เจ้าโปรเจค

ตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมา ดูเหมือนตัวเองจะวางแผนการทำอะไรหลายๆ อย่างได้เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องไร้สาระฮ่าๆๆ

ก็เรื่องของนิยายนั่นแหละ

1' ปีที่แล้ว ปิดฉากกับตำนาน ซินเนอร์ (ซิงกูลาร์) ไปเป็นที่เรียบร้อย เป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนได้ยาวนานขนาด สามเล่มเพราะปกติจะเขียนเป็นแค่เล่มเดียวจบ ไม่ก็ไม่จบเลยฮ่าๆๆๆ

2' ต่อมาคือเรื่อง BlackAngel (นิยายแฟนตาซี) ที่เป็นพล็อตที่เขียนไว้เมื่อสิบเกือบยี่สิบปีที่แล้วได้มั้งนั่นน่ะ ตั้งแต่อายุสัก... 17-18 ได้มั้ง ช่วงจินตนาการบรรเจิดแต่ไร้แรงจะเขียน มาปีที่แล้วพอผ่านไป สิบปี กลับสามารถทำให้มันจบลงได้อย่างสวยงามเป็นที่น่าพึงพอใจยิ่งนัก และอยากจะเขียนเรื่องราวของคนทั้งคู่ในเรื่องต่อไปในเรื่องของเหตุการณ์ปัจจุบัน แต่เอาไว้ก่อนยังมีอีกหลายเรื่องต้องเคลียร์

3' มาช่วงมิถุนายน ดันเผลอสะดุดกับบางคนเข้า คือไม่น่าไปดูคลิปมันเล้ย ดูแค่รูปแบบไม่สนใจพื้นเพอะไรมันเลยก็ดีอยู่แล้ว ดันมีช่วงว่างลองไปนั่งดูคลิปเท่านั้นแหละ หลงเลย คริส พ่อหนุ่มกวางโจว แล้วกลายเป็นว่า ได้คริสลู่เข้ามาในชีวิต จนเป็นเหตุให้เขียน RUBIK ที่ทีแรกพล็อตสั้นสัดๆ แค่แปดหน้าจบ แล้วยังไง? เฟดเฟ่ เขียนบ้าอัลไล เป็นร้อยๆ หน้าเอสี่ แต่ก็จบลงไปได้อย่างที่คนเขียนเองงงเองว่ามันมาถึงขนาดนี้ได้ยังไง

4' ธันวาคม จบคริสลู่ไปอีกเรื่องคือเรื่อง LUCKY ซึ่งเป็นเรื่องที่บอกไว้แล้วว่าเป็นนิยายเก่าเอามาทำใหม่ โดยใช้โครงเรื่องเดิมแต่เปลี่ยนเหตุการณ์ให้เข้ากับตัวคริสลู่

สรุปว่าปีที่แล้วทั้งปี ออกนิยายไป 3 เรื่อง อย่างไม่น่าเชื่อตัวเอง

และในปีนี้ 2014
แพลนที่ตั้งใจไว้คือ
เรื่องแรกที่จะรวมของปีนี้คือ DOD diva or Devil กะไว้ว่าจะรวมสัก มิถุนา กรกฏา น่าจะเป็นโอกาสที่ดี

แล้วสัก ตุลาคมก็สมควรรวมเรื่องที่สองคือ เทาฮุน บอดี้การ์ด ไม่ก็เรื่อง กามเทพคริสลู่ เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง หรือหากจะพูดให้ถูกก็ืคือ อยากให้ปีนี้สามารถรวมเล่มให้ได้ สามเรื่องด้วยกัน

ตอนนี้กำลังเขียนคอลัมน์ลงในนิตยสารที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่ต้องส่งต้นฉบับทุกเดือน สำหรับตัวเองถือว่ายากนะ เพราะว่าเรื่องผี เรื่องหลอน ไม่อยู่ในสายเลือด ถ้าเป็น แฟนตาซีหรือตลกไปเลยอ่ะ ได้อยู่ ดังนั้นต้นฉบับแต่ละเดือนจึงเค้นสมองส่งมากๆ ตอนนี้ส่งไปได้สองฉบับแล้ว ตอนนี้ก็เกือบจะถึงเดธไลน์เล่มสามแล้วด้วยเช่นกัน ยังไม่ได้เขียนอะไรสักอย่างเลย กลุ้มใจตัวเองแต่ไม่ว่ายังไงงานนี้ก็จะทำให้ได้อย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ได้หวนคืนสู่วงการนิตยสารอีกครั้งแม่จะคนละแนวกับที่เคยทำก็ตาม ขอให้นิตยสารอยู่ได้สักสองปีขึ้นไปนะ ฮ่าๆๆๆ เพราะทำกับที่ไหนออกแนวเข้าแก๊งไหนหัวหน้าตายหมดอยู่เรื่อยเลย นิตยสารอยู่ได้แค่ปีเดียวทั้งนั้น พูดแล้วก็กลุ้มใจ เกี่ยวกับวงการหนังสือไทย มันใกล้สาบสูญแล้วจริงๆ ไม่ต่างจาก ซีดี เพราะยุคอินเตอร์เน็ตมันเข้ามาแทนที่ครอบครองพื้นที่ได้มากจริงๆ

สรุปแล้ววันนี้ชั้นเขียนอะไรไปวะเนี่ยเอาเป็นว่า สู้ต่อไปแล้วกัน
ขอให้แผนที่วางไว้จงสัมฤทธิ์ผล สาธุ

with love
mei

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2557		1 comments
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2557 1:50:48 น.
Counter : 851 Pageviews.
Share Tweet