เรื่องเล่าจากนักข่าวแสนซน 'คนของความคิดถึง'
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
ความลุ่มลึกในการเขียนหนังสือ

การทำงานเขียนจะประสบความสำเร็จมากหรือน้อยนั้น นอกจากองค์ประกอบของความคิดที่สมบูรณ์ของตัวนักเขียน อันประกอบไปด้วยความนึกคิด วุฒิภาวะ ประสบการณ์ที่สมบูรณ์แล้ว งานเขียนที่ถ่ายถอดออกมาจำเป็นจะต้องมีความลุ่มลึกเพื่อให้เกิดภาพต่อเนื่องระหว่างบรรทัด ซึ่งความลุ่มลึกดังกล่าวจะทำให้ผู้อ่านคล้อยตามและเกิดจินตภาพอย่างใดอย่างหนึ่งตามงานเขียนที่ผู้เขียนได้ถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้อ่าน
อาจารย์ของข้าพเจ้า (อาจารย์ชาติ กอบจิตติ) ตระหนักให้จำเสมอว่าความลุ่มลึกของงานเขียนหนังสือจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถดึงใจผู้อ่านให้อยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ ร่วมกับผู้เขียนได้สำเร็จ
ยกตัวอย่างเช่น หากผู้เขียนได้โจทย์ข้อหนึ่งให้ไปนั่งเขียนหมาเน่าที่กำลังขึ้นอืดลอยน้ำอยู่ในคลองและให้เขียนพรรณนาถึงหมาเน่าตัวนั้นให้ผู้อ่านรับรู้เฉกเช่นเดียวกับที่ผู้เขียนกำลังพบอยู่ ผู้เขียนจะต้องทำอย่างไร
แน่นอนว่าการที่จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกได้ถึงว่าหมาเน่าตัวนั้นเป็นอย่างไร ผู้เขียนจำเป็นจะต้องใช้การพรรณนา นอกจากให้เกิดภาพในจิตนาการเท่านั้นไม่พอ จำเป็นจะต้องให้ผู้อ่านรู้สึกได้ถึงกลิ่นเน่าที่กำลังโชยคลุ้งในขณะนั้นด้วย ถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ ซึ่งตอนข้าพเจ้าเข้าเรียนใหม่ ๆ นั้นข้าพเจ้าก็ได้รับโจทย์นี้มาเช่นกัน วันนั้นทั้งวันข้าพเจ้านั่งมองซากหมาเน่าทั้งวัน
“ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าหมาตัวนี้ตายมานานเท่าไหร่แล้ว แต่สภาพที่เห็นร่างมันบวมเป่งเหมือนลูกโป่งที่พร้อมจะแตกได้ตลอดเวลา ตัวมันขาวโพลนเนื่องจากหนังชั้นนอกล่อนออกหมด ข้าพเจ้านึกถึงสุกรที่กำลังโดนน้ำร้อนลวกแล้วถูกความคมจากใบมีดโกนขูดหนังออก มันขาวสะอาดถึงขนาดนั้นแต่ไม่ได้ชวนให้น่ารับประทานแต่อย่างใด ร่างของมันยิ่งลอยมาใกล้ข้าพเจ้ามากขึ้นจากการพัดพาของกระแสน้ำ จนกระทั่งเริ่มได้กลิ่นความเน่าคลุ้งในรูจมูก ข้าพเจ้าได้แต่ภวนาว่าเวลานี้อย่าให้มีอะไรมากระทบกับหนังที่บวมตึงของมันเป็นเด็ดขาด มิเช่นนั้นมันอาจแตก ‘เผละ’ กลิ่นมันคงคลุ้งมากกว่านี้ ยิ่งมองข้าพเจ้าก็ยิ่งรู้สึกปลงกับสังขาร ความอนาถาของชีวิตหลังความตายหากไร้ซึ่งความสนใจใยดี ร่างของคนเราก็คงไม่ต่างจากหมาตัวนี้เท่าใดนัก
อีกสักพักร่างของหมาเน่าคงจะต้องไหลไปกระทบกับก้อนหินเบื้องล่าง เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวต่างระดับ ข้าพเจ้ารีบเดินไปดักรอเบื้องหน้าเพราะอย่างไรก็แล้วแต่ ร่างมันก็คงจะตกลงมาเกยอยู่ตรงโขดหินและไม่สามารถไหลไปตามกระแสน้ำได้ต่อ มันคงจะกลายเป็นภาพนิ่งให้ข้าพเจ้าได้นั่งพิจารณาและอธิบายให้เกิดจินตภาพได้ ข้าพเจ้านั่งลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ ซากหมาเน่าเริ่มเคลื่อนเร็วขึ้นเพราะกระแสน้ำเชี่ยวกราก จนกระทั่งมาถึงที่น้ำตกต่างระดับซากหมาเน่าร่วงแผละลงตามกระแสน้ำ มันเกยนิ่งกับโขดหินอย่างที่ข้าพเจ้าคิดจริง ๆ หากแต่ไม่ใช่การเกยนิ่งแบบธรรมดา แรงโน้นถ่วงทำให้มันร่วงกระทบพื้นแข็ง ร่างของมันแตกออกประหนึ่งใครเอาไม้แหลมไปแทงหนังที่กำลังโป่งพองเต็มที่ เศษซากที่อยู่ในร่างเน่าจึงพุ่งออกสู่อากาศอย่างเร็ว กระจายเปรอะไปทั่ว ซากบางส่วนกระเด็นมาโดนเบ้าตาซ้ายข้าพเจ้าอย่างจัง มันเน่าเละชวนสะอิดสะเอียน บางส่วนยังไหลย้อยลงมาตามร่องจมูกมาหยุดตรงริมฝีปากพอดี หากเป็นของรับประทานที่ข้าพเจ้าโปรดข้าพเจ้าอาจใช้ปลายลิ้นมาแตะเลียเพื่อสัมผัสรสชาติ แต่นี่มันเป็นซากของหมาเน่า ข้าพเจ้าจึงพยายามกลั้นลมหายใจไว้และพยายามเม้มปิดริมฝีปากไว้ให้มิดชิดที่สุด แต่ก็ไม่อาจสะกดความสะอิดสะเอียดจากภายในไว้ได้ จึงปล่อยให้อาหารมื้อเช้าไหลโชกออกปากและไม่คิดจะทานอะไรเข้าไปอีกหลายมื้อ”
ความลุ่มลึกในงานเขียนหนังสือเป็นงานต่อเนื่องทางความรู้สึก ซึ่งอาจไม่จำเป็นจะต้องพรรณนา บรรยาย หรือเล่าเรื่องให้จบ การว่างเว้นหรือซ่อนความหมายระหว่างบรรทัด เพื่อให้ผู้อ่านได้คิดต่อ ก็เป็นงานเขียนที่มีความลุ่มลึกได้เช่นกัน
“เครื่องดื่มทำให้บุรุษที่เครียดกลายเป็นคนสนุกสนาน เขาสรวลเสเฮฮากับหญิงสาวตรงหน้าจนลืมเรื่องเครียดที่เคยติดสมอง ตอนนี้มีเพียงหญิงสาวที่ตามองเห็นเท่านั้น สายตาจับจ้องที่เนินประทุมคู่งามชูเด่นเป็นกระเปาะ น้ำลายแห่งความกระสันถูกเขายกแก้วเหล้าสยบหลายครั้งหลายคราว ยิ่งดึกเธอยิ่งเขยิบตัวเข้ามาคลอเคลียใกล้ชิดประหนึ่งจงใจในที บัวตูมเจ้าหล่อนชูสล้างแนบชิดแขนบุรุษจนรู้สึกได้ถึงความนุ่มอุ่น ริมฝีปากอวบอิ่มคู่งามเผยอรอคอยการจูบจุมพิต แววตานั้นเย้ายวน ลมหายใจเธอเร่งเร้าเชิญชวนให้บุรุษสัมผัสกายอวบอั๋น บุรุษละมือจากแก้วเหล้า ชุกหน้าลงตรงซอกคอขาวเกลี้ยง มือรัดสะเอวแน่น หญิงสาวทำหน้าสยิวพอใจ หันหน้ามาหาบุรุษเลยถูกไซ้แก้มอันเปล่งปลั่งไปด้วยเลือดสาว ปากพบปาก บุรุษจึงบดขยี้จูบอย่างหนัก หล่อนถึงกับผวาร่างกอดไหล่เขาแน่น......”
ความลุ่มลึกในงานเขียนหนังสือ เป็นเพียงองค์ประกอบเล็ก ๆ ของการเขียน ทว่ามีความสำคัญที่ผู้เขียนไม่ควรมองข้าม ดังนั้นในการทำงานผู้เขียนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสมาธิ มีใจจดจ่ออยู่ในเรื่องที่กำลังดำเนินอยู่ และให้จดจำเสมอว่าความลุ่มลึกในงานเขียนจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ผู้เขียนมีใจอยู่ในห้วงอารมณ์และสถานการณ์นั้นจริงๆ จึงจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ทำให้ตัวอักษรหวั่นไหวได้



Create Date : 15 กรกฎาคม 2553
Last Update : 15 กรกฎาคม 2553 22:46:13 น. 1 comments
Counter : 976 Pageviews.

 
ขออนุญาตลอกนะ
1.ผู้เขียนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสมาธิ มีใจจดจ่ออยู่ในเรื่องที่กำลังดำเนินอยู่
2. ผู้เขียนมีใจอยู่ในห้วงอารมณ์และสถานการณ์นั้นจริงๆ จึงจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ทำให้ตัวอักษรหวั่นไหวได้
3.เมื่อเราสามารถดึงใจผู้อ่านให้อยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ ร่วมกับผู้เขียนได้สำเร็จ
...
เป็นคำแนะนำที่น่าสนใจมาก
ถ้ามีโอกาสอีกครั้ง จะพยายาม
เขียนให้มี...ความลุ่มลึก

จาก มือใหม่มากขาดโอกาสหัดเขียนแล้ว
ขอบคุณมากนะ



โดย: PANPISA วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:24:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aungjanton
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add aungjanton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.