New York มหานครแห่งอิสระเสรีภาพ ที่ทุกคนฝันจะได้ไปสัมผัสสักครั้ง เช่นเดียวกับผม จากการทำงานประจำ ณ บริษัทที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆของประเทศ ได้ตัดสินใจลาออก แล้วเดินตามฝันหลังจากได้ วีซ่า อเมริกา เพราะได้ติดต่อกับพี่ที่รู้จักให้ไปช่วย ทำงานในร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งไม่ไกลจากนิวยอร์กมากนั้น หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินแล้วก็เตรียมแพคกระเป๋า Go กันเลย. นึกๆไปแล้ว เกย์ ตัวน้อยๆคนนึง ต้องเดินทางข้ามทวีปคนเดียวอย่างโดดเดี่ยวและแหว่หว้า ฮ่าๆๆ. ถึงคราวต้องออกไปเผชิญหน้ากับโลกภายนอกอีกซีกโลกนึง. คราวนี้ฝากชีวิตไว้กับ คาร์เท่ แปซิฟิค หลังจากนั่งเครื่องจาก สุวรรณภูมิ แล้วแวะต่อเครื่องที่ฮ่องกง เรื่องตื่นเต้นก้อได้เกิดขึ้น กับเกย์ตัวน้อยๆอย่างเรา ในระหว่างต่อแถวรอเข้าเกต มี ตร. เดินตรวจตราคน เราก็แอบมองเหนว่าหล่อ ตี๋. พอเขาหันมาสบตาเราเท่านั้นแระ ตรงดิ่งมาหาเราเลย ไม่ได้มาคนเดียวด้วยนะ พามาอีกสามคน. ทำไงได้ กรี้ดดด. สิคร่ะ มาขอค้นตัวค้นกระเป๋า ดีไม่เจอของเด็ด ฮ่าๆ เลยรอดตัวไป ด่านต่อไปที่จะเจอคือ ตม. เข้าเมกา กลัวๆอยู่เหมือนกันว่าจะเจอคำถามไรมั้ง ว้า และแล้วเวลาก็ผ่านไป 20 กว่าชั่วโมงหลังจากนั่งๆนอนๆกินๆบนเครื่องบิน ก็มาถึงจุดหมายปลายทางที่สนามบิน JFK เครื่องจอดสนิทเก็บข้าวของเดินตามคนอื่นไปเรื่อยๆ ใจสั่นๆตื่นเต้นสิคราวนี้เจอ ตม. ของจริงที่หลายๆคนเคยรีวิวไว้ว่า เมกา ตม. หินมากๆต้องเตรียมตอบคำถามดีๆ กลังจากนั้นเดินไปเข้าแถวเพื่อผ่านช่อง ตม. คนเยอะมากกกกขอบอกเลย แล้วในที่สุดเราก็ได้ถูกเรียกเข้าช่อง ตม. หายใจลึกๆ 3-4 ครั้ง ตั้งสติ นึกถึงพ่อแก้วแม่แก้ว แล้ว คำถามก็ถูกยิงมาหาเราทันที
ตม. :: What is your purpose of visit?
เรา :: Travel
ตม :: How long do you gonna stay ?
เรา :: 2 weeks ( พอเอาเข้าจริงๆอยู่ สามเดือน)
แล้ว ตม. ก็ มองหน้า มือก็ ปั้มๆๆ ไป ยื่น passport ให้เรา เสร็จเรียบร้อย
กรี้ดดดดดด สิ ทีนี้
ต่อไป จะต้องพบกับเรื่องราว ประสบการณ์ ในร้านอาหารไทย กับชีวิตใน New York เมืองสวรรค์ สำหรับใครหลายๆคน พบกันตอนที่ 2 รับรองมีเรื่องราวที่ตื่นเต้นอีกมากมาย