำไร 2,464 บาทค่ะ ในขณะที่เราอยู่เฉย ๆ มันเสียโอกาสเยอะ ค่ะไม่ได้อะไรเลย นี่แม่อิงลอง คำนวณระยะเวลาสั้น ๆ ให้ดูนะคะ เพราะสถานการณ์จริง มันยาวนาน กว่านี้ค่ะ และ โอกาสที่เราจะได้หุ้นเพิ่มกว่า นี้ก็มีมาก ๆ ค่ะ และ มันจะส่งผลถึง ทวีคูณของปันผลด้วย ....เห็นไหมคะ ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน คุณก็ทำมันได้ค่ะ .....จากนั้นใครมีข้อสงสัย post ถามได้นะคะ ตอบทุกคำถามค่ะ

           นี่เป็นคำถามที่ลุกค้าท่านหนึ่ง ถามแม่อิง วันที่แม่อิงไป present ให้เขาฟัง

ลุกค้า ....

วิธีประเมินว่ามองแล้วลงต่อครับ. การทำใจให้อยู่กับปัจจุบันแม้ยากก็พอไหว ตรงที่มองว่ายังอีกนานจะกลับตัวให้พัวพันไว้ ไม่รู้ว่าจะขาย9บาทแล้วมันพลิกเป็น9.50ชั่วคราว แล้วเดี๋ยวลงมา8นี่ยาก อ่ะครับกลัวพลิกแล้วไม่ลง อย่างdtac วันนี้ถ้าช้อทที่74แล้วลงไห้รับคืนทัน65-66ก็ดีเยี่ยมถ้าไม่ทันใช่สมมติกลับมาปิด75จะหาวิธีมองอย่างไรครับ

แม่อิง ....

เป็นคำถามที่ดีมากค่ะ *** การ sap หรือ short againt port นั้น เราสามารถทำได้ 2 แบบด้วยกันก็คือ 1. มองว่าพอมี gap แล้ว ก้รับคืนในวัน ถ้ามองว่าจะรีบาวน์ กลัวเสียของ 2. ไม่จำเป็นต้องรับคืนในวันถ้าสถานการณ์ยังไม่มีทีท่าว่าดีขึ้น

แต่เราจะคาดการณ์ให้แม่นยำนั้น ยาก แม่อิงเองยอมรับว่าเคยพลาด เมื่อ short ให้ลุกค้า แต่ เอาเป็น 1. มองอย่างไรว่าลงแน่ 1.1 ปัจจัยภายนอก เช่น ศก. โลก ตลาดเพื่อนบ้าน ตลาดยุโรป เมกา และข่าว ที่มากระทบ 1.2 ปัจจัยภายใน คือ 1.2.1 เกี่ยวกับหุ้นที่เรามีโดยตรง 1.2.2 ปัจจัยศก.รวมของบ้านเรา 1.2.3 ปัจจัยจากนโยบายของรัฐ 1.2.4 ปัจจัยการเมือง .....และข่าวสารข้อมูล ต่าง ๆ ขั้นต้น สอบถาม mkt. ของเราเองก่อน จากนั้นหาเพิ่มเติมค่ะ

เมื่อเราได้ ข้อมูลทุกอย่างแล้ว ให้ประมวลผล ชั่งน้ำหนักเลยค่ะ การ sap นั้นแรก ๆ ยังไม่ชิน ให้ฝึก อย่างนี้ค่ะ ทำไปทีละส่วน อย่างเช่น มี 10,000 หุ้น ก็ ทำ 10 % คือ 1,000 หุ้นค่ะ เมื่อคล่องแล้ว ใจกล้าขึ้นว่างั้นเหอะ จัดหนัก ๆ ไปเลยค่ะ .....

case ....เมื่อ sap แล้วหุ้นขึ้น ทำอย่างไร ....เมื่อมองแล้วว่า เป็นการขึ้นแค่สั้น ๆ และไม่มาก ไม่สนใจค่ะ เฉย ๆ ไว้เมื่อภาพใหญ่มันบอกว่าลงอยู่ดี หรือ เราอาจจะ sap แค่ ครึ่งเดียว เมื่อขึ้นอีกก็ sap อีก ค่ะ ....แต่ ถ้าเราผิดทางเราต้องยอมรับอย่าฝืนเด็ดขาด เช่น เผลอ sap โดยที่ หุ้นทะยานขึ้น ถ้าเรายังต้องการมันอยู่ให้รีบซื้อกลับทันทีค่ะ .....