Keep Walking @PAI
Review : Keep Walking @paiหลังจากที่ได้วางแผนโดดงาน เอ้ย!! ลาพักร้อนล่วงหน้าไว้แล้วถึง 3 เดือน ว่าจะไปเที่ยวกับหวานใจเพื่อฉลองวันเกิดร่วมกัน อุตส่าห์วาดฝันกลางวัน ไว้ซะดิบซะดีเลย.. แต่แล้วเหมือนกับโชคชะตาฟ้ากลั่นแกล้งคนหน้าตาดีอย่างช้านนน.. ทำให้ต้อง..ระหก..ระเหิน..ระเห็ด..ระเห..เร่..ร่อน..ไปคนเดียวอีกตามเคยเอาวะ!! where where is where where มาถึงขั้นนี้แล้ว (แอบคิดในใจ) ไปคนเดียวก็ได้ฟ่ะให้มันรู้ไป ว่าแต่ว่า เราจะไปทางไหนดีล่ะเนี๊ยะ.. ว่าแล้วก็ เหล่ซ้าย แลขวา มองหน้า ดูหลัง แอบเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ (ที่ทำงาน) ชะแว๊บเข้าไปในเว็บ //www.google.co.th เพื่อหาข้อมูลซะหน่อย พร้อมกันนั้นก็เข้าไปในเว็บ //www.pantip.com ห้อง blue planet เพื่อหาข้อมูลที่ท่องเที่ยว จิ้มไปจิ้มมาได้มา 2 ที่แฮ่ะ! ว่าแล้วก็สวิทซ์หน้าจอไปยัง google คีย์ลงไปเลยคำว่า ปาย อีกที่ก็คำว่า ปากเซ อ่ะโช่อ่ะเช่โอ้วแม่เจ้า!! น่าเที่ยวทั้ง 2 ทีเลย แล้วจะเลือกไปทางที่ไหนดีเนี่ยเรา อีก 3 วันใกล้จะถึงเวลาตะล่อนทัวร์แล้วด้วยดิ... ปวดหมอง ปวดหมอง!!เจ๋ย!! นึกขึ้นมาได้ในหัวสมองอันน้อยนิด ช่วงนี้มันหน้าฝนนี่หว่า!! ต้องลองเข้าเช็คไปที่เว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยาซะหน่อยสิ ที่ไหนฝนตกหนักบ้าง จะได้ไม่ต้องไป ว่าแล้วก็ กดๆ จิ้มๆ ผลปรากฏการทำนายของหมอดูคอมพิวเตอร์ออกมาว่า ที่ปากเซ จะฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนที่เมืองปาย ฟ้าโปร่ง อากาศเย็น เย้ๆๆ ในที่สุดก็เลือกได้ซะทีว่าจะไปที่ไหน เริ่มเตรียมตัวเก็บข้าวเก็บของ เดินหาซื้อกล้องดิจิตอลซะหน่อย จะได้เอาไปเก็บบรรยากาศในการตะล่อนทัวร์ครั้งนี้ในค่ำคืนของวันที่ 23-10-2008 เวลา 20.30 น. ได้เวลาคนหน้าตาดีจะต้องเดินทางจากกรุงเทพฯ เข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ โดยรถทัวร์ vip 24 ที่นั่ง ของ บขส. ในตลอดระยะเวลาของการร่อนแรม 9 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงอาเขต เชียงใหม่ ในเวลา 05.15 น. ว่าแล้วก็ไปล้างหน้าล้างตา หากาแฟกินซะหน่อย หลังจากนั้น ในเวลา 6.00 น. เดินไปจองตั๋วรถตู้เพื่อเติมเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองปายหลังจากที่ได้หลับๆ ตื่นๆ เดินทางผ่านมาเจ็ดร้อยกว่าโค้ง ก็ถึงเมืองปาย แม่ฮ่องสอน เวลา 9.25 น. จากนั้นก็มุ่งหน้ากางแผนที่เมืองปายที่ได้ print เตรียมมาใช้ ไปพักที่ไหนดีน๊า เดินดุ่ยๆ ไปถามที่นั่นที ที่โน่นที ว๊า!! เซ็งเป็ดเลยวุ้ย เต็มหมดทุกที่ วันนี้จะได้ที่ซุกหัวนอนไม่ล่ะเนี๊ยะ ว่าแล้วก็เดินคนเดียวมาโด่ๆ หัวดำมาโด่เด่ จะหันจะเหไปทางใด ก็เดินต่อไปคนเดียวมันโด่ๆชะแว๊บ!! พลันนั้นสายตาเหลือบไปเห็นป้ายไม้ บ้านแสงเฮื้อน เอาวะ! ลองเดินเข้าไปถามดูซะหน่อยดีกว่า (ว่าแต่ว่าตะกี้เพิ่งเดินผ่านไปเองนี่หว่า)กริ๊งงงง..เสียงกดกริ่งเรียกเจ้าของที่พักออกมาต้อนรับคนหน้าตา "สวัสดีครับเจ๊ พอจะมีที่พักของวันนี้ว่างไหมครับ" ทันใดนั้น รอยยิ้มน้อยๆ ของพี่เจ้าของบ้านแสงเฮื้อนบังเกิดขึ้น "มีเจ้า.. จะพักอยู่กี่คืนเจ้า" (ฮ่า ฮ่า ฮ่า... เสียงหัวเราะในใจ มีที่ซุกหัวนอนแล้วตรู) "ขอจองไว้สัก 1 คืนก่อนนะครับ แล้วแถวนี้พอจะมีตรงไหนที่ให้เช่ามอเตอร์ไซค์ใกล้ๆ บ้างไหมครับ"...พอได้คำแนะนำจากพี่สาวเจ้าของที่พักที่แสนใจดี ก็เอาข้าวเอาของไปเก็บไว้บนที่พัก พร้อมกับอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ได้เวลาตะล่อนทัวร์ตะลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองปายแว๊วววววว!!ก่อนอื่นต้องหาเช่ารถมอเตอร์ไซค์เสียก่อน หลังจากที่ได้เช่ารถมอเตอร์ไซค์ในราคาวันละ 100 บาท เรียบร้อยแล้ว ได้เวลาที่กองทัพจะต้องเดินด้วยขา เอ้ย เดินด้วยท้องซะทีมื้อแรกที่ปายเป็นอาหารง่ายๆ สั่งมารองท้อง ชุดอาหารเช้า+กาแฟเย็น ในราคารวม 210 บาท (แอบน้ำตาไหลพราก.. แพงอิ๋บอ๋าย) หลังจากที่ได้ให้อาหารกระเพาะแล้วก็ได้เวลาที่จะให้อาหารตาและอาหารใจซะทีว่าแล้วก็กางแผนที่ออกมาดู.. coffee in love เห็นในห้อง blueplanet บอกต่อๆ กันมา แล้วบอกต่อๆ กันไป ว่า..เป็นสถานที่ยอดฮิตติดอันดับของการถ่ายรูปที่ปาย บรื้นนนนน!!...สวมวิญญาณเด็กแว๊นเก่าบิดมอเตอร์ไซค์หน้าตั้งถึงจุดหมายปลายทางอันแรก เขาหล่ะ Coffee in Love ว่าแล้วก็กดภาพ แชะ แชะ .. หมดเวลา..เปลี่ยนไปยังสถานที่ต่อไปดีกว่าอีกจุดหนึ่งที่ยอดฮิตนิยมถ่ายรูปขอหล่ออีกสักภาพ นานๆ จะได้ออกโชว์ตัวซะทีคราวนี้เปลี่ยนจุดมุ่งหมายเป็นร้านของฝากของที่ระลึกเอาไปฝากน้องในที่ทำงานดีกว่า ร้านแรกที่เข้าไปเป็นงานแฮนด์เมค ชื่อร้าน ปายตะวา ของร้านนี้น่ารักมาก (โดยเฉพาะแฟนเจ้าของร้าน เอิ๊ก) จากนั้นก็ตะเวนถ่ายรูป ตะเวนซื้อของไปทั่วร้านนี้ของในร้านส่วนใหญ่จะออกแนวฮิปๆจ๊อกกก!! เสียงท้องร้องขึ้นมา (อับอายขายขี้หน้าคุณแม่ค้าคนสวยที่ยืนอยู่ตรงหน้าซะจริงๆ ช่างไม่ไว้หน้าคนหน้าตาดีอย่างช้านบ้างเลย แกนะแก จำไว้ ฮึ่ม!!) ว่าแล้วก็แบกหน้า..ที่แทบสิ้นไร้ยางออกจากร้านไปหาของกิน มื้อเที่ยงนี้นำเสนอ ข้าวสอยไก่+โค้กเย็นๆ (ขอบอกร้านนี้อร่อยมาก แต่จำชื่อร้านไม่ได้)พอได้เวลาหนังท้องตึงหน้าตาก็เริ่มหย่อน กลับไปยังที่พักขอตัวงีบซะหน่อย คร๊อก..ฟรี้..!!ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อเป็นชาติเชื้อไทย... เสียงทีวีบ้านพักข้างๆ ดังเล็ดลอดเข้ามาให้โสตประสาท ทำให้สะดุ้งตื่น.. หง่าส์ 6 โมงเย็นแล้วหรือเนี่ย ว่าแล้วก็บิดขี้เกียจ 3 ที เดินโท่งๆ ไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาแล้วแต่งหล่อตะลุยถนนคนเดินปายแสงตะวันเริ่มลาลับขอบฟ้าไปทีละนิดละนิด เสียงย่ำเท้าเริ่มดังหนาหูมาแทนที่เสียงมอเตอร์ไซค์และรถยนต์นานาชนิด ความมหัศจรรย์เริ่มบังเกิดสู่สายตา... โอ้ว!! คนแมร่งเยอะอิ๋บอ๋ายมาจากไหนกันวะเนี่ย เมื่อตอนกลางวันยังไม่เห็นมีเยอะขนาดนี้เลย เฮ่อไม่สนติ๋ว..เดินหาของกินดีกว่ารถกาแฟยอดนิยมไม่รู้ว่าจะมีเล่นสักกี่วง เล่นช่วงไหนซะด้วยสิเดินไปเดินมาเจอการแสดงของเหล่าน้องๆ นักเรียนตัวน้อยๆ ที่มาแสดงอยู่กลางถนนพร้อมกล่องรับบริจาคช่วยทุนการศึกษา ว่าแล้วคนหน้าตาดีแถมใจดีควักกระเป๋าดึงช้างแดง 1 ใบหย่อนใส่ลงกล่อง (โอ๊ะ โอ๊ะ ปะเดี๋ยวก่อน!! ต้องอธิฐานซะหน่อย.. ขอให้ร่ำ ขอให้รวย ขอให้แฟนสวย ขอให้เจริญในหน้าที่การงาน ขอให้ บลาๆๆๆๆๆ...) หลังจากที่ได้เดินดูของไปเดินกินไปตั้งแต่ 6 โมงเย็น ในที่สุดก็ได้เวลาเข้านอนซะที ราตรีสวัสดิ์...นอนหลับฝันดี... รักนะ จุ๊บจุ๊บ...เช้าแรกของการมาพักที่ปาย ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะตื่นสัก 6 โมงเช้า จะออกไปดูทะเลหมอก ที่ไหนได้ ดันทะลึ่งเจือกตื่นมาซะ 7 โมงกว่า เลยอดซิ่งมอเตอร์ไซค์บิดไปดูทะเลหมอก หลังจากด่าตัวเองเสร็จก็ไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาแปรงฟัน และที่ขาดไม่ได้แต่งหล่อตามประสาคนหน้าตาดี ออกไปลุยตลาดยามเช้าๆ ของวิถีชีวิตเมืองปายมื้อเช้านี้ตามสูตรยอดฮิตต้องนี่เลย โจ๊กครับโจ๊ก โจ๊กหมูใส่เครื่องในร้อนๆ มาแล้วคร๊าบบบ.. หลังจากที่อิ่มหมีพีมันเป็นที่เรียบร้อย ได้เวลาขับรถฉวัดเฉวียนชมนกชมไม้ชมเมืองชมวัดถ่ายรูปไว้ตามประสาชายโฉดแล้วพี่แกไม่หลับไม่นอนกันบ้างหรือไหงหว่า เห็นมาตั้งแต่เมื่อคืนพระธาตุแม่เย็นอยู่ตรงไหนหว่า.. ขับรถหลงไปหลงมา หาทางไปไม่เจอสักที เอาวะ!! ลองเสี่ยงไปทางนี้ดูเผื่อจะใช่.. เย้ๆๆ ในที่สุดก็มาถูกทางจนได้ พอไปถึงวัดพระธาตุแม่เย็นซึ่งอยู่บนยอดเขาแล้ว ก็ขึ้นไปไหว้พระธาตุก่อน ขอสักแชะหน่อยนะเครื่องบูชาพระธาตุแม่เย็นนี้จะเป็น ตุงข้าวสาร ซึ่งจะมีสีและทิศตามวันเกิดของผู้กราบไว้ ของผมวันอาทิตย์สีแดงแรงฤทธิ์ จากนั้นก็เข้าไปในโบสถ์ไว้พระขอพรท่าน ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข...สาธุ!!หลังจากไหว้พระเสร็จ.. ก็เดินเก็บภาพบรรยากาศบริเวณโดยรอบวัดพระธาตุแม่เย็น จากนั้นก็เดินทางออกจากวัด เพื่อตะล่อนเก็บภาพสถานที่อื่นๆ ต่อไปย้อนกลับมาที่ป้ายลานดนตรีร้าน Sincere coffeeร้านสบายดี ขายโปสการ์ดร้านมู่ ขายเสื้อผ้าร้าน all about coffee ร้านขายกาแฟแนวอาร์ตร้านมิตรไทย ขายโปสการ์ดและของที่ระลึกร้าน @PAI ขายโปสการ์ดแถบแม่เหล็ก และเทียนหอมมาถึงร้านขายโปสการ์ดทั้งที ไม่ซื้อส่งถึงตัวเองให้มันรู้ไปอีกครั้งกับตู้ใส่โปสการ์ดร้านสบายดีอุตุขี้โม้.. ไหนบอกว่าปายฟ้าโปร่ง อากาศเย็นสบาย ไม่มีฝนฟ่ะ.. เนี่ยๆ ฝนกำลังจะตกแล้วนะเฟ้ย โห้ย!! คนหน้าตาดีหมดอารมณ์เที่ยวเลย เจอฝนตกหนักมากๆ แบบนี้ไม่ไหวไม่ไหว กลับไปนอนเชียงใหม่สักคืนแล้วค่อยเดินทางกลับกรุงเทพดีกว่า ว่าแล้วก็ไป เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า..ลาแล้วหนาปายเมืองเก่า..ดินแดนที่เราเพิ่งมา...เช็คเอาท์ออกจากที่พัก 12 โมงเช้า (เง๋ย..มันเวลาเที่ยงนี่หว่า) ขับเอารถไปคืนร้านเช่า แล้วเดินแบกเป้ (หนักชิบ..ไม่รู้ว่ามันหนักอะไรหนักหนา) ไปที่ aya service เพิ่งจองรถตู้กลับสู่เชียงใหม่ โชคดีที่มีที่ว่างได้รถเที่ยว 14.30 น. จากนั้น ฝนก็เริ่มกระหน่ำลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา (คิดในใจ ดีนะที่ตรูตัดสินใจกลับ ไม่งั้นเซ็งเป็ดแน่ๆ)ช่วงระหว่างที่รอรถมา ฝนก็เริ่มที่จะซาๆ ลงไป ไม่รู้จะทำอะไรดี เดินไปเดินมาเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกก่อนกลับสักหน่อยดีกว่าเราเดินไปถ่ายริมน้ำอีกสักภาพเป็นไรไปกาแฟเจ้านี้มีอยู่ใน list รายชื่อที่ต้องตามถ่ายภาพไว้ด้วยนี่หว่า เดินดุ่มๆ ไปนั่งสั่งกาแฟสักแก้ว แล้วเอ่ยปากถามผู้ชายเจ้าของร้านว่า "ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยได้ไหมครับ" หลังจากได้รับฉันทาอนุมัติเรียบร้อยแล้ว แชะ แชะ ไว้ซะ 2 ภาพ "ขอบคุณครับ"รถตู้มาพอดี..ไปล่ะครับ ลาแล้วเมืองปาย โอกาสหน้าฟ้าใหม่ ถ้ามีโอกาสจะพาสุดที่รักไปกระหนุงกระหนิงด้วยอีกครั้งนะจ๊ะ... บาย บาย บาย เมืองปาย
อยากไปปายบ้าง อยู่แค่นี้ ยังไม่ได้ไปเลย
แต่ว่าปีใหม่นี้ ปางอุ๋งเป่า
ไปน๊าๆๆๆๆๆๆ