Bloggang.com : Chic Mom and Fab Family : D.I.Y เสื้อผ้าดีไซน์เอง (ออกแบบ+ซื้อผ้า+ตัดเย็บ) ทำเองได้..ไม่ยาก!! ตอน 2

D.I.Y เสื้อผ้าดีไซน์เอง (ออกแบบ+ซื้อผ้า+ตัดเย็บ) ทำเองได้..ไม่ยาก!! ตอน 2

ทิ้งระยะเวลาไปนาน...พอสมควรสำหรับภาคต่อ ที่ตัวคนเขียนและคนทำแบรนด์เองเจอปัญหาต่างๆ
หลังจากตั้งหลักได้ซักพัก วันนี้เลยกลับมาใหม่กับภาคต่อของการดีไซน์เสื้อผ้าภาคจบ..ติดตามกันได้เลย

ต่อจากข้อ 2. Design: มาลงมือ "วาด-ขีด-เขี่ย" กัน)

ข้อแนะนำจากประสบการณ์ตรงคือ "ดีไซน์ก่อนซื้อผ้า" อย่าซื้อผ้าเพราะแค่ลายสวย
แต่สุดท้ายอาจคิดแบบไม่ได้เลย หรือไม่ตรงกับความต้องการ เพราะอย่างน้อยการดีไซน์จะทำให้เรารู้ว่า..

1. สี: เราต้องใช้โทนสีอะไรสำหรับชุดนั้น
2. ผ้า: ต้องใช้ชนิดไหน ผ้าเป็นทรงพริ้ว/แข็ง/ทิ้งตัวอย่างไร
3. อุปกรณ์: ซิป กระดุม ของตกแต่ง (เอาตัวอย่างเนื้อผ้าไปเทียบก่อนซื้อ)

ถ้าดีไซน์มาแล้ว หาผ้าไม่ได้ แนะนำว่าให้ปรับหรือเปลี่ยนแบบไปเลย!!
เพราะถ้าผ้าทรงไม่ได้สีไม่โดน ขนาดตัวเรายังไม่ชอบแล้วลูกค้าที่ไหนจะชอบ?

3. Dress making: ก่อรูปก่อร่าง

สำหรับเรา..ดีไซน์+ซื้อผ้า+อุปกรณ์เอง โดยจ้างช่างเป็นคนสร้างแพตเทิร์นและตัดเย็บ
เมื่อดีไซน์ชุดมาแล้ว ให้บอกไซส์อย่างละเอียดในการสร้างแพตเทิร์นให้กับช่าง

อันนี้คือตัวอย่างของเรา จะบอกเป็นเซนติเมตรหรือนิ้วก็ได้ (ถามช่างว่าถนัดแบบไหน)

จริงๆ อันนี้ยังบอกไม่ละเอียดมากนัก แถมมีการแก้ชุดถึง 5-6 ครั้ง เพราะบางครั้งบอกไซส์ไปแล้ว
ชุดจริงกลับใส่ไม่พอดีหรือไม่ก็ใส่ไม่สวย เพราะอาจวัดขนาดคลาดเคลื่อนหรือทรงผ้าไม่เหมาะ

การวัดตัวที่สมบูรณ์แบบควรวัดละเอียดประมาณนี้

ตัดตัวอย่างผ้าติดกับแบบด้วย ช่างจะได้รู้ว่าตัวหลักของชุดใช้ผ้าอะไร ขอบ/แขน/ระบายใช้ผ้า
ประเภทไหน อย่าลืมบอกสีด้ายด้วยกรณีอยากได้สีสันตัดกัน

หลังจากนั้นช่างจะเป็นผู้สร้าง 1.แพตเทิร์น 2.ตัดเย็บ

1. ทำแพตเทิร์น: เอาดีไซน์มาวาดบนกระดาษเป็นชิ้นๆ เพื่อตัดผ้าตามไซส์จริง
เวลาไปติดต่อช่าง เค้าจะถามว่ามี "แพตเทิร์นมั๊ย" ตัวกระดาษที่เป็นชิ้นๆ นี่หล่ะคือแพตเทิร์น

เมื่อช่างทำแพตเทิร์นแล้ว จะเอามาวางบนหุ่นเพื่อสร้างโครงทำชุดกับดูเรื่องการตัดเย็บ

2. ตัดเย็บ

ถึงตรงนี้แล้วขอย้ำอีกทีสำหรับ "ช่าง" เพราะสำคัญที่สุดในการทำเสื้อผ้า

Good To Do!
- อย่างที่แนะนำในภาค 1 ให้เตรียมตัวอย่างชุดที่ตัดเย็บในสไตล์ที่ชอบไปด้วย จะได้งานที่ถูกใจ
และเก็บรายละเอียดได้ดูพรีเมี่ยม
- บอกช่างให้เย็บให้เนียบ อย่าเย็บด้ายซ้ำหรือเป็นปม และอย่าดึงด้ายจนผ้าย่นเป็นทรงไม่สวย
- คุยให้ดี สื่อสารให้เข้าใจ เวลาบอกแบบไปให้ช่างลองทวนซ้ำดูว่า "เข้าใจตรงกันหรือป่าว"
- กำหนดการรับงานทุกครั้ง ปกติใช้เวลาในการทำ 1-2 แบบประมาณ 1 อาทิตย์
ต้องย้ำให้ช่างมีความตรงต่อเวลาในการตัดเสมอ

อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้
- เขียนแบบให้ละเอียดแล้ว แต่ยังตัดมาผิด..เสียผ้า..เสียเวลา
- ถ้าผ้ามีตำหนิให้บอกช่างให้ตัดทิ้งไปเลย ดีกว่าเค้าตัดมาแล้วชุดไม่เวิร์ก..แต่เรายังต้องจ่ายเงิน
- ก่อนเปลี่ยนช่างโดยใช้แพตเทิร์นเดิม ควรตรวจแบบให้ดีก่อน

ราคาช่างตัดเสื้อ (ทำแพตเทิร์น+ตัดเย็บ)
หน้าร้านเกรด A-B: ช่างหน้าร้านคืองานคุณภาพห้องเสื้อ
ราคาตั้งแต่ 800-1,000 บาท ขึ้นไปต่อชุด

หน้าร้านเกรด C: ส่วนใหญ่จะเป็นแนวห้องแถว ซึ่งเคยเป็นช่างที่เคยทำงานห้องเสื้อ
ราคา 100-500 บาท ต่อชุด

งานโหล: คุณภาพค่อนข้างต่ำ ไม่รับจำนวนน้อย อย่างต่ำ 100 ตัวขึ้นไป

หลังจากกำหนดธีม+ดีไซน์+ส่งแบบตัดเย็บ เราก็จะได้ชุดที่เราดีไซน์เองอย่างที่ต้องการ
หวังว่าการทำชุดเองจะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับแฟชั่นที่กำหนดเองได้ของสาวๆ นะคะ

Insight from The Ordinary Passion Owner

Visit us at Facebook The Ordinary Passion by P.REeYa

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2554

Last Update : 24 พฤศจิกายน 2554 18:14:06 น.

1 comments

Counter : 26629 Pageviews.

สุดยอดเลยค่ะ กำลังหาข้อมูลด้านนี้พอดี อยากตัดชุดใส่เอง เพราะเมืองไทยเสื้อผ้าแบบสวยไม่ซ้ำ แต่sizeต่ำกว่ามาตฐานไปหน่อย

อย่างเมืองนอกsize M เมืองไทยคงXL

Blogนี้มีประโยชน์มากๆคะ

โดย: loVeLyAnGel

วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:21:28:46 น.