คอนเสิรท์ อรวี เพลงหวานกลางกรุง ความสุข ความประทับใจ ของคนวัยกลางคน
ผมไม่แน่ใจว่า คอนเสิรท์ เพลงหวานกลางกรุง ของคุณเล็ก อรวี สัจจานนท์ ที่เพิ่งจบไปวันนี้ (28/10/2550) จะได้รับความสนใจจากคนในห้องเฉลิมกรุง มากเท่าใดนัก เพราะในกระทู้ที่ผ่าน ๆ มา มีการพูดถึงน้อยมาก แต่ผมเองหลังจากที่เพิ่งไปดูมาเมื่อสักครู่นี่ หลังจากเดินออกจากประตูหอประชุมศูนย์วัฒนธรรมฯ แล้วเกิดความรู้สึกหลายอย่างที่อยากจะนำมาพูดถึงในห้องเฉลิมกรุงบ้างหลัง จากที่ได้ทราบข่าวว่าจะมีคอนเสิร์ทของคุณ อรวี โดยมี คุณวิชัย ปุญญะยันต์ เป็นผู้ควบคุมวงดนตรีวงใหญ่ด้วยแล้ว ผมตั้งใจจะตีตั๋วเข้าไปดูทันที เพราะวัยอย่างผมนี่เลยกลางคนมาแล้ว จะหาความบันเทิง ความสุนทรีย์ จากการชมนักร้องที่ผมชื่นชอบ และฟังเสียงจากนักดนตรี ที่เล่นสด ๆ นี่นับว่าหาได้ยากมากในช่วงชีวิตที่เหลือ จะดูคาราบาว หรือ อัสนีย์ นี่ก็พอไหวนะ แต่แนวเพลงลูกกรุงเก่า ๆ ที่มีความไพเราะในรูปแบบที่ผมฟังมาแต่เด็กนี่ เป็นความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งในชีวิต ที่จะหาชมให้ได้ถ้ามีโอกาส และเป็นความคิดมานานหลายปีแล้ว ที่เคยตั้งคำถามกับตัวเองไว้ว่า ทำไมไม่มีคอนเสิร์ทจากนักร้องเสียงดีดี และวงดนตรีที่เล่นกันแบบครบเครื่อง ไม่ใช่แบบแนวสตริงในปัจจุบัน ยิ่งตอนที่ทางแกรมมี่ออกชุด 60 ปีสุนทราภรณ์ที่มีนักร้องหญิง 4 คน ชาย 3 คน หนึ่งในนั้นมีคุณเล็ก อรวีอยู่ด้วย โดยเฉพาะดนตรีที่มีคุณวิชัย ปุญญะยันต์ เป็นคนทำดนตรีนี่ บรรเลงออกมาได้อรรถรสจริง ๆ ทุกครั้งที่ผมเปิด CD ชุดนี้ที่มี 10 แผ่น แล้วเพิ่มออกมาอีก 5 แผ่น ผมจะคิดถึงเสมอว่า เมื่อไหร่จะมีการจัดคอนเสิรท์ของแกรมมี่ของ CD ชุดนี้ โดยมีนักร้องทั้ง 7 คนนี้มาขับขานเสียที ถ้ามีการจัดขึ้นมาได้นี่ จะเป็นความสุขในชีวิตที่ผมจะต้องไปร่วมชมให้ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความหวังก็เลือนหายไปแต่เมื่อมีคอนเสิรท์ของคุณอรวีขึ้นมานี่ ความปรารถนาที่จะต้องเข้าไปชมให้ได้ก็เกิดขึ้นทันทีที่ทราบข่าว แม้จะไม่ใช่แนวสุนทราภรณ์จากนักร้อง 7 คนที่ผมใฝ่ฝันไว้ และเป็นนักร้อง 1 ใน 7 ก็ยังนับว่าเป็นโอกาสดีในชีวิตของผม โดยเฉพาะคุณอรวี นี่ผมชื่นชอบเธอตั้งแต่ออกเทปชุดแรกในชุด เยื่อไม้ จนเธอมาอยู่กับแกรมมี่ ผมเองก็ยังอุดหนุนอัลบั้มของเธอ เป็นระยะ เพราะเธอมีพรสวรรค์ในการร้องเพลงจริง ๆ ร้องเธอได้ไพเราะ น่าฟังเกือบทุกเพลง แล้วพอได้รู้ว่าจะมีวงดนตรีวงใหญ่ที่ควบควุมวงโดยคุณวิชัย ปุญญะยันต์ด้วยแล้ว ยิ่งคาดหวังได้เลยว่า แนวดนตรีคงจะได้อรรถรสใกล้เคียงกับที่ผมฟังจากชุด 60 ปีสุนทราภรณ์เมื่อ รู้ว่า คอนเสิรท์ จะมี 2 รอบ ก็ยิ่งแอบดีใจไม่ได้ แต่พอรู้ว่าจัดที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ กลับเกิดความรู้สึกเสียใจเล็ก ๆ เพราะจำนวนที่นั่งมันเทียบไม่ได้กับที่ อารีน่า เมืองทองเลย ที่ศูนย์วัฒนธรรมจุคนดูทั้ง 3 ชั้นได้ไม่ถึง 2,000 ที่นัง 2 รอบก็แค่ไม่เกิน 4,000 ที่นั่ง แต่ที่อารีน่านี่ ไม่ต่ำกว่า 20,000 ที่นั่ง แสดงว่าคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของคอนเสิรท์ครั้งนี้มีน้อยแล้วต้องมาลุ้นว่า ตั๋วจะขายหมดไหม ถ้าไม่หมดเหลือกี่เปอร์เซนต์ ซึ่งจำนวนคนดูครั้งนี้ น่าจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของคอนเสิร์ทแนวนี้ ความจริงกลุ่มเป้าหมายนี้มีจำนวนพอสมควรไม่แพ้กลุ่มวัยรุ่น แถมมีกำลังซื้อดีกว่ากลุ่มวัยรุ่นด้วย แล้ววันนี้ทันทีที่ผมจอดรถที่ศูนย์วัฒนธรรมก็เป็นไป ตามคาด เห็นผู้คนที่มาชมคอนเสิรท์ของคุณอรวี มีแต่วัย 40 up ผมอาจจะดูอ่อนที่สุด (ถ้าไม่ดูสีผมนะ) มองไปทางไหนก็เจอแต่คนวัยเดียวกับผมและที่สูงวัยกว่า เมื่อตรวจบัตรก่อนเข้าประตู ก็มีการแจกเอกสารแสดงรายชื่อเพลงที่จะมีการร้องและแสดงพร้อมทั้งผลงานและ เกียรติประวัติของคุณอรวี เข้าไปนั่งก็ปรากฎว่า ในรอบสุดท้ายนี่ ที่นั่งเกือบเต็ม เหลือที่นั่งว่างเพียงไม่กี่ที่นั่ง อย่างนี้นี่เป็นสัญญาณที่ดีอย่างหนึ่ง เริ่มการแสดงเวลา 14:15 ซึ่งเลยกำหนดมา 15 นาที คุณอรวี เปิดคอนเสิรท์ด้วยเพลง แว่วเสียงซึง ทันทีที่เสียงดังตรีดังกระหึ่มขึ้น ผมรู้สึกไม่ผิดหวังเลย ที่การบรรเลงจากวงของ วิชัยปุญญะยันต์ ให้อรรถรถได้อย่างที่คาดไว้ แล้วเสียงร้องของคุณอรวีก็ไพเราะ สมกับที่ยกย่องว่าเป็นนักร้องเสียงระฆังแก้ว ต่อด้วยเพลง เงาไม้ และ ลมหวน รายการต่อมาเป็นช่วงแขกรับเชิญคนแรกซึ่งเป็นรุ่นพี่ คุณเล็กที่โรงเรียนหอวัง คือ คุณอ๊อด คีรีบูน หรือ รณชัย ถมยาปริวัฒน์ ที่มาร้องเพลงรอวันฉันรักเธอ ซึ่งพอร้องจบมีการยกเครดิตให้พี่ต๋อยหรือวิชัย ปุญญะยันต์ ที่ทำดนตรีออกมาได้เพราะมาก ๆ จากนั้นต่อด้วยเพลงขอให้เหมือนเดิม แล้วก็ร้องคู่กับคุณเล็กในเพลง กรุงเทพราตรี ถัดมาคุณเล็กขับขานด้วยสำเนียงที่ไพเราะเช่นเดิมกับ เพลง หงษ์เหิร คนึงครวญ แล้วเป็นเพลงจังหวะลีลาศที่ดนตรีบรรเลงได้อรรถรสจริง ๆ แนวเมดเล่ย เพลง โอ้ยอดรัก พรจุมพิต แล้วคุณเล็กก็ชวน ผู้ควบคุมวง มาร้องคู่ด้วยเพลง ปองใจรักระหว่างการแสดงมีการเปลี่ยนฉากให้เข้ากับบทเพลง ตั้งแต่ฉากแรกที่เป็นจั่วบ้านทางภาคเหนือ (ไม่ได้ถ่ายรูปมา) ซึ่งคู่กับเพลงแว่วเสียงซึง อย่างฉากนี้ก็คู่กับเพลง ม่านไทรย้อย ซึ่งเป็นเพลงถักมาเห็นการเปลี่ยนฉากแบบนี้แล้ว ให้นึกถึงคอนเสิร์ท แบบเบิรด์ ๆ ที่เคยจัดขึ้นที่นี่เหมือนกัน ระหว่างนี้มี น้ากล้วย เชิญยิ้ม มาให้อารมณ์ฮา โดนโยนมุกกับคุณต๋อยได้ไม่เบาเลยแล้ว คุณเล็กก็มาขับขานพลงซึ้ง ๆ เพลงดอกแก้ว รักริษยา และเพลงที่ทำให้ชื่อของอรวี ปรากฎในทำเนียบนักร้องเมืองไทย ก็คือเพลง ยังจำได้ไหม จากเยื่อไม้ชุดแรกจากนั้นแขกรับเชิญที่ทำให้ผู้ชม ประทับใจที่สุด ได้รับเสียงปรบมือยาวนานที่สุด มีอายุมากที่สุดคือ 74 ปี ก็ออกมาร้องเพลง สายน้ำไม่ไหลกลับ คู่กับคุณเล็ก ระหว่างร้องไปนี่เกิดความตื้นตันใจทั้งคุณอรวี และคุณอา วงจันทร์ ไพโรจน์ จนต้องสะดุดหยุดร้องไปสักพัก แต่ดนตรีนี่บรรเลงต่อไม่สะดุดตามไปด้วย ทำผมซึ้งในอารมณ์จนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ คุณอาวงจันทร์ ไพโรจน์ ยังร้องต่ออีกหนึ่งบทเพลง ด้วยเพลง ช่างร้ายเหลือ เป็นที่น่าชื่นชมมากเลยว่า บรรดาศิลปินต้นตำรับที่ยังมีชีวิตอยู่ และเสียชีวิตไปแล้วจะกล่าวชื่นชมคุณเล็กแทบทุกคน ที่เป็นความหวังในการสืบทอดเพลงเก่าไม่ให้สูญหายไป โดยเฉพาะ อาวงจันทร์ ไพโรจน์ ถึงกับกล่าวในคอนเสิรท์ครั้งนี้ว่า ถึงตอนนี้ถ้าตาย ก็ตายตาหลับแล้ว เพราะมีคุณเล็กมาสืบทอดต่อแล้ว ส่วนคุณเล็กเองถ้ามีโอกาสก็จะแวะไปเยี่ยมเยียนและคารวะบรรดาศิลปินต้นตำรับ เสมอ ๆถัดมาเป็นบรรยากาศเพลงลูกทุ่ง ที่มีกลิ่นลูกกรุงเคล้าปนนิด ๆ โดยคุณเล็กมาถ่ายทอดบทเพลง มนต์รักลูกทุ่ง และ ตัวไกล ใจเหงาจากนั้นหยุดพักการแสดงในช่วงแรก ราว 15 นาที เปิดการแสดงในช่วงที่สอง ในเวลาประมาณ 16:30 ด้วยฉากเถาวัลย์ ในเพลง บุษบาเสี่ยงเทียน และ กุสุมาอธิฐานจากนั้นเป็นช่วงของแขกรับเชิญคนสุดท้าย คือพระเอกเก่า คุณอาสมบัติ เมทะนี ที่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นช่วง LipSync หรือไม่ ที่มาร้องลีลาประกอบเพลงคู่กับคุณเล็ก ในบทเพลง ศกุนตลา และ จุฬาตรีคูณจากนั้นเป็นการร้องจริง ๆ ดนตรีจริง แน่ ๆ กับเพลงร้องคู่ ใต้ร่มมลุลี แล้วพระเอกของเรา ก็โชว์เดี่ยว ในบทเพลง อ้อมกอดพี่จากนั้นเป็นเสียงเพราะ ๆ จากน้ำเสียงคุณเล็ก ในบทเพลง สนามอารมณ์ รักต้องห้ามแล้ว ก็มีเซอร์ไพร์ส เล็ก ๆ ที่คุณเล็กพูดถึงตัวเองว่าเป็นลูกคนจีน ก่อนจะร้องเพลงของ Teresa Teng หรือ เติ้ง ลี่ จวิน ในเพลง เหมยฮวา ถูกใจผมจริง ๆ ช่วงท้ายนี่ ไม่รู้ว่า เป็นการเล่นมุก ของน้ากล้วย เชิญยิ้ม หรือเปล่า ที่ออกมารับโทรศัพท์ คุยกับแขกคนสำคัญคนหนึ่งที่ยามไม่ยอมปล่อยให้เข้ามา จนน้ากล้วยต้องหยอดมุกบอกยามเอง แล้วก็มีแขกคนหนึ่งถือช่อดอกไม้พร้อม Postcard มาให้คุณเล้ก บอกว่า เป็นตัวแทนจากคุณอาชรินทร์ นันทนาครที่ฝากช่อดอกไม้มาให้ พร้อมข้อความใน Postcard ที่แสดงความยินดีกับคุณเล็กในคอนเสิรท์ครั้งนี้ และบอกว่าตัวคุณชรินทร์เองกำลังตระเวณทัวร์คอนเสิรท์อยู่ที่อเมริกา แล้วคุณเล็กก็พูดถึงคู่ชีวิตของคุณอาชรินทร์ คือคุณเพชรา เชาวราษฎร์ ก่อนขับขานบทเพลง หยาดเพชรแล้วช่วงสุดท้ายก็มาถึงจริง ๆ เมื่อคุณเล็กร้องเพลงเพื่อคุณ เป็นเพลงสุดท้าย พร้อมกับลงจากเวที มาจับมือและแสดงความขอบคุณแฟนเพลงข้างล่าง ม่านเริ่มเลื่อนลงมา พร้อมฝนเพชรที่ตกลงมา สไตล์เดียวกับแบบเบิรด์ ๆ และการโบกมือลาของเจ้าของคอนเสิรท์ พร้อม คำอำนวยพรให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพความสุข ความสุนทรีย์ในอารมณ์ ความสนุกสนาน ได้ถึงเวลาลาจากเช่นกัน แต่ความประทับใจยังติดตรึงอยู่ไม่รู้หาย มาเพิ่มเติม ข้อมูล จากความรู้สึกส่วนตัว .... ผมว่าคอนเสิร์ทครั้งนี้ ทำได้ดีเยี่ยม ในหลายเรื่องแน่ นอนหละตัวศิลปินเป็นอันดับแรก ที่เป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพและเสียงร้อง แต่ครั้งนี้ คุณเล็กนับว่าทำได้ดีเยี่ยม เพราะนอกจากการร้องที่น่าประทับใจและสร้างความสุขให้ผู้ชมแล้ว ช่วงที่พูดคุยหรือช่วงต่อเพลงนี่ คุณเล็กเองก็ทำได้ดี ทำให้คอนเสิร์ท ไหลต่อเนื่อง ไม่สะดุด ไม่ดูทื่อเกินไป ดูเป็นกันเองกับผู้ชม มีการเล่าเรื่องหรือที่มาของเพลงประกอบไปด้วย แถมมีมุขตลกปะปนมาด้วย ผมอ่านดูในเอกสารทีแจกมาให้ มีชื่อคุณเล็ก เป็นคนกำกับบทด้วยนะเรื่อง ของวงดนตรีเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้คอนเสิร์ทครั้งนี้ มีชีวิตมาก สามารถบรรเลงออกมาได้อย่างไพเราะ มีสีสัน เนื่องด้วยมีเครื่องดนตรีหลากหลายชิ้นเหมือนวงใหญ่ และ ก็ต้องยกความดีให้เขาหละ Conductor คุณพี่ต๋อย หรือ วิชัย ปุญญะยันต์ อดีตนักร้องนำวง เสือสีชมพู ที่ผมชื่นชอบเขามากคนหนึ่ง และอุดหนุนผลงานเขามาต่อเนื่องเช่นกันการให้เกียรติหรือยกย่อง ทั้งตัวศิลปินทุกท่าน และ นักดนตรี ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับผมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักดนตรี และ Conductor จะได้รับการยกย่องและชื่นชมจากศิลปินรับเชิญทุกคน แบบว่านักดนตรีต้องยืนขึ้นรับการคารวะจากศิลปิน หลาย ๆครั้ง แต่ผมประทับใจมากกว่า กลับเป็น เสียงปรบมือจากผู้ชม ที่มอบให้กับศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นช่วงต้นของเพลง และเมื่อเพลงจบ ทุกๆเพลง จะมีเสียงปรบมือที่ผมสังเกตุว่าเกิดจากความรู้สึกของผู้ชมจริง ๆ และเป็นเสียงปรบมือที่มีต่อพองามแต่มีความหมายจริง ๆการจัดเวที ฉาก แสง เสียง ก็เป็นอีกหนึ่งในความประทับใจ ที่ทำให้คอนเสิร์ทครั้งนี้มีสีสัน มีลูกเล่น ไฮเทค ประกอบบ้าง แต่ไม่โอเวอร์เกินไป แถมมีลุ้นตอนฉายไฟส่องคุณเล็ก นึกว่าจะมีรายการเปลี่ยนชุดบนเวที แบบคริสติน่า ซะแล้วศิลปินรับ เชิญทั้ง 4 ท่าน ที่เลือกมาสร้างความประทับใจ ความสนุกสนาน โดยเฉพาะน้ากล้วย เชิญยิ้ม ที่มาสร้างอารมณ์ขัน ได้อย่างพอเหมาะ เข้ากับบรรยากาศของคอนเสิร์ท แต่ที่ประทับใจมากสุด ก็เป็นคุณอา วงจันทร์ ไพโรจน์ ที่ได้เขียนไว้แล้วข้างต้น ผมคิดว่าคอนเสิร์ทครั้งนี้ คงได้สร้างกำลังใจและสิ่งดีงามให้แก่ คุณอาวงจันทร์ ไพโรจน์ ได้มากมาย ผมเชื่อว่าคุณเล็กหรือทีมงานเลือกถูกคนแล้วครับหวังว่าจะมีคอนเสิร์ ทดีดีแบบนี้อีกตลอดไป คุณเล็กได้เริ่มต้นไว้อย่างดีแล้วครับ มาให้กำลังใจด้วยข้อความทั้งหมดจากความรู้สึกจริง ๆครับ